เพียงแค่เห็นหน้า สัญชาตญาณนักล่าก็ถูกกระตุ้น แต่เพราะกลัวว่าเจ้าลูกแกะตัวน้อยจะตกใจและหนีหาย เมคินจึงต้องใช้วิธีอ้อมๆ ต้อนเจ้าแกะน้อยให้เข้ามาใกล้ หลอกให้ตายใจก่อนลงมือขย้ำ
**นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ชื่อ สกุล สถานที่ ตัวละคร เป็นเพียงเรื่องสมมุติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงของใครทั้งสิ้น
**นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ความรุนแรงไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
**นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ สแกนหนังสือหรือกระบวนการอิเล็กทรอนิกซ์ใดๆ ของเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของนิยาย (หากพบเห็นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย)
ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง
เซฟโซน
“คนที่เท่าไหร่แล้ว”
“ไม่รู้ครับผมไม่นับ” เขาตอบหน้าตาเฉย
เมคินลูกชายคนเล็กของคุณเมฆาเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย เขาเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นเพราะตั้งแต่เรียนจบจากอเมริกาก็เข้ามาช่วยบิดาบริหารงานจนถึงตอนนี้ก็เกือบ 5 ปีแล้ว ที่ชายหนุ่มโลดแล่นอยู่บนถนนสายธุรกิจ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาชายหนุ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัทต่างๆ ที่ผุดกันขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด แต่เพราะเขาพยายามทุ่มเทอย่างหนัก เขาจึงใช้งานเลขาแต่ละคนหนักตามไปด้วย เลขาส่วนใหญ่จึงทนไม่ไหวและพากันลาออกไปหลายคนแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาสมัครเป็นเลขาขอของเขาอยู่เรื่อย ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นผู้หญิงสวยๆ ที่อยากพาตัวเองเข้ามาใกล้ชิดกับชายหนุ่มสุดฮ็อต แต่พอเขาไม่เล่นด้วยแถมยังใช้งานอย่างหนักพวกเธอจึงพากันลาออก
“พี่ว่าคินคงต้องหาเลขาที่เป็นผู้ชายบ้างแล้วล่ะ จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบเดิม”
เมลดาลูกสาวคนโตของเมฆาออกความคิดเห็น แม้เธอจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วแต่ก็มักจะหาเวลาว่างมาทานอาหารกับครอบครัวอยู่เป็นประจำ
“แม่เห็นด้วยนะเมย์”
“ก็ดีเหมือนกันนะพี่ ผู้ชายคงทำงานอึดดี แต่เรื่องความละเอียดรอบคอบนี่สิ” เขายังไม่เคยทำงานกับผู้ชายก็เลยกังวล
“ลองดูก่อนถ้าถูกใจก็ค่อยว่ากันอีกที”
“ใช่สิ สามีพี่เมย์ก็มีเลขาเป็นผู้ชาย พี่หาให้ผมสักคนสิ”
“แล้วพี่จะลองถามดูนะ ระหว่างนี้ก็ให้คุณวีณาช่วยงานไปก่อน”
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจพร้อมกับสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน
วีณาที่พี่สาวพูดถึงคืออดีตเลขาของเขาที่พอจะไล่ออกก็เกิดสงสารเพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวชายหนุ่มจึงยังจ้างเธอให้คอยทำงานเอกสารช่วยเลขาของเขาอีกที ไม่ใช่ว่าวีณาทำงานไม่ดี แต่เพราะเธอมีลูกที่ต้องคอยดูแล เขาจึงต้องหาเลขาซึ่งมีหน้าที่ตามเขาไปทำงานข้างนอกได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เลขาแต่ละคนอยู่กับเขาไม่นาน
บริษัท M-Beverage
“คุณวีณา วันนี้ช่วงเย็นผมต้องไปที่ไหนหรือเปล่า”
“มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณเวหาค่ะ วีจัดการเรื่องของขวัญให้แล้วนะคะ อยู่บนโต๊ะในห้องทำงานค่ะ”
“ขอบคุณครับ ช่วงนี้ผมคงรบกวนคุณไม่น้อย”
“รบกวนอะไรกันคะ วีเป็นลูกน้องนะคะ บอสจะต้องมาเกรงใจทำไม อยากให้วีทำอะไรบอสบอกมาได้เลยนะคะ”
“ครับ” พูดจบเขาก็เข้าห้องไป
ชายหนุ่มนั่งอ่านเอกสารจากฝ่ายวิจัยการตลาดที่เขาให้ไปสำรวจเกี่ยวกับเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพซึ่งบริษัทของเขาได้ริเริ่มพัฒนาและวางขายไปบ้างแล้ว ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง
สินค้าตัวใหม่ที่เขากำลังผลิตคือน้ำขิงคั้นสด แต่ยังติดปัญหาเรื่องขิงที่จะนำมาผลิตเพราะผู้ค้าส่งรายใหญ่ติดสัญญากับบริษัทเดิมซึ่งนำขิงไปผลิตในรูปแบบของผงขิงสำเร็จรูป
ช่วงวันหยุดยาวนี้ชายหนุ่มจึงคิดว่าจะต้องเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์เพราะที่นั่นเป็นแหล่งปลูกขิงแหล่งใหญ่ของประเทศ
ระหว่างรอให้ถึงเวลาไปงานของเพื่อนร่วมธุรกิจ เมคินก็หาที่พักไปพลางๆ ครั้งแรกชายหนุ่มคิดจะจองโรงแรมที่เขาค้อ แต่เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวที่พักใบแบบที่เขาต้องการจึงเต็มทุกที่ เขาจึงเลือกที่พักในตำบลเข็กน้อยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่เขาจะไปไม่มากนัก พอเลือกห้องพักเสร็จก็จัดการเคลียร์งานที่คั่งค้างให้เรียบร้อย ก่อนจะปิดไฟในห้องหยิบกล่องของขวัญแล้วเดินออกจากห้องตรงไปยังลานจอดรถ
เวลาเกือบสองทุ่มทุกคนในบริษัทต่างก็กลับกันไปหมดแล้ว เพราะเป็นวันหยุดยาวเขาจึงบอกทุกคนว่าไม่ต้องทำโอที
งานวันเกิดของเวหาจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ เพราะมันใช่เพียงแค่งานวันเกิดธรรมดาแต่เพราะในวันนี้เป็นวันที่บิดาของชายหนุ่มจะวางมือจากธุรกิจและให้ลูกชายคนเดียวขึ้นมาบริหารงานแทนทั้งหมด
พอส่งของขวัญให้กับเจ้าของวันเกิดแล้ววายุก็มานั่งยังโต๊ะที่ทางเจ้าภาพจัดไว้ให้ เพื่อนร่วมโต๊ะก็เป็นคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีอยู่แล้ว
“สวัสดีครับ” เขากล่าวทักทายคุณราเมศเจ้าของบริษัทผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ที่เขาใช้บริการอยู่
“สวัสดี มาคนเดียวเหรอคิน”
“ครับคุณอา”
“นี่ถ้ายายหวานรู้ว่าคินจะมาที่งานด้วยคงได้ตามอามาแล้วแน่ๆ”
“น้องหวานกลับมาแล้วเหรอครับ” เขาถามอย่างแปลกใจเพราะครั้งสุดท้ายที่คุยกันหญิงสาวบอกเขาเองว่ายังไม่อยากกลับมาทำงาน
“กลับมาได้หลายวันแล้ว”
“ครับ”
“ได้ข่าวว่าคินกำลังหาเลขาอยู่ไม่ใช่เหรอ อาว่าจะให้หวานลองไปสมัครดู”
“อย่าเลยครับคุณอา ความรู้ของน้องหวานมากเกินกว่าจะมาเป็นเลขาผม” เขาปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะรู้ดีว่าชายคนนี้ไม่ได้แค่อยากให้ลูกสาวมาเป็นเลขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“อาก็อยากให้น้องได้เรียนรู้งานจากคินบ้าง”
“แย่จังนะครับ ผมเพิ่งบอกให้พี่เมย์ช่วยหาเลขาให้ ผมคงต้องรอถามพี่เมย์ก่อนว่ายกเลิกทันไหม แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ”
“อาหวังว่าจะเป็นข่าวดีนะ”
เมคินยิ้มแต่ไม่ได้ตอบไปเพราะเขาไม่ค่อยชอบการใช้เส้นสายในการทำงาน อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยชอบนิสัยของหวานหรือรมิดาเท่าไหร่ เขากับเธอเคยคบกันอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่เรียนด้วยกันที่อเมริกา เพราะเขาเป็นคนชอบอยู่เงียบๆ ต่างจากหญิงสาวที่ชอบไปงานปาร์ตี้และรักการช้อปปิ้งนิสัยทุกอย่างตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง
ชายหนุ่มมีโอกาสคุยกับคนอื่นอีกสองสามคนจากนั้นเขาก็เดินไปหาวายุ คุยอะไรเล็กน้อยตามมารยาทแล้วก็ขอตัวกลับ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องทำธุรกิจกับคนจำนวนมากชายหนุ่มก็คงไม่มางานนี้ ทุกอย่างมันดูเหมือนต่างคนต่างใส่หน้ากากเข้าหากันและเขาก็รู้สึกว่าหน้ากากที่สวมอยู่นั้นมันหนักจนอยากจะถอดมันทิ้ง
เมคินออกจากงานและกลับมายังคอนโดซึ่งเป็นเซฟโซนของตัวเองเพราะขี้เกียจขับรถไปที่บ้านในเวลาดึกเช่นนี้
คอนโดแห่งนี้เป็นคอนโดขนาดกลางมีหนึ่งห้องนอนกับหนึ่งห้องทำงาน มีส่วนของครัวและห้องรับแขก ถ้ามองจากระเบียงห้องนอนใหญ่จะเห็นวิวของกรุงเทพที่เต็มไปด้วยสีสันยามค่ำคืน
เขาไม่เคยพาใครมาที่นี่เลยสักคน แม้กระทั่งคนที่บ้านเพราะถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว
"คุณคงไม่ได้หมายถึงให้ผมนอนกับคุณ" "แต่ครีมหมายถึงแบบนั้น นอนกับครีมได้ไหมช่วยทำให้ครีมลืมเรื่องแย่ๆ ที่ผู้ชายคนนั้นกับครีมได้ไหม" "คุณเมามากและผมจะไม่นอนกับคุณเพราะคุณเมา" "คุณก็คงรังเกียจใช่ไหม" "เปล่าแค่ผมไม่อยากเอาเปรียบคุณ" "ครีมเข้าใจ ครีมขอโทษที่ทำให้คุณลำบากใจ สุดท้ายแล้วคืนนี้ครีมก็ต้องอยู่คนเดียว" เสียงที่ฟังเหมือนกำลังเสียใจ น้อยใจทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะเดินออกจากห้องนี้ไปเลย
"คุณเข้มขาผู้หญิงกับผู้ชายนอนด้วยกันแค่ครั้งสองครั้งเขาไม่เรียกว่าผัวเมียหรอกนะคะ อย่าคิดมากเลยค่ะ ฉันเป็นคนหัวสมัยใหม่เรื่องแค่นี้ฉันไม่เก็บมาคิดให้ปวดหัวหรอก" ***** เพราะพี่สาวฝาแฝดถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมียน้อย น้องสาวอย่างเธอจึงยอมไปเป็นจำเลยของเขา แต่เมื่อเขารู้ความจริงเธอก็กลายเป็นจำเลยที่เขาแสนรัก
รองประธานหนุ่มต้องมาเจรจากับอินฟลูเอนเซอ์ เพื่อให้เธอช่วยแก้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุแต่พอได้เจอหน้า เขากลับยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นแฟนของเขา
พราะเธอสวยถูกใจเขาเลยกักขังเธอไว้ด้วยหนี้ที่ตนเองไม่ได้ก่อ หญิงสาวยอมชดใช้หนี้ตามสัญญาแต่ทำไมยิ่งใช้หนี้มันถึงได้เพิ่มมากขึ้นจนคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางไปจากเขาได้ ***** "คุณสนุกมากหรือไง คุณจ่ายเงินก้อนแล้วเก็บคืนจากมายด์เดือนล่ะหมื่น ไม่มีคนดีๆ ที่ไหนเขาทำแบบนี้เลยนะคะ" "ฉันเคยบอกเธอว่าฉันเป็นคนดีไหม" "คุณคงสนุกมากที่เห็นคนเป็นหนี้ แต่คนที่เขาเป็นหนี้คงไม่สนุกด้วย"
รติรสมาสมัครงานเป็นแม่บ้านในบริษัทที่แม่ตัวเคยทำงานและหายตัวไป แต่ทุกอย่างผิดแผนเมื่อถูกดึงไปทำงานเป็นเลขาของประธานคนใหม่ นอกจากจะเป็นเลขาแล้วยังพ่วงด้วยตำแหน่งพาร์ทเนอร์บนเตียงอีกด้วย ***************** "คุณไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตแล้วคิดเหรอคะว่าโรส กับครอบครัวมีความสุข พวกเราพยายามตามหาแม่ แต่ก็ติดต่อแม่ไม่ได้เลยมันทรมานมากๆ"
เขาโทษว่าเป็นความผิดของเธอที่โทรมาตอนเข้ากำลังปั๊มหัวใจคนไข้ ทำให้เขาเสียสมาธิและเสียคนไข้ไป โดยไม่รู้เลยว่าที่เธอโทรหาก็เพราะเธอเองก็กำลังจะเสียบางอย่างไปเช่นกัน
ย้อนเวลากลับมาก็ดี หรือจะเป็นเพียงฝันหนึ่งก็ช่าง แต่ข้ารู้แล้วว่าการงมงายกับความรักข้างเดียวนั้นมันช่างน่าเวทนายิ่งนัก ในเมื่อข้าพยายามมามากแล้วแต่ท่านกลับไม่เห็นค่า เช่นนั้นก็พอเท่านี้เถอะ
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
“เราหย่ากันเถอะ”หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย