เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
“คุณเย่ เซ็นชื่อเถอะครับ” ทนายความกล่าวพร้อมกับยื่นหนังสือยินยอมสำหรับการผ่าตัดทำกิ๊ฟท์ไปตรงหน้าเย่ชิงซี
เย่ชิงซีนั่งอยู่บนโซฟา เธอกำปากกาในมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เวลาที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดคือวันพรุ่งนี้ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันแต่งงานของเธออีกด้วย
คนที่ออกสเปิร์มให้คือเสิ่นเซียวเหยา ลูกชายคนโตของตระกูลเสิ่น ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวของงานแต่งงานที่เลิศหรูอลังการแห่งศตวรรษครั้งนี้
แต่น่าเสียดายที่เจ้าบ่าวดันมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน จึงทำให้เขาต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เขาจึงไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานของวันนี้ได้ด้วย
มีข่าวลือว่า ดวงของเสิ่นเซียวเหยากำลังจะถึงฆาต คาดว่าเขาคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมาเป็นเวลายาวนาน พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องทายาทและการสืบทอดความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงเป็นสาเหตุที่เสิ่นชางป๋อต้องรีบจัดงานแต่งงานให้กับลูกชายของเขา ก่อนที่เสิ่นเซียวเหยาจะตาย เขาต้องรีบใช้สเปิร์มที่เก็บเอาไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนให้ได้
เย่ชิงซีอ่านข้อตกลงที่อยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ขาวกระจ่างใสของเธอตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ในดวงตาอันสดใสคู่นั้น ฉายแววความตื่นตระหนกอย่างยากที่จะสังเกตได้ขึ้นมา
“ขอโทษนะคะ พอดีฉันต้องอ่านให้ละเอียดก่อน คุณออกไปก่อนได้ไหมคะ?”
ทนายเงียบไปหลายวินาที หลังจากนั้นก็พยักหน้าและลุกขึ้นเดินออกจากห้องเตรียมการแต่งงานไป
หลังจากที่เขาออกไปแล้ว เย่ชิงซีก็รีบวางสัญญาลง แล้วก็โทรหาแฟนของเธอด้วยความตื่นตระหนก
ใช่ เธอมีแฟนแล้ว แต่ไม่มีใครรู้
แล้วที่มันบังเอิญก็คือ แฟนคนนี้ยังเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลเสิ่นอีกด้วย เขาชื่อเสิ่นเจ๋อ เป็นน้องชายต่างแม่ของเสิ่นเซียวเหยา
ส่วนการงานแต่งงานครั้งนี้ จริง ๆ แล้วเป็นแผนที่ชั่วร้ายของเสิ่นเจ๋อ
หนึ่งเดือนที่แล้ว พ่อของเย่ชิงซีเสียชีวิตเนื่องจากอาการป่วย ส่วนหลินเซี่ยะ แม่เลี้ยงของเธอก็ได้ฉวยโอกาสตอนนี้ในการยึดทรัพย์สินของครอบครัวไป แล้วก็ขับไล่เย่ชิงซีออกจากบ้าน แถมยังยึดข้าวของของแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอไปอีกด้วย
เย่ชิงซีถูกบังคับให้จนมุมชีวิตไม่มีทางออก บังเอิญว่าเสิ่นเจ๋อแฟนของเธอมาหาเธอที่บ้านในเวลานี้พอดี เขาแนะนำให้เย่ชิงซีแกล้งทำเป็นแต่งงานกับเสิ่นเซียวเหยา แล้วก็หาโอกาสทำลายการผ่าตัดทำกิ๊ฟท์นั้นซะ ด้วยวิธีนี้ รอถึงเวลาที่เสิ่นเซียวเหยาตายไป เสิ่นเจ๋อก็จะได้เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเสิ่นเท่านั้นแล้ว
เสิ่นเจ๋อสัญญากับเย่ชิงซีว่าจะแต่งงานกับเธอในเมื่อเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว แล้วก็จะช่วยเธอเอาของที่ระลึดของแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกลับคืนมาให้ได้ด้วย
ภายใต้การเข้ามายั่วยุในทุกวิถีทางของเสิ่นเจ๋อ เย่ชิงซีจึงใจอ่อนตอบตกลงไป แต่เมื่อเรื่องกำลังจะมาถึงนั้น เธอกลับลังเลใจแล้ว เธอพบว่า เธอไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ลงได้
เป็นเพราะโทรไม่ติด เย่ชิงซีจึงเริ่มวิตกกังวลขึ้นมา เธอเดินไปเดินมาในห้อง แล้วสุดท้ายก็เลือกที่จะแอบย่องออกไปตามหาเสิ่นเจ๋อ
เย่ชิงซีกังวลใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าจะถูกคนอื่นจับได้ เธอไม่กล้าแม้แต่จะขึ้นลิฟต์ ดังนั้นเธอจึงถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้วเดินลงบันไดแทน
เมื่อผ่านห้องรับรองห้องสุดท้ายที่อยู่ปลายสุดของทางเดิน ฝีเท้าของเย่ชิงซีก็หยุดชะงักไปอย่างกะทันหัน
เป็นเพราะประตูห้องรับรองไม่ได้ปิดสนิท เสียงหัวเราะอันแสนหวานที่คุ้นเคยดังลอดออกมาจากช่องของประตู
“เสิ่นเจ๋อ อยู่กับฉันต่ออีกหน่อยเถอะนะ ยังไงตอนนี้เย่ชิงซีก็ไม่มีเวลามาหาคุณหรอก”
หัวใจของเย่ชิงซีบีบรัดแน่นทันที เธอค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้อย่างเบา ๆ แล้วก็มองผ่านช่องเล็กของประตูนั้นเข้าไป
เธอเห็นชายหญิงคู่หนึ่งที่สวมเสื้อผ้าวับ ๆ แวม ๆ กำลังนั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟาในท่าทางที่ชวนคิดไปไกล ผู้หญิงที่นอนซบอยู่ด้านบนคือเย่หว่านหว่าน น้องสาวคนละแม่ของเธอ ส่วนผู้ชายที่อยู่ข้างล่างตัวเธอ ก็คือเสิ่นเจ๋อ แฟนหนุ่มที่เย่ชิงซีกำลังตามหาด้วยความยากลำบากอยู่นั่นเอง
“ผมกลัวว่าเธอจะกลับใจและหนีไปจากการแต่งงานน่ะสิ หากไม่ได้ไปจับตาดูเธอผมคงไม่สบายใจ” น้ำเสียงของเสิ่นเจ๋อดูรำคาญใจมาก เขาผลักตัวเย่หว่านหว่านออก พยายามจะลุกขึ้น
แต่เย่หว่านหว่านกลับไม่ยอม เธอก้มหน้าลงไปจูบเสิ่นเจ๋ออย่างเร่าร้อนก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ไม่มีทางหรอก เธอเชื่อฟังคุณจะตาย อีกอย่าง ของที่ระลึกของแม่เธอก็ยังอยู่ในมือของพวกเราด้วย เธอจะกล้าได้ยังไงล่ะ”
“ก็จริง” เสิ่นเจ๋อพลิกตัวและกดเย่หว่านหว่านไว้ใต้ตัวเขา จากนั้นก็จูบเธออย่างเร่าร้อนดูดดื่มอย่างทนไม่ไหวอีกแล้ว “ขอบคุณคุณมากเลยนะ ที่รัก ถ้าแผนการทุกอย่างเสร็จสิ้นลงเมื่อไหร่ ผมจะสลัดผู้หญิงร่านที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วคนนั้นทิ้งไปทันทีเลย ผมต้องการแค่คุณคนเดียวเท่านั้น……”
ฉากหลังจากนั้นเธอไม่สามารถที่จะทนดูได้อีกแล้ว ในห้องเหลือแต่เสียงหอบหายใจที่ฟังดูคลุมเครือของชายหญิงทั้งคู่นั้น
เย่ชิงซีไม่สามารถที่จะฝืนทรงตัวเอาไว้ได้ จึงเซไปข้างหลังสองก้าว
ที่แท้เสิ่นเจ๋อก็ทรยศเธอมานานแล้ว! ความรักที่เขาพูดออกมานั้น มันก็แค่คำโกหกที่เอาไว้หลอกใช้เธอเท่านั้นแหละ! น้ำตาของเธอไหลออกมาจากเบ้าตา ความจริงอันโหดร้ายนี้ทำให้เย่ชิงซีถึงกับหายใจไม่ออก
เธอบีบชายกระโปรงแน่น พอได้ยินเสียงที่ดังมาจากในห้อง เธอก็เคียดแค้นจนกัดฟันแน่นกรอด
ในเมื่อพวกเขาต้องการยึดครองตระกูลเสิ่น งั้นเธอก็จะทำให้พวกเขาต้องไม่สมปรารถนาอย่างแน่!
เย่ชิงซีเช็ดน้ำตาจนแห้ง สวมรองเท้าส้นสูง แล้วก็เดินกลับไปที่ห้องเตรียมงานแต่งงานทีละก้าว จากนั้นก็ลงนามในข้อตกลงโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
เธอต้องการที่จะเป็นนายหญิงใหญ่ของตระกูลเสิ่นตัวจริง แล้วก็จะคอยเฝ้าดูชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นต้องตกนรกทั้งเป็นด้วยตาของเธอเอง!
-
ในตอนกลางคืน ที่คฤหาสน์ของตระกูลเสิ่น โคมไฟเปิดสว่างไสว
ทันทีที่งานแต่งงานจบลงไปแล้ว เย่ชิงซีก็ถูกส่งตัวมาที่นี่ โดยมีผู้ดูแลบ้านที่เป็นคนพาเธอมาที่ห้องของเสิ่นเซียวเหยา
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชิงซีได้เห็นสามีของตัวเอง
จากที่เธอฟังมาจากปากของเสิ่นเจ๋อ เสิ่นเซียวเหยาเป็นคนที่มักจะอารมณ์ไม่ดีอยู่เสมอ นิสัยวิปริต โหดเหี้ยมไร้ความปรานีกับผู้อื่น แม้ว่าจะกับญาติสนิทเขาก็ยังไม่แยแสใครทั้งนั้น เรียกได้ว่าคำคุณศัพท์ที่แย่ที่สุดล้วนถูกเสิ่นเจ๋อเอามาใช้บรรยายถึงเสิ่นเซียวเหยาทั้งหมดแล้ว รวมไปถึงคำว่าอัปลักษณ์ด้วย
เย่ชิงซีเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอจึงเตรียมใจที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับสามีที่อัปลักษณ์คนนี้ไว้มานานแล้ว แต่เธอกลับไม่คาดคิดเลยว่า ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอจะหล่อเหลามากขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะยังป่วยอยู่ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดออร่าอันสูงส่งที่มีมาโดยกำเนิดของเขาได้เลย
เธอยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความงุนงง มองดูใบหน้าที่คมคายราวกับมีดของเสิ่นเซียวเหยา ทำให้เธอเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที
สรุป ที่เสิ่นเจ๋อพูดเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดงั้นเหรอ ?
ทันใดนั้น ประตูได้ถูกผลักเปิดออกอย่างรุนแรง เสิ่นเจ๋อที่ดื่มเหล้าเมาเดินโซเซเข้ามาพร้อมกับขวดไวน์ เขาพูดเสียงดังอย่างไม่มีความละอายใจใด ๆ ทั้งนั้น ไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยว่าเสิ่นเซียวเหยาที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นี้จะตื่นขึ้นมา
“ซีซี ผมต้องขอโทษด้วยนะ พอดีวันนี้ผมงานยุ่งมากเลย ก็เลยไม่รับสายคุณ จนเมินคุณไปเลย”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาฉีกหน้ากากเขา เย่ชิงซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนต่อความน่ารังเกียจและความเย่อหยิ่งของเสิ่นเจ๋อไปก่อน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย”
เสิ่นเจ๋อยกมือขึ้นมาเพื่อจิบไวน์อึกหนึ่ง แล้วก็พูดด้วยยิ้มที่มั่นใจมากว่า “ผมรู้อยู่แล้วแหละ คุณรักผมมากขนาดนี้ ยังไงคุณก็ต้องเข้าใจผมอยู่แล้ว”
เย่ชิงซีกำหมัดแน่น เธอทนจนเส้นเลือดขมับโปนขึ้นมาแล้ว “นี่ก็ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรไว้เราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่านะคะ.......”
หลังจากเธอพูดจบ เสิ่นเจ๋อก็ไปล็อคประตู ปิดไฟ แล้วก็เดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว
เย่ชิงซีก้าวถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง “เสิ่นเจ๋อ คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“คืนวันแต่งงานที่มีค่าแบบนี้ อย่าทำให้เสียเปล่าสิ” เสิ่นเจ๋อเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา แล้วก็รีบวิ่งปรี่เข้ามาทั้งที่เนื้อตัวมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์เต็มไปหมด "ถ้าคุณตั้งท้องลูกของผม เขาก็สามารถสืบทอดตระกูลเสิ่นได้เหมือนกัน”
เขาไม่เห็นเสิ่นเซียวเหยาอยู่ในสายตาเลยจริง ๆ ถึงขนาดกล้าคิดมาปล้ำพี่สะใภ้แบบต่อหน้าต่อตาเขาเช่นนี้ได้ยังไง!
“ปล่อยฉันนะ!” เย่ชิงซีถึงขั้นสุดจะทน และพยายามขัดขืนสุดชีวิต แล้วตอนที่พวกเขากำลังจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นี้ จู่ ๆ เธอก็พบว่าเสิ่นเจ๋อหยุดการเคลื่อนไหวไปซะเลย
เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงุนงง แล้วก็เห็นว่าเสิ่นเจ๋อกำลังมองข้างหลังเธอด้วยสีหน้าหวาดกลัว ราวกับเห็นผีเข้าอย่างไรอย่างนั้น
“พี่ พี่ใหญ่......”
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ