ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า “ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ...” คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี “ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง” “หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้” ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ‘ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้’ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อากาศปลายฤดูหนาวปีนี้ ในภาคเหนือยังทิ้งร่อยรอยความเย็นอยู่มากนัก อย่างน้อยก็ทำให้น้ำแข็งในแก้วเบียร์ละลายช้า
เป็นที่ถูกอกถูกใจแขกที่มานั่งหาความรื่นรมย์ในแพร้านอาหารนัก โดยเฉพาะกลุ่มหนุ่ม ๆ ที่ร่ำสุรากันทั้ง ๆ ที่อยู่ในเสื้อนักศึกษา
แม้อาจมีผู้ใหญ่มือถือสากปากถือศีลติเตียนในใจว่าไม่สมควร แต่ใครเล่าจะสน ในเมื่อพวกเขานั้นจะจบการศึกษาอยู่แล้ว ที่มาดื่มนี่ก็ฉลองสอบวิชาสุดท้ายในชีวิตมหาวิทยาลัยเสร็จ
อาหารและเครื่องดื่มวางมากมายบนโต๊ะ บริกรยกมาเสิร์ฟอย่างนอบน้อมเอาอกเอาใจ เพราะรู้ว่าคนที่โทรมาจองโต๊ะนั้นเส้นใหญ่คับร้านสักเพียงไหน
เสียงพูดคุยเฮฮาตามประสาเพื่อนดังเป็นระยะ ๆ บางคนก็ถ่ายคลิปโน่นนี่ บางคนถึงขนาดไลฟ์ในแอปฯกลางร้านก็มี
ใครคนหนึ่งมาถึงงาน พร้อมหอบของมาเต็มอก
“เจ้าภาพงานมาแล้วโว้ยพวกเรา ! มีคนจ่ายเงินแล้ว ไม่ต้องกลัวได้ล้างจาน”
เสียงแซ็วโห่ฮาดังขึ้นตอนรับ บริกรรีบมาขยับเก้าอี้เลื่อนออกให้หนุ่มเส้นใหญ่โดยพลัน
“เฮ้ย! กูเห็นนะไอ้ดินว่าน้องเมี่ยงเอาของมาให้มึง อะไรวะที่อยู่ข้างในน่ะ”
ลือกฤชถามเพื่อนทันทีที่เห็นร่างสูงโปร่งก้าวเข้าในสายตา เขาทำตัวเป็นนักข่าวประจำคณะ ไม่มีเรื่องไหนลอดหูลอดตาไปได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เห็นมากับตา อย่างนี้ต้องเอามาขยี้ ซักฟอกให้สาแก่ใจ
“ไม่รู้ว่ะ”
คณิศรยักไหล่ไม่ยี่หระ วางถุงใส่กล่องของขวัญที่ชนิษฐาให้เขาเอาไว้ที่ตรงบนโต๊ะข้างจานอาหาร ที่มีทั้งช่อดอกไม้ และของที่ขวัญจากใครหลาย ๆ คน
โดยให้เหตุผลว่าอาจไม่สะดวกมาแสดงความยินดีตอนรับปริญญาเพราะคนอาจจะเยอะ จึงเอามาให้เขาเสียในวันสอบวิชาตัวสุดท้ายในชีวิตนักศึกษา
สายตาคมยังมองหาคนที่เขาอยากเจอ เมื่อคืนส่งข้อความถึงกันแล้วรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมาได้ แต่ก็ยังไร้วี่แวว
ลือกฤชเกาะไหล่ของเพื่อน
“มึงนี่ก็แปลกนะ คนที่เขารักชอบมึง มึงก็ไม่คิดถึง แต่กับคนที่เขาไม่สนใจมึงเนี่ย ตามเหลือเกิน ทำไมวะ?”
เพื่อนๆ รู้กันหมดว่า คนที่คณิศรรักมาก และอยากจะแต่งด้วยก็คือสุธาวี
สำหรับสุธาวีนั่น ใครต่อใครก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนอย่างไร รักอิสระ
ชอบสนุก แต่ไม่ยอมผูกมัดกับใครสักคน คบผู้ชายในสถานะไม่ใช่แฟน แต่เป็นคนสนุกร่วมเตียง
แม้เพื่อนจะเตือนกันหลายคนแล้ว ทว่าคณิศรก็ยังทำเป็นหูหนวกตาบอด กับพฤติกรรมรักอิสระของเธอ คำตอบที่เขาบอกติดปาก
“อะไรที่มันได้มายากๆ มันมีค่าวะ รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง”
ซึ่งเพื่อนๆ ก็ไม่เข้าใจ เพราะสุธาวียากตรงไหน ใคร ๆ ก็ได้กัน ไม่เว้นแม้แต่ลือกฤชที่ก็เคยถูกสุธาวีขึ้นขี่แล้ว เพียงแต่เขาไม่บอกคณิศรเท่านั้น
“เมี่ยงดูอะไรอยู่น่ะ”
ชนิษฐายังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จ้องมองรูปในมือถือแบบไม่มีเบื่อ
“รูปของพี่ดินน่ะ”
“จ้า ! แม่คุณระวังจะกรามค้างนะคะ” แล้วฤดีรัตน์ก็จับแก้มของเพื่อนสาวบี้ๆ
“เจ็บนะแก” แต่หน้าก็เหมือนสตาฟเอาไว้ คือบานไม่หุบ
“เอาจริงนะ ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว แกไม่คิดจะเปลี่ยนใจมาสนใจผู้ชายคนอื่นบ้างเหรอ นั่นดูสิ...”
แล้วก็ชี้ให้ชนิษฐาดูหนุ่ม ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมา รวมถึงที่ขี่จักรยาน รถยนต์ และมอเตอร์ไซด์บนถนนด้วย
“อึ!” ชนิษฐาส่ายหน้ารัว ๆ
“อารมณ์ประมาณคลั่งไอดอลเกาหลีนะเราน่ะ”
“เปล่าสักหน่อย”
แล้วก็โน้มตัวก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของฤดีรัตน์
“ฉันอยากได้เขาเป็นผัว” พูดเองก็หน้าแดงเอง
“อีบ้า” ฤดีรัตน์หมั่นไส้ เอาไหล่ชนเพื่อนแล้วก็หัวเราะลั่น
“เอาจริงอะ”
“เอ้อสิ”
ชนิษฐากับฤดีรัตน์เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย นี่เป็นที่พักใจหนึ่งเดียว เธอจึงกล้าบอกความปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง
“ค่า... ขอให้สมหวังนะยะ อวยพรล่วงหน้าก็แล้วกัน”
เพื่อนที่ดีต้องส่งเสริมกันสิ ฤดีรัตน์ดีใจกับชนิษฐาที่โตเป็นสาวแล้ว เพราะเจ้าตัวไม่เคยมองผู้ชายที่ไหนเลย จนเธอกลัวว่าเพื่อนจะไปบวชชีละทางโลกเข้าสักวัน
“แทงกิ้วเพื่อนรัก แล้วแกละพี่แว่นนะ เอกอิงค์”
“หื้อ... เมื่อกี้ฉันเอาช่อดอกไม้ไปให้มาแล้ว นี่ไง” งัดเอามือถือออกมาแล้วเปิดรูปที่ได้ถ่ายคู่กับพี่แว่นหวานใจของฤดีรัตน์
“นี่ไง”
“หือ แต่ว่า...นี่ใครอ่ะ”
เจ้าของมือถือทำหน้าหงอย เมื่อชนิษฐาชี้ไปที่สาวในชุดคลุมท้องที่ยืนอยู่ในเฟรมเหมือนบังเอิญ ปากของฤดีรัตน์งอง้ำขึ้นมาทันที ริมฝีปากบนจะชิดกับปลายจมูกอยู่แล้ว
“เมียของพี่แว่นน่ะ”
“หา! เหรอ? อุ้ย! แบบนี้ก็หมายถึง แก...”
“เอ้อ... อกหักเพราะดันมีเมียนี่แหละ” แล้วฤดีรัตน์ก็ร้องเพลง
“ มีเมียแล้วไม่เอา มีเมียแล้วไม่เอา มีเมียแล้วไม่เอา มีเมียแล้วไม่เอา”
ร้องออกจะเพราะ แต่ทว่าใบหน้าเศร้าทีเดียว บ้านเพื่อนเปิดร้านขายของวินเทจ พ่อแม่มักเปิดเพลงเก่าให้ฟัง แล้วตัวเลยมักร้องเพลงย้อนยุค ใครจะมองฤดีรัตน์เชยอย่างไรก็ช่าง ชนิษฐามองเป็นเสน่ห์อันน่ารักของเพื่อน อยู่ใกล้แล้วขำ มีความสุขดี
“อย่าเครียด ผู้ชายในโลกนี้มีมากกว่าฝูงลิง”
“จ้า มีมาก แต่เขาเป็นของคนอื่น เขียนเอาไว้ข้างเตียง...”
“ยังจะมาปล่อยมุขอีก นี่แกอกหักอยู่นะ”
เธอกลอกตา บางทีนะที่ผู้ชายที่ผ่านมาได้เป็นแค่เพื่อน เพราะฤดีรัตน์ทำตัวเล่น ๆ แบบนี้นี่แหละ ผู้ชายพวกนั้นเลยเดาทางไม่ถูก
“ ไม่เป็นไร บอกเลยไม่เป็นไร น้ำตาจะไหล ก็ไม่เสียดายหรอกหนา เก็บมานาน เก็บจนล้นจนรินจากตา ปล่อยมันไหลมา เพราะใจเหนื่อยล้าเกินไป...”
ยัง...ยังไม่หยุดอีก ชนิษฐาจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอของเพื่อนเอาไว้
“ส่งมาให้ด้วยนะ ฉันจะเอาไปลงช่องติ้กต้อก” ฤดีรัตน์เล่าว่าตอนนี้กำลังโคฟเวอร์ศิลปินทุกแนว
“จ้า ได้เลยเพื่อน”
ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!
วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++
ภริยา(ไม่รัก)ของมาเฟีย +++++++++++++++++ “ถ้าฉันไม่มีลูก คุณก็จะไม่มาที่นี่ใช่ไหม” ในใจส่วนลึกคาดหวังคำตอบว่า...ไม่ใช่ เลโอนาร์ดเบนสายตามองเธอนิ่ง “คงจะอย่างนั้นแหละ” ประไพสุดาเม้มริมฝีปากแน่น กายสั่นเทิ้ม “เลโอนาร์ด เบลุซซี่ คุณออกไปจากที่นี่ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก เด็กในท้องนี่เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ถ้าอยากได้แกก็ฆ่าฉันเสียเถอะ” ดวงตาดำสนิทลุกวาว มองอดีตสามีดังจะสาปส่งให้สลายเป็นจุณ “ฉันเกลียดคุณ!” +++++++++++++
อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ