" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
แพททริค
นิสัย : โหดเหี้ยม ดุร้าย ใจร้อน พูดมากขี้เล่น ( เฉพาะอยู่กับคนสนิท ) เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นไม่เชื่อเรื่องความรัก อายุ 35 ปี ประธานบริษัทยักใหญ่ ทำธุรกิจสีเทากับเหล่าเพื่อน เจ้าของกาสิโนใหญ่ที่สุดในประเทศ ดูไบ
ใบชา
นิสัย : ใจเย็น คิดบวก พูดจาสุภาพ อายุ 25 ปี ทำงานCreativeในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ทำอาชีพเสริม เป็นเด็กเสิร์ฟ ชงเหล้า ในผับ Nice เพื่อหาเงินให้ครอบครัวใช้หนี้
----------------------
ประเทศดูไป
“ยะ…อย่า..กลัวแล้วอึก! “เสียงร้องเอะอะโวยวายของหญิงสาวในอ้อมกอดดังขึ้นช่วงกลางดึก พลันให้ชายหนุ่มรีบเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก
“มิลตื่น..มิล!..มิล! “มือหนาพลางเขย่าตัวหญิงสาวให้ตื่นจากฮ่วงนินทาเนื่องจากคาดว่าเธอน่าจะฝันร้าย ขณะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงร้อนรน คิ้วหนาทั้งสองข้างพลันขมวดเข้าหากันเป็นปม บ่งบอกว่าตนนั้นกระวนกระวายใจไม่ต่างไปจากเธอ
“อึก!แพทมิลกลัว “ครั้นได้ยินเสียงเรียกจากชายหนุ่มที่รักพลันหลุดออกจากฮ่วงเวลาแห่งความฝันอันน่ากลัว จึงโผล่เข้ากอดร่างใหญ่ทันควัน ใบหน้างามเต็มไปด้วยคาบน้ำตาเลอะเปรอะเปื้อนทั่วบริเวณ โดยมีมือใหญ่คอยลูบหลังปลอบขวัญอยู่ไม่ห่าง
“ไม่เป็นไรนะมิลแพทอยู่ตรงนี้แล้ว “ยามได้เห็นหญิงอันเป็นที่รักร้องไห้หวาดกลัวเช่นนี้ พลอยให้หัวใจแกร่งกระตุกวูบตามไปอีกคน ด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งท่อนแขนแกร่งพลางกระชับกอดร่างเล็กไว้แน่นกว่าเดิม เมื่อเนื้อตัวเธอสั่นเทา อย่างหนัก
“จะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายมิล หากยังมีผมอยู่ตรงนี้เข้าใจไหมครับ “มือหนาทั้งสองข้างพลันเลื่อนมากุมใบหน้างามไว้ หลวม ๆ ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากพวกแก้มนวลอย่างอ่อนโยน เช่นเดียวกับน้ำเสียงที่นุ่มละมุนฟังแล้วดุจใยไหมทุกคำพูด
“มะ..มิลเชื่อแพทนะ ถ้ามิลไม่เจอแพทที่นั่นครั้งแรก มิล..อึก ~ คงถูกไอ้เลวนั่นทำร้าย..ฮื้อ ~”
“มันผ่านมานานแล้วอย่านึกถึงมันอีกเลยครับ…มิลนอนต่อเถอะนะที่รักของผม “ริมฝีปากหนาพลางเลื่อนขึ้นบรรจงจูบหน้าผากมน
“ค่ะ”
มือหนาขยับหมอนใบใหญ่ให้เธอหนุน ก่อนจะล้มตัวนอนกระชับกอดร่างเล็กไว้แน่นเช่นเดิม เขาเชื่อว่าท่อนแขนทั้งสองจะช่วยให้เธออุ่นใจไร้กังวล และ ปลอดภัยจากทุกสิ่ง หากมีเขาอยู่ เคียงข้าง
วันต่อมา ~~
ปึก! ปึก! ปึก! พับ ๆๆ !!!!!
“อ้า ๆๆ ~ สะ..เสียวจังอือ ๆ อี้ ~~พะ..แพทขามิลเสียวอ๊า ๆๆ ~~ “ร่างเล็กเชิดหน้าร้องครวญครางเสียงกระเส่า เมื่อถูกความเสียวเล่นงานอย่างหนักหน่วงจนแทบขาดใจ ฝ่ามือเล็กทำได้เพียงแค่ขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายความรู้สึก ซึ่งผลมาจากการกระทำอันบ้าคลั่งของชายหนุ่มด้านหลัง เขากำลังถาโถมแรงทั้งหมดกระหน่ำเข้าออกในร่องรัก จนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นทั่วห้องนอนใหญ่
เมื่อได้ฟังมุมปากหนาจึงแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ ขณะมือหนาจับบั้นท้ายงอนงามแน่น ท่อนเอ็นใหญ่อัดกระแทกเข้าออกในช่องทางรักอันคับแคบระรัวเร็ว โดยที่น้ำรักฉ่ำเยิ้มชโลมตามท่อนลำมันวาว ก่อนจะหยดแหมะลงบนเตียงตามจังหวะ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูดันแทรกเข้ามารบกวน พลันให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียอารมณ์เป็นอย่างมาก ทว่ากลับไม่สนใจและ สิ่งที่ดึงความสนใจได้ชะงัด มีเพียงร่องรักตรงหน้านี้เท่านั้น
ปึก! ปึก! ปึก ๆๆๆ !!!
“พะ..แพท อือ ~~ พะ..พอก่อนค่ะ อ้า ๆ ~~ “ใบหน้างามเอี่ยวหลังกลับมาเอ่ยขอเสียงกระท่อนกระแท่น ประสานกับเสียงครางหวานฟังแล้วแทบไม่เป็นภาษา
ก๊อก!!!! ก๊อก!!!! ก๊อก!!!
เสียงเคาะประตูดังระรัวขึ้นอีกครั้ง ยามที่คนข้างในยังเงียบกริบ ไม่มีท่าทีว่าจะออกมา “อะ ๆๆ แพทคะพะ..พอก่อนนะ อื้อ ~~”
“โถ่โว้ย! อะไรกันนักกันหนาวะ! “แพททริคสบถคำหยาบคายออกมาอย่างโมโห ก่อนจะหยุดการกระทำตามที่หญิงสาวอันเป็นที่รักขอร้อง ทั้งที่ความต้องการยังพลุ่งพล่านไปทั่วร่างด้วยไฟแห่งกามราคะ จึงถอนแก่นกายใหญ่พลางคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวสอบแบบลวก ๆ
แกร๊ก ~~
“มึงอยากตายห…..!!!!!”
เพียะ!
ประโยคอันเกรี้ยวกราดเป็นต้องหยุดชะงัก เมื่อฝ่ามือใหญ่ของผู้เป็นพ่อฟาดเข้ามาที่แก้มสากอย่างจัง โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นโซนประสาทยังคิดว่าเป็นเหล่าลูกน้อง แต่ไม่เลยกลับกลายเป็นบุคคลที่เขาต้องหวั่นเกรงมากที่สุด
“เอาแต่คลุกอยู่แต่กลับผู้หญิงนะไอ้ลูกเวร!! “เรียวลิ้นสากดันเข้าหากระพุ้งแก้มที่โดนตบอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะจ้องมองผู้เป็นพ่อตาเขม็ง
“แล้วพ่อมีอะไร?”
“เดี๋ยวแกก็รู้เองว่ามีอะไร! ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาทีแต่งตัวไปเจอฉันที่ห้องใต้ดิน! “ทอลสั่งลูกชายด้วยน้ำเสียงขึงขัง ก่อนจะสาวเท้าจากไปทันที การกระทำของผู้เป็นพ่อพลันให้มาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างหงุดหงิด
เวลาต่อมา ~~~
แกร๊ก
มาเฟียหนุ่มในชุดธรรมดาเสื้อยืดกางเกงยีน ได้ผลักบานประตูห้องใต้ดินเข้ามาตามสั่งของผู้ทรงอำนาจที่สุดในชีวิต เหล่าลูกน้องต่างพากันก้มหลังทำความเคารพนายน้อย
“พ่อมีอะไรก็รีบพูดมา? “น้ำเสียงรบเร้าจากลูกชายเอ่ยถาม ทอลจึงหันไปเลิกหน้าขึ้นสั่งให้ลูกน้องนำของบางอย่างส่งให้ลูกชาย ซึ่งใบหน้าอันเต่งตึงคล้ายหนุ่มอายุสามสิบต้น ๆ ทั้งที่อายุตอนนี้ห้าสิบกว่าแล้ว เต็มไปด้วยอารมณ์โทสะ
“อะไร? “แพททริคขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจรวมถึงหัวใจแกร่งกระตุกวูบวาบกะทันหัน เมื่อของในมือมีแต่ภาพของหญิงอันเป็นที่รัก และ ชายหนุ่มอีกคนที่ไม่รู้จัก ยืนกอดกันอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งหลายภาพ ทำให้ให้เปลวไฟในดวงตาลุกโชนขึ้นทันที
“แกก็ไม่ใช่คนโง่นะ! ทำไมเรื่องผู้หญิงถึงโดนหลอกเอาได้ง่าย ๆ วะ! ผู้หญิงดี ๆ มีตั้งเยอะแยะ ดันเอาผู้หญิงกลางคืนมาเป็นเมีย!”
“พ่อหมายความว่ายังไง!? “แพททริคตวาดถามเสียงห้าว ยิ่งผู้เป็นพ่อพูดเขายิ่งสับสนว้าวุ่นใจจวนจะคลั่ง
“ตั้งแต่แกมีผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิต แกเสียอะไรไปบ้าง ถามตัวเองดูซะ!”
ปัง!
ทอลทิ้งคำถามอันน่าสงสัยและภาพในมือลูกชายไว้แค่นั้น ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องใต้ดิน โดยมีลูกน้องคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลังตลอดเวลา ขณะที่แพททริคครุ่นคิดอย่างหนักในดวงตาของเขาฉายแววของความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง ยามที่ปะติดปะต่อเรื่องราวตามประโยคของผู้เป็นพ่อ เขาไม่เคยสนใจเรื่องไหนเลยตั้งแต่มีมิลเข้ามา ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจ กาสิโน ผับ หรือ งานบริษัทที่ไทย ต่างทิ้งให้ลูกน้องเป็นฝ่ายดูแล จนหุ้นตกต่ำ รวมถึงข้อมูลธุรกิจยังหลุดถึงมือศัตรู ทว่าเขากลับไม่คิดจะจัดการ เนื่องจากเธอคือความสนใจหนึ่งเดียวของเขา ไม่หนำช้ำยังคิดจะวางมือจากทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นใหม่ หากถามว่าสิ่งที่ตนละเลยนั้นไม่มีใครสักคนเตือนเลยหรือ….? ทุกคนพยายามเตือนสติและเอ่ยถึงปัญหา แต่เขาเองกลับดื้อด้านไม่ยอมฟังใคร
“นายมีอะไรหรือเปล่าครับ? ผมเห็นนายใหญ่เพิ่งออกไปหน้าเครียดเชียว “ไทม์ลูกน้องคนสนิทรีบเร่งเข้ามาเอ่ยถามความเป็นมาจากผู้เป็นนายทันที ทว่ายามที่เจ้านายหนุ่มหันกลับมาดวงตาวาวโรจน์กลับ เต็มไปด้วยสีแดงก่ำอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงถามต่อเสียงติดขัด “นะ..นายโอเคไหมครับ ? “
“มึงไปสืบเรื่องไอ้ผู้ชายในภาพนี้มาให้กูเดี๋ยวนี้ รวมถึงมิลมาให้มากที่สุด!”
“ครับนาย “ไทม์น้อมรับคำสั่งทันที ก่อนจะรีบเร่งสืบความตามหน้าที่ หากช้ากว่านี้ต้องถูกผู้เป็นนายฆ่าเอาเป็นแน่
“…” ใบหน้าสง่างามกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง จนไม่สามารถคาดเดาอารมณ์และความรู้สึกได้ มือหนาทั้งสองข้างพลางกำหมัดแน่น ตระหนักและไตร่ตรองเรื่องราวที่ผ่านมาหลังจากไร้สติปัญญาราว ๆ เกือบสองปี
" ฉันจะทำให้พี่เธอรู้จักการสูญเสียเหมือนที่มันทำกับพี่ชายฉัน คนทรยศ อย่างมันต้องตาย หรือการตายสำหรับมันจะง่ายไป เธอคิดว่าไงล่ะ ? " "อย่าทำอะไรพี่ชายลินเลยนะคะ "
เขาแต่งงานกับเธอเพราะผลประโยชน์ แต่เธอแต่งงานกับเขาเพราะรัก อีกทั้งพี่สาวยังเป็นแฟนเก่าของเขา....
“โดนกูเปิดบริสุทธิ์ตั้งแต่คืนเข้าหอ จนถึงตอนนี้มี คxx ของไอ้ตัวไหนกระแทกส่วนนั้นของมึงบ้างแล้วล่ะ?”
พระเอกซึ่งเป็นหมอเจ้าของโรงพยาบาล และ เป็นมาเฟีย เขาถูกบังคับให้หมั้นกับนางเอก เธอเป็นนักเขียนนิยายอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
เรื่อง สลับรักยัยเลขาฝาแฝด โปรย...หญิงสาวฝาแฝด ที่พบกันโดยบังเอิญ พวกเธอเกิดความสงสัยแล้วอยากจะหาความจริงกับเรื่องนี้ คนหนึ่งเก่งฉลาด อีกคนน่ารักเรียบร้อย แนะนำตัวละคร กัญญารัตน์ วัชรจิรกุล (กรีน) อายุ 26 ปี ลูกสาวคนเดียวของคุณภูมิพัฒน์ กับ คุณศิริวรรณ เรียนจบมาจาก เยอรมัน แต่ด้วยที่ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียว จึงต้องมาเรียนรู้งานในไร่กาแฟ ตอนแรก เธอก็อยากจะไปหาประสบการณ์ ในสิ่งที่ตัวเองเรียนมา แต่ก็ถูกผู้เป็นมารดาขอร้องให้มาช่วยงานคุณพ่อซะก่อน เพราะพ่อของเธอก็อายุมากแล้ว เธอจึงยอมมาเรียนรู้งานในไร่กาแฟ ไร่ที่ทำให้เธอ ได้ไปเรียนเมืองนอก ไร่ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัวเธอ และตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว เธอได้มาทำงานแทนผู้เป็นบิดา ได้เต็มตัวแล้ว เธอมีเพื่อนที่สนิทคนหนึ่งชื่อ อคิณ เป็นเจ้าของไร่ชา ที่อยู่ติดกับไร่กาแฟของเธอ เควิน เตชะวงศ์วรากุล (คุณเค) อายุ 35 ปี นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เป็นผู้ชายที่สาวๆ ต่างหมายปอง เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย ก็ไม่แปลกที่จะมีสาวๆ เข้ามาหา "ผมเป็นผู้ชายนะครับ มีผู้หญิงมาทอดสะพานให้ถึงที่ ผมก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษหน่อยสิครับ จะปล่อยผ่านได้ยังไง ผมขึ้นเตียงกับพวกเธออยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกคนผมก็จะตกลงกับพวกเธอว่าไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น แฟนเหรอ...ผมไม่คิดจะมีหรอก แค่งานก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ขออยู่แบบโสดๆ แบบนี้ดีกว่า อีกอย่างผู้หญิงพวกนั้นเข้ามา ก็เพราะเงินของผมทั้งนั้น เวลาที่ผมนอนกับพวกเธอแต่ละคน ผมไม่ได้เอาฟรีๆ หรอกนะครับ ผมจ่ายหนักทุกครั้ง ส่วนยัยเลขาของผมก็งั้นๆ ผมไม่เคยคิดอะไรกับเธอ ถึงเธอจะสวย เธอเป็นคนวางตัวดี คนดีอย่างผมไม่กินไก่วัดหรอกครับ เธอทำงานกับผมมาสามปี ทำงานก็พอใช้ได้ก็ทั่วๆไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ไม่ใช่ว่าเธอทำงานไม่ดีนะครับ แต่มาตรฐานของผมคงจะสูงไป" กัญญาณี วรกฤตติกา (แกรนด์) อายุ 26 ปี หญิงสาวตัวเล็กผิวขาวตาโต ขนตายาว เธอเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอทำงานเป็นเลขาให้เควินมาสามปี เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร พูดน้อย ตั้งใจทำงานและเธอก็ทำงานของเธอได้เป็นอย่างดี ไหนจะงานราษงานหลวง แล้วแต่บอสของเธอจะสั่ง และเธอก็เบื่อชีวิตในเมืองหลวงมาก เมืองที่มีแต่ความแออัด รีบเร่ง วุ่นวาย รถก็ติดอากาศก็มีแต่มลพิษ แล้วก็งานเลขาที่มีเจ้านายเจ้าชู้ เข้มงวด เนียบ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เธออยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นชีวิตที่เธอใฝ่ฝัน อคิณ ทวีทรัพย์ธาดา (คิณ) อายุ 26 ปี "ผมอคิณ เจ้าของไร่ชา อายุอานามก็พอๆ กับกรีนนั่นแหละครับ เพราะผมกับกรีนเป็นเพื่อนกัน เราเรียนมาด้วยกัน พอโตมา เราก็สนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ นั่นแหละครับ พูดถึงเพื่อนผม ความอ่อนหวานสักนิดก็ไม่มี ทำงานก็อย่างกับผู้ชาย แถมมันยังดุมากอีกด้วย เวลามันดุลูกน้องที่ทำงานผิดพลาดนะ ผมนี่ขนลุกเลย ถ้าผมเอามันมาเป็นเมียนะ ผมได้แม่เพิ่มมาอีกคนนึงแน่ ฮึ้ยยยย!! แค่คิดก็ขนลุก แต่ผู้ใหญ่นี่สิครับ รวมถึงไอ้น้องเวรของผมด้วย อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้ แต่ผมไม่เล่นด้วยหรอกครับ ขอเป็นเพื่อนกับมันแบบนี้ไปนานๆ ดีกว่า" บทนำ ณ ไร่กาแฟที่เป็นบ้านเกิดของหญิงสาวที่มีนามว่ากรีน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาว หน้าตาน่ารัก ผมยาวรูปร่างทะมัดทะแมง เธอทำงานในไร่ ได้เหมือนคนงานคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เธอทั้งสวยและเก่งแถมยังฉลาด พูดจาฉะฉาน กำลังเดินตรวจงานในไร่ ไร่ที่ผู้เป็นบิดาสร้างไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของท่าน ที่ท่านเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ กรีนเธอเป็นผู้หญิงเก่ง ถึงตัวเธอจะเล็กแต่เธอก็สู้งาน ทำงานในไร่ได้เสมือนกับลูกน้องของเธอทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่เธอเรียนจบจากต่างประเทศมา เธอก็อยากจะมีประสบการณ์ในการทำงานที่เธอได้ศึกษาเรียนรู้มา ที่ไม่ใช่ไร่ของเธอ เธอเรียนด้านบริหารธุรกิจ และยังพูดได้ตั้งหลายภาษาด้วยความเก่งและหัวดีของเธอ ทำให้เธออยากจะลองไปใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมา และในขณะเดียวกันก็มีผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับเธออย่างกับแกะมีนามว่า แกรนด์ เธออยู่เมืองหลวงของประเทศไทยตั้งแต่เกิด
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด