“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
หลายปีก่อน
“คม … อย่าสิ” เสียงหวานสั่นร้องห้ามไม่ให้ชายหนุ่มซุกซน
“เบื่อลิ้นผมแล้วเหรอ”
“ใครจะเบื่อแต่ขอไปล้างก่อนไม่ได้เหรอ เสร็จไปตะกี้ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย” หญิงสาวต่อรอง
“ยิ่งแฉะยิ่งได้อารมณ์ไม่รู้เหรอ ดูสิอุ้ม รู้สึกไหมครับ” ชายหนุ่มไม่ได้ถามเปล่าๆ เขาตวัดลิ้นไปทั่วร่องน้ำฉ่ำ มันทั้งหอมทั้งหวานไม่มีสิ่งใดเทียบได้ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมทั้งนั้น
“คมจ๋า สะ … เสียว จัง” หญิงสาวบิดกายเร่าๆ ขาที่เคยหนีบไว้อ้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ
คมสันไม่ได้ช่ำชองแค่การใช้บั้นเอวแต่เรียวลิ้นก็สะเด็ดสะเด่าไม่แพ้กัน เขาชื่นชอบจะเรียกว่าหลงใหลการเสพสมก็ไม่ผิดนัก เขาชอบเห็นผู้หญิงถึงจุดสุดยอด ตอนพวกเธอควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะความเสียวซ่านมันเร้าใจสุดๆ
ใช้ลิ้นได้กับใช้ลิ้นเป็นไม่เหมือนกัน ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ ขอเปรียบด้วยการขับรถคนหนึ่งขับเป็นส่วนอีกคนขับเป็นเหมือนกันแต่รู้ทางลัดทางลับและรู้จักรถของตัวเองเป็นอย่างดี แน่นอนว่าคนหลังได้เปรียบกว่า เขาไปถึงจุดหมายได้หลายทาง วันไหนรีบก็ใช้ทางลัดอยากกินลมชมวิวก็ใช้ทางลับ ถ้าอยู่ๆ รถกระตุกสั่นเหมือนเจ้าเข้าก็ไม่ตกใจ
ซึ่งคมสันใช้ลิ้นเป็น เขาชอบปรนเปรอผู้หญิง การที่เธอได้ขึ้นสวรรค์ซ้ำๆ ในคืนเดียวกันหรือกลางวันก็ตามคือความสุขของการเสพสม สำหรับผู้ชายหนุ่มแน่น ร่างกายแข็งแรง ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปถึงจุดหมาย แค่เห็นผู้หญิงแก้ผ้าหรือใส่ชุดวับๆ แวมๆ ก็พร้อมทำกิจกรรม
การเล้าโลมพวกเธอ ทำรักด้วยปากและนิ้วจึงเป็นการยืดเวลาแห่งความสยิวให้ยาวนานขึ้น
การร่วมรักหรือเรียกให้ง่ายกว่านั้นคือเอากันไม่ได้มีแค่การสอดใส่กระแทกกระทั้นบั้นเด้าให้ถึงเป้าหมายมันทำได้มากมายหลายอย่างหลายทางสุดจินตนาการ
การกอดคลอเคล้าเคลียนับเป็นการอุ่นเครื่องที่ดี ชีวิตจริงไม่เหมือนหนังโป๊ที่เจอหน้ากันก็ใส่กันยับแล้วแตกใส่หน้าภายในห้านาที ทำแบบนั้นไม่ใช่เรื่องผิดแต่ทำบ่อยๆ จะต่างอะไรกับกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน น่าเบื่อจะตาย
“ใกล้แล้วจ้ะ อีกนิด อืม …” หญิงสาวกดหัวชายหนุ่มให้จมลึกกว่าเดิม เธออยากให้ใบหน้าของเขาแนบชิดกับส่วนอ่อนไหวให้มากที่สุด อยากให้เขาขยี้หน้ากับมัน ย่ำยีมันให้หนักขึ้นอีก
“อุ้มจ๋า สั่นริกๆ เลย เสียวมากใช่ไหม” คมสันมองความฉ่ำเยิ้มด้วยตาหวานเชื่อม น้ำใสๆ ไหลออกมาทีละนิดจากรูรักคือภาพที่เขาโปรดปราน เขาแตะลิ้นเบาๆ ไปที่ปุ่มกระสันแต่เธอกลับร้องลั่น
“คมเนี่ย ! จะไม่ให้อุ้มพักเลยเหรอ”
“ก็ของอุ้มน่าเลียน่าดูดทำไมล่ะ”
“ไม่จริงหรอก”
“ไม่เอาไม่คิดถึงเรื่องเก่าๆ อุ้มเหนื่อยแล้วใช่ไหม งั้นนอนเฉยๆ นะ คมทำต่อเอง”
ก่อนมาเจอคมสัน อรอุมาคบหากับผู้ชายคนหนึ่ง ทุกอย่างดูดีน่าจะไปกันได้แน่นอนแต่ก็มาตกม้าตายที่เรื่องบนเตียง เขาชอบจนถึงบังคับให้เธอทำรักด้วยปากทุกวัน เธอก็ไม่เคยบ่นหรือบ่ายเบี่ยงเพราะถือเป็นความสุขของคนรักแต่ในทางกลับกัน เขาไม่เคยใช้ปากให้เธอเลย ด้วยเหตุผลว่ารังเกียจเป็นของต่ำ
แรกๆ อรอุมาก็รับได้แต่พอเอาไปเล่าให้เพื่อนฟัง เธอถึงได้รู้ว่าพลาดประสบการณ์แสนสยิวไปอย่างน่าเสียดาย
เธอจึงยื่นคำขาดกับเขาว่า ถ้าไม่ยอมใช้ปากให้เธอก็เลิกกันไป ผลคือ เขาเก็บเสื้อผ้าออกไปทันทีซึ่งนับว่าดีมากๆ เพราะผู้ชายคนต่อมาของเธอคือคมสัน
เขาเปิดประสบการณ์ทางเพศให้เธอแบบหมดเปลือก พาท่องสวรรค์ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชั้น
เมื่อคบกันแล้ว ความจริงใจจะทำให้ทุกอย่างราบรื่นไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์แต่รวมถึงเรื่องทางเพศด้วย
ถ้าเรากล้าบอกความต้องการที่แท้จริงออกไปก็จะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น
กับแฟนคนก่อน อรอุมาไม่เคยกล้าบอกว่าการโดนขยำนมสุดแรงมันเจ็บแค่ไหน เธอกลัวเขาไม่พอใจจึงอดทนเจ็บนมเรื่อยมาแต่กับคมสันแค่ร้องด้วยเสียงผิดปกติ เขาจะรีบถามทันทีว่าเจ็บเหรอ ทำแรงไปใช่ไหม ทั้งที่ความจริงเธอแค่เสียวจนจะขาดใจก็เท่านั้นเอง
“ทำยังกับเมื่อกี้ อุ้มไม่นอนเฉยๆ เนอะ”
“ไม่เฉยนะ ดิ้นซะหมอนหล่นเลย”
“อืม … คมจ๋า” อรอุมาโอบแขนไปที่ลำตัวบึกบึน เขาขึ้นมาอยู่ข้างบนแล้ว เจ้ายักษ์ใหญ่ตาเดียวกำลังสอดเข้ามาช้าๆ ขนาดแฉะจนที่นอนเปียกก็ยังต้องสอดใส่อย่างระมัดระวังเพราะของใหญ่แบบนี้ กระแทกพรวดเดียวน้องหมีได้ฉีกแน่นอน
คมสันเกิดมาดีพร้อมเหมือนพระเจ้าจงใจปั้นเป็นพิเศษ เขาหน้าตาหล่อเหลาคมสันซึ่งบังเอิญมากที่ดันชื่อคมสันอีก สูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร
สูง ใหญ่ ล่ำ จึงเป็นคำเปรียบเปรยที่ไม่เกินจริง
ตัวสูง ของใหญ่ ร่างกายล่ำสัน
ของที่ว่ามาในขนาดถุงยางห้าสิบแปดและทีเด็ดก็คือมุกอีกห้าเม็ด แค่ดุ้นที่เหมือนไฟฉายก็สยิวจนต้องขมิบแล้วฝังมุกเพิ่มอีกสาวๆ ที่เจอกลืนน้ำลายทุกคน พวกเธอคิดว่าถ้าได้อมได้เลียหรือถ้าเจ้าดุ้นนี้เข้ามาในรูจะรู้สึกยังไง
การศึกษาก็พอไปวัดไปวาได้เพราะจบ ปวช. แม้ไม่สูงถึงระดับมหาวิทยาลัยแต่ก็มีอาชีพหาเลี้ยงตัวเองสบายแถมดูแลผู้หญิงได้ด้วย
คมสันกับอรอุมาคบหากันได้ห้าปีและกำลังวางแผนจะมีลูก ส่วนเรื่องแต่งงานข้ามไปได้เลยเพราะทั้งสองเห็นตรงกันว่าไม่จำเป็น พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้วไม่ต้องมีพิธีให้วุ่นวาย เก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้อย่างอื่นดีกว่า
“ชอบจัง เวลาได้ยินเสียงแจะๆ ตอนกระแทกเนี่ย” คมสันเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพื่อเพิ่มความสยิว
“โดนขนาดนี้ถ้าหมียังแห้งอยู่ก็บ้าแล้ว” อรอุมาว่าให้
วันนี้เป็นวันหยุด ทั้งสองจึงไม่ต้องเร่งรีบออกไปทำงาน พอตื่นก็นอนกลิ้งเล่นบนที่นอนแต่ไม่ใช่แค่คนที่ตื่นเจ้าดุ้นก็ตื่นด้วย
สายป่านนี้แล้วยังไม่ได้ลงจากเตียงเพราะมัวแต่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะ
“อยากแฉะกว่าเดิมไหมคนดี”
“อยากสิ แตกในเลยนะสุดหล่อ” อรอุมาขยำก้นแข็งปั๋ง เธอช่วยกำกับจังหวะให้แรงขึ้นแล้วไม่นานก็เกิดเสียงโหยหวนชวนขนลุก ถ้าใครได้ยินคงคิดว่าเกิดฆาตกรรมในห้องนี้แน่นอน
เมื่อวาดลีลาจนเตียงกระจุยก็ต้องหิวเป็นธรรมดา ทั้งสองเลือกไปกินนอกบ้านเพื่อความสะดวก อรอุมาไม่ชอบทำกับข้าว คมสันก็ไม่ปลื้มเท่าไหร่ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือไม่ต้องทำ
“แปลกจัง ทำไมวันนี้คนน้อย” อรอุมาแปลกใจตั้งแต่หาที่จอดรถได้ ปกติถ้าเป็นวันหยุดต้องวนอย่างต่ำสามรอบกว่าจะได้จอด วันนี้ขึ้นมาก็ได้เลย พอเดินเข้ามาในห้างยิ่งแปลกใจที่ผู้คนบางตา
“วันหยุดยาวไง คนออกต่างจังหวัดกันหมด”
“อ้อ ! จริงด้วย ลืมไปเลย”
“ลืมได้ไง กุ๊กกับแฟนก็ไปญี่ปุ่นเพราะวันหยุดไม่ใช่เหรอ” คมสันหมายถึงเพื่อนที่ทำงานของอรอุมา
“คนหิว จำอะไรไม่ได้หรอก ตกลงกินบุฟเฟ่ต์สายพานนะ” อรอุมาเริ่มตาลายเพราะหิวจนน่าจะกินวัวได้ทั้งตัว
ทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน แจ้งความต้องการสั้นๆ ตามที่พนักงานถาม เมื่อได้ที่นั่งก็ลงมือทันทีโดยไม่รีรอ
คมสันเป็นสายเนื้อ เขาหยิบเนื้อวัวกับเนื้อหมูมาอย่างละห้าจานแล้วเทโครมลงไปในหม้อชาบู จากนั้นก็หยิบผักและของกินเล่นอื่นๆ เช่น ลูกชิ้น วุ้นเส้น สาหร่าย
ส่วนอรอุมาเป็นสายข้าว เธอเดินไปที่บาร์อาหารแล้วคีบข้าวปั้นและของทอดอย่างละหนึ่งถาด เธอนำไปวางที่โต๊ะแล้วกลับมาตักข้าวหน้าแกงกะหรี่ รวมถึงเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ผักดอง น้ำจิ้ม
คมสันรองท้องด้วยเนื้อหนึ่งหม้อแล้วจึงลุกไปที่บาร์อาหารพอถึงเวลานั้นอรอุมาก็เริ่มหยิบของบนสายพาน
ทั้งสองมีวิธีการกินที่ตรงข้ามกันสุดๆ แต่ไม่เคยทะเลาะกัน ใครจะกินแบบไหนชอบยังไงก็เอาที่สะดวกถ้าเรื่องแค่นี้ยังจับมาเป็นประเด็นคงอยู่กันยากแน่นอน
ไม่ใช่ว่าคมสันไม่มีน้ำใจหยิบเผื่อคนรักแต่เธอเป็นคนบอกว่าไม่ต้องเพราะกว่าจะได้กินของก็เย็นชืด ตักเองหยิบเองเท่าที่กระเพาะรับไหวดีที่สุด ไม่ต้องมาโทษกันด้วยว่าตักเยอะไปจนสุดท้ายต้องโดนปรับเงินเพราะอาหารเหลือ
“เก่งมาก !” อรอุมาชื่นชมตัวเองที่กินทุกอย่างที่หยิบมาหมดเกลี้ยง
“อิ่มไหมครับ”
“หลักฐาน” อรอุมาลูบพุงกลมๆ ให้ดู
“น่าเอ็นดู มีแค่นี้ก็ยังจะโชว์”
อรอุมาเป็นสาวอวบหุ่นเนื้อนมไข่ หน้าท้องจึงไม่ได้แบนราบหรือมีขาเรียวยาวเหมือนนางแบบ เธอตัวนุ่มนิ่มมีแก้มน่าฟัดแต่คมสันไม่เคยพูดถึงรูปร่างให้ช้ำใจแม้แต่ครั้งเดียว
ผิดกับผู้ชายคนก่อนที่ว่าเช้าว่าเย็น บอกให้เข้าฟิตเนสบ้าง เลิกกินขนมบ้าง หนักสุดคือให้ไปดูดไขมัน จะได้สวยๆ เหมือนพริตตี้ตามงานมอเตอร์โชว์
ทั้งที่ตอนแรกเธอก็หุ่นแบบนี้หน้าตาอย่างนี้ พอได้กันกลับไม่พอใจ อยากมาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยเป็น
เรื่องหน้าท้องหรือพุงคือปมฝังใจที่สุด แฟนเก่าบอกว่าเธอเหมือนผู้หญิงท้องห้าเดือน
แต่แฟนคนปัจจุบันบอกว่า พุงของเธอน่ารักนุ่มนิ่ม ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย มันคือร่างกายของคนคือความปกติธรรมดาที่มนุษย์ทั่วไปมีกัน เธอหุ่นแบบนี้จะมีหน้าท้องบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
คมสันชอบหุ่นนุ่มนิ่มของอรอุมา มันถึงใจเต็มไม้เต็มมือจับตรงไหนก็เด้งดึ๋ง
“คิดอะไรอยู่” อรอุมาถามแล้วทำตาหรี่
“คิดถึงบางอย่างที่นุ่มนิ่ม มีหัวสีชมพู” คมสันกระซิบเบาๆ ที่หูอรอุมาแล้วแก้มของเธอก็เป็นสีชมพู
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ