ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก
Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก

Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก

5.0
14 บท
1 ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

Bitter & Sweet +++++++++++++++++++++ จากวันวานที่เคยปฏิเสธความรัก วันนี้ลลินทร์อยู่ในสภาพ...แห้ง ขาดรัก ก็ว่าจะไม่สนใจความรักแล้วเชียว แต่นักเขียนนิยายรักหนุ่มกลับมาป่วนให้ใจสะดุด งานนี้คนเกลียดนิยายรักอย่างเธอ...จะทำยังไงดีล่ะ +++++++++++++++++++++ “คุณนี่ไม่โรแมนติกเลย ไม่รู้จักกระทั่งรสหวานหรือขมของความรัก นิยายรักน่ะมีพื้นฐานมาจากเรื่องพวกนี้แหละ” เขาต่อว่ากันซึ่ง ๆ หน้า “คุณเคยรักใครบ้างไหมครับ รักมากจนเจ็บเมื่อเขาทรยศ จากกันเป็นสิบปี คิดว่าจะลืมเขาเสียแล้ว แต่แค่เจอหน้า ความรู้สึกเจ็บก็แล่นแปล๊บเข้าในอก” สาบานได้ว่าลลินทร์ได้ยินคำพูดนี้จากปากคน ไม่ใช่ตัวอักษรบนกระดาษ เขาช่างสมกับเป็นนักเขียนขายดีเสียจริงขนาด แค่พูดยังเป็นสำนวนสละสลวยถึงเพียงนี้ ดวงตาคมกริบมองเธอเรียบนิ่ง “ความรู้สึกทั้งโมโหที่เธอไม่สนใจ ทั้งเกลียดตัวเองที่ยังมองตามเธออยู่ได้ รู้สึกขมขื่นใจเมื่อคิดถึง” ชายหนุ่มกดปุ่มปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วพับหน้าจอลงเสีย วางมันไว้ใกล้ไอแพ็ด “บอกผมหน่อยสิคุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยมานั้นแปร่งปร่า จนสองสาวรู้สึกได้ “ตอบสิครับ คุณคนไม่โรแมนติก” สามครั้งภายในวันเดียวที่โดนเขาว่าเช่นนี้ โรแมนติกหรือไม่ ...อย่างไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย จะมาจี้ถามเอาอะไรจากเธอ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุกและบุญรักษาค่ะ จโกระ

บทที่ 1 บทนำ

ลลินทร์เกลียดนิยายรัก! ประเภทบทบรรยายที่ว่า นางเอกร่างบาง พระเอกอกแกร่ง แก้มนวล ริมฝีปากหวาน ดวงตาคมกล้า

ซึ่งในชีวิตจริงหาคนลักษณะนี้แทบไม่ได้ หากจะมี เขาคงตกเป็นของคนอื่น ไม่มาเดินถนนให้คนแถวนี้เก็บได้หรอก

“นิยายรักคือของหวาน เป็นยาชูกำลังใจให้ผู้คน ใครๆ ก็ชอบรสหวานจริงไหมคะ”

น้าสาวเธอ ...สาวใหญ่วัยสี่สิบหน้าแฉล้ม บก.สำนักพิมพ์นิยายรักขายดีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย กำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหนังสือบันเทิงรายหนึ่ง

“แล้วคิดยังไงคะ ที่มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราบอกว่า นิยายพวกนี้เน้นแต่ฉากเซ็กซ์ ไม่ต่างจากหนังสือโป๊ปกขาว”

คนสัมภาษณ์ยิงคำถามตรงประเด็น เล่นเอาลลินทร์ที่เอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟแอบยิ้มเพราะเห็นด้วย

“ตายจริง ยุคน้องยังทันหนังสือปกขาวด้วยเหรอคะเนี่ย” น้ายิ้มละไม ผิกับวาจาที่เอ่ยออกไปแบบจิกเล็กๆ

“เรื่องนี้มันมองได้หลายมุมค่ะ เหมือนกับเรื่องกากีนั่นแหละ”

คนพูดเว้นจังหวะสักครู่เพื่อดูปฏิกิริยาคนฟัง เมื่อเห็นแต่อาการนิ่วหน้าสงสัย จึงเริ่มร่ายต่อ

“เรื่องกากีเป็นวรรณคดีที่ได้รับการยกย่อง เป็นสมบัติของชาติ ถ้าถอดเนื้อความออกจริงๆ แล้วล่ะก็มันก็แค่เรื่องของหญิงชั่วกับชายชู้”

“แต่ภาษาเรื่องนี้สวยเป็นบทกลอนกวีนะคะ”นักข่าวค้าน เพราะนึกตงิดในใจกับตรรกะแปลก ๆ ของคนถูกสัมภาษณ์

“แหม...แต่คุณน้องคะ ประเด็นน่ะมันก็แบบเดียวกันนั่นแหละ เพียงแต่เปลี่ยนจากร้อยกรองเป็นร้อยแก้ว ถ้านักเขียนของพี่บรรยายเป็น

‘บันดาลพลาหกเทวบุตร

ก็ผึ่งผุดตั้งทั่วทิศาศาล

โพยมพยับอับอึงอนธการ

สะท้านถึงเมรุราชสีขรินทร์

สัตภัณฑ์บรรพตก็ไหวหวั่น

คงคาลั่นเป็นระลอกกระฉอกสินธุ์

ฝูงมหามัจฉาในวาริน

ก็โดดดิ้นเล่นน้ำลำพองกาย”

คนฟังอ้าปากค้างเพราะไม่เคยเจอบก.ที่ไหนท่องเป็นกลอนแบบนี้ ขณะที่ลลินทร์นึกในใจว่าน่าจะตบด้วยเสียงระนาด ...เตร่งเตร๊ง จะได้ครบสูตร

“ถ้านักเขียน เขียนอย่างนี้ คนอ่านคงจะคว้างหนังสือพี่ลงกับพื้นแน่ ๆ”

ว่าแล้วน้าสาวก็ค้อนประหลับประเหลือก

“น้องต้องเข้าใจนะคะ ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร พี่ให้นักเขียนสำนักพิมพ์พี่เขียนบรรยายอย่างงดงามสละสลวย”

“แต่ว่า...”

ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคน้าบก.ของเธอก็ใส่ต่อ

“มันเป็นนิยายรักนะคะ แต่วางใจได้เลยค่ะพระเอกกับนางเอกของสำนักพิมพ์พี่สุดท้ายก็แต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมายทุกคู่ อาจจะมีการฉุด ข่มขู่บ้างเล็กน้อย ขโมยจูบนี่ซีนบังคับ แต่ไม่มีการข่มขืนหยาบคายกับนางเอกค่ะ”

ลลินทร์เปิดประตูออกไปนอกห้องสัมภาษณ์ ใจนึกสงสารนักข่าวคนนี้ว่าคงจะโดนกล่อมให้เข้าลัทธิคลั่งนิยายรักในไม่ช้า น้าเธอเก่งเชียวล่ะในเรื่องสาธยายคุณความดีของพระเอกนิยายที่ไม่มีอยู่ในชีวิตจริง

“พี่ๆ มาดูนี่เร็ว”

เด็กฝึกงานในชุดนักศึกษากวักมือเรียกหยอย ๆ ชวนมาอ่านบล็อกนิยายในอินเตอร์เน็ต

“นี่ ๆ เรื่องนี้พระเอกไซซ์ XXL”

“อะไรไซซ์กางเกงในเหรอ”

ลลินทร์เดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเด็กรุ่นน้อง

“ไม่ใช่พี่ ไอ้ที่ใส่ในกางเกงต่างหาก”

คนคลิกเม้าท์อยู่หัวเราะคิกคัก

“ทะลึ่งแล้วแก เป็นเด็กเป็นเล็ก อ่านนิยายแบบนี้เดี๋ยวก็ใจแตก”

เด็กหลบศีรษะวูบเมื่อเธอยกมือแกล้งจะเขกกะโหลก

“โธ่เอ๊ยพี่ ! พวกหนูยี่สิบกว่าแล้ว รุ่นนี้ใจไม่แตกแล้ว มีแต่จะไปทำผู้ชายให้ตบะแตกแทน”

เสียงหัวเราะลูกคู่รับกันเกรียวกราวเลยทีนี้

“เออพี่ อย่าลืมเอาไฟล์ต้นฉบับที่ส่งมาพิจารณาไปอ่านด้วยล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องมาแชร์กันว่าเรื่องไหนน่าสนใจ”

หนึ่งในกลุ่มเด็กฝึกงานบอกขณะที่เธอหยิบกุญแจรถจากโต๊ะทำงาน อันเป็นสัญญาณว่าจะกลับบ้านแล้ว

“แกอ่านไปเหอะ ถ้าชอบเรื่องไหนก็มาบอกฉันละกัน ขืนฉันอ่านเองล่ะก็ไม่ไหวว่ะ พาลจะตาลายเวียนหัว มันเลี่ยน”

ไม่ได้ดัดจริตหรือโกหกสักคำนะนั่นที่พูดออกไป นี่ถ้าไม่อยู่ในช่วงหางาน เพราะใบสมัครที่หว่านไปแถวโรงงานมาบตาพุดเป็นหมันด้วยข่าวสารพิษรั่ว จ้างให้วิศวกรสุดห้าวอย่างลลินทร์ก็ไม่มาเป็นกองบก.ในสำนักพิมพ์นิยายของน้าหรอก

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY