เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
“ชล ชลได้ยินป้าหรือเปล่า”
เสียงที่ดังอยู่ด้านนอกทำให้ชลรัมภา หญิงสาวร่างโปร่งบางสมส่วน ผิวขาวซึ่งกำลังดูดฝุ่นในห้องนอนใหญ่รีบหยุดงานในมือ เดินไปเปิดประตูขานรับป้า
“ป้าผกามีอะไรคะ ไหนว่าจะไม่มา”
ผกากรอง หญิงวัยห้าสิบปีที่สูงราวนางแบบยังมีเค้าความสวยเดินมาใกล้หลานและจับตรงแขนเบาๆ
“ป้าไปธนาคารมา เสร็จก็รีบมาเลยเนี่ย ว่าแต่ใกล้เสร็จแล้วสินะ เรียบร้อยดีมาก”
ป้ามองรอบๆ ห้องกว้างซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูของลูกค้า ชลรัมภาพยักหน้า ปาดเหงื่อที่หน้าผากไปด้วย
“ใกล้แล้วป้า ว่าแต่ที่นี่หรูจังเลยค่ะ เป็นของชาวต่างชาติหรือคะ เหมือนจะไม่ค่อยได้มาอยู่”
ปกติบริษัทที่ป้ารับจ้างทำความสะอาดให้เป็นชาวต่างชาติ ครั้งนี้หญิงสาวจึงคิดเช่นนั้นอีก
นางผกากรองเดินไปช่วยหลานเก็บอุปกรณ์
“ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นเจ้าของ บริษัทส่งงานมาให้ ป้าก็แค่มาทำงาน ที่นี่เพิ่งมาสองครั้งเองจ๊ะ ไปๆ คงหิวแล้ว ช่วงนี้มีสอบด้วย ป้ากวนเราแล้วเด็กเตี้ย”
ชลรัมภาไปล้างมือ พูดแง่งอน
“ป้าผกาคะ ชลสูง 159 เซนฯ แล้วนะ นับว่าไม่เตี้ย ถ้าใส่ส้นสูงก็สูงอีก ใครจะหุ่นนางแบบเหมือนป้าล่ะ สูง170 กว่า”
“แหมแค่หยอกจ้า ไม่ต้องสูงมากก็สวยดี ผู้ชายบางคนก็ไม่ได้ชอบคนตัวสูงมากนี่น่า ขายออกแน่ๆ เราน่ะ ไปๆ อย่าพูดมากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ นานแล้วไม่ได้มาช่วยป้า และต่อไปเมื่อเรียนจบ ได้ทำงานดีๆ เงินเดือนเยอะๆ ชลจะให้ป้าเกษียณเสียที เหนื่อยมามากเพราะหลานคนนี้”
ป้ายิ้มภูมิใจ กวักมือให้ออกไปข้างนอก ชลรัมภาหยิบกระเป๋าใบเล็ก เดินตามหลังป้า
เมื่อเปิดประตูห้อง ป้าถอยห่างประตู ซ้ำดึงแขนเธอ ชลรัมภาซึ่งก้มหน้าหยิบหวีเพื่อหวีผมที่ค่อนข้างยุ่งถอยตามแรงป้า ไม่ได้มองว่าป้าหลบใคร จนกระทั่งได้ยินเสียงคุ้นหู ชลรัมภาจึงแหงนหน้าขึ้น ก่อนจะยืนอึ้งอยู่ข้างหลังป้า
ขณะนั้นเธอไม่ได้รับฟังว่าป้าพูดอะไรกับหญิงสาวสวยตรงหน้าป้า สายตาเธอจ้องชายหนุ่มที่คุยมือถือไม่สนใจใครตาไม่กระพริบ กระทั่งป้าดึงแขน เธอจึงพาขาชาๆ ตามป้าไป
“ไปๆ ชล เจ้าของห้องมาแล้ว นี่ยืนเหม่ออะไรหรือเรา”
ชลรัมภายังเหลียวหลังมองคนที่ยังสนใจคุยมือถือ ก่อนที่เขาจะโดนดึงเข้าห้องโดยสาวสวยที่ยืนข้างๆ วินาทีนั้นชลรัมภารู้สึกตัว เธอขยับปากเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ
“ผู้หญิงคนนั้น เขา เขามากับใคร”
“นั่นคงเป็นเจ้าของห้อง หมายถึงผู้ชายน่ะ ส่วนผู้หญิงเธอบอกเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกน่ะ ที่นี่ก็รู้แล้วใช่ไหม ที่แท้เป็นคอนโดฯ หรู ของคู่รักน่ะ แต่ต่อไปป้าคงต้องมาบ่อยๆ เพราะผู้หญิงคนนั้นบอกว่า จะกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ไปเมืองนอกแล้ว”
ชลรัมภาบีบมือทั้งสองของตนสุดแรง พิงผนังลิฟต์ หรุบสายตาลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น
คนนี้เหรอคือคนที่คุณหมอดลทัชรอคอย และทำให้เขาไม่สนใจเธอทั้งที่เธอดูแล ปรนนิบัติเขาอย่างเต็มที่ ตลอดเวลาที่กลายเป็นคนของเขา
คนของเขา บางทีเธอโมเมคำนี้ขึ้นมาเอง เขาไม่เคยคิดอะไรแบบนี้สักหน่อย คิดแล้วก็ปวดแปลบที่ใจ เมื่อมาเห็นคาตา เจอความจริง ว่าที่แท้ตนไม่มีค่าเลยสำหรับผู้ชายที่รัก
คงหมดเวลาหลอกตนเอง
เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก หญิงสาววัยยี่สิบสองปีก้มมองตนเอง และอดเปรียบเทียบตนกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้
ต่างกับทุกอย่าง ราวฟ้ากับเหว ต่อไปเธอคงต้องทำใจอย่างที่เคยคิดไว้สินะ
พลันอยากร้องไห้โฮ เพราะตลอดเวลาที่เธอดูแลดลทัช เธอทำไปเพราะความรัก แม้เขามองว่าเธอทำเพราะเงิน เธอไม่เคยสนใจคัดค้าน หวังให้เขารู้เองในสักวัน ว่าทำไปเพราะรัก เสน่หา…
ทว่าต่อจากนี้ เธอคงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์คำนั้นกับเขาแล้ว
คนสำคัญในใจกลับมา มีตัวตนอย่างที่เคยได้ยินเพื่อนพูด เธอควรยอมรับความจริง เลิกหลอกตนเองซะที
“หน้าซีดจังเป็นอะไรชล”
ป้าเอ่ยถามขณะที่ใจว้าวุ่น ชลรัมภากระพริบไล่น้ำตาและฝืนยิ้มให้ป้า
“หิว ไปค่ะไปหารถกัน จะได้กลับบ้านไปทำกับข้าวอร่อยๆ ”
“ป้าเตรียมไว้ให้แล้วล่ะ เด็กดี ขยันก็ต้องดูแลหน่อย ดูสิช่วงนี้อ่านหนังสือเยอะผอมไปนะเรา ติวบ้านเพื่อนน่ะเพลาๆ บ้างนะ ไหนต้องออกไปทำงานช่วงวันหยุดอีก ผอมลงจริงๆ”
ป้าจับมือไปโบกรถไป ปากก็ชมเธอทั้งสั่งสอนอย่างที่ทำเสมอ คราวนี้หญิงสาวยิ้มแห้งแล้ง
ติวบ้านเพื่อน ทำงาน ถ้าป้ารู้เรื่องงานที่ทำคงเสียใจมาก แต่ต่อไปทุกอย่างที่เธอทำมาเกือบปีคงไม่เกิดขึ้นแล้ว
คนของเขามาเธอต้องไป แบบนี้ความลับก็ให้เป็นความลับตลอดไป แม้เสียใจ เธอก็พร้อมรับไว้คนเดียว ในเมื่อวันนั้นตัดสินใจเรื่องนี้เอง
ติดๆๆ
“ใครโทรมา”
“ดวงแขค่ะ”
เธอบอกป้าก่อนรับสายเพื่อนสนิท และต้องอึ้งไปเมื่อฝ่ายนั้นเอ่ยเรื่องที่กำลังทำให้เธอสับสนหัวใจ
“นี่แก แฟนพี่ชายฉันมาแหละ หลังสอบเสร็จเราได้ไปเที่ยวแน่ๆ เพราะพี่เขาต้องพาแฟนไปเที่ยว ฉันเองไม่ยอมให้พี่ขังไว้ในกรงหรอก ต้องไปบ้าง แกเตรียมตัวนะ ฉันโทรมาบอกก่อน เพื่อให้เตรียมตัว”
ดวงแขอยากไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนมานาน ดังนั้นแม้ไม่อยากไปชลรัมภาก็ไม่ปฏิเสธไปในทันที เธอเอ่ยกับเพื่อนเสียงเบา
“ถ้าไม่ช่วยป้าจะไปนะ”
“แกก็แบบนี้ทุกที แต่อย่าหวังจะขัดใจฉันได้ คราวนี้เราเรียนจบก็ควรไปฉลองสิก่อนจะแยกย้ายกัน”
เพื่อนตัดสายไป ชลรัมภาหลับตาลง ซุกศีรษะที่ซอกรถ คิดถึงพี่ชายของเพื่อนด้วยใจที่สับสน…
คุณหมอดลทัช จะไปเที่ยวเหรอคะ ดีจัง อยากเป็นคนนั้นที่คุณใส่ใจ ยอมทิ้งงานทิ้งการไป แต่เรื่องของเราไม่มีวันเป็นไปได้ ดังนั้นขอเวลาหน่อยนะคะ อย่าเร่งรัดกันเลย ได้โปรด
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
จังหวะนั้นประตูเปิดออกสุดแรง พูดหันมองก่อนจะหดมือ ทำตัวเล็กลีบ “เป็น เป็นลมไปเรียบร้อยครับ” วงศกรไม่ถามอะไร จับชีพจรที่ข้อมือ จับแก้มแดงแจ๋ “ทำไมหน้าแดงขนาดนี้” อายหมอมั้งครับ “เอ่อ โดดแดดครับ” “ก็ไอ้พูดไม่มีหมวก ไม่มีเสื้อให้เลย พาไปสอนเก็บองุ่นทั้งที่แดดเปรี้ยงครับคุณหมอ” วงศกรหันมองพูด “ผมไม่รู้ว่าคุณเค้ากระหม่อมบาง อีกอย่างคุณบอกโอเค” “ออกไปก่อน” สองพ่อลูกลุกขึ้นพร้อมกัน วงศกรหาผ้าเย็นมาเช็ดใบหน้า ลำคอที่เปลี่ยนสีชัดเจน โง่ที่สุด หรือไม่ก็เรียกร้องความสนใจ “โอ้ย!” วงศกรมองมือที่หยาบกร้านซึ่งจับหน้าท้อง หมอหนุ่มเริ่มการตรวจทันที ขณะนั้นคนป่วยรู้สึกตัว เธอถอยห่างร่างใหญ่ที่นั่งใกล้ๆ พลางลำดับเหตุการณ์
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."