ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / XXX II เรื่องมันเกิด...เพราะเกสรดอกไม้
XXX II เรื่องมันเกิด...เพราะเกสรดอกไม้

XXX II เรื่องมันเกิด...เพราะเกสรดอกไม้

5.0
51 บท
6.9K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

ยามใดที่ร่างกายสัมผัสถูกเกสรดอกไม้ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... เพราะความเมามายเป็นเหตุ จึงทำให้ฉันต้องอยู่บนเตียงกับเขาตลอดทั้งค่ำคืนนั้น คิดว่าจะจบ ทว่าเราสองคนกลับหวนมาเจอกันอีกครั้งในวันหนึ่ง “คุณท้องกับผมเหรอ?” “คุณคิดว่าเครื่องตัวเองฟิตสตาร์ทติดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” .......................................................................................... ชีวิตของฉันซวยมากเลยค่ะคุณกิตติคะ ด้วยความที่เพื่อนงอนกับแฟนก็เลยอยู่ช่วยปลอบใจ พร้อมคอยปรามไม่ให้เพื่อนดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายไร้สติ แต่จู่ๆ ก็มีนังตัวดีที่ไหนไม่รู้ส่งคลิปคนรักของฉันซึ่งกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นมาให้ดู ไป ๆ มา ๆ จึงกลับกลายเป็นว่าเพื่อนต้องปลอบใจฉันแทน อาการเจ็บช้ำหัวใจที่จู่โจมเข้ามากะทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งผลให้ฉันกระดกเหล้าเข้าปากรัว ๆ แบบไม่หยุดยั้ง ยังค่ะ...เรื่องยังไม่จบที่ตรงนั้น แฟนเพื่อนตามมารับเพื่อนกลับบ้าน แต่ก็ยังมีน้ำใจพาฉันขึ้นไปห้องพัก ทว่า...ห้องนั้นดันไม่ใช่ห้องของฉันนี่สิ "คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องของผมได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้!" ท่าทางของผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเอ่ยปากไล่ฉันดูแปลกตา คล้ายกับกำลังระงับอารมณ์บางอย่าง กระนั้นระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ทำให้ฉันไม่อยากสนใจอะไรนอกเสียจากล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง "อะไร? จะแปลงร่างเหรอ? ไปเล่นที่อื่นไปหนู พี่จะนอน" ความเมาเป็นเหตุสังเกตได้ ตื่นขึ้นมานั่นแหละถึงได้รู้ ว่าตนเองถูก 'คนแปลกหน้า' พรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว...

บทที่ 1 บทนำ

บรรยากาศรอบกายค่อนข้างอึกทึกไม่น้อย เนื่องจากเป็นมุมสำหรับดื่มสังสรรค์ของทางโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลงหรือเสียงพูดคุยก็ต่างเจื้อยแจ้วไปทั่วทั้งบริเวณ ทว่าสิ่งที่ฉันสนใจในเวลานี้ก็คือเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านข้างต่างหาก

“พอแล้วโบว์วี่ นั่นเหล้านะไม่ใช่น้ำเปล่า กระดกเอา ๆ เดี๋ยวก็ช็อกตายหรอก” ตั้งแต่มานั่งอยู่ตรงบาร์ ประโยคเหล่านี้ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากฉันนับครั้งไม่ถ้วน

อันที่จริงเราสองคนมาที่โรงแรมแห่งนี้เพื่อพักผ่อนหย่อนคลายก่อนจะเริ่มหาที่ฝึกงาน ทว่ายังสบายตัวสบายใจได้ไม่ทันไรเพื่อนก็ดันมีปัญหากับแฟน จนเรื่องกลับกลายเป็นอย่างที่เห็น

เครื่องดื่มหลากสีที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แก้วแล้วแก้วเล่าถูกมือบางยกกระดกเข้าปากรัว ๆ ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงเป็นใยจากฉัน

เพื่อนสาวคนสนิทงอนกับแฟนหนุ่มตามประสาคู่รักที่มักจะมีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาทำให้คิดมาก และแน่นอนว่าสิ่งที่คลายความคิดฟุ้งซ่านนั้นได้ก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มันเกินไปหน่อย ที่โบว์วี่เล่นดื่มอย่างเอาเป็นเอาตายเสียขนาดนี้

ฉันเองก็ไม่รู้เรื่องด้วยหรอก ว่าสาเหตุที่เพื่อนงอนกับแฟนเกิดจากอะไร รู้เพียงแต่ว่าในสถานการณ์ตรงหน้าฉันควรปลอบใจ และควรปรามเพื่อนไปพร้อม ๆ กัน

“ฉันเคยบอกโอห์มไปแล้ว ว่าเวลาไปไหนให้โทรมาบอก” โบว์วี่ระบายความอัดอั้นตันใจที่เก็บงำเอาไว้ออกมา “แต่นี่อะไร เขาไปเที่ยวผับกับเพื่อนโดยที่ไม่บอกฉันสักคำ แกก็รู้ใช่มั้ยว่าสถานที่แบบนั้นต้องไปเจอสิ่งล่อตาล่อใจอะไรบ้าง”

“รู้ เอาน่าใจเย็น ๆ มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกัน” มือข้างหนึ่งเอื้อมไปลูบไหล่บางแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลม

ฉันเองก็มีแฟนเหมือนกัน จึงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าสถานที่แบบนั้นไม่เหมาะที่จะปล่อยให้คนรักของตนเองย่างกายเข้าไปโดยไม่บอกกล่าว ต่อให้ไม่ได้มีเจตนาอะไรทำนองนั้นแอบแฝง แต่อย่างน้อยก็ควรบอกเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

เรื่องพวกนี้เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ อย่าให้ต้องมารับรู้เองทีหลังจะดีกว่า

“ฉันไม่พร้อมจะคุยอะไรตอนนี้หรอก โมโห” ไม่บอกก็รู้ เห็น ๆ อยู่ว่าสีหน้าโบว์วี่เกรี้ยวกราดขนาดไหน

“แล้วนี่แกรู้ได้ไงว่าโอห์มไปผับ”

“ก็เพื่อนเขาถ่ายรูปแล้วแท็กหากัน สงสัยไม่ได้เตี๊ยมไว้ ฉันตาไวไงเลยเห็นพอดี” ได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับคำบอกเล่าจากปากเพื่อน

บทจะโป๊ะแตกก็โป๊ะแบบง่าย ๆ เพื่อนโอห์มนี่ก็ไม่รู้งานเอาเสียเลย

“เดี๋ยวฉันมานะ ไปเข้าห้องน้ำก่อน”

“จะโทรเช็กแฟนตัวเองบ้างล่ะสิ” คิ้วเรียวเป็นทรงสวยเลิกขึ้นสูงอย่างตั้งคำถาม

ฉันไม่ตอบ ทว่าเลือกที่จะยกยิ้มมุมปาก ก็ตั้งใจจะไปทำธุระส่วนตัวด้วย แต่สำหรับเรื่องนั้นคือจุดประสงค์รอง

“กลับมาอย่าให้ฉันเห็นว่าแกสั่งมาเพิ่มอีกแก้วนะโบว์วี่” ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนไม่ลืมที่จะกำชับเพื่อนเอาไว้ ใบหน้าเนียนสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูโฉบเฉี่ยวพยักรับหงึกหงัก

ฉันเดินไปตามทางที่มีป้ายชี้บอก ไม่นานนักก็ถึงจุดหมาย หลังจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยจึงเดินไปล้างมือที่อ่าง จากนั้นจึงใช้ทิชชู่เช็ดให้แห้งเพื่อล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพายใบเล็กที่แนบอยู่ข้างลำตัว

นิ้วเล็กจิ้มไปที่เบอร์ล่าสุดเพื่อกดโทรออก เสียงสัญญาณดังขึ้นเนิ่นนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววว่า ‘พี่คิม’ จะรับสาย หลังกดโทรออกอยู่หลายครั้งฉันจึงถอดใจ แล้วยัดโทรศัพท์กลับไปไว้ที่เดิม

คิดในแง่ดีบางทีเขาอาจจะกำลังทำงานอยู่ เพราะแฟนของฉันเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง ดังนั้นแม้ว่าเวลานี้จะดึกดื่นไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“เป็นอะไรหน้านิ่งมาเลย” พอเดินกลับไปหาเพื่อน โบว์วี่ก็รีบทักทันทีเมื่อเห็นสีหน้าฉันที่ฉายชัดออกไป

“พี่คิมไม่รับสาย” อันที่จริงเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะช่วงที่พี่คิมมีงานรัดตัว

“ของแกนี่ไม่น่าเป็นกังวลเท่าไหร่ พี่คิมออกจะสุภาพบุรุษ แถมยังเรียบร้อยพูดน้อยน่ารักขนาดนั้น” ไม่ได้รู้สึกยินดีสักเท่าไหร่ที่เพื่อนพูดแบบนี้ แม้ว่าพี่คิมจะเป็นสุภาพบุรุษ กระนั้นท่าทีเงียบสงบของเขาก็ไม่อาจทำให้ฉันล่วงรู้ได้เลยว่าพี่คิมกำลังคิดอะไรอยู่บ้าง

“แล้วถ้าพี่คิมเป็นผู้ชายเงียบ ๆ แต่ฟาดเรียบล่ะ” หลังเอ่ยประโยคนั้นจบลง โบว์วี่ก็ขำก๊ากขึ้นมาทันที

“แกคบกับเขามาหลายเดือนแล้วนะ อีกไม่นานก็จะครบปีแล้ว ฉันดูยังรู้เลยว่าพี่คิมไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น” ฉันเองก็รู้ว่าแฟนตัวเองเป็นคนแบบไหน แต่บางครั้งมันก็อดที่จะระแวงไม่ได้ ก็เห็นมาหลายคู่แล้ว ที่ต่อหน้าเงียบ ๆ ลับหลังก็ฟาดเรียบ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายไว้ใจไม่ได้หรอก ไม่วันใดก็วันหนึ่งต้องมีออกนอกลู่นอกทางกันบ้าง “ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ”

“อะไร?” หลังย้อนถามกลับไป เพื่อนก็เอนกายเข้ามาหาจนเกือบจะสิงร่างฉันอยู่รอมร่อ ริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีแดงโฉบลงมากระซิบที่ข้างหู ก่อนเอ่ยประโยคที่ทำให้ฉันหน้าแดงก่ำ

“แกกับพี่คิมเคยมีอะไรกันหรือยัง”

“จู่ ๆ มาถามอะไรแบบนี้!” แสร้งพูดเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนอาการขวยเขิน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเขินไปทำไม ในเมื่อยังไม่เคยไปถึงขั้นนั้นกับพี่คิมเลยสักนิด

“ฉันจะได้ให้คำปรึกษาได้ถูก สรุปว่าไง?” เกิดอาการอึกอักอยู่นานหลายสิบวินาที เนื่องจากไม่รู้ว่าควรให้คำตอบเพื่อนออกไปดีหรือไม่ “บอกมาเถอะน่าคนกันเอง ฉันไม่ฟ้องพ่อแกหรอก เรื่องเซ็กส์มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย”

“ไม่เคย” ท้ายที่สุดก็ให้คำตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

“แล้วจูบล่ะ” โบว์วี่ยังคงตั้งคำถาม

“ก็ไม่เหมือนกัน”

“พูดจริงพูดเล่นเนี่ย แกไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับพี่คิมบ้างเลยเหรอ” ดูเหมือนว่าร่างบางข้างกายจะแปลกใจไม่น้อยที่ได้ยินคำตอบล่าสุดจากปากฉัน

ก็คนมันกลัวนี่นา ฉันเคยอ่านกระทู้ในเว็บไซต์ผู้หญิง แล้วหลายคนมักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ครั้งแรก’ มักจะเจ็บเสมอ ส่วนเรื่องจูบ…เป็นฉันเองที่ไม่ใจกล้ามากพอ แม้ว่าบรรยากาศจะเป็นใจหลายครั้งกระนั้นฉันก็เลือกที่จะปฏิเสธเขาทุกที

“ฉันจะโกหกแกทำไมล่ะ ว่าแต่แกเถอะเคยหรือไง”

“ของมันแน่อยู่แล้ว โอห์มหุ่นแซบขนาดนั้นใครจะอดใจไหว” ท่าทางของเพื่อนที่กำลังกัดริมฝีปากทำให้คนมองอย่างฉันถึงกับส่ายหน้า “แล้วพี่คิมเคยรุกแกบ้างหรือเปล่า”

“เคย แต่ฉันก็ปฏิเสธตลอด” เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ฉันเชื่อว่าถ้าพี่คิมรักฉันจริง ๆ เขาต้องรอได้

“แล้วเขาไม่พูดอะไรบ้างเหรอ”

“พี่คิมรอได้” ระดับน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกไปค่อนข้างหนักแน่นเลยทีเดียว พี่คิมเคยพูดกับฉันไว้แบบนี้ มันจึงทำให้ชีวิตคู่ของเรายังคงดำเนินเรื่อยมา

หากเขาไม่พอใจคงไปจากฉันตั้งนานแล้วล่ะ ไม่เสียเวลารอให้ฉันพร้อมหรอก

“บอกตามตรงเลยนะ เรื่องเซ็กส์มันเป็นอะไรที่สำคัญกับชีวิตคู่ ต่อให้พี่คิมพูดแบบนั้นแต่ฉันเชื่อว่าลึก ๆ แล้วเขาก็อยากทำ อย่างน้อยแกน่าจะให้เขาจูบหน่อยก็ดี”

“ฉันไม่กล้าอะ ขอเวลาทำใจก่อน” พี่คิมคือแฟนคนแรกของฉัน หลายเดือนมานี้ก็พยายามอย่างมากแล้วที่จะปรับตัวเพื่อเขา จากที่ตอนแรกไม่ให้แม้กระทั่งหอมแก้มกับกอดเลยด้วยซ้ำ

ขอเวลาอีกสักพัก แล้วฉันจะยอมให้เขาทุกอย่างตามที่ต้องการ…

“ระวังเขาจะไปหากินที่อื่นแล้วกัน”

Tru…Tru…Tru…

ประโยคคำเตือนจากปากเพื่อนดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท ก่อนที่โทรศัพท์มือถือของโบว์วี่จะสั่นครืดอยู่ข้างแก้วเครื่องดื่ม

“ร้านหมูกระทะสวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” หางตาปรายมองคนข้างกาย เมื่อได้ยินโบว์วี่ทักทายปลายสายด้วยประโยคนั้น “จะมาง้อเหรอ เค้าไม่บอกหรอกว่ากำลังอยู่ที่โรงแรม…ตัวเองไปดื่มกับเพื่อนเถอะ เค้าไม่สำคัญอยู่แล้วหนิ ไม่ต้องมา”

มุมปากถึงกับยกยิ้มพร้อมกลั้นขำ จริง ๆ ก็อยากให้แฟนตามมาง้อแหละแต่ฟอร์มจัด พูดออกไปหมดซะขนาดนั้นโอห์มคงไม่รู้หรอกมั้งว่าเราอยู่ที่ไหนกัน

“แกนี่มันจริง ๆ เลย” หลังเพื่อนคุยกับคนรักเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะค่อนแคะ มีอย่างที่ไหนไม่อยากให้เขาตามมา แต่ดันพูดบอกชื่อสถานที่หมดเปลือก

“ฉันว่าโอห์มคงไม่ตามมาหรอก” โบว์วี่ไหวไหล่ราวกับไม่ใส่ใจ ทว่าฉันก็มองออกอยู่ดี ว่าแท้จริงแล้วเพื่อนก็แอบคาดหวัง

อันที่จริงถ้าโอห์มจะมาก็มาได้ แค่นั่งเรือข้ามมายังเกาะแป๊บเดียวเอง อยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือเปล่าแค่นั้น

ติ้ง!

“พี่คิมแน่ ๆ” มือรีบคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ขึ้นมาถือด้วยความรวดเร็ว และไม่วายหันไปพูดอวดเพื่อนพร้อมรอยยิ้ม

แต่แล้ว...รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าพลันค่อย ๆ จางหายหลังจากเห็นข้อความที่ถูกส่งมาจากบุคคลปริศนา

ซึ่งคลิปที่กำลังเล่นอยู่บนหน้าจอคือคนรักของฉันที่กำลังนัวเนียอยู่กับผู้หญิงคนอื่นอย่างถึงพริกถึงขิง

ไม่อยากสาธยายรายละเอียดไปมากกว่านี้อีกแล้ว ฉันรับไม่ได้…

“ทำหน้าเหมือนเห็นผี ไหนเอามาดูหน่อย” ปล่อยให้เพื่อนเอาโทรศัพท์ของตนเองไปดูโดยง่าย เพราะเวลานี้สติที่เคยมีได้หลุดลอยออกจากร่างฉันไปเสียแล้ว “อะไรวะเนี่ย!”

แม้แต่เพื่อนยังตกอกตกใจกับสิ่งที่เห็นจนหลุดร้องอุทานออกมาเสียงดัง

“...”

“แกโอเคมั้ยเทียนหอม” มือบางวางลงบนไหล่ของฉัน พร้อมตบเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม

โอเคก็แย่แล้ว…

จู่ ๆ ขอบตาก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา ฉันแสร้งกลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บปวดนั้นด้วยการคว้าแก้วเครื่องดื่มกระดกเข้าปาก แต่รู้สึกว่ามันคงไม่พอ

แหงสิ ก็ที่เพิ่งดื่มเข้าไปน่ะมันคือน้ำส้ม…

“สั่งเหล้าให้หน่อย ขอแบบแรง ๆ” หันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านข้าง จะย้อมใจทั้งทียังไม่รู้เลยว่าต้องดื่มเหล้าชนิดไหน

“เมื่อกี้แกยังห้ามฉันอยู่เลยนะ” โบว์วี่รีบแย้ง

“งั้นไม่ห้ามแล้ว สั่งมาเลย” บอกออกไปอย่างคนเอาแต่ใจ ระดับน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ตรงบริเวณลำคอ

“ไม่ต้องแรงมากหรอกมั้ง คนไม่เคยดื่มอย่างแกแค่อึกเดียวก็น่าจะหัวทิ่มแล้ว” เพื่อนก็ขยันพูดจี้ใจดำฉันเสียจริง ไม่สงสารคนที่กำลังช้ำใจบ้างเลยหรือไง

“จะสั่งให้ฉันได้หรือยัง”

“โอเค ๆ” โบว์วี่รีบตอบรับอย่างจำยอม ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับบาร์เทนเดอร์

“ฉันไม่คิดเลยว่าพี่คิมจะเป็นอย่างที่ฉันกังวลจริง ๆ” ระหว่างรอก็ตัดพ้อกับเพื่อนสนิทไปพลาง ๆ หลังมือถูกยกขึ้นปาดเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าลวก ๆ

เพิ่งรู้ซึ้ง ว่าการที่ถูกคนรักหักหลังมันเจ็บปวดขนาดนี้

“เอาน่า หาใหม่เลยอย่าไปแคร์ สวยเลิศเชิดเข้าไว้”

“ถ้าจะเป็นแบบนี้ฉันยอมขึ้นคานดีกว่า ไม่เอาแล้ว” ผู้ชายก็เป็นเหมือนกันหมดนั่นแหละ เผลอไม่ได้ ฉันคิดว่าตัวเองเลือกดีแล้วนะ สุดท้ายเป็นไงล่ะ...หึ ซึมเป็นส้วมเลย

“เหล้าที่สั่งไว้ได้แล้วครับ” ครั้นได้ยินดังนั้นฉันก็รีบคว้าแก้วเหล้าตรงหน้ามากระดกเข้าปากโดยเร็ว

“ไม่เห็นจะอร่อยเลย ขมก็ขม” ใบหน้าที่แสดงออกไปเหยเกเพราะความไม่คุ้นชินกับรสชาติที่แตะสัมผัสปลายลิ้น

“งั้นก็เลิกดื่ม”

“ไม่!” ฉันเลือกที่จะปฏิเสธเพื่อนเสียงแข็ง ถ้าการเมาทำให้ลืมความเจ็บปวดได้ฉันก็จะลุย “เอามาอีกแก้ว”

“พอเถอะ” โบว์วี่ห้ามปรามอีกครั้งราวกับคิดว่ามันจะได้ผล

“อย่าห้าม วันนี้ฉันอยากเมา” ยังคงหนักแน่นในจุดประสงค์ของตนเอง แม้ว่าจะรู้สึกมึน ๆ ตั้งแต่แก้วแรกที่ดื่มเข้าไปก็ตาม “สั่งมาอีก”

“แกนี่จริง ๆ เลย” แม้ปากจะบ่นอุบ กระนั้นโบว์วี่ก็หันไปสั่งให้

แอลกอฮอล์แก้วแล้วแก้วเล่าถูกฉันยกขึ้นกระดกเข้าปากรัว ๆ แบบไม่หยุดยั้ง เวลานี้จะเอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วจริง ๆ

ทว่าผ่านไปไม่กี่นาทีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็เริ่มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ

“เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนต้องไม่ใช่ฉันโว้ยยยย!” พอเริ่มเมาก็ซ่าขึ้นมาทันที จากที่ไม่เคยเสียงดังพลันรู้สึกว่ากำลังรูดซิปปากไม่อยู่

“เออรู้แล้ว พอได้หรือยังเนี่ย ไหนบอกว่าเหล้าไม่ใช่น้ำเปล่าไงเดี๋ยวก็ช็อกตายหรอก” ประโยคนี้คุ้น ๆ นะคะคุณกิตติ ฉันเคยพูดหรือเปล่านะ

“ฮึก...แกอย่าขึ้นเสียงใส่ฉันได้มั้ย ฉันกำลังเจ็บช้ำตรงนี้อยู่นะ” ว่าแล้วก็ทุบลงไปที่อกข้างซ้ายของตนเองเบา ๆ

ทุบแรงไม่ได้ คนเมาก็เจ็บเป็น…

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 51 ตอนพิเศษ คืนเกิดเหตุ   04-01 10:21
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY