เมียใครที่ว่าร้าย ที่ว่าแน่ คงแพ้เมียพายัพแน่นอน เพราะหล่อนไม่ร้าย แต่หมัดและเท้าหนักมาก แต่ถึงกระนั้น ก็แพ้พายัพอยู่ดี จริงเหรอ... ............... "ฉันสัญญาค่ะว่า จะไม่ยุ่งทำแบบนั้นอีกแล้ว และขอโทษคุณด้วยค่ะ" หล่อนทำตาม "ยกมือไหว้ด้วย แล้วขอโทษใหม่" อังศุมาลีเริ่มหน้าตึง รู้ทันทีว่า เขาแกล้งตน แต่ถึงกระนั้นหล่อนไม่มีทางเลือก ทำตามคำสั่ง "ไหว้สวยๆ ด้วยนะ ถ้าไม่สวย ไม่ถูกใจ ไม่ให้ภาพนี้แน่ๆ" อังศุมาลียิ้มหวานมาก หวานเสียจนคนมองเห็นใจสั่นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ส่งให้ดวงหน้าหล่อนมีความงดงาม ชวนมองมาก พายัพรีบยับยั้งความรู้สึกไหลลื่นให้อยู่กับที่ มองดูอังศุมาลียกมือไหว้ กล่าวคำขอโทษ "คราวนี้คืนรูปแม่ฉันได้หรือยังคะ" "ก็เดินมาเอาสิ" พายัพสะบัดรูปไปมา อังศุมาลีก้าวเดินไปหาร่างหนา แขนหล่อนยื่นออกไป หมายจับรูปในมือเขา ทว่าพายัพกลับชักมือหนี นำมือไขว้หลัง "นี่คุณจะผิดสัญญาเหรอ" อังศุมาลีถามเสียงขุ่น "ผิดสัญญาตรงไหนมิทราบ ฉันก็บอกอยู่นี่ว่า เดินมาเอาสิ แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้ดีๆ นี่นา" พายัพเอาคืนอังศุมาลี ที่ทำกับตนไว้เจ็บแสบ ให้แค่ไหว้กับขอโทษมันดูน้อยไป ให้ร้อนหัวใจเล่นๆ ร่วมด้วย คงสนุกพิลึก "ถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามหยิบเอง" ด้วยความโมโห อังศุมาลีก้าวเท้าไปหาร่างหนาใกล้กว่าเดิม ทุบอกเขาเต็มแรง จนคนถูกทำร้ายถึงกับเจ็บ ตกใจไม่คิดว่าหล่อนทำเช่นนี้ ยิ่งตกใจมากขึ้นกับการกระทำต่อมา ที่พายัพไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน "โอ๊ย!" อังศุมาลีเหนี่ยวคอแข็งแรง ขยับตัวเข้าใกล้เขาอีกหน่อย เข่าสาวกระแทกเหมาะเหม็งตรงกล่องดวงใจพายัพ ที่ร้องโอดครวญจากความจุกเจ็บ ตัวงอ หน้าแดง รูปภาพในมือล่วงหล่นสู่พื้น อังศุมาลีรีบไปหยิบรูปภาพแสนรักทันที "ฉันไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคุณเมื่อกี้นะ ที่ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องคุณน่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำไปจนกว่าเราหย่ากัน ฉันหมายถึงแค่วันนี้วันเดียว ให้คุณพักหายใจหายคอ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ อ้อ...ขอบคุณนะสำหรับรูปแม่ของฉัน" อังศุมาลีบอกคนจุกแน่นไปทั้งตัว หัวใจเดือดดาลมาก แต่ทำอะไรหล่อนไม่ได้มากไปกว่า เก็บความแค้นไว้ ถูกทำร้ายตรงจุดนี้ เรี่ยวแรงพายัพไม่หลงเหลือ แค่ขยับตัวยังยาก เข่าอังศุมาลีหนักมาก พุ่งใส่เต็มแรง เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนเล่นงานเขาเช่นหล่อนมาก่อน คอยดูเถอะ พายัพเอาคืนเป็นสองเท่าแน่ "ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยตัวแสบ อูยย์"
1
วันนี้เป็นวันวิปโยคของเขาก็ว่าได้ ตอนเช้าแต่งงานกับอีกคน พอตอนเย็นในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส กลับมีเจ้าสาวคนใหม่ หรือใช้คำว่า เจ้าสาวตัวแทนน่าจะเหมาะกว่า
อยากหัวเราะ...แต่หัวเราะไม่ออก
คนอย่างพายัพ เวชาอนุพงษ์ ผู้เพียบพร้อมในทุกด้าน ประสบความสำเร็จมากในเรื่องงาน แต่เรื่องความรักกลับสวนทางกัน ผู้หญิงที่คิดว่าเป็นรักแท้ เป็นภรรยาและแม่ของลูกในอนาคต จากตนไปอย่างไม่มีวันกลับ จากไปโดยไม่มีคำล่ำลา ไม่มีช่วงเวลาๆ ดีดีให้แก่กัน นำพาความทุกข์ ความโศกเศร้าในจิตใจพายัพมากนัก
จนถึงทุกวันนี้ หนึ่งปีสามเดือนยี่สิบวัน พายัพยังไม่เลิกใช้เหล้าย้อมใจ เขาคิดว่ามันคือที่พึ่งชั้นดี ตัวช่วยลืมความเจ็บปวด จากการสูญเสียได้ เมื่อทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล ไม่เป็นผู้เป็นคน ยังดึงตัวเองออกจากหลุมดำไม่ได้ คนในครอบครัวจึงต้องหาทางออก ด้วยการหาเมียให้เขา
เมียที่พายัพไม่ต้องการ...
ครั้นจะไม่เข้าประตูวิวาห์กับสตรีที่ไม่ปรารถนาก็ไม่ได้ เป็นเพราะญาติผู้ใหญ่ของเขา คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และคุณพ่อคุณแม่ มากันครบทุกองค์ประชุม ชักแม่น้ำร้อยสายมาอ้าง สุดท้ายก็จำยอม
พายัพแทบไม่มีส่วนร่วมเรื่องวันวิวาห์ จะจัดที่ไหน อย่างไร เขาไม่รับรู้ เจ้าสาวหน้าตาเป็นเช่นไร ชื่ออะไร ไม่สนใจ วันไหนที่หล่อนมาบ้าน เขาไม่อยู่ดูหน้า ไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ นอนค้างคอนโดจิรายุภัทร์ ซึ่งไม่มีใครค้านหรือบังคับพายัพมากไปกว่านี้ เกรงว่าพายัพจะไม่ยอมเข้าประตูวิวาห์กับเจ้าสาวที่หาไว้ให้
เมื่อถึงวันแต่งงาน พายัพได้พบหน้าเจ้าสาวเป็นครั้งแรก หล่อนน่ารัก แต่ไม่ทำให้หัวใจพายัพสั่นไหว อาจเป็นเพราะพายัพดื่มเหล้าย้อมใจหนักมาก หนักชนิดที่ว่า ลุกไม่ขึ้น จนต้องไปปลุกด้วยการสาดน้ำเย็นบนใบหน้า ให้ผู้ชายในบ้านช่วยกันหิ้วปีกพายัพไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเจ้าบ่าว
งานตอนเช้าแทบล่ม เพราะเจ้าบ่าวยังไม่หายแฮงค์ นั่งไม่ตรง ยืนก็ไม่ได้ โอนไปเอนมา มิหนำซ้ำยังฟุบหน้าหลับระหว่างพิธีรดน้ำสังข์ เจ้าสาวภาวนาให้เจ้าบ่าวทำให้งานล่ม เพื่องานจะได้เดินต่อไม่ได้ ผลตรงกันข้าม แม้เจ้าบ่าวไม่อยู่ในสภาพไม่เป็นผู้เป็นคน มานะชัยกับคุณหญิงพัชรีให้แขกที่มาร่วมงาน ที่มีแต่ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย รดน้ำอวยพรเจ้าสาวเจ้าบ่าวต่อไป ละเว้นเรื่องการจดทะเบียนสมรส อยู่ช่วงต่อจากนี้ ต้องยกเลิกเพราะเจ้าบ่าวหลับ ช่วยกันหิ้วปีกขึ้นไปนอนบนห้อง
“คุณย่ายังไม่เลิกล้มความตั้งใจ ให้ผมจดทะเบียนสมรสอีกหรือครับ ผมคิดว่าจะจบไปตั้งแต่ผมเมาหลับซะอีก” พายัพพูดกับคนเป็นย่า เมื่อพัชรีนำเอกสารมาให้ตนเซ็นในห้อง ก่อนเริ่มพิธีฉลองมงคลสมรสในตอนเย็น ซึ่งเหลือเวลาอีกสองชั่วโมง “แล้วมันจำเป็นมากหรือครับ ไอ้ทะเบียนสมรสเนี่ย ผมว่า แค่ผมยอมแต่งงานก็น่าจะพอแล้วนะครับ”
เมื่อสร่างเมาด้วยน้ำเย็นจัด พายัพก็อยากเมาต่อ เพื่อให้หลับยาวยันเช้า งานตอนเย็นจะได้ล่ม เพราะเอกสารตรงหน้า ทำให้อารมณ์เขาแปรปรวน อยากฉีกมันทิ้งเหลือเกิน
“สำหรับแกอาจไม่จำเป็น แต่สำหรับฉัน จำเป็นมาก เซ็นซะ ถ้าไม่เซ็นฉันจะยกมรดกในส่วนของแกให้เมียแกทั้งหมด”
พายัพมองหน้าพัชรี เขาไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก ที่เอะอะก็จะยกสมบัติให้เจ้าสาว ที่เขาจำได้แต่หน้า ทว่าชื่อกลับจำไม่ได้ เท่ากับว่า พายัพถูกบีบบังคับจากญาติอันเคารพรัก เขาไม่สนใจสมบัติเหล่านี้ก็ได้ เพราะในส่วนของตนก็มีอยู่มาก ใช่แบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ยังมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต ทว่าที่ยอมเนื่องจาก ไม่อยากให้ใครมาชุบมือเปิบง่ายๆ อีกทั้งยังคิดว่า จดได้ก็หย่าได้ เขาจะทำทุกวิถีทางให้เจ้าสาว อยู่กับตนไม่ได้
“ก็แค่นี้แหละ” พัชรียิ้มพอใจ เมื่อเห็นหลานชายเซ็นชื่อลงไปในเอกสารสำคัญ “แล้วก็กรุณาอย่าเมาหัวราน้ำอีกนะ ฉันเสียเงินไปเยอะในงานเย็นนี้ แต่เสียเงินไม่ว่า ฉันไม่อยากเสียหน้ามากกว่า เชิญแขกมาเป็นร้อยเลย”
“คุณย่ากลัวผมเมา แล้วจัดงานตอนเย็นทำไมครับ แค่งานตอนเช้ากับทะเบียนสมรสก็น่าจะพอ จัดงานใหญ่งานโตให้สิ้นเปลืองทำไมก็ไม่รู้” คนเป็นหลานบ่น
“เพราะฉันอยากทำ มีอะไรไหม” พัชรีกวนกลับหลานชาย “ถ้าเห็นว่าฉันเป็นย่า ก็อย่าดื่ม งานจบแกจะดื่มหนัก ดื่มเหมือนหมายังไง ฉันจะไม่ว่าแกเลย เข้าใจไหม” คำตอบของพายัพคือความเงียบ “ฉันถามว่า แกเข้าใจที่ฉันสั่งไหม ก็ตอบมาสิ”
อารมณ์คนถามเริ่มไม่ดีบ้าง พายัพมองหน้าหญิงสูงวัย พรางถอนหายใจ
“ผมจะพยายามครับ” เขาตอบกึ่งรับกึ่งสู้
“พยายามให้มันมากๆ ด้วย ไม่อย่างนั้น เห็นดีกันแน่” พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง พายัพลุกเดินไปยังตู้เย็นภายในห้อง หยิบเบียร์ออกมาหนึ่งกระป๋อง เปิดมันออกแล้วดื่มทีเดียวหมดกระป๋อง
มาถึงงานช่วงเย็น พายัพที่สติครบถ้วน เบียร์แค่กระป๋องเดียว ทำอะไรเขาไม่ได้ ถึงกับอึ้งเมื่อเจ้าสาวถูกเปลี่ยนตัว เป็นอีกคน ที่สำคัญชื่อจริงของหล่อน คล้ายชื่อคนรักเก่าของเขามาก
อังศุมาลินหรือหลิน คือชื่อคนรักที่จากโลกนี้ไป
อังศุมาลีหรือมาลี คือชื่อของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
พายัพถึงกับนิ่งงัน มองหน้าเจ้าสาวที่ความสวยเข้าขั้นเทพ สวยแบบร้องตะโกน ตะโกนออกมาดังๆ ด้วย หล่อนสวยกว่าเจ้าสาวช่วงเช้าของตนเสียอีก ความที่ไม่ปรารถนาแต่งงาน เจ้าสาวก็ไม่ใช่คนที่เขารัก พายัพมองหล่อนในแง่ร้ายว่า ความสวยเกิดจากการทำศัลยกรรม ไม่ใช่สวยตามธรรมชาติเหมือนอังศุมาลิน ไหนจะเครื่องสำอางที่แต่งแต้มอีก พอล้างหน้ามา คงจะคนละภาพจำแน่นอน
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่