พี่สาวหนีการแต่งงานทำให้ กิมฮวนผู้มีใบหน้างดงามราวอิสตรีจำต้องแต่งกับอ๋องไร้ใจ
พี่สาวหนีการแต่งงานทำให้ กิมฮวนผู้มีใบหน้างดงามราวอิสตรีจำต้องแต่งกับอ๋องไร้ใจ
“พี่สาวของเจ้าหนีออกจากบ้านไปกับคนรักของนางข้าให้แต่งกับท่านอ๋อง กับเล่นแง่ อ้างว่าอ๋องผู้นี้โฉดชั่วไม่มีหญิงใดอยากเข้าใกล้ ทั้งๆที่อ๋องไป๋กวานหล่อเหลา อีกทั้งยังไร้ซึ่งชายา”
“ท่านพ่อ กิมฮวนไม่มีสิ่งใดช่วยท่านได้ท่านก็รู้ดี”
ทอดอาลัยในน้ำเสียง
“กิมฮวน หากไม่แต่งเจ้าคิดถึงการภายหน้า ท่านอ๋องไป๋กวานผู้นี้ เหี้ยมโหดไร้ปรานี เจ้าคิดว่าบิดาเจ้าจะมีชีวิตรอดได้อย่างไรอีกทั้งตระกูลถังของเรามิต้องล่มจมไม่ได้ผุดได้เกิดหรือไร โธ่ตระกูลถังที่สั่งสมบารมีมายาวนานมีอันต้องตกต่ำในขณะที่ข้าและพวกเจ้ายังมีชีวิตหรือไร”
“แต่ท่านพ่อก็รู้ว่าข้า…”
กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
“เจ้างดงามดังอิสตรีอีกอย่างกิริยาเจ้าก็งดงามยิ่งกว่าพี่สาว ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเป็นชายด้วยซ้ำไป ข้าเองเก็บซ่อนแม่เจ้าไว้ที่นี่ ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเป็นหญิงหรือชาย กิมฮวนถือว่าบิดาขอร้องเจ้า แต่งแทนพี่สาวเจ้ารอให้ทุกอย่างผ่านไปข้าจึงจะแก้ไขเรื่องราวได้ตอนนี้ข้าอับจนหนทางคิดสิ่งใดไม่ออกจริงๆ”
“ท่านพ่อ”กิมฮวนทรุดกายลงนั่งอับจนหนทาง
“กิมหยงเจ้าช่วยพูดกับเขาให้ข้าที”
มารดานั่งนิ่ง ไม่ยอมเอ่ยคำมาแต่ต้นกลับเดินเขามาลูบหลังให้กิมฮวนเบาๆ
“กิมฮวน หากยอมทำเรื่องนี้ ให้บิดาเจ้าต่อไปแม่จะไม่ขอร้องสิ่งใดจากเจ้าอีก”ใบหน้างาม ก้มมองมือตัวเองที่เรียวบางดังมือหญิงสาวในหอคณิกา ทว่ากับด้านแข็งเพราะทำงานแบกหาม
“พี่สาวเจ้าหนีไปเมื่อรุ่งสาง ข้าแอบนำเกี้ยวมารับเจ้ากิมฮวน ท่านอ๋องไม่เคยเห็นหน้าเจียจิวเจ้าก็แค่ช่วยข้านึกว่าตอบแทบบุญคุณที่ให้เกิดมา อีกอย่างใบหน้าของเจ้าไม่ต่างจากพี่สาวเจ้า เช่นไรจึงปฏิเสธที่จะช่วยข้าเล่า”
ตอบแทนบุญคุณที่ให้เกิดมาหลายปีมานี้หากไม่มีเรื่องร้อนใจบิดาเช่นไรจึงจะมาเยี่ยยมกรายที่กระท่อมพุพังนี้กัน
“ท่านพ่อกิมฮวน เป็นลูกของท่านที่ผ่านมาท่านดีกับข้ามาตลอดแต่การหลอกลวงเบื้องสูง บางที่การพูดความจริงว่าพี่สาวหนีไปเสียท่านอ๋องอาจปรานี”
“ไม่มีคำว่าปรานี อ๋องไป๋กวานใครบ้างจะไม่รู้ว่าโหดร้ายเพียงใดไม่ถามไถ่ก็ฆ่าแกงง่ายดายผิดกับใบหน้าที่หล่อเหลานั่น”
รู้ถึงเพียงนั้นก็เท่ากับผลักกิมฮวนให้ตกเหว
“ท่านพ่อข้า ข้า”
“กิมฮวนได้โปรด ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากหลอกลวงผู้ใดเจ้าน้ำใจงามเช่นมารดาอีกทั้งยังไม่เคยคดโกงใครทว่าครั้งนี้เป็นความเป็นความตายของบ้านถังเจ้าควรจะ เห็นแก่ข้าบ้าง”
นับว่าแปลกยิ่งที่ใต้เท้าถังยอมขอร้อง
“แล้วต่อจากนั้นเล่า ข้าเช่นไรจึงจะเอาตัวรอดหากท่านอ๋องรู้ความจริง”
“กิมฮวน บางที่หากท่านอ๋องรู้ว่าเจ้าเป็นชาย อาจอับอายจนไม่กล้าเปิดเผยความจริง เมื่อนั้นเจ้าก็แค่...ถอยออกมาเงียบๆ ”
กิมฮวนก้มหน้านิ่ง
“เกี้ยวมารอรับที่ด้านหน้าแล้ว กิมฮวนฤกษ์เข้าหอใกล้เข้ามาแล้วรีบไปเถิด”
ชุดแดงสดใสสะบัดขึ้นห่มคลุมร่างอ้อนแอ้นราวหญิงงามในภาพวาดของจิตกรเอกผิวขาวอมชมพูริมฝีปากแดงระเรื่อ เผลอขึ้นก่อนจะงับเอาสีชาดแดงระเรื่อป้ายไปบนริมฝีปากบางหยักได้รูปทั้งๆ ที่ กิมฮวนเป็นบุรุษอายุ18ปีแต่ด้วยมีมารดาที่เลี้ยงดูเพียงลำพัง ใบหน้างดงามที่ละม้ายพี่สาวร่วมบิดา บางครั้งถึงกับมีคนทักผิด
กิมฮวนนั่งบนเกี้ยวที่โยกเยกไปมา ภายในใจสงบร่มเย็นไม่ได้มีความรู้สึกตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ป้ายหน้าจวนอ๋องที่มองเห็นแต่ไกล
...จวน เทียมเมฆ...
ไม่มีงานแต่งไม่มีสุรามงคลไม่มีแม่สื่อมีเพียงเกี้ยวสีแดงที่ถูกหามเข้ามาก็เท่านั้นอีกทั้งหญิงสาวไม่ใช่หญิงสาวทุกอย่างผิดที่ผิดทาง
“พระชายา ท่านอ๋องให้ท่านรอที่ห้องหอ ยามซวี (19.00-20.59) ท่านอ๋องจึงจะกลับจากวังหลวงตอนนี้ท่านอ๋องถวายงานฝ่าบาทหารือเรื่องในราชสำนัก”
กิมฮวนเพียงแต่พยักหน้าน้อยๆ ก้าวขาเข้าไปในจวน ไม่ได้เอ่ยคำใด
แสงไฟจากเปลวเทียนสีส้มแดงสลัวๆ ทั่วห้อง มือเล็กประสานกันตรงหน้านั่งลงบนแท่นนอนนิ่งงัน สลัดความคิดในหัวที่มีทั้งความกลัวและความตื่นเต้นทิ้งไปเสีย กลัวมากแล้วช่วยอะไร ไม่กลัวเสียอีกจึงจะคิดหาทางเอาตัวรอดได้
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY