เว่ยหลินหลางบุตรีราชครูเว่ยอี้ ฝาแฝดคนพี่ที่ถูกปกปิดไร้สิ้นตัวตนว่าไม่เคยถือกำเนิดบนผืนแผ่นดิน ด้วยนางเกิดมาพร้อมดวงชะตาอันแข็งกล้าเป็นดวงล้มบัลลังก์หงส์ของแคว้นต้าโจว นางจึงถูกส่งตัวไปพำนักอยู่ที่หอดวงดาวให้ผู้คุมกฎเลี้ยงดู และนางก้าวออกจากหอดวงดาวในรอบ 17 ปี เพื่อกลับมาล้มบัลลังก์หงส์ที่ทำลายตระกูลของนางจนล่มสลาย โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการก้าวออกมาจากหอดวงดาวครั้งนี้ ทำให้นางได้พานพบกับดาวคู่ชะตา ซึ่งเป็นนักรบปีศาจผู้เลื่องลือและก้าวขึ้นครองบัลลังก์ของแคว้นเทียนอวี๋อันยิ่งใหญ่ ลี่หยวนฮ่องเต้ผู้มีสมญานามฮ่องเต้อำมหิต ข้าจะต้องค้นหาและตามไปช่วยนางให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้ามทะเลทราย มหาสมุทรนับหมื่นลี้ ข้าก็จะนำหัวใจของข้ากลับคืนมาเคียงคู่ที่ ตำหนักเย่วเชียงแห่งนี้ด้วยกันดั่งเดิม!!!!
แค้วนต้าโจว
แผ่นดินกว้างใหญ่สุดสายตา จากเหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก ทั่วทุกสารทิศปกครองแคว้นน้อยใหญ่มากมาย ครอบครองผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์เพื่อก่อตัวสร้างเป็นบ้านเรือน ขยับขยายกลายเป็นชุมชนและเติบโตขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แผ่นดินมังกรในยุคโบราณต่างมีผู้ปกครองน้อยใหญ่มากมาย แคว้นที่แข็งแกร่งกว่าจะพยายามรวบรวมกำลังคนและพื้นที่มากมายจากแคว้นที่อ่อนแอก่อตั้งเป็นราชวงศ์ของตัวเองขึ้นมา เพื่อปกครองผืนแผ่นดินน้อยใหญ่
หนึ่งในจำนวนมากมายหลายร้อยแคว้น ท่ามกลางการแก่งแย่งและช่วงชิงผืนแผ่นดินอันมั่งคั่ง แคว้นต้าโจวคือหนึ่งในนั้นที่แข็งแกร่งมากที่สุดเหนือแคว้นใดทั่วหล้า
และด้วยเพราะแผ่นดินที่สมบูรณ์และมีแคว้นในการปกครองมากถึงสองร้อยกว่าแคว้นในเวลานั้น จึงทำให้ต้าโจวแผ่ขยายอำนาจปกครองไปทั่วทุกสารทิศ และเพราะความยิ่งใหญ่นี้ทำให้การแย่งชิงเพื่อหวังครอบครองแผ่นดินต้าโจวทั้งภายในและภายนอกเข้มข้นเป็นยิ่งนัก
ฮ่องเต้แห่งต้าโจว เป็นสิ่งที่สตรีทุกคนเฝ้าใฝ่ฝันและตำแหน่งฮองเฮาแห่งต้าโจว เป็นตำแหน่งสูงสุดที่สตรีทั่วหล้าอยากก้าวมาถึงจุดนี้ด้วยกันทุกคน การช่วงชิงตำแหน่งฮองเฮาจึงเข้มข้นไม่แตกต่างไปจากสงครามแย่งชิงดินแดนแม้แต่น้อย เพราะสตรีใดที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแม่ของแผ่นดินต้าโจว จะได้รับเอกสิทธิ์ทางกองทัพสามารถมีกองทหารส่วนพระองค์เพื่อใช้เป็นกองหนุนและมีตราคำสั่งสามารถบัญชาการทัพได้
หากต้องการจะก้าวขึ้นปกครองแผ่นดินต้าโจวอันกว้างใหญ่นี้ให้ได้ ตำแหน่งฮองเฮาจึงเป็นสิ่งที่เหล่าขุนนางและแม้กระทั่งต่างแคว้นต้องการเข้าครอบครอง เพื่อใช้ประโยชน์จากเอกสิทธิ์ทางทหารที่จะได้รับ
นำไปสู่การยึดครองแคว้นต้าโจวผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ และตำแหน่งดังกล่าวจะถูกเลือกเฟ้นตั้งแต่องค์รัชทายาทยังไม่ขึ้นปกครองแผ่นดิน พิธีอภิเษกสมรสจะมีขึ้นได้เมื่อธิดาจากสกุลใหญ่ๆ ถูกส่งเข้ามาคัดเลือกในตำแหน่งพระชายาของรัชทายาทแห่งต้าโจว
ซึ่งในการคัดเลือกพระชายาดังกล่าว ถูกจำกัดเฉพาะสตรีที่อยู่ในแคว้นต้าโจวเท่านั้น สตรีนอกแคว้นหรือองค์หญิงจากต่างเมืองหมดสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองตำแหน่งพระชายาเอกซึ่งจะได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮาแห่งต้าโจวต่อไป
ด้วยเหตุนี้การช่วงชิงตำแหน่งพระชายาเอกของรัชทายาทแห่งต้าโจวจึงเข้มข้นยิ่งนัก เพราะผลตอบแทนที่ได้รับคืออำนาจทางการทหารที่จะได้รับสิทธิให้ถือตราคำสั่งบัญชาการทัพของแผ่นดิน และเป็นฐานอำนาจที่จะนำไปสู่บัลลังก์แห่งต้าโจวสืบต่อไป!
ด้วยเหตุนี้การแย่งชิงตำแหน่งพระชายารัชทายาท จึงเป็นเป้าหมายของทุกสกุลใหญ่ที่อยู่ในแคว้นต้าโจวและสิ้นสุดลงเมื่อ
ธิดาจากสกุลเว่ยได้ตำแหน่งนี้ไปครอบครอง ท่ามกลางความดีพระทัยของรัชทายาทโจวหยางเย่ว พระโอรสเพียงหนึ่งเดียวซึ่งประสูติจากหวังฮองเฮาแต่เป็นลำดับที่ห้าจากพระโอรสและพระธิดา 10 พระองค์ด้วยกัน ซึ่งมีพระราชบิดาเดียวกันนั้นก็คือโจวหยางหลงฮ่องเต้แห่งต้าโจว
ดังนั้นเมื่อทรงเป็นพระราชโอรสที่ประสูติจากหวังฮองเฮา ตำแหน่งรัชทายาทจึงเป็นขององค์ชายหนุ่มซึ่งไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหวังฮองเฮาจะสามารถตั้งพระครรภ์ได้อีก เนื่องจากพระนางแท้งมาแล้วหลายครั้งหากตั้งพระครรภ์อีกอาจถึงแก่พระชนม์ชีพได้
แต่หวังฮองเฮาก็ไม่ฟังทรงยังยืนกรานที่จะอุ้มท้องด้วยหวังว่าเด็กในครรภ์จะเป็นพระโอรสเพื่อรักษาฐานอำนาจของสกุลหวังเอาไว้ให้จงได้ และก็สมความตั้งใจเมื่อพระนางประสูติพระโอรสออกมาจริงๆ จึงทำให้ตำแหน่งรัชทายาทถูกเปลี่ยนแปลงตกมาอยู่องค์ชายโจวหยางเย่วทันที ตามความประสงค์ของหวังฮองเฮาที่ต้องการให้พระโอรสที่นางประสูติขึ้นเป็นรัชทายาท
และนั่นทำให้พระเชษฐาพระองค์ใหญ่โจวลี่หยาง ซึ่งประสูติจากอันฟูเหรินพระสนมเอกและดำรงตำแหน่งเป็นรัชทายาทในขณะนั้น ถูกปลดออกจากตำแหน่งรัชทายาทตามกฎมณเทียรบาลของแคว้น ว่ารัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์จะต้องประสูติจากฮองเฮาเท่านั้น
ถึงแม้จะกำหนดว่าต้องเป็นพระโอรสองค์ใหญ่ที่จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ก็ตาม แต่ถ้าพระมารดาไม่ใช่ฮองเฮาก็นั่งปกครองแผ่นดินไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าฮองเฮาไม่สามารถให้กำเนิดรัชทายาทได้ พระโอรสซึ่งประสูติจากพระมารดาที่มีตำแหน่งต่ำกว่าจะได้ขึ้นครองแคว้น
ภายหลังที่อดีตรัชทายาทโจวลี่หยางถูกปลดจากตำแหน่งอันหนักอึ้ง ซึ่งพระองค์ไม่เคยอยากได้ครอบครองแม้แต่น้อยแม้ว่าในขณะนั้นจะทรงพระเยาว์แต่เพราะมีสติปัญญาปราดเปรื่อง และมีพื้นฐานจิตใจดีรู้สึกดีพระทัยอย่างยิ่งยวดที่ไม่ได้ครอบครองบัลลังก์แห่งต้าโจว
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ช่วยอดีตรัชทายาทได้เลย พระองค์กลับถูกหวังฮองเฮาผู้หวาดระแวงกลัวโจวลี่หยางจะมาแย่งชิงบัลลังก์ของพระโอรสองค์น้อยไป ด้วยเพราะโจวหยางเย่วเพิ่งจะประสูติในขณะที่โจวลี่หยางมีพระชนมายุแปดชันษาและมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดเต็มไปด้วยความปราดเปรื่องมาตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์
หวังฮองเฮาจึงใช้แผนชั่วให้โหรหลวงที่ถูกพระนางซื้อตัวมาเป็นฝ่ายเดียวกันทำนายทายทักโจวลี่หยาง อดีตรัชทายาทว่าเป็นดาวแห่งหายนะและเป็นกาลกิณีของแคว้นต้าโจว ให้เนรเทศไปอยู่ชายแดนและทำคุณให้แก่แผ่นดิน โดยการออกล่าดินแดนเพื่อขยายแคว้นต้าโจวให้กว้างใหญ่
หยางหลงฮ่องเต้ผู้มีความเชื่อในเรื่องของลิขิตแห่งสวรรค์และโชคชะตา หลงเชื่อคำลวงของโหรหลวงที่เป็นฝ่ายเดียวกับหวังฮองเฮาจึงทรงมีพระบัญชาเนรเทศโจวลี่หยางอดีตรัชทายาท ไปที่ชายแดนอันห่างไกลทันทีห้ามเหยียบเมืองหลวงตลอดกาล และคำสั่งดังกล่าวทำให้อันฟูเหรินพระมารดาโศกเศร้าเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่หยางหลงฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาเช่นนั้น
และนั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้อันฟูเหรินทรงเสียพระทัยเป็นยิ่งนักที่ถูกพลัดพรากจากพระโอรส ซึ่งถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดนในขณะที่มีพระชนมายุเพียงแปดพระชันษาเท่านั้น พระนางเริ่มล้มป่วยและรักษาพระวรกายอยู่นานก่อนจะสิ้นพระชนม์ลงอย่างสงบหลังจากที่พระโอรสถูกเนรเทศไปแล้วสิบห้าปี
แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้สงสัยว่าอันฟูเหรินแท้จริงแล้วสิ้นพระชนม์ด้วยสาเหตุอื่นอย่างเป็นปริศนาหาใช่เกิดจากการจากไปเพราะโรคภัยอันมีสาเหตุมาจากที่พระโอรสทรงถูกเนรเทศแต่อย่างใด พระนางทรงเข็มแข็งมากกว่าที่คิดและรอคอยการกลับมาของพระโอรสอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกมาโดยตลอด
การสิ้นพระชนม์ที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำของอันฟูเหรินนั้นทำให้หวังฮองเฮาดีพระทัยอย่างล้นเหลือที่สามารถกำจัดศัตรูตัวฉกาจที่เป็นภัยต่อราชบัลลังก์ของพระโอรสและศัตรูหัวใจของพระนางลงได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน ด้วยเพราะอันฟูเหรินเป็นพระสนมที่หยางหลงฮ่องเต้ทรงรักอย่างจริงใจ
ครั้นรัชทายาทโจวหยางเย่วมีอายุครบ 20 พระชันษาและสำเร็จศาสตร์ทั้งบู้และบุ๋นก็ถึงคราวที่จะต้องอภิเษกสมรสตามโบราณราชประเพณี ซึ่งองค์ชายรัชทายาทพยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนกระทั่งพระชนมายุเข้าปีที่ 20 ไม่สามารถหาข้ออ้างเพื่อชะลอการอภิเษกได้อีกต่อไป จึงจำต้องตกลงเข้าพิธีอภิเษกสมรสโดยมีเงื่อนไขว่า
เหล่าขุนนางจะต้องส่งบุตรีเข้าวังหลวงเพื่อคัดตัวไม่ต้องการเลือกจากสกุลใดสกุลหนึ่งที่ถูกวางตัวเอาไว้ก่อนหน้านั้น ซึ่งฮ่องเต้ต้าโจวก็ทรงเห็นชอบด้วยเช่นกันจึงทำให้เกิดการคัดเลือกพระชายารัชทายาทครั้งใหญ่เพื่อต้องการตราบัญชาทัพอีกครึ่งหนึ่งของแผ่นดินไว้กับสกุลของตัวเอง
ด้วยเหตุนี้บุตรีของขุนนางจึงได้เข้าร่วมการคัดเลือกพระชายารัชทายาทเป็นครั้งแรกในแผ่นดินต้าโจว ซึ่งปกติแล้วจะถูกวางตัวเอาไว้ก่อนหน้านั้น และจะมาจากสกุลหวังทั้งสิ้นที่ครองตำแหน่งฮองเฮามาโดยตลอด และถูกเปลี่ยนมือไปอย่างน่าตกใจเมื่อองค์ชายรัชทายาททรงเลือกชื่อบุตรีของขุนนางระดับสูงผู้หนึ่งให้มายืนหนึ่งเคียงข้างกายกับพระองค์ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจกับหลายฝ่ายโดยเฉพาะหวังฮองเฮา
ตระกูลเว่ยก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงโชคชะตาแห่งความวุ่นวายนี้ไปได้ พระราชโองการถูกถ่ายทอดลงไปเพื่อให้เหล่าขุนนางส่งบุตรีของตัวเองเข้าร่วมการคัดเลือกดังกล่าว เป็นไปตามรายชื่อที่แจ้งทะเบียนเกิดเอาไว้และทันทีที่รายชื่อของบุตรีสกุลเว่ยได้ถูกส่งเข้ามาภายในวังหลวง เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกพระชายารัชทายาท
องค์ชายรัชทายาททรงแอบหลงรักสตรีผู้หนึ่งมานานแสนนานแต่นางไม่เคยปรากฏตัวในหมู่ชนชั้นสูงหรือในเมืองหลวงให้ผู้ใดได้พบเห็น ด้วยนางพำนักอยู่ในหุบเขาลึกตามคำสั่งของบิดานั่นก็คือราชครูเว่ยอี้แม้ไม่ล่วงรู้นามจริงของนางก็ตาม แต่ก็ทรงล่วงรู้ว่าบิดาของนางก็คือเว่ยอี้ พระอาจารย์สอนของพระองค์นั่นเอง
ด้วยธิดาจากสกุลเว่ย ได้ครอบครองหัวใจของรัชทายาทโจวหยางเย่วมาตั้งแต่พระองค์ยังมีชันษาเพียง 15 ปีเท่านั้น นางจากแคว้นต้าโจวไปพำนักอยู่กลางขุนเขาในเขตแดนของแคว้นต้าฉีตามคำสั่งของเว่ยอี้ผู้เป็นพ่อ
และเพิ่งจะเดินทางกลับมาได้ไม่นาน เมื่อขุนนางน้อยใหญ่ต่างต้องส่งรายชื่อของบุตรีในสกุลเพื่อทำการคัดเลือกพระชายารัชทายาทตามราชโองการ ทันทีที่องค์รัชทายาทล่วงรู้ว่า ราชครูเว่ยอี้ได้ส่งชื่อบุตรีของตนเข้าร่วมการคัดเลือกพระชายารัชทายาทในครั้งนี้ด้วย โดยไม่เต็มใจแม้แต่น้อยแต่เพราะขัดพระราชโองการไม่ได้นั่นเอง
และนั่นทำให้รัชทายาทโจวหยางเย่วไม่รีรอที่จะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป ทรงตัดสินพระทัยเลือกธิดาจากสกุลเว่ย ที่เฝ้าหลงรักมานานแสนนานเพื่อให้นางได้เป็นพระชายาเอกทันที
หลังจากที่นางผ่านเข้ารอบสามคนสุดท้าย โดยที่นางยังไม่ทันจะเข้าวังเพื่อเข้ามาทำการคัดเลือกตรงพระพักตร์ของพระองค์ ขอเพียงแค่พระชายาเอกคือบุตรีของราชครูเว่ยอี้ก็พอแล้ว ซึ่งไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนเลยว่ารัชทายาทโจวหยางเย่วและธิดาจากสกุลเว่ยนั้น เคยพานพบหน้ากันมาแล้วจากเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์รัชทายาทเมื่อห้าปีก่อน
ท่ามกลางความไม่พอพระทัยเป็นอย่างมากของหวังฮองเฮาพระมารดา ที่ธิดาจากสกุลเว่ยได้ตำแหน่งพระชายารัชทายาทนี้ไป ในขณะที่หลานสาวของพระนางซึ่งมาจากสกุลหวัง ซึ่งมาจากสกุลเดียวกันกับหวังอองเฮานางได้เป็นเพียงพระชายารองและธิดาจากสกุลเหยียนและสกุลอิ๋งได้เป็นอนุชายา
การคัดเลือกพระชายารัชทายาทในครั้งนี้จึงมีผู้พลาดหวังและไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะได้เอกสิทธิ์ทางกองทัพไปครอบครอง เพราะต้องถูกเปลี่ยนมือจากสกุลหวังไปสู่สกุลเว่ยแทน
ซึ่งสกุลดังกล่าวครองตำแหน่งราชครูสืบทอดกันมานับรุ่นต่อรุ่น เป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่แต่ไร้สิ้นอำนาจในกำมือ เมื่อธิดาสกุลเว่ยได้ขึ้นครอบครองตำแหน่งพระชายารัชทายาทซึ่งจะได้เป็นฮองเฮาของต้าโจวสืบต่อไป ก็เท่ากับว่ากองทหารครึ่งหนึ่งของแผ่นดินได้ไปตกอยู่ในกำมือสกุลของราชครูที่ขึ้นชื่อได้ว่าปราดเปรื่องที่สุดในแผ่นดิน หากเป็นเช่นนั้นการช่วงชิงบัลลังก์ต้าโจวเห็นทีจะยากลำบากมากยิ่งขึ้นนับเท่าทวีคูณ
ตำหนักไร้รัก สถานที่พำนักของอุปราชหนุ่มแห่งเทียนจิน เจ้าของตำหนักนี้ หัวใจเต็มไปด้วยความด้านชามาแทบทุกพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอสาวแสนสวย นามว่าจ้าวย่าเจินได้รับของขวัญ ย้ายเข้าบ้านใหม่เป็นภาพวาดตำหนักโบราณ มีชื่อว่าตำหนักเย่วเชียง ในภาพนั้นมีผู้ชายยืนเอามือไพล่หลังไม่เห็นหน้า เฝ้ามองตำหนักฝั่งตรงกันข้าม และที่น่าประหลาดผู้ชายในภาพวาดจะโตขึ้นทุกวัน จวบจนกระทั่ง คุณหมอคนสวยถูกดึงเข้าไปในภาพวาดตำหนักโบราณดังกล่าวและได้พบกับ เจ้าของตำหนักไร้รัก ซึ่งเขาก็คืออุปราชแห่งเทียนจินและเป็นผู้ชายคนเดียวกัน ที่อยู่ในภาพวาดที่หญิงสาวเห็นเขาอยู่ทุกค่ำคืน ตำหนักไร้รักเมื่อไร้หัวใจ ตำหนักไร้กังวลเมื่อหัวใจกลับมามีรักอีกครั้ง
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?