เรื่อง...ชาตินี้ชาติไหนพี่ก็รัก คำโปรย เมื่อความฝันของเขา กับ โรคประหลาดของเธอมาบรรจบกัน เรื่องราวอันแสนขมขื่นในอดีตชาติค่อยๆหวนกลับ แนะนำตัวละคร ภูธเรศ (พี่ภู) อายุ 28 ปี เขาหล่อ คมเข้ม อบอุ่น แค่เพียงสบตาก็รู้เลยว่าเธอคือคนที่เขาตามหามานานแสนนาน เพลงพิณ (เพลง) อายุ 25 ปี เธอสวย น่ารัก เธอตกหลุมรักเขาทันทีที่ได้สบตา คล้ายกับว่า...เธอรอค่อยเขามานานแสนนาน แต่ลึกๆแล้วมันกลับมีความหวาดกลัวซ่อนอยู่ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมเธอถึงได้รู้สึกแบบนั้น @@@@@@ 🌼นิยายเซตนี้🌼 1.อลเวงวิญญาณพบรัก (รุ่นแม่) 2.ประทับใจยัยขี้เมา (รุ่นลูก) 3.ชาตินี้ชาติไหนพี่ก็รัก (2=3 เนื้อเรื่องต่อกันแนะนำให้อ่านคู่ค่ะ)
ตอนที่ 1 โรคประหลาด
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเพลงพิณ หรือจะเรียกว่าเพลงเฉยๆก็ได้ ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี ฉันป่วยเป็นโรคประหลาด
ซึ่งทางการแพทย์ก็ไม่สามารถบอกสาเหตุได้ว่าอาการที่ฉันเป็นมันคืออะไรหรือเกิดขึ้นได้อย่างไร และนอกจากความรู้สึกของฉันที่รู้สึกอยู่คนเดียวแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มี
ไม่มีในที่นี้ก็คือไม่มีรอยแดง รอยช้ำ รอยเขียวตรงบริเวณที่ฉันรู้สึกเจ็บเลยสักนิด สิ่งที่มองเห็นไม่มีอะไรบ่งบอกได้เลยว่าฉันเจ็บปวดจริงๆอย่างที่ฉันรู้สึก
อาการที่ว่ามันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ฉันอายุ 18 ปี ซึ่งมันก็ผ่านมานานแล้ว มันไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน นานๆจะเกิดอาการขึ้นสักครั้ง บอกไม่ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ตอนไหน มันอยากจะมีอาการตอนไหนมันก็มี แล้วแต่มัน...
อาการที่ว่าคือเจ็บหลัง เหมือนมีอะไรบางอย่างมาทิ่มแทงเป็นแผลลึก และอาการแสบร้อนเหมือนโดนพริกแต่ความแสบร้อนของมันนั้นมากกว่าโดนพริกหลายร้อยเท่า
จากนั้นฉันก็จะกรีดร้องออกมาเหมือนคนบ้า ซึ่งฉันเคยพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกทรมานนี้ของตัวเองเอาไว้แล้ว แต่มันก็ไม่สามารถทำได้
ช่วงที่ฉันมีอาการ นอกจากจะทรมานที่ร่างกายแล้ว จิตใจของฉันมันทั้งเศร้า ทั้งเสียใจปนกลัวไปหมด ซึ่งเรื่องที่ฉันเล่ามาทั้งหมดนี้ ไม่มียากิน ไม่มีวิธีรักษา แต่มันจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก
ช่วงที่อาการกำเริบฉันจะเอาตัวเองลงไปแช่ในน้ำ ฉันชอบน้ำ ชอบอาบน้ำ ชอบเล่นน้ำ แต่ถ้าอยู่นอกบ้านฉันก็จะไปหาที่นั่งสงบๆอยู่คนเดียว ร้องไห้มันออกมาสักพักก็จะดีขึ้น
ฉันจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง จากนั้นอาการของฉันก็จะเริ่มดีขึ้น...แปลกใช่มั้ยล่ะ
ขนาดตัวฉันเองยังหาสาเหตุไม่ได้เลยว่าเป็นอะไร จะว่าเกิดจากทางจิตก็ไม่น่าจะใช่ เพราะชีวิตของฉันไม่ได้มีเรื่องอะไรไม่ดี และไม่เคยมีเรื่องไม่ดีมากระทบจิตใจเลยสักครั้ง
ชีวิตของฉันเกิดมามีความสุขมาก ซึ่งฉันคิดว่าฉันไม่ได้คิดไปเองแน่นอน แล้วก็ไม่มีผีที่ไหนมาสิงด้วย...ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไง ฉันมีเพื่อนค่ะ มันชื่อไอ้ฟ้า มันมีสัมผัสที่หก มันบอกว่าไม่มีผีที่ไหนทั้งนั้น...ฉันเชื่อมันค่ะ
ฉันมีพี่ชายหนึ่งคนชื่อขุนเขา ฉันเรียกเขาว่าพี่ขุน พี่ขุนเคยบอกว่า ถ้าเป็นคนอื่นลงไปแช่ในน้ำนานๆแบบนี้ คงไม่สบายไปแล้ว แต่สำหรับฉัน ร่างกายแข็งแรง เชื่อมั้ยว่าฉันไม่เคยป่วยเป็นไข้เป็นหวัดเหมือนกับคนทั่วๆไปเลย จะเป็นก็แต่ไอ้โรคประหลาดนี่แหละ ไม่รู้เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของฉัน
เรื่องนี้มีแค่คนในบ้านเท่านั้นที่รู้ แต่ทุกคนก็ไม่รู้จะช่วยฉันได้ยังไง พักหลังๆมาเวลาที่ฉันมีอาการ ฉันก็มักจะอยู่กับตัวเอง แล้วผ่านความทรมานนี้ไปคนเดียวให้ได้...มันอยู่กับฉันมาหลายปี ฉันรู้ว่าเดี๋ยวมันก็หายไป แล้วฉันก็รู้อีกว่าเดี๋ยวมันก็จะกลับมา...
"ก๊อกๆๆ"
"ใครคะ"
"พี่เองทำอะไรอยู่...เมื่อวานแม่บอกว่าเพลงไม่ได้ไปเรียน วันนี้จะไปหรือเปล่าพี่จะไปส่ง" เสียงพี่ขุนพี่ชายฉันเองค่ะ
"ไปค่ะ...เพลงแต่งตัวเสร็จพอดีเลย" ฉันเปิดประตูออกมาพูดกับพี่ขุน
"เป็นอีกแล้วใช่มั้ย เมื่อวานถึงไม่ไปเรียน" ถึงทุกคนจะไม่สามารถช่วยอะไรฉันในเรื่องนี้ได้ แต่ฉันโชคดีที่มีครอบครัวค่อยเป็นกำลังใจให้เสมอมา ทุกคนรักฉันเรื่องนี้ฉันรู้ดี แต่ฉันก็รักพวกเขามากเช่นกัน จึงไม่อยากเอาเรื่องไม่สบายใจไปเล่าให้ฟัง...ก็อย่างที่บอก เดี๋ยวมันก็หายไป
"อย่าไปพูดถึงมันเลย...สักวันมันจะต้องหายไปค่ะ" พูดถึงมันเดี๋ยวมันมา ทำเป็นลืมๆไปดีกว่า
"มีอะไรก็บอกพี่ได้ ถึงพี่จะช่วยไม่ได้แต่พี่สามารถอยู่เป็นเพื่อนเราได้" ไม่มีใครช่วยฉันได้ พี่ขุนเองก็รู้เรื่องนี้ดี
"ค่ะ" ฉันยิ้มหวานส่งไปให้พี่ขุน พี่ชายที่แสนดีของฉัน สิ่งที่ฉันเป็นทำให้ทุกคนในบ้าน คุณพ่อ คุณแม่ พี่ขุน ตามใจฉันสุดๆไปเลยค่ะ
@มหาวิทยาลัย
พี่ขุนขับรถมาส่งฉันที่มหาวิทยาลัย จากนั้นเขาก็เลยไปทำงานตามปกติ บ้านฉันมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยมีคุณพ่อเป็นคนบริหารงานอยู่ ส่วนพี่ขุนเป็นผู้ช่วยคุณพ่อ ฉันน้องเล็กของบ้านยังเรียนไม่จบ...
ฉันเดินเข้าไปด้านในตึกก็เจอกับเฟื่องฟ้า เพื่อนรักของฉันนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะไม้หินอ่อนตัวหนึ่ง ฉันยิ้มหวานแล้วส่งเสียงเรียกเพื่อนทันที
"ฟ้า..."
"อ้าว...เพลง" ฉันเดินเข้าไปหาเพื่อนแล้วนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวใกล้ๆ
"เมื่อวานแกหายไปไหนมา ทำไมถึงไม่มาเรียน" ฟ้าเป็นเพื่อนคนเดียวของฉัน ซึ่งมันก็รู้เรื่องที่ฉันเป็น เพราะฉะนั้นฉันไม่จำเป็นต้องปิดบังมัน
"โรคประหลาดฉันกำเริบน่ะ ฉันก็เลยไม่อยากมา...เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆพวกนี้จะหายไปสักที ไม่รู้เวรกรรมอะไรของฉัน" ฉันเป็นคนเพื่อนน้อย จะมีก็แต่เฟื่องฟ้านี่แหละที่มันเข้าใจฉัน ซึ่งฉันก็เผลอบ่นให้มันฟังซะยาวเชียว
"เฮ่อ...ฉันก็ไม่รู้ ฉันเองก็เบื่อเหมือนกัน เออ...ปีหน้าฉันขอคุณพ่อไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์แหละ อยากไปจากที่นี่สักพัก" ฉันกับฟ้ามีบางอย่างเข้ากันได้ดี เราเจอเรื่องแปลกๆเหมือนกัน
ไอ้ฟ้ามันสามารถมองเห็นวิญญาณได้ เห็นมันเล่าให้ฟังว่าถูกถ่ายทอดมาจากคุณแม่ของมัน เพื่อทำภารกิจอะไรสักอย่างอันนี้ฉันก็ไม่รู้
"แล้วฉันล่ะ แกก็รู้ว่าฉันเพื่อนน้อย" ถ้ามันไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ฉันคงเหงามากแน่ๆ
"ฉันเองก็มีแกเป็นเพื่อนคนเดียว...ไปด้วยกันมั้ยล่ะ ไปต่อโทที่โน่นด้วยกัน เรียนจบแล้วค่อยกลับ" ก็น่าสนใจดี!
"ต้องลองไปขอที่บ้านก่อน นิวซีแลนด์ใช่มั้ย" ที่นั่นอากาศดีมาก สิ่งแวดล้อมโดยรวมก็ดีมากเช่นกัน
"อือ...อากาศดีเหมาะแก่การไปพักผ่อนหรือแกว่าไง"
"ไม่ว่าอะไร...จะได้ไปบอกที่บ้านถูก" หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะอนุญาตให้ฉันไป แต่ที่ผ่านมาพวกท่านก็ตามใจฉันมาตลอด ครั้งนี้ไปไกลหน่อยหวังว่าพวกท่านจะอนุญาต
"ป่ะ...ได้เวลาเข้าเรียนแล้วไปกัน" จากนั้นฉันกับไอ้ฟ้าก็พากันไปเรียนตามปกติ...
ช่วงเย็นบนโต๊ะอาหาร นั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ฉันเอ่ยขอเรื่องที่จะไปเรียนต่อกับไอ้ฟ้าที่นิวซีแลนด์ ให้คุณพ่อ คุณแม่ และพี่ขุนฟัง สรุป...ทุกคนเห็นด้วยและยอมให้ฉันไปค่ะ
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!