"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!
พายัพทอดสายตามองเด็กสาวหน้าหวานที่กำลังปลูกดอกไม้อยู่ในสวน ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นกระด้าง ลดกล้องส่องทางไกลในมือลงอย่างไม่สบอารมณ์
“ทำไมนายท่านไม่ไปขอคุณหอมกับคุณกรแล้วก็คุณนงล่ะครับ” เมษเอ่ยถามเจ้านายอย่างสงสัย
“แกดูเด็กนั่นเวลาเจอฉันสิ ทำท่ารังเกียจยิ่งกว่าอะไร” พายัพใช้นิ้วเคาะไปกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พลางลูบปลายคางไปมาอย่างแสนเจ้าเล่ห์
เมษเห็นอาการนั้นก็พอรู้ว่าเจ้านายมีแผนการ พายัพชอบเด็กสาวข้างบ้านมาก ถ้าเป็นคนอื่นคงหักหาญเอามาจนได้ แต่กับข้าวหอมพายัพกลับไม่ทำ
พายัพเป็นเจ้าของธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้างที่ร่ำรวยติดอันดับของภาคใต้ เขายังมีธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทอีกมากมายหลายแห่ง รวมถึงที่ดินมูลค่าหลายพันล้าน นอกจากนั้นยังมีธุรกิจสีเทาพวกคลับ บาร์ คาเฟ่ และคาสิโนสำหรับเศรษฐีมีเงินทั้งหลายอีกหลายจังหวัด
“แล้วนายท่านจะทำยังไงครับ” เมษเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่เห็นว่าพายัพจะจัดการอะไรสักอย่าง เพียงแค่แอบมองเท่านั้น เข้าใกล้ทีไร สาวเจ้าก็มีท่าทีรังเกียจ และดูเหมือนว่าข้าวหอมเองก็จะมีแฟนแล้วด้วย
“ฉันก็มีวิธีการของฉัน แกไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ยายเด็กนั่นก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด” สายตาคมกริบหันกลับไปมองสวนหลังบ้านของสาวน้อยอีกครั้ง ก่อนสันกรามจะถูกกัดเข้าหากันจนเมษสังเกตเห็น
“ให้ผมไปจัดการไอ้หมอนั่นไหมครับ”
“ไม่ต้องหรอก แกคอยดูก็แล้วกัน ฉันจะทำให้เด็กนั่นเดินมาหาฉันเอง แกคอยดู” พายัพเอ่ยย้ำ ก่อนจะกระซิบบางอย่างที่ริมหูของลูกน้องคนสนิท
“ครับนายท่าน” เมษรับคำก่อนไปหาของขวัญของกำนัลที่เจ้านายต้องการมาให้
พรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของข้าวหอม เด็กสาวข้างบ้านที่เขาพึงใจ กรกันต์และนงครามบิดามารดาของข้าวหอมเชิญเขาไปร่วมงานด้วย อาจเพราะเขาเป็นเพื่อนบ้านที่มีรั้วบ้านติดกัน แต่เพราะเขาเองก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีมาตลอดด้วยเช่นกัน จึงได้รับไมตรีจิตที่ดีจากสองสามีภรรยา
หมู่บ้านในละแวกนี้เป็นของคนรวยแทบทั้งสิ้น ถ้าไม่รวยจริงไม่มีปัญญาแม้แต่จะมาเหยียบ ครอบครัวของข้าวหอมเองก็ร่ำรวย บิดามารดาเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เกี่ยวกับบ้านจัดสรรและคอนโดฯ
พายัพไปร่วมงานวันเกิดของข้าวหอมตามคำเชิญจากบิดามารดาของหล่อน ในวันนี้เขาได้เห็นหล่อนใส่ชุดราตรีราคาแพงสีชมพูหวานแหวว แต่มันเข้ากับใบหน้าหวานหยดของหล่อนเสียเหลือเกิน
กายชายของพายัพร้อนผ่าวเมื่อได้ไล่สายตามองทรวดทรงองเอวของเด็กสาวที่เขาหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เธอเพิ่งแตกเนื้อสาว
ข้าวหอมมีแววความสวยสดใสตั้งแต่เธออายุสิบห้า ตอนที่เขาย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านของเธอเมื่อสามปีก่อน
เด็กสาวหันมาเห็นเขาเข้าพอดี แต่หล่อนก็มองเมิน เดินหนีไปหาเพื่อน ๆ ของหล่อน พายัพกัดกรามเข้าหากัน เพราะข้าวหอมไว้ตัว ไม่คุยด้วยแถมยังมีท่าทีรังเกียจเขาอีก
อาจเพราะเขาเป็นหนุ่มอายุสามสิบเก้าที่แก่กว่าเธอหลายปี จะเรียกว่าเป็นพ่อของเธอได้เลย ไม่ใช่หนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ
“อ้าวคุณพายัพ มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ เข้าไปในงานกันดีกว่า” เสียงของกรกันต์ทำให้พายัพหันไปมอง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ผมเพิ่งมาถึงน่ะครับ” พายัพตอบเสียงสุภาพ ก่อนที่จะเดินตามกรกันต์เข้าไปในงาน
“งานเลี้ยงมีแต่เด็ก ๆ เพื่อนยายข้าวหอมแล้วก็เพื่อนบ้านเท่านั้นครับ”
“เครื่องดื่มแล้วก็อาหารยายข้าวหอมคิดเมนูเองน่ะค่ะ คุณพายัพตามสบายเลยนะคะ” นงครามรีบเอ่ยบอกไม่ต่างจากสามีเพราะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาหลายปี
“ผมอยากให้ของขวัญข้าวหอมก่อนนะครับ” พายัพเอ่ยเสียงทุ้ม
“ได้สิคะ เดี๋ยวดิฉันไปตามลูกให้นะคะ” นงครามรีบเดินไปตามบุตรสาวมาในทันที
“แม่ต้องขอตัวข้าวหอมสักครู่นะจ๊ะ เด็ก ๆ สนุกกันไปก่อนนะ” นงครามจับมือลูกสาวให้เดินตาม
“คุณแม่จะพาหนูไปไหนคะ”
“ไปต้อนรับแขกสิจ๊ะ เราเป็นเจ้าของงานวันเกิด”
“ใครกันคะ”
“คุณพายัพจ้ะ เขาจะให้ของขวัญหนูน่ะจ้ะ” ข้าวหอมอยากหมุนกายแล้วเดินหนี แต่มารดาก็รั้งแขนให้มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของพายัพเรียบร้อยแล้ว
เธอไม่ชอบสายตาของเขาที่มองเธอ มันเหมือนจะกลืนกิน แล้วเวลาเจอกัน เขาก็ชอบแตะเนื้อต้องตัวของเธอ แม้ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แค่จับมือถือแขนก็ตามที จนเธอแอบด่าเขาในใจว่าเป็นตาแก่ตัณหากลับ
“รับของขวัญจากคุณพายัพเสียสิลูก” เสียงของบิดาทำให้ข้าวหอมหลุดจากภวังค์ความคิด
เธอยื่นมือไปรับกล่องของขวัญจากเขาอย่างเสียไม่ได้ แต่มือหนาที่กุมมือเธอเอาไว้ ทำให้ข้าวหอมตาโต เงยหน้ามองสบตาคมกริบของเขา
เธอรีบดึงกล่องของขวัญหนี ทำให้พายัพต้องยอมปล่อยมือของเด็กสาวอย่างแสนเสียดาย
“ขอบคุณค่ะคุณพายัพ” เธอยกมือไหว้เขา
“หนูขอตัวก่อนนะคุณพ่อคุณแม่” ยังไม่ทันที่พายัพจะพูดอะไร ข้าวหอมก็รีบเดินหนี เขาเห็นว่าเธอเอาของขวัญของเขาไปวางไว้กับกล่องของขวัญของคนอื่นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินไปที่กลุ่มเพื่อน ๆ ของหล่อน โดยเฉพาะแฟนหนุ่มของข้าวหอมที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย
ความรู้สึกไม่สบอารมณ์ของพายัพเกิดขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจไยดีของขวัญของเขาเลยสักนิด แต่เขาก็สะกดกลั้นมันเอาไว้
“ดื่มอะไรเสียหน่อยไหมครับคุณพายัพ จะได้คุยกันด้วย” น้ำเสียงของกรกันต์ดูอ่อนน้อมไม่น้อย พายัพผินหน้ากลับไปมองสองสามีภรรยา ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เดินไปคุยกับสองสามีภรรยาอีกด้านหนึ่ง
สีหน้าของคนทั้งสองดูทุกข์ร้อนใจเป็นอันมาก ในขณะที่พายัพดูผ่อนคลายและเป็นกันเอง
“ผมยินดีที่จะช่วยคุณกรกับคุณนงนะครับ” พายัพเอ่ยออกมาในที่สุด ทำให้สองสามีภรรยาโล่งใจเป็นอันมาก
"ได้ยินแบบนี้ผมก็เบาใจครับ ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลย ผมยังไม่อยากล้มละลายในตอนนี้ จะหาแหล่งเงินกู้ที่ได้เร็วทันใจเพื่อพยุงกิจการก็ต้องรอนานสักหน่อย คุณพายัพกรุณาครอบครัวของเราแบบนี้ พวกเราซาบซึ้งใจมากจริงๆ ครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยินดีและเต็มใจ อย่างไรเราก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมานานหลายปี”
“ผมสัญญาว่าจะรีบนำเงินมาคืนคุณพายัพให้เร็วที่สุดนะครับ”
“ผมเชื่อมั่นครับว่าคุณกรต้องผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้” พายัพยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะชนแก้วกับสองสามีภรรยา ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างแสนเจ้าเล่ห์
ปานวาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการอ่อนเพลียและปวดหัวอย่างรุนแรง เธอค้นพบว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว กวาดสายตามองรอบตัวก็เห็นเพียงห้องไม่คุ้นตา แต่ที่ทำให้เธอตกใจแทบช็อกก็เพราะว่าร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายข้าง ๆ “กรี๊ด!!!” ปานวาดกรีดร้องสุดเสียง ปลุกให้เชนที่นอนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งตื่น เขารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการอุดปากของเธออย่างตกใจเช่นกัน “กรีดร้องทำไมแม่ตัวดี เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” “อื้อ ๆ ๆ” เธอร้องประท้วง อึก ๆ อัก ๆ อยู่ใต้ร่างหนาหนัก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “ถ้าเธอไม่ร้องพี่จะปล่อยเธอ เข้าใจไหม” เธอรีบพยักหน้า แต่พอเชนปล่อยมือเธอก็กรีดร้องอีก “กะ.. กรี๊ด! อื้อ...” เชนอุดปากของเธอเอาไว้ กอดปล้ำกันจนเตียงสั่นไปหมด สุดท้ายเชนก็กระแทกริมฝีปากลงไปหา บดจูบเพื่อปิดเสียงร้องของเธอ แต่จูบไปจูบมาดันมามีอารมณ์ อาจเพราะเบื้องล่างไม่มีอะไรสวมใส่อยู่เลย ทำให้แก่นกายชายของเขาเสียดสีกับน้องสาวของเธอถนัดถนี่ “ไม่เงียบใช่ไหม งั้นพี่คงต้องหาอะไรอุดปากของเธอซะ”
โปรย คลั่งรักเมียทาส เพราะพี่สาวขโมยเงินและเครื่องเพชรหนีไป เขาจึงต้องจับเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน เป็นทาสบำเรอรักบนเตียงกว้างอันแสนเร่าร้อน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีบางอย่างแอบแฝงที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าเขาอยากได้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคลั่งรักเธอมากเพียงใด ตัวอย่างบางช่วงบางตอน มยุรินมองเขาอย่างชื่นชม เขาหล่อ ดูดี ร่ำรวย และเซ็กซี่เหลือร้าย แต่เขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลงรักผู้ชายร้ายกาจคนนี้ได้ เด็กสาวอยากที่จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อใจเจ้ากรรมดันตกหลุมคนใจร้ายอย่างเขาไปเสียแล้ว "อาบน้ำให้ฉันหน่อย" เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นมาสบตา ก่อนที่ก้มลงมาบดจูบอย่างร้อนแรง "คุณชัชคะ หนูเหนื่อยจังค่ะ" เธอประท้วงน้อย ๆ ในชณะที่ชัชมองเด็กสาวด้วยสายตาร้อนแรง "เธอเป็นทาสของฉันจำไม่ได้หรือไง ถ้าเธอทำตัวดี ๆ เจอพี่สาวเธอเมื่อไหร่ฉันจะไว้ชีวิต หรือเธออยากให้พี่สาวของเธอตาย" "ไม่ค่ะ" มยุรินรีบส่ายหน้าไปมา "ก็อย่าขัดใจฉันสิ" ชัชพูดเสียงกร้าว มองเด็กสาวเหมือนจะกลืนกิน "หนูแค่เหนื่อยน่ะค่ะ" เขาตื่นมาตอนเที่ยงแล้วลากเธอขึ้นเตียงจนเกือบเย็น ก้นของเธอปวดเมื่อยระบบไปหมดแล้ว ช่องคลอดเหมือนจะฉีกขาดเสียให้ได้ ชัชกระแทกไม่ยั้งจนช่วงล่างของเธอแทบพัง เธอตกเป็นของเขาในครั้งแรกยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขายิ่งรู้ก็ยิ่งเอา ไม่ได้บันยะบันยังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา "นอนอ้าขาเฉย ๆ เหนื่อยด้วยเหรอ บอกให้ตอดก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง" เขาสลัดผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก มยุรินร้องเบา ๆ เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยต่อสายตาของเขาอีกครั้ง "หนูจะขาดใจแล้วค่ะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น กอดอกหน้าแดง แต่เขากระชากแขนที่กอดอกของเธอออก ทำให้ปทุมถันอวบเต็มเด้งไปมาจากแรงขยับ ริมฝีปากหน้าร้ายกาจก้มลงงับดูดอย่างเร่าร้อน
เธอแอบรักเขา จึงยอมเขาทุกอย่าง จนกระทั่งวันที่เธอตั้่งท้อง เธอต้องเลือกระหว่างการทนอยู่กับคนที่ไม่รัก หรือจากไปพร้อมกับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
เธอปลอมตัวไปเป็นเลขาของเขาเพื่อจะจับผิดว่าเขานอกใจเธอหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงเขาคือคู่หมั้นของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ปลอมตัวอย่างไรไม่ทราบ ดันไปตกเป็นเมียของเขาเสียนี่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน” “รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้ “คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว” “เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด “รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่ “เพิ่งรู้นะคะนี่” “คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย “ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี “เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก “เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน “อื้อ... ท่านประธานทำอะไรคะ” พิมพ์พิศาดิ้นรน แต่มือหนาของเขากดมือเธอไปกับผนังห้องไม่ยอมปล่อย “ผมหิว” “หิวอะไรคะ อื้อ... พอก่อนค่ะ” ถามอีกก็ถูกจูบอีก จูบจนปากแทบช้ำ “หิว” เขาตอบสั้นน้ำเสียงอ้อยอิ่ง มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอไม่วาง สายตาของเธอนั้นทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนยิ่งนัก “ท่านประธาน อย่าค่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาทำท่าจะประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง “ทำไมเรียกพี่เสียห่างเหินแบบนั้นล่ะ” “คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา มองเขาตาปริบ ๆ พลางกัดปากตัวเองด้วยความรู้สึกใจสั่นสะท้าน อย่าบอกนะว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว “อุตส่าห์นั่งรถไปตั้งไกล เหนื่อยไหม”
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวบ่าวไปเอาขมิ้นกับมะขามเปียกก่อนนะเจ้าคะ คุณบัวรออยู่ที่ท่าน้ำก่อนนะเจ้าคะ” “จ้ะพี่” กลีบบัวตอบรับ นั่งรออยู่ที่ท่าน้ำด้วยจิตใจเลื่อนลอย “พี่พุดซ้อนมาแล้วเหรอจ๊ะ อุ๊ย! พี่พฤกษ์” หล่อนร้องอุทานเมื่อหันไปก็เจอเข้ากับพฤกษ์ที่วางมือร้อนๆ อยู่ตรงไหล่บอบบางของหล่อน “จะอาบน้ำเหรอ” เขาเอ่ยถาม “ค่ะพี่พฤกษ์” คนพูดมีท่าทีเขินอาย เสียงสั่นสะท้าน ก้มงุดเพราะตัวเองอยู่ในสภาพอันล่อแหลมนัก “ตัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบก็ได้” เขากระซิบลงตรงริมหู ใช้ริมฝีปากดุนดันกลีบปากของหล่อนเบาๆ พอหล่อนเบี่ยงหลบเขาก็หอมแก้ม ขบเม้มติ่งหูสาวอย่างมีชั้นเชิง “อย่าเจ้าค่ะพี่พฤกษ์ เดี๋ยวบ่าวในเรือนมาเห็นเข้า” “ไม่มีใครมาเห็นหรอก ข้าสั่งไอ้เข้มเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามา” “ตรงนี้เป็นท่าน้ำนะเจ้าค่ะ มันไม่เหมาะสม” “ท่าน้ำแล้วทำไม” เขาปลดอาภรณ์ออกจากกาย ไม่ได้สนใจเสียงประท้วงของหล่อนอีก เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเวลานี้เขาต้องได้หล่อนให้สมใจอยาก
คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ ประกอบด้วยนิยาย 6 เรื่องดังนี้ 1. อุ้มรักทายาทท่านประธาน 2. หื่นกว่านี้ก็พี่ไง 3. พี่ขาอย่าหื่น 4. ค่ำคืนนี้มีแต่หื่น 5. คืนนี้มีเสียว 6. คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ