ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ชายสองคนในคราเดียว ยิ่งฉันหนี พวกเขาก็ยิ่งตาม! “ไอ้พระรามมันเคยทำกับน้องกูแบบไหน กูก็จะทำกับน้องมันแบบนั้นแหละ!” ปึง! ไดมอนด์วางแก้วเหล้ากระทบกับโต๊ะกระเบื้องอย่างแรงเพื่อระบายความรู้สึก เมื่อนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต “กูขอเวลาสองเดือน กูจะปิดจ๊อบน้องมันให้ได้” “สองเดือนเลยหรอวะ ระดับคุณไดมอนด์แค่เดือนเดียวก็พอมั้ง?” “ไม่มีปัญหา เดือนเดียวก็เดือนเดียวสิวะ” “แล้วมึงอ่ะไอ้ดิน เห็นด้วยกับไอ้มอนด์หรือเปล่า?” เพื่อนชายในกลุ่มหันไปถามแผ่นดินที่เอาแต่นั่งกอดอกเงียบตั้งแต่มาถึง “เอาดิ! ช่วงนี้กูว่าง ไม่มีอะไรทำ” แผ่นดินแบบไม่ใส่ใจมากนัก “ใครที่ปิดจ๊อบยัยนั่นได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ ตกลงไหม?” ไดมอนด์หันไปกอดคอแผ่นดินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเย้ยหยัน “ชนะแล้วได้อะไร?” “สามล้าน!” “กูขอห้าล้าน!” แผ่นดินต่อรองพร้อมกับหันไปจ้องหน้าเพื่อนชาย “ถ้าไม่ได้ห้าล้านก็ไม่เล่น เสียเวลา!” สิ้นประโยคนั้นเขาก็หยัดตัวลุกขึ้น แต่ถูกไดมอนด์คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน “ได้ดิ! ไม่มีปัญหา ห้าล้านก็ห้าล้าน”
07 : 30 น.
“ยัยพาย ยัยพาย เสร็จหรือยังลูก ตอนนี้มันสายมากแล้วนะ” เสียงของผู้เป็นแม่ร้องเรียกลูกสาวด้วยความรีบร้อน ในขณะที่หญิงสาวกำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก
พระพายยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ วันนี้เป็นวันแรกในการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าสู่สังคมใหม่ๆ
“เสร็จแล้วค่ะแม่” คนตัวเล็กตอบกลับ พลางรวบผมยาวสีดำสลวยมัดเป็นหางม้า แล้วหยิบแว่นตากรอบหนาขึ้นมาสวมใส่
“รีบไปกันเลย เดี๋ยวจะสายเอา”
“…..”
บนรถ
“ลืมอะไรหรือเปล่า เตรียมของหมดแล้วใช่ไหม?” แม่ทวนคำถามอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่แค่ลูกสาวที่รู้สึกแบบนั้น คนเป็นแม่ก็ดีใจไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าพระพายจะอายุสิบเก้าปีแล้ว แต่ในสายตาของคนเป็นแม่ ลูกก็ยังคงเป็นเด็กอยู่เสมอ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“นมกับขนมปัง แม่ใส่กระเป๋าไว้ให้แล้วนะ อย่าลืมกินด้วยล่ะ”
“ไม่ลืมค่ะแม่”
“ตั้งใจเรียนนะ เอาไว้ตอนเย็นเดี๋ยวแม่จะมารับ” ผู้เป็นแม่โน้มใบหน้าไปหอมแก้มลูกสาวด้วยความเอ็นดู
“โอเคค่ะแม่ แล้วเจอกัน” พระพายตอบกลับ พร้อมกับเปิดประตูลงจากรถมา
Hugo University
ตึก ตัก ตึก ตัก เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างเร่งรีบ พร้อมกับดวงตากลมโตที่สอดส่องมองไปรอบๆ บริเวณนั้นทันทีที่เดินมาถึงตึกคณะ แต่เธอก็ไม่เห็นบุคคลที่กำลังตามหา มือบางล้วงควานหาสมาร์ตโฟนในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะต่อสายหาใครสักคน
ติ๊ดดดด ต่อสายเพียงไม่นาน ปลายสายก็กดรับ
“ฮัลโหลดาหวัน ตอนนี้แกมาถึงหรือยัง?” หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนสนิท เมื่อไม่เห็นเพื่อนสาวตามที่ได้นัดกันไว้ ดาหวันคือเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้มาเรียนคณะเดียวกันอีก
(ใกล้ถึงแล้ว แกรอฉันอีกแป๊บนึงนะ อย่าเพิ่งไปไหน) ปลายสายตอบกลับด้วยความรีบร้อน
“แล้วแกจะให้ฉันยืนรอตรงไหน?”
(รออยู่ที่หลังตึก ตอนนี้ฉันกำลังเลี้ยวรถเข้ามอแล้ว)
“โอเคๆ รีบมานะ”
ติ๊ด! คนตัวเล็กกดวางสาย พร้อมกับเก็บสมาร์ตโฟนลงในกระเป๋า พลางรีบยกมือปิดจมูกเมื่อได้กลิ่นบุหรี่ที่ลอยคละคลุ้งอยู่ข้างๆ
มองไปรอบๆ เธอก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนแล้ว แต่ด้วยความรีบเธอเลยไม่ทันได้สังเกต พอมารู้ตัวอีกที ก็เป็นผู้หญิงคนเดียว ที่ยืนอยู่ในนั้น
ร่างบางหันไปมองยังต้นตอของกลิ่นนั่น พร้อมกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของผู้ชายคนนั้น สีผมดำขลับตัดกับสันจมูกโด่งคมของเขา มันทำให้เธอหลุดเข้าไปในภวังค์ความหล่ออยู่ชั่วขณะ
เมื่อรู้สึกว่ามีสายตากำลังจ้องมอง แผ่นดินจึงหันไปสบตากับเธอแบบตรงๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่สวมใส่แว่นกรอบหนาเท่าก้นแก้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเสื้อนักศึกษาตัวโคร่งพร้อมกระโปรงที่ยาวกับถึงตาตุ่ม มันก็ยังแสดงสัดส่วนโค้งเว้าของเธออยากชัดเจน
เมื่อได้สติคนตัวเล็กจึงก้าวถอยหลังเพื่อหนีจากกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างรีบร้อน ก่อนจะเซถลาไปชนแผงอกแกร่งของใครสักครั้งที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง โดยไม่ทันได้ระวัง
“อ๊ะ!” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ พร้อมหันขวับไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นผู้ชายอีกคน รูปร่างสูงโปร่งบวกกับผมสีเท่าหม่น มันยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูน่าเกรงขามมากขึ้นไปอีก
“…..” ดวงตาคู่คมของไดมอนด์จ้องมองคนตัวเล็กที่เพิ่งถอยมาชนเขาอย่างแรง
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” พระพายรีบกล่าวคำขอโทษ เมื่อเห็นสีหน้าหงุด
หงิดของเขา
“…..”
“เสน่ห์แรงนักนะมึง เปิดเรียนมาวันแรก ก็มีรุ่นน้องมาอ่อยถึงที่ซะแล้ว” ชายหนุ่มที่อยู่ในกลุ่มร้องแซว ก่อนจะมองหน้าของหญิงสาว กับเพื่อนชายสลับกัน
“อ่อย?” คนตัวเล็กทวนคำพูดนั้น ด้วยความไม่เข้าใจ เธอไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่อ่อยแบบที่เขาพูด
“เด็กปีหนึ่งหรอเราอ่ะ?” เพื่อนในกลุ่มเอ่ยถาม ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่บริเวณนั้น ต่างพากันหันมามองเธอเป็นตาเดียว
“ใช่ค่ะ” ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ พลางกอดกระเป๋าสะพายไว้แน่น สายตาของพวกเขาที่มองมา มันทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
“อยู่คณะอะไร?”
“คณะอักษรศาสตร์ค่ะ” คนตัวเล็กตอบกลับอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก เธอเลยยังไม่รู้จักใคร ในใจตอนนี้ ภาวนาให้เพื่อนสาวของเธอมาไวๆ จะได้รีบออกไปจากตรงนี้เสียที
“ขณะเดียวกันกับเมียมึงซะด้วย”
“…..” ไดมอนด์เอาแต่ยืนเงียบ จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้น
“พูดถึงก็มาพอดี ตายยากฉิบ!” เพื่อนชายอีกคนพูดแทรกขึ้นเมื่อเห็นดาวแฟนสาวของไดมอนด์เดินมาพอดี
“นินทาอะไรฉันอยู่ อย่าคิดว่าไม่รู้นะ” ดาวถามอย่างหยอกล้อด้วยความสนิท ก่อนจะหอมแก้มแฟนหนุ่มต่อหน้าเพื่อนทุกคนเหมือนที่ชอบทำ แต่วันนี้ผิดปกติ เมื่อไดมอนด์ไม่ได้สนใจเธอเหมือนทุกวัน
“…..”
“ไดมอนด์คะ ไดมอนด์!”
“อะไร?” ชายหนุ่มถามกลับ พลางหันกลับไปมองที่แฟนสาว
“คุณมองอะไรอยู่คะ?”
“ยุ่งน่า” ไดมอนด์ตอบแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะละสายตาจากพระพายแล้ว
กลับมามองแฟนสาวของตัวเอง
“…..” เมื่อสบจังหวะ พระพายจึงรีบเดินถอยออกมาจากตรงนั้น
“ถ้าเหม็นกลิ่นบุหรี่แล้วจะมายืนใกล้ทำไม ถอยไปสิ” แผ่นดินจิ๊จ๊ะในลำคอด้วยความหงุดหงิดเมื่อคนตัวเล็กเดินเข้ามาใกล้ ในขณะที่เขายืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้นพอดี เขาเป็นเพื่อนสนิทกับไดมอนด์ คนที่เธอเดินชนเมื่อกี้
“เมื่อกี้เธอทำรองเท้าฉันเลอะ จะรับผิดชอบยังไง?” ไดมอนด์เดินเข้าหาคนตัวเล็กอย่างเอาเรื่องเพราะเมื่อกี้เธอเผลอเหยียบรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่เขาเพิ่งซื้อมาในราคาหลายหมื่น
“…..” ดวงตากลมโตหันซ้ายมองขวา เพราะไม่รู้จะไปทางไหน เมื่อผู้ชายทั้งสองต่างพากันจับจ้องหันมามองเธอเป็นตาเดียว
“มึงอยากจะคิดยังไงก็เชิญ แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่ากูไม่เคยรักมัน” “......” “เรยามันก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วๆ ไป ใช้แค่เศษเงินแลกไม่กี่บาทกูก็ได้เอาแล้ว” เคร้งงงง เสียงแจกันที่อยู่แถวนั้นหล่นแตกกระจัดกระจาย เมื่อฉันเดินถอยหลังไปชนแบบไม่ตั้งใจ ทำให้คนที่อยู่ในห้องต่างพากันหันมามองตามเสียง รวมถึงคุณใหญ่ที่กำลังมองมาในแววตาของเขาที่มองฉัน มันไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรอยู่เลย มันมีแต่ความว่างเปล่า น้ำตาของฉันมันค่อยๆ ไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง เมื่อได้ยินประโยคที่พวกเขานั้นพูดคุยกันก่อนหน้านั้น ที่ผ่านมาคุณใหญ่ไม่เคยรักฉัน มีแต่ฉันที่คิดไปเองว่าเขานั้นรัก แล้วทำไมเขาถึงต้องมาวาดฝันร่วมกับฉัน ให้ฉันคิดไปไกลคิดไปเองคนเดียว ทั้งๆ ที่ความรู้สึกเล่านั้น มันไม่เคยมีอยู่จริง! “แสดงว่าที่ผ่านมา คุณหลอกฉันมาโดยตลอด” ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มันเจ็บเหมือนใจมันจะขาดที่ได้เห็นภาพตรงหน้า “ช่วยไม่ได้ เธอมันโง่เอง!” “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม!?” ฉันกรีดร้องลั่นออกมาจนสุดเสียงที่มี สติของฉันตอนนี้มันแทบไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว “ผู้ชายเวลามันอยากเอา มันก็ทำได้หมดนั่นแหละ!” “......” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันจึงเงียบไม่พูดอะไรต่อ มันหมดเรี่ยวแรงแล้วตอนนี้
เพล้ง! โจเซฟเขวี้ยงแก้วเหล้าที่อยู่ในมือทิ้งลงบนพื้นจนแตกละเอียดกระ จัดกระจายเมื่อนั่งดูคลิปของกล้องวงจรปิดที่พึ่งกู้คืนกลับมา เขาเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ทั้งหมดว่ามันเป็นแผนของดารินที่เป็นคนจัดฉากนี้ขึ้นมา ที่ผ่านมาเธอคงหลอกใช้เขาและเห็นเขาเป็นแค่ทางผ่านเพื่อไปหาเหมันต์ ไม่ว่าจะพยายามติดต่อหรือใช้เบอร์แปลกโทรไปหา เธอก็รู้และไหวตัวทันไม่ยอมรับสายมันยิ่งทำให้แน่ใจขึ้นไปอีกว่าเรื่องที่ผ่านมาเขากลายเป็นหมากที่ดารินวางไว้ “คิดจะทำแบบนี้กับฉันงั้นเหรอ แล้วเธอจะได้รู้ว่านรกบนดินมันเป็นยังไง” ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มพลางมองไปยังรูปถ่ายของดารินที่มีทุกอริยาบถนับร้อยนับพันรูปที่ติดอยู่บนผนังในห้องลับส่วนตัว เขาแอบถ่ายไว้สมัยเรียนมัธยมปลาย ซึ่งเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน “เบบี้ของฉัน อดใจรออีกนิดนะ เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอมาอยู่ด้วยกัน ใบหน้าคมคายโน้มลงไปจูบที่รูปถ่ายของดารินด้วยความหลงไหลและโกรธแค้นไปพร้อมๆ กัน “ฉันแทบจะอดทนรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วสิ”
จากแฟนเก่าสุดรักครั้งวัยเด็ก ที่เคยเลิกรากันไปนานถึงห้าปี แต่พรหมลิขิตชักพาให้เขาสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในสถานะท่านประธานกับเลขา ________________________ “นายเลิกยุ่งกับฉันได้ไหม ขอร้องละ” ริสาหดลำคอถอยหนีด้วยความกลัว เมื่อก่อนเคยโมโหร้ายยังไง ตอนนี้เขายังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน “แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้น!?” “....” หญิงสาวน้ำตาคลอเมื่อคนตรงหน้าไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ “เมียเก่าของฉันดูน่าสงสารจังเลยนะ” “เลิกแกล้งฉันสักทีได้ไหม จะทำร้ายความรู้สึกฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน?” “พอโดนฉันเอาคืนแค่นี้ ถึงกลับทนไม่ได้เลยเหรอ?” “แล้วต้องให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันชดใช้ยังไงก็บอกมาสิ” “มันชดใช้แทนกันไม่ได้หรอก เพราะฉันเจ็บปวดกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ” “ฉันก็เจ็บปวดไม่แพ้นายนั่นแหละ” “ถ้าเจ็บปวดแล้วทำไมไม่กลับมา ทำไมต้องทิ้งฉันไปแบบนั้น!” “....”
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"