/0/17372/coverbig.jpg?v=1ed6399559070ff0e33304781a9cd9d5)
'ขอให้ฉันได้เจอรักแท้ ขอให้ฉันได้เจอเนื้อคู่ดีๆ ด้วยเถิดเพี้ยง!'
หน้าจอโน้ตบุ๊กเครื่องหรูสว่างวาบในช่วงเวลาตีสามกว่าๆ พร้อมกับมือบางที่คลิกเมาส์กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่จะพาเพื่อนรักไปแก้คำสาป ก่อนหน้านี้เธอพาดาร์เรนเดียเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอไปดูดวง ไปวัด ไปศาลเจ้า มาแล้ว แต่โจทย์ที่ยากนักของพวกเธอก็คือ ต้องตามหาเทพแห่งความรักมาแก้คำสาปให้ดาร์เรนเดีย
"ที่นี่น่าจะเด็ดนะ แต่ก็เคยไปมาแล้วนี่ ไปซ้ำก็ไม่เป็นไรหรอกมั้งเขาว่ากันว่าตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลก"
มือเรียวคัดลอกลิงก์เข้าแอปพลิเคชันไลน์ส่งไปให้ดาร์เรนเดียที่ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่เตียงข้างๆ ก่อนที่ตัวเองจะเข้าแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์เมื่อเห็นจุดแดงขึ้น เธอกดเข้าไปดูรูปโพรไฟล์ของอีกฝ่ายที่ส่งมา เมื่อเห็นว่าถูกใจก็กดเข้าไปทักทายตอบกลับชายคนที่ทักมา
Messenger
วีลล์ : สวัสดีครับ ใช่วิเวียนรึเปล่า
วิเวียน : ค่ะ
วีลล์ : ผมวีลล์นะครับ
วิเวียน : ค่ะ ทักมาดึกดื่นมีอะไรรึเปล่าคะ
วีลล์ : ไม่มีอะไรครับ ผมเห็นวิเวียนนอนดึกก็เลยอยากคุยด้วยเฉยๆ
วิเวียน : ถ้าไม่ได้ทักมาจีบวิขอตัวไปนอนก่อนนะคะ
วีลล์ : เดี๋ยวครับ เดี๋ยว จีบครับ จีบ ผมอยากรู้จักวิเวียนมากกว่าแค่ดูรูปจากในเฟซได้ไหมครับ
มุมปากบางยกยิ้มพอใจ เธอนะเจ้าแม่เรื่องนี้เลยนะใครก็อย่ามาแย่งตำแหน่งนี้ของเธอ วิเวียนคุยแชตกับวีลล์ไปเรื่อยจนรู้สึกถูกคอเธอคิดว่าเธอกับเขาน่าจะเข้ากันได้ดี เขาและเธอนัดหมายกันจะไปออกเดตและได้มีการตกลงพูดคุยกันเรื่องวันเวลาสถานที่เรียบร้อยแล้ว
- วันต่อมา –
วิเวียนหมุนซ้าย หมุนขวาอยู่หน้ากระจกในช่วงเวลาเจ็ดโมงเช้าของวันใหม่โดยที่ดาร์เรนเดียวยังนอนอุตุอยู่บนที่นอน หญิงสาวแต่งหน้าบางๆ ให้พอมีสีสันเน้นความเป็นธรรมชาติโชว์ใบหน้าเนียนใส มือเรียวหยิบน้ำหอมกลิ่นประจำตัวออกมาแล้วพรมลงทั่วตัว ก่อนจะยิ้มให้ตัวเองในกระจกเหมือนทุกวันที่ทำแล้วเดินไปปลุกดาร์เรนเดียบนที่นอนนุ่ม
"ยัยเดีย นี่! ยัยเดีย"
"อื้อออ~ เช้าแล้วเหรอ"
ดาร์เรนเดียตอบน้ำเสียงงัวเงียโดยที่ยังไม่ลืมตา ทำให้วิเวียนต้องจับใบหน้าสวยของเพื่อนรักให้เงยขึ้นแล้วส่ายไปส่ายมากลั่นแกล้งเพื่อนสาวของตัวเองจนดาร์เรนเดียทนไม่ไหวทำหน้าตาบูดบึ้งจ้องมองเธอด้วยความงอแง
"ฉันจะไปข้างนอกหน่อยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปไหว้เจ้าที่เดิม"
"ทำไมต้องไปที่เดิมด้วย"
"ฉันศึกษามาแล้ว ที่นี่เด็ดจริง ศักดิ์สิทธิ์จริง"
"แต่เมื่อวานเราก็เพิ่งไปที่นั่นมาไม่ใช่เหรอ"
"แกเนี่ยไม่รู้อะไรเลยนะ เขาว่ากันว่าตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลก แกต้องตื๊อเทพ เทพถึงจะช่วยแกเชื่อฉัน"
วิเวียนทำสีหน้ามั่นใจส่งไปให้เพื่อนรัก ดาร์เรนเดียกำมือขึ้นเรียกความฮึกเหิมให้ตัวเอง ก่อนที่หญิงสาวจะก้มหน้าลงกดจูบที่แก้มป่องของเพื่อนรักแล้วโบกมือไปมาให้กับเธอ
"อย่ากลับดึกละ"
"รู้แล้วน่า!"
สองเท้าบางเดินออกมาจากคอนโดขนาดเล็กมือเรียวโบกแท็กซี่และบอกจุดหมายปลายทางที่นัดกับวีลล์เอาไว้ โดยจะต้องผ่านหน้าศาลเจ้าที่จะพาดาร์เรนเดียไปตามหาเทพแห่งความรักในวันพรุ่งนี้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถติดไฟแดงพอดี ดวงตากลมโตจ้องมองเข้าไปที่ศาลเจ้าที่ประดับไปด้วยเชือกสีแดงห้อยระโยงระยาง และโคมไฟสวย ภายในมีดอกกุหลาบหลากสีที่ใครหลายๆ คนนำมากราบไหว้เทพแห่งความรักเพื่อขอพร
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ขึ้นเชื่อเรื่องมาขอพรเรื่องความรักได้อย่างโดดเด่นและส่วนมากผู้คนก็จะสมหวัง สถานที่แห่งนี้เป็นที่โล่งกว้างโดยข้างในจะแบ่งเป็นศาลเจ้าเล็กๆ เพื่อให้ผู้คนมาขอพร การขอพรที่นี่ต้องจดชื่อ และที่อยู่ปัจจุบันของตัวเองเอาไว้ ถ้าหากตกหล่นไปแม้แต่ตัวอักษรเดียวพรที่ขอไว้ก็จะไม่เป็นผล
วิเวียนมองสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่านดวงตากลมโตที่ประดับไปด้วยแพขนตาสวยสะดุดเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูดีออร่าจับ เขาใส่กางเกงสีดำพอดีตัวและเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงแค่ข้อศอกเท่านั้นดูแล้วอายุน่าจะราวๆ ยี่สิบสี่ หรือยี่สิบห้าได้
"โอ้โห ออร่าเกิ๊น หล่ออย่างกับเทพแหนะ"
ดวงตากลมโตยังจ้องมองเขาไม่วางตา เขาน่าจะเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าแห่งนี้หรือเปล่านะทำไมถึงได้ก้มดูสมุดที่จดชื่อสำหรับขอพรอยู่แบบนั้น มือหนาข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ผมดำขลับพลิ้วสวยไปตามแรงลม ใบหน้าขาวผ่องราวกับเทพบุตร ให้ตายเถอะในโลกนี้จะมีคนที่หล่อขนาดนี้จริงเหรอ
จริงสิ วันนี้เธอจะไปออกเดตนี่นา ...
สองมือเรียวยกขึ้นกระพุ่มไหว้ ดวงตากลมโตมองไปที่ศาลเจ้าแห่งนั้นก่อนจะตั้งจิตอธิษฐาน
'ขอให้ฉันได้เจอรักแท้ ขอให้ฉันได้เจอเนื้อคู่ดีๆ ด้วยเถิดเพี้ยง!'
ใบหูของเทพฯ หนุ่มกระดิกเพียงนิด เขาเหลียวมองหาเสียงที่ดังมาตามลมแต่ทว่าเมื่อหันกลับไปก็พบกับรถยนต์มากมายเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว น้ำเสียงที่เขาได้ยินช่างหวานใสราวกับระฆังใบใหญ่ที่ดังก้อง อีกทั้งความตั้งใจแน่วแน่นั้นมันทำให้เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนจนน่าประหลาดใจ แต่ทว่าดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทอประกายแสงระยิบระยับเมื่อสัมผัสเข้ากับแสงอาทิตย์ ทำให้เขาสามารถมองเห็นเงาร่างบางของใครบางคนที่นั่งอยู่ในรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง มุมปากหนายกยิ้มก่อนจะมุ่งหน้าตามร่างเงาลางๆ ของร่างบางนั้นไป
มนุษย์ผู้นี้ไม่รู้หรือไงว่าขอพรต้องมาจดชื่อด้วย ไม่งั้นเขาจะจับคู่ให้ได้ยังไงละ ...
เทพฯ หนุ่มคิดในใจจนรถแท็กซี่ที่เขาตามจอดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าดังย่านกลางเมืองร่างบางลงกำลังลงรถ ส่วนเทพฯ หนุ่มก็พยายามเพ่งมองใบหน้าของเธอเพื่อจดจำแล้วจะได้นำกลับไปทำหน้าที่ของเขาต่อ แต่ทว่ากลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใครจากกายเธอก็โชยเข้ามาแตะปลายจมูกเทพฯ หนุ่มหลับตาพริ้มสูดดมกลิ่นหอมของเธอเข้าปอด ก่อนจะได้สติแล้วหันไปมองหาเธออีกครั้ง ...
"เจ้ามาทำอะไรที่นี่อาเธอร์"
ไดอาน่าเทพแห่งความรักที่ทำงานในศาลเจ้าเดียวกันกับอาเธอร์เอ่ยขึ้น เธอเห็นอาเธอร์ออกมานอกศาลทั้งที่ยังทำงานไม่เสร็จเกิดสงสัยก็เลยตามมา อาเธอร์เทพฯ หนุ่มหันกลับไปมองข้างหลังเขากวาดสายตามองหาร่างบางคนเมื่อครู่แต่ก็ไม่พบ ทำให้ต้องหันกลับมาแล้วตอบกลับไดอาน่าด้วยท่าทีสบายๆ
"ข้าได้ยินเสียงมนุษย์ขอพร เลยจะมาดูเพราะเจ้ามนุษย์นั่นไม่ได้ให้ข้อมูลข้าไว้"
"เจ้าใส่ใจคนที่ไม่ทำตามกฎตั้งแต่เมื่อไหร่"
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
"ไม่ใช่ นี่มันเกียร์ฉัน!" "Oh! ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษ ก็คุณลุงไม่ให้มองมิลก์ก็กำผิดกำถูกสิคะ แล้วข้ามมาทำไมตอนรถไม่นิ่งละคะ" "ใครมันจะไปคิด ว่าเธอจะคิดทำมิดีมิร้ายกับฉันเล่า" "มิลก์เหรอคะ ที่คิดทำมิดีมิร้ายกับคุณลุงน่ะ ไม่ใช่ใช่คุณลุงเหรอคะ มาสอนมิลก์ขับรถแท้ๆ ตรงนั้นยังจะตั้งอยู่อีก"
ผอ. หนุ่มสุดหื่น พ่อปลาไหลตัวพ่อ รักและหวงความโสดยิ่งกว่าชีวิต ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างจนมาเจอเธอ หญิงสาวที่เขาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ใจเธอสักที ความอยากเอาชนะของเขามันเป็นบ่อเกิดความรักที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"