หล่ออะ!!...รวยอะ!!...เท่อะ!!...ทำไงได้...ถ้าจะมีใครอยากจูบไม่เว้นแต่ละวัน ก็คนมันป๊อปปูลาร์ เดินไปไหนมาไหน สาว ๆ ก็รุมกรี๊ดรุมทึ้ง ทั้งของขวัญ ของฝาก ทั้งขนม น้ำดื่ม จะเอาอะไรก็มีแต่คนประเคนให้...แต่!!...เพราะความหล่อเป็นเหตุ เทสที่สร้างกับร่างที่เป็น จึงแตกต่างกันคนละขั้ว ภายในใจลึก ๆ แล้ว เคนโซ ออกจะเบื่อหน่ายกับความป๊อปปูลาร์ของตัวเองเสียด้วยซ้ำ เขาไร้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง อยากแคะขี้ฟันต่อหน้าคนเยอะ ๆ ก็ทำไม่ได้ อยากตดเสียงดัง ๆ ก็ทำไม่ได้ อยากใส่เสื้อผ้าธรรมาด๊าธรรมดาก็ใส่ไม่ได้ อยากกินข้าวข้างทางก็กินไม่ได้ และทุกคนที่เข้ามาก็ล้วนหาความจริงใจไม่ได้เช่นเดียวกัน...เบื่อเน๊อะว่ามะ!! ที่ต้องดูดีและตีสองหน้าตลอดเวลา... แต่!!...ใครจะไปคิดล่ะว่า เอวาน หนุ่มน้อยหน้าละอ่อนจะช้อนหัวใจรุ่นพี่ปีสี่อย่าง เคนโซ ไปได้...ถ้าเทสเราไม่ตรงกันมันจะไปด้วยกันได้อย่างไร...ถ้าจะคบกัน ต้องนั่งรถเมล์ได้ กินต้มอึ่งไชโยได้ ใส่เสื้อผ้าร่วมกันได้ นอนเตียงเดียวกันได้ อาบน้ำด้วยกันได้ ตดใส่หน้ากันได้ เรอใส่หน้ากันได้ และสำคัญที่สุด...นายกล้าจูบเราต่อหน้าคนเยอะ ๆ มั๊ยล่ะ!!...ถ้ากล้า เราก็พร้อมจะบ้าไปกับนายนะ...หึหึ...ได้สิ!! เพราะจูบนี้จะเป็นจูบสุดท้ายที่พี่จะเอาจริง...รักแหละ ดูออก...เขินมั๊ย เอาดี ๆ
โดย : ซัมพอ
====================
...ตึก!!...
“อะ!! สำหรับเธอ กุชชี่ใบเดียวก็น่าจะปิดปากเธอได้นะ”
“ขอบคุณมากค่ะรุ่นพี่”
พูดจบ หญิงสาวกำลังจะโน้มคอของเคนโซลงไปหอมแก้ม เพื่อเป็นการขอบคุณด้วยความดีใจ แต่กลับโดนเขาเอามือสกัดห้ามไว้ก่อน ทำให้เธอถึงกับหน้าเสียและชะงักทันที
“หยุดนะ เธอไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวฉันอีกแล้ว ไปได้แล้ว”
“ค่ะ ค่ะ”
หลังจากได้รับกระเป๋ากุชชี่ราคาเรือนแสน ที่ถูกเคนโซโยนใส่ตัวขณะกำลังนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มขนาด 6 ฟุต กลางห้องสูทขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ใช้ระบบสัมผัสและเสียงในการสั่งการเกือบทั้งหมด หญิงสาวก็รีบคว้ากระเป๋ากุชชี่ใบสวยและเร่งเดินออกจากห้องไปทันที โดยที่ไม่สนใจใยดีกับพรหมจรรย์ที่เพิ่งเสียให้กับเขาไปเลยสักนิด
“เปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนและเตียงนอนใหม่ยกชุด”
“ได้ค่ะคุณหนู”
หลังจากหญิงสาวออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋ากุชชี่ เคนโซก็สั่งแม่บ้านให้เปลี่ยนชุดที่นอนใหม่ทั้งหมด เพราะเขาไม่อยากให้หญิงสาวคนใหม่ที่จะมาหาในเดือนหน้า ต้องนอนทับรอยหญิงสาวคนเก่าอีก และทุกครั้งมันก็จะเป็นเช่นนี้เสมอ จนทุกคนภายในบ้านรู้สึกชินกับการกระทำดังกล่าว โดยเฉพาะพ่อของเขา ที่มักจะเห็นลูกชายพาหญิงสาวมานอนค้างที่บ้านไม่ซ้ำหน้าสักราย
“พรุ่งนี้ตื่นไปเรียนด้วยล่ะ และเมื่อไหร่แกจะเลิกพาผู้หญิงพวกนั้นมานอนบ้านเสียที บ้านฉันไม่ใช่โรงแรมม่านรูดนะ”
ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด หลังจากที่เห็นหญิงสาวถือกระเป๋ากุชชี่เดินออกจากบ้านไปด้วยความดีใจ และคณะแม่บ้านต่างก็หอบหิ้วและขนชุดที่นอนออกไปทิ้งตามคำสั่งของลูกชาย
“หรือพ่อจะให้ผมพาผู้ชายเข้ามานอนในบ้านแทนละครับ”
เคนโซ ตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมกับสวมชุดคลุมอาบน้ำเพียงตัวเดียว
เขาและพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ หลังจากที่แม่เสียไปเมื่อ 10 ปีก่อน ด้วยอาการป่วยเรื้อรังจากการตรอมใจ ที่เห็นพ่อแอบซุกบ้านเล็กบ้านน้อยไว้ทั่วไปหมด ถ้าบ้านน้อยหลังไหนอยู่เป็นแม่ก็จะไม่ว่าอะไร แต่พ่อดันมีบ้านน้อยที่เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้ม แถมยังปล่อยให้มารุกรานแม่ถึงที่บ้าน แม่ทำใจยอมรับไม่ได้ที่พ่อหยามศักดิ์ศรีเกินไป จึงทิ้งเขาในขณะที่อายุได้เพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้น
เคนโซ ใช้ชีวิตด้วยการเลี้ยงดูจากป้าเจน ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของพ่อ และก็เงินของพ่อที่มีอยู่หลายพันล้าน เด็กหนุ่มกลายเป็นคนที่มีจิตใจแข็งกระด้าง ไม่รู้จักการมอบความรักให้กับใคร เขาแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยเงิน แม้กระทั่งการใช้เงินซื้อเพื่อน และก็ซื้อความรัก เพราะเขารู้ดีว่าหญิงสาวพวกนั้น ต้องการแค่เพียงข้าวของราคาแพง ๆ จากเขาก็เท่านั้นแหละ ไม่มีใครรักและจริงใจกับเขาสักคนหรอก “เงินเท่านั้นที่ Knock Everything” ...ก็แค่เด็กผู้ชายที่ขาดความรักความอบอุ่นอะเน๊อะ ชอบใช้เงินแก้ปัญหา...ก็รวยอะ...จะทำไม
++++++
...กรี๊ดดดดดดดด!! รุ่นพี่เคนโซ...หล่อมว๊ากคร่า...
“ไปแกตามไปเร็ว ๆ อร๊ายยยย!! ฉันจะละลายอยู่แล้วแกรรร!!”
“รุ่นพี่เคนโซ น้ำไหมคะ ขนมก็มีนะคะ”
“อันนี้ดีกว่าค่ะ ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สำหรับรุ่นพี่เคนโซโดยเฉพาะเลยนะคะ”
“แกรรร...จี...มันจีมว๊ากกกก...อร๊ายยยย!!”
สาว ๆ ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่นลั่นมหาวิทยาลัยเคนโซ ตั้งแต่ปากประตูทางเข้า ตามอาคารทุกชั้น เรื่อยไปจนถึงทางหมาลอดท้ายมหาวิทยาลัยก็ยังไม่เว้น ...ถ้าจะขนาดนี้ มึงพากันปิดมหาวิทยาลัย แล้วจัดคอนเสิร์ตกันเลยดีกว่ามั๊ย!!...
จะไม่ให้ตื่นเต้นกรี๊ดกร๊าดกันได้ไง ก็ในเมื่อหนุ่มฮอตสุดป๊อปปูลาร์ หล่อเท่สมาร์ทบาดใจ นามว่า “เคนโซ เกตส์” นักศึกษาชั้นปีที่สี่ เอกภาพยนตร์ เขาเป็นทั้งดารา นักร้อง นายแบบ ศิลปิน พระเอกซีรีย์ รวมทั้งเป็นลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเคนโซ มหาวิทยาลัยนานาชาติเก่าแก่อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ตั้งมาแล้วมากกว่า 100 ปี รองรับนักศึกษาทั่วทุกสารทิศจากทั่วทุกมุมโลกมาร่ำเรียน...ถ้าเงินไม่หนา อย่าคิดจะแหยมเข้ามาเรียนเป็นอันขาดนะ...เพราะที่นี่แหล่งรวมลูกคุณหนูมีตังค์ ถ้าบ้านไม่เท่าวัง ก็ต้องมีธุรกิจใหญ่โต...ก็นะ...รวยอะ...จะทำไม...
เคนโซ ค่อย ๆ ก้าวเท้าลงจากรถสปอร์ตแลมโบกีนีคันหรูสีแดงเลือดนก เขาเพิ่งขับเข้ามาจอดหน้าอาคารเรียนด้วยตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีดำ คอยเปิดประตูให้ ก่อนที่จะเดินอย่างสง่าเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเดียวกันกับเขา เพราะผู้เป็นพ่อตั้งใจเอาไว้ว่า หากได้ลูกชายจะตั้งชื่อเหมือนกันกับชื่อมหาวิทยาลัยของต้นตระกูล และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ...เคนโซ...
วันนี้ เคนโซ มาในชุดเสื้อคอเต่าสีเทาเข้ม สวมทับด้วยเสื้อโค้ทตัวยาวคุลมเข่าสีดำอีกชั้น ซึ่งมันก็เข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ และรองเท้าบูตหนังสีดำขัดมันเงาวับ สำหรับพวกแอคเซสเซอรี่ เขาสวมสร้อยคอเงินแท้พร้อมกับจี้ทรงกลมคล้ายแหวน ล้อมรอบด้วยเพชรประกายแวววาว ภายในสลักคำว่า เอวา ซึ่งเป็นชื่อของแม่ ที่ตอนนี้ได้จากเขาไปแล้ว ตั้งแต่เขายังเด็ก และสร้อยเส้นนี้ก็เป็นเพียงความทรงจำเดียวที่แม่ได้ทิ้งเอาไว้ให้ เขามักจะใส่ติดตัวเสมอ นอกจากนี้ก็ยังมีต่างหูเงินฝั่งเพชรหนึ่งข้าง เสริมให้ใบหน้าที่หล่อคมชัด ดูละมุนหวานมากยิ่งขึ้น
เคนโซ เกตส์ เป็นลูกผสมหลายเชื้อชาติที่ได้ทั้งจากฝั่งพ่อและฝั่งแม่ ทั้งจีน ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส ปากีสถาน และไทย จึงทำให้เขาได้เปรียบในเรื่องของหน้าตาและรูปร่างที่สูงโปร่ง ตัวไม่หนาล่ำแต่ก็ไม่บางเกินไป มีกล้ามนิดๆ ซิกแพคหน่อย ๆ ช่วยให้เขาสวมใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดีไปเสียหมด จนไปเตะตาแมวมองมือหนึ่งด้านแฟชั่น จึงได้ชักชวนให้เขาเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ 15 ปี เท่านั้น
เคนโซ เริ่มต้นจากการเดินแบบแฟชั่นเสื้อผ้าในคลอเลกชันของพี่แมวมองที่ชักชวน พร้อมทั้งถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่น และแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ กระทั่งถูกปั้นเป็นศิลปินของค่ายใหญ่ค่ายหนึ่งจนโด่งดังไปทั่วเอเชีย เท่านั้นยังไม่พอ เคนโซ ยังถูกรับเลือกให้เล่นเป็นพระเอกซีรีย์ คู่กับนางเอกวัยรุ่นเบอร์ต้นของค่ายเดียวกันอีกด้วย ความหล่อ ความรวย บวกกับความดัง จึงทำให้สาว ๆ ต่างก็อยากผลีกายและเสียจูบแรกให้กับเขาทั้งนั้น...คันกีกันเสียจริงจริ้ง สาว ๆ พวกนี้...
ขายาว ๆ ค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ เหมือนรอให้สาว ๆ ได้ส่งเสียงกรี๊ดอย่างเต็มที่ เคนโซไม่ได้รู้สึกเคอะเขินหรือประหม่าใด ๆ เพราะทุกครั้งที่เขา On Stage เขาก็จะเจอเสียงกรี๊ดแบบนี้เสมอ เขายกมือขึ้นหยิบแว่นสายตาที่ใส่อยู่ พร้อมกับนำออกไปเหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อโค้ท สายลมพัดโชยปลิวสยายผมลอนหยักศกสีน้ำตาลเข้ม เผยให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน กรามชัด โหนกแก้มชัด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนานุ่มเรียวได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกาย รับกันเป็นอย่างดีกับคิ้วหนาเรียงเส้นดกดำ แต่ความหล่อนี้กลับถูกบดบังด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงออกจะหยิ่งยโส และไม่ฉีกยิ้มให้กับเสียงกรี๊ดของสาว ๆ เลยเสียด้วยซ้ำ
“แกรรรร!! นี่มันเทพบุตรชัดๆ หล่อ หน้าคม สูง ขาว ตี๋ สเปคนีที่สุด”
“คุณพระ!! ขอยาดมหน่อย แม่จะเป็นลม”
“กลิ่นตัวรุ่นพี่หอมขนาดนี้ ขนาดอยู่บนชั้นสองกลิ่นยังโชยมาถึง จะมาเป็นลมอะไรก่อนสาว ฉันอยากจะเอาจมูกไปซุกจั๊กแร้เขาแกรร”
“ห๊ะ!! นี่เข้าใจอะไรยากปะ ฉันหมายถึงความหล่อระดับพระเอกซีรีย์ จนทำให้นีอย่างพวกเราอยากจะเป็นลมในอ้อมกอดของพี่เขาต่างหาก”
“อ๊ะ!! ล้อเลงน่า...อร๊ายยยยยย!! ฉันอยากได้เขาอะแกรร”
“หยุดเพ้อฝันสาว เห้อ!! เขามีสาวในดวงใจแล้วดิแกรร”
“เย้ย!! จริงดิ”
“ไปอยู่ดาวไหนมาคะสาว ตอนนี้รุ่นพี่เคนโซเขากำลังคบอยู่กับ...”
......
“...อุ้ย!! นี่ไงแกคนนี้แหละ คนนี้แหละ...”
ก่อนที่เพื่อนสาวจะเม้าท์มอยกันจบ ก็มีเสียงซุบซิบดังขึ้นจากทางด้านหลังด้วยความตื่นเต้น พวกเธอจึงรีบหันกลับไปดูอย่างรวดเร็ว
“อะ...เอ่อ...นี่แหละ นี่แหละ คนนี้แหละ ใช่เลย”
เธอพยายามใช้มือสะกิดเพื่อนสาว ที่ยังคงให้ความสนใจอยู่กับความหล่อของรุ่นพี่เคนโซ เพื่อให้หันกลับมามองหญิงสาว ที่กำลังเดินเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยไล่หลังเคนโซไม่กี่นาที
“อะไรของแก ดูดิรุ่นพี่เคนโซหายเข้าไปในอาคารแหละ”
“คนนี้ไงที่มีข่าวว่ากำลังคบอยู่กับรุ่นพี่เคนโซ”
“ห๊ะ!! ใครมันช่างกล้ามาแย่งแฟนของฉัน”
“ตบปากตัวเองหนึ่งที ถ้ายังไม่สวยได้เท่าขี้เล็บเขา”
“เห้ย!! นั่นมันพี่เฟรยานี่ จริงอะที่ว่าทั้งคู่กำลังคะ...คบกัน”
“เหมาะสมกันไหมล่ะ เธอเลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว”
“เศร้าวะแกรร”
พูดจบ ทั้งคู่ก็หันมองหน้ากัน แล้วทำท่าทางเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ พร้อมกับยกมือขึ้นมาทาบอกและยกไหล่ขึ้นลงด้วยความเสียดาย
++++++
...ตุ๊บ!!...ซ่า!!...
“เอวาน...แกรร...มึงง...ทำน้ำหกหล่นใส่รุ่นพี่คะ...เคนโซ เปียกหมดเลยแกรร”
“หือ!! ตะ...ตายห่าละมึง...ระ...เราควรทำอย่างไรดี”
เอวาน รุกรี้รุกรนตื่นตระหนกจนลนลานทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่ปัดมือไปโดนแก้วน้ำ ที่วางเอาไว้ขอบระเบียงหน้าห้องเรียน จนล่วงหล่นตกลงไปใส่ เคนโซ รุ่นพี่สุดฮอต ที่กำลังนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อน ๆ อยู่ข้างล่าง จนเปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำ
“ใคร...ใครทำน้ำหกใส่ฉัน”
เคนโซ ตะโกนเสียงดังด้วยความหงุดหงิดและโมโหสุดขีด เขากัดฟันกรามแน่นพร้อมกับมองหาคนทำน้ำหล่นใส่ชุดเท่ราคาแสนแพง ที่ใส่มาเรียนในวันนี้จนเปียกปอน
ทั้งอาจารย์และนักศึกษา ต่างพากันหยุดการเรียนการสอน และออกมาส่องดูเหตุการณ์ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเคนโซจากด้านล่างอาคารเรียน
“คะ...คุณหนู ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ดะ...เดี๋ยว อะ...อธิการบดี จะตามหาคนทำมาลงโทษให้ได้ นะครับ”
อธิการบดีถึงกับต้องเดินเข้ามาพูดคุยด้วยตัวเอง เพื่อปลอบใจให้เคนโซใจเย็นลง หลังจากที่เห็นสีหน้าท่าทางของเขา เหมือนจะเอาเรื่องคนก่อเหตุในครั้งนี้ให้ถึงตาย
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจัดการเอง ท่านอธิการบดีไม่ต้องยุ่ง อยู่นิ่ง ๆ ไม่พูดมากเป็นพอ”
เคนโซ เดินเข้าไปตบไหล่อธิการบดีเบา ๆ เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่า ถ้าอยากจะอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็หุบปากเงียบเสีย อย่าได้นำเรื่องวันนี้ไปรายงานพ่อของเขาเป็นอันขาด ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาว่าไม่เตือนนะ
เคนโซ เงยหน้ามองขึ้นไปบนอาคารเรียนอีกครั้ง เขามองเห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน กำลังทรุดตัวลงนั่ง เพื่อแอบกับกำแพงระเบียงหน้าห้องอย่างช้า ๆ ...ตายแน่ ๆ คราวนี้...
Secretly Love..."แอบ" "ความลับ และ ความรัก” ในอดีต ที่เป็นไปไม่ได้ ทำให้เขาทั้งสองต้องถอยห่างจากกัน อีกคนบินลัดฟ้าไปเรียนไกลถึงต่างประเทศ แต่อีกคนกลับต้องนั่งจมฝังอยู่กับคำถามที่ยากจะหาคำตอบ กระทั่งวันนี้ เมื่อทั้งคู่ได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง เปลวไฟที่เคยมอดดับกลับลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะอันที่จริงแล้ว เขาทั้งคู่ไม่เคยหมดรักกันเลย เพียงแต่ว่ารักระหว่างชายหนุ่มรุ่นพี่ กับ หนุ่มน้อยหน้าหวานรุ่นน้อง มันคงเป็นได้แค่การ “แอบ” รัก เท่านั้น
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"