เรื่อง อลเวงวิญญาณพบรัก โปรย อุบัติเหตุครั้งใหญ่ทำให้เขากลายเป็นวิญญาณ และได้พบกับเธอ...หญิงสาวที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ สิ่งที่เธอเป็นทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ แต่สำหรับเขาเธอเป็นเหมือนแสงสว่าง ------------------------ แนะนำตัวละคร คุณอานนท์ ทวีทรัพย์ไพศาล (คุณนนท์) อายุ 29 ปี นักธุรกิจบริษัทอาหารแช่แข็งรายใหญ่ที่สุดในประเทศ เขาเป็นคนเก่งมากความสามารถ เรื่องความหล่อไม่ต้องพูดถึงนอกจากหน้าตาที่ไม่เป็นสองรองใครแล้ว เขายังมีรูปร่างที่งามสง่า แต่อยู่ๆเขาก็กลายเป็นวิญญาณ แต่ในขณะเดียวกันโลกมนุษย์อานนท์ก็ต้องสืบหาความจริง ส่วนอีกโลกที่เขาเพิ่งได้พบ เขาก็อยากรู้อยากเห็น อยากรู้ว่าในโลกที่เขาไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นมาก่อน มันมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกบ้าง... มินตรา ศิริกุล (ก้อย) อายุ 25 ปี เธอมีความสามารถพิเศษที่คนอื่นๆไม่มี ติดตัวมาตั้งแต่เธอเกิด ก็คือ...เธอสามารถมองเห็นวิญญาณที่คนทั่วไปมองไม่เห็น และนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับเขา อานนท์ ทวีทรัพย์ไพศาล เขากลายเป็นผีขี้เหงาและขี้ตื้อสุดๆ -------------------- สำหรับเรื่องนี้ ไรท์อยากให้ทุกคนลองเปิดใจเข้ามาอ่านกันดูนะคะ มีภาคต่อแล้วนะคะ เรื่อง...ประทับใจยัยขี้เมา
ตอนที่ 1 อุบัติเหตุ
ณ บริษัทแห่งหนึ่งที่กำลังถกเถียงกันอยู่ในที่ประชุมเรื่องผลกำไรและรายรับรายจ่ายของบริษัท วาระการประชุมในวันนี้กำลังคุยกันถึงเรื่องการปันผลเงินโบนัทก้อนใหญ่ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนตามความเหมาะสม แต่! ปีนี้มันกลับไม่ง่ายเหมือนปีก่อนๆ ที่ผ่านมาเพราะอานนท์ลูกชายคนโต แต่เขาเป็นลูกเมียน้อยของคุณพ่อ ได้ขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บริหาร เพราะเขาเก่งและมีความสามารถมาก จนผู้เป็นบิดาเห็นถึงความสามารถที่อานนท์มี ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เขาได้นั่งเก้าอี้ผู้บริหาร แต่เขากลับทำกำไรให้กับบริษัทมากกว่าที่เคยได้อย่างมหาศาล และเขาก็มีความคิดที่อยากจะเพิ่มเงินโบนัทให้กับพนักงานของเขาทุกคน โดยเฉลี่ยกันไปตามความเหมาะสม แต่ลูกอีกคนของคุณพ่อที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัทด้วยกลับไม่ยอม
“พี่นนท์ครับผมคิดว่าโบนัทที่เราให้พวกเขาทุกปีมันก็มากพออยู่แล้วนะครับ” เกล้าลูกชายคนที่สองได้เอ่ยคัดค้านขึ้น เกล้าเป็นลูกเมียแต่งของคุณมานะ คุณพ่อของอานนท์ ก็ถือได้ว่าเกล้าเป็นน้องชายของอานนท์นั่นเอง เกล้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของอานนท์ เพราะเขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาเงินจำนวนมหาศาลไปแบ่งให้พนักงานพวกนั้น
“แต่ปีนี้บริษัทของเราทำรายได้มหาศาล เราก็ควรจะแบ่งให้พวกเขาตามความเหมาะสมนะครับคุณเกล้า” ถึงอานนท์จะเป็นพี่ แต่อานนท์ก็ไม่ใช่ลูกเมียแต่งของคุณพ่อ ทุกคำพูดของอานนท์จึงให้เกียรติเกล้าที่เป็นน้องชายเสมอ โดยการเรียกเกล้าว่า คุณเกล้า มีแต่พริ้งลูกสาวคนเล็ก ที่เกิดจากท้องของคุณหนึ่งฤทัยคุณแม่ของอานนท์ พริ้งจะเรียกพี่ๆ ของเธอทั้งสองคนว่าพี่เสมอ
บ้านนี้มีลูกทั้งหมดสามคน ชายสองหญิงหนึ่ง อานนท์กับพริ้งเกิดจากแม่คนเดียวกันก็คือคุณหนึ่งฤทัยที่ไม่ใช่เมียแต่ง และเกล้าที่เกิดจากท้องของคุณรพีภรณ์เป็นเมียแต่งของคุณมานะ แต่คนเป็นเมียน้อยกลับมาก่อน คนที่เป็นเมียแต่งกลับมาทีหลัง แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่มันผ่านมานานแล้ว ส่วนคุณมานะท่านพยายามดูแลลูกกับเมียทั้งสองอย่างเท่าเทียมกันเสมอ ทำให้คุณแม่ทั้งสองคนไม่เคยมีปัญหากัน ต่างคนต่างอยู่กันคนละบ้านแล้วก็ช่วยกันทำมาหากิน
“หยุดเถียงกันก่อนนะคะ เรามาหาเสียงข้างมากกันดีกว่าค่ะ พริ้งเห็นด้วยกับพี่นนท์ค่ะ” พริ้งเอ่ยห้ามพี่ชายของเธอทั้งสองคน ที่ตอนนี้กำลังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่สำหรับเธอ เธอเห็นด้วยกับพี่นนท์ของเธอ
“พี่น้องกันก็ย่อมเข้าข้างกันอยู่แล้ว” เกล้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมามากนัก
“แต่พริ้งก็เป็นน้องพี่เกล้าเหมือนกันนะคะ” เธอรักพี่ชายของเธอทุกคนด้วยความจริงใจเท่าๆ กันนั่นแหละ ถึงเธอกับพี่เกล้าจะไม่ได้มีคุณแม่คนเดียวกันก็ตาม
“เอาอย่างนี้ ให้ทุกคนในห้องประชุมกลับไปตัดสินใจ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยมาประชุมเรื่องนี้กันใหม่ ผมขอตัวก่อนนะครับ” เกล้าพูดขึ้น พร้อมกับรีบร้อนลุกออกไปจากห้องประชุมทันที ถึงเขาจะไม่พอใจแต่เกล้าก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ยังคงสงวนท่าทีได้ดี
จากนั้นทุกคนก็ลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเอง ออกไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เหลือก็แต่พี่ชายกับน้องสาวสองคนเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ด้วยกันต่อ
“พี่นนท์ค่ะ พริ้งว่าพี่เกล้าเขาดูไม่ค่อยพอใจเลยนะคะ”
“แต่ที่พี่ทำไปก็เพราะความถูกต้อง พนักงานพวกนั้น ถ้าเรารักเขา เขาก็รักเรา พริ้งเข้าใจพี่ใช่ไหม” อานนท์เป็นคนจิตใจดี มีความยุติธรรมกับทุกคนเสมอ เขาพยายามบริหารงานบริหารเงินในส่วนที่เขาควรจะทำ ก็เพื่อทุกคนไม่เว้นแม้แต่พนักงานตัวเล็กๆ ที่มีจำนวนมหาศาล และพนักงานตัวเล็กๆ พวกนี้นี่แหละที่ทำเงินให้กับเขาได้เป็นอย่างดี
“พริ้งเข้าใจพี่นนท์อยู่แล้วค่ะ แต่พริ้งก็อยากให้ทุกคนเข้าใจพี่นนท์เหมือนที่พริ้งเข้าใจด้วย แล้วดูเหมือนว่าคณะกรรมการแต่ละคนก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนะคะ”
“แต่พี่ว่าส่วนใหญ่เห็นด้วยกับพี่นะ” อานนท์มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่มีความเห็นเหมือนกันกับเขา
“ค่า...ค่า ยังไงก็ขออย่าให้มีความขัดแย้งกันเกิดขึ้นแล้วกันนะคะ” พริ้งพูดอย่างเหนื่อยๆ ใจพี่ชายของเธอทั้งสองคนไม่ค่อยลงรอยกัน มีความคิดที่ไม่ค่อยตรงกันแบบนี้เสมอ
“ตอนบ่ายมีนัดไม่ใช่เหรอ จะไปก็รีบไปซิ” อานนท์เอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันน้องสาว
“เอ๊ะ! พี่ชายพริ้งรู้ได้ยังไงนะ แสนรู้…(จริงๆ เลย)” พริ้งยังพูดไม่ทันจบ อานนท์พี่ชายของเธอก็ร้องขัดขึ้นมาเสียงดังซะก่อน
“หยุดเลยนะยัยพริ้ง ไอ้กรมันเป็นเพื่อนพี่ ก่อนที่มันจะพาน้องสาวของพี่ไปไหนต่อไหน มันก็ต้องโทรมาขออนุญาตพี่ชายอย่างพี่ก่อนสิจริงไหม” อานนท์ยกคิ้วให้น้องสาวอย่างขี้เล่น อานนท์เป็นพี่ชายที่น่ารักและอบอุ่นสำหรับพริ้งเสมอ
“แฮ่ๆ ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่กรจะรอ” พริ้งยิ้มหวานให้พี่ชายของเธอ ก็แฟนของเธอกับพี่ชายของเธอดันเป็นเพื่อนกันเสียได้ มีเรื่องอะไรพี่ชายของเธอก็รู้หมด
“เออจะไปก็รีบไป” จากนั้นอานนท์ก็กลับไปนั่งทำงานต่อที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขา คิดหาตลาดใหม่ๆ เพื่อที่จะขยายธุรกิจการส่งออกอาหารแปรรูป อยู่ๆ ก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา
“สวัสดีครับ” อานนท์หยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยมาใหม่ขึ้นมารับสาย เพราะสายที่โทรเข้ามาเป็นสายของเกล้าน้องชายของอานนท์นั่นเอง
“พี่นนท์ครับ อีกหนึ่งชั่วโมงผมมีนัดคุยกับลูกค้าเรื่องออเดอร์ปีหน้า พี่นนท์ช่วยไปแทนผมหน่อยได้ไหมครับ พอดีผมมีนัดชนกับลูกค้าอีกเจ้า เลขาของผมไม่รู้ทำงานยังไง” เกล้าขอให้พี่ชายไปพบลูกค้าแทน เพราะเขาต้องไปพบลูกค้าอีกเจ้า แล้วก็บ่นๆ เลขาของตัวเองให้พี่ชายฟัง
“เอาเถอะครับ คุณเกล้านัดไว้ที่ไหน เดี๋ยวผมไปแทนให้ก็ได้ครับ”
“ขอบคุณพี่นนท์มากนะครับ” น้ำเสียงของเกล้าทำให้คนเป็นพี่ถึงกับอมยิ้ม อย่างน้อยเราสามคนพี่น้องก็รักกัน ถึงจะเป็นลูกคนละแม่แต่อานนท์ก็ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย ถึงคุณแม่ของเขาจะมาก่อนแต่ก็ได้เป็นแค่เมียน้อย และที่เขาต้องมานั่งเก้าอี้ผู้บริหารก็เพราะความสามารถที่ผู้เป็นบิดาขอร้องให้ช่วยกันดูแลธุรกิจของครอบครัว อานนท์ไม่ได้อยากนั่งเก้าอี้นี้ คนที่ควรจะนั่งน่าจะเป็นเกล้าที่เป็นลูกเมียแต่งมากกว่า แต่คำพูดของคุณพ่อทำให้อานนท์ยอมนั่งเก้าอี้ตัวนี้ อีกอย่างทุกคนก็เห็นด้วยและไม่มีใครคัดค้าน แม้แต่เกล้าเอง
อานนท์ขับรถออกมาคนเดียว ตรงไปสถานที่ที่น้องชายคนละแม่บอกทันที เวลาเหลือน้อย ทำให้อานนท์เหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นอีกเพราะกลัวว่าจะไปไม่ตรงเวลา เพราะเวลานั้นสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด อานนท์จะให้ความสำคัญกับเรื่องเวลามากเป็นพิเศษ เพราะถ้านัดคุยยังมาไม่ตรงเวลา แล้วเขาจะผลิตงานส่งให้อย่างมีคุณภาพและตรงเวลาให้ลูกค้าได้อย่างไร นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่อานนท์ให้ความสำคัญมาก
“เฮ๊ย!!” อยู่ๆ ก็มีรถขับมาปาดหน้ารถของอานนท์อย่างกะทันหันทำให้อานนท์เหยียบเบรค
“เอี๊ยก!!!…โครม!!!”
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"