ใช้ชีวิตสงบสุขมาได้ตั้งนาน แต่กลับต้องมาอึมครึมเพราะดันไปมีเอี่ยวกับสมาชิกแก๊งค์เทพเจ้าประจำมหาลัย แถมไอ้บ้านั่นยังพ่วงตำแหน่ง "ว่าที่ผู้นำแก๊งค์มาเฟีย" ที่กำลังโดนตามล่าด้วยไง เหอะๆ แบบนี้ฉันจะมีชีวิตรอดต่อไปมั้ยให้ทาย?
ปังงงง! เพล้งงง!
“แม่งเอ๊ย! ทำไมเป็นไอ้เหี้ยติณณ์ ไม่ใช่กู!!!”
โครมมมม! ปังงงง! เพล้งงงง!
เสียงโวยวายของคิระดังขึ้นหลังจากที่เขาทุบโต๊ะทำงานราคาแพงที่ดีไซน์ด้วยกระจกหนาจนแตกละเอียดคามือ แถมยังคว้าไม้เบสบอลที่วางอยู่ในห้องนั้นฟาดข้าวของในห้องพังยับจนเศษของข้าวของพวกนั้นกระจุยกระจายไปทั่ว ทำให้ลูกน้องอีก 5-6 คนที่ยืนอยู่ถึงกับก้มหน้าไม่กล้าสบตาเพราะเขากำลังโกรธจัดจนอยากจะฆ่าใครสักคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ให้ตายคามือ
“โมโหไปก็เท่านั้น อีกไม่กี่วันก็ต้องไปร่วมพิธีแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ของมันอยู่ดี”
“ทำไมถึงเร็วนัก?”
พอได้ยินแบบนั้น คิระก็หันหน้าไปหา ‘มาโคร’ ลูกน้องคนสนิท ซึ่งอีกนัยหนึ่งคือเพื่อนสนิทของเขาที่ผันตัวเองมาเป็นมือขวาติดตามเขาไปทุกที่ด้วยความสงสัยในทันที
ปกติการแต่งตั้งใครขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งค์คนใหม่ต้องใช้เวลาเตรียมการนานเกือบ 3 เดือนนับจากวันที่สรุปผล แต่ทำไมครั้งนี้ทุกอย่างถึงดูฉุกละหุกไปหมด เหมือนกับว่ามีบางคนชักใยอยู่เบื้องหลัง
“ท่านปู่อีกแล้วใช่มั้ย...”
คิดได้แบบนั้นเขาก็กัดฟันแน่นและพูดออกมาอย่างรู้ทัน คนที่ไม่เคยให้ความยุติธรรมกับหลานทั้งสองคนอย่างเท่าเทียมกันตั้งแต่เด็กจนโต เห็นจะมีก็แค่ปู่ของเขาคนเดียวเท่านั้น!
“ทำไมต้องเป็นมันทุกทีเลยวะ!!!”
เพล้งงงงง~
น้ำเสียงอิจฉาริษยาที่มีมาตั้งแต่จำความได้เล็ดลอดออกมาจากไรฟันที่เจ้าตัวกัดมันแน่นด้วยความโกรธจัด และเขวี้ยงไม้เบสบอสในมือออกไปแบบไม่มีจุดหมายจนมันเหวี่ยงไปโดนภาพครอบครัวในตู้โชว์หล่นลงมาแตกละเอียด พร้อมกับคิดในใจว่าถ้าไม่มีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นหลานคนโปรดของท่านปู่อย่างมันคอยขวางทางอยู่แบบนี้ ป่านนี้เขาคงได้ทุกอย่างของ ‘Dark Shadow’ มาไว้ในครอบครองตั้งนานแล้ว
แต่เพราะปู่ของเขาที่ฉลาดเป็นกรด ใช้ช่องโหว่ในกฎของแก๊งค์มาทำให้เขาต้องอดทนรอวันที่จะผงาดขึ้นมาอย่างเต็มตัวในนามของหัวหน้าแก๊งค์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคัดค้านเลยว่าเขาไม่เหมาะสม จนวันที่ปู่ดึงไอ้เวรนั่นเข้ามาร่วมพิจารณาด้วย เขาเลยต้องน้อมรับข้อเสนอนั้นอย่างจำยอมเพราะไม่มีใครคัดค้านการเข้าแก๊งค์ของมันเช่นกัน
แล้วสุดท้ายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว.. มติจากที่ประชุมที่เขารอคอยมาแสนนาน ดันกลายเป็นทุกอย่างที่เขาอดทนรอกลับถูกมันแย่งไปในพริบตา
มัน..ที่ไม่เคยสนใจว่าใครในแก๊งค์จะทำอะไร
มัน..ที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อแก๊งค์เลยตั้งแต่ก้าวเข้ามา
ยิ่งไปกว่านั้นที่น่าโกรธ..คือเขาเกือบจะเอาชนะมันได้เพราะคะแนนโหวตจากสมาชิกทุกคนออกมาเท่ากันครึ่งต่อครึ่ง แต่เสียงสุดท้ายของท่านปู่ที่ออกตัวว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกเช่นกัน ดันมาตัดสินให้มันชนะเขาโดยที่ตัวมันไม่ได้เข้าร่วมประชุมและไม่เคยโผล่หน้ามาให้ใครเห็นหัวเลยด้วยซ้ำ
“เมื่อไหร่มึงจะตายๆ ไปซะทีวะ ไอ้เหี้ยติณณ์!!!”
คิระกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด เขาไม่เคยคิดจะนับญาติกับคนที่เข้ามาแย่งทุกอย่างไป และใช้อภิสิทธิ์ของปู่เข้ามาประทับสัญลักษณ์ของ Dark Shadow บนตัวง่ายๆ โดยไม่ต้องพยายามอะไร
เขาเกลียดมัน!
เกลียด..ทั้งที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน
เกลียด..ที่ไม่ว่าจะตอนไหนมันก็เป็นหลานรักของปู่เสมอ
เกลียด..ที่มันได้ทุกอย่างโดยที่ไม่ได้พยายามเท่ากับที่เขาทำ
และเกลียด..จนถ้ามีโอกาสก็อยากจะฆ่ามันให้ตายคามือ!
พรึ่บบบ!
“ถ้าอยากให้มันตาย มึงก็แค่ลาพักร้อนบินไปทักทายมันไง ไม่เห็นยาก”
แฟ้มประวัติพร้อมรูปถ่ายของคนที่คิระหมายหัวเอาไว้ถูกส่งมาจากมือเพื่อนสนิทแบบเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยแววตาประทุจร้ายในแบบที่เขาชอบ มันเหมือนได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจ ทำให้คิระรับแฟ้มนั่นมาเปิดอ่านมันด้วยความสนใจ
“หึ... เตโช Nightshade ..งั้นหรอ?!”
ติณณวัชร์ ภัทรเดชา (เตโช)
Nightshade’ s LEADER
Dark Shadow’ s MEMBER
(ข้อมูลอาจถูกบิดเบือน ข่าวไม่ได้กรอง)
KING OF ME
กำลังศึกษา : คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมยานยนต์ (ปี 3)
ธุรกิจส่วนตัว : ZTUDIO / TYN SUPERCAR
ของสะสม : Supercar
งานอดิเรก : แข่งรถ
บุคลิก : นิ่ง...มากกกกกกกก โหด...มากกกกกกกกกก เจ้าชู้...มากกกกกกกก (และอื่นๆ ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติม)
หลายวันต่อมา...
“ไหวแน่นะโมเน่ต์ พี่ว่าคราวนี้มันหนักเอาเรื่องอยู่”
‘พี่เหมียว’ ที่ทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ของห้องสมุดมหาลัย แต่เบื้องหลังก็ช่วยหางาน Proofreader Freelance ให้กับฉันพูดออกมาอย่างเป็นห่วง เพราะงาน proof ครั้งนี้มันเยอะมากกว่าทุกครั้ง แต่จะทำไงได้เงินทองก็ต้องใช้นี่นะ ไม่งั้นก็อดตายกันพอดี
“ไม่ไหวก็ต้องไหวอ่ะพี่”
“(- -) (_ _)”
ฉันตอบกลับไปสั้นๆ พี่แกก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วเราก็แยกกันหน้าลิฟท์ ก่อนที่ฉันจะเดินย้อนกลับไปที่ตึกอักษรฯ ที่จอดจักรยานคู่ใจเอาไว้
ฟิ้ววว~ ฟิ้ววว~ ฟิ้ววว~
เหอะ..ให้ตาย! ระหว่างที่ฉันกำลังเดินท่ามกลางแสงสลัวใน ม. ตอนใกล้จะสองทุ่ม อยู่ๆ ก็มีรถสปอร์ต 3 คันกับรถตู้ฟิล์มดำทะมึนขับผ่านไปอย่างรีบร้อน เอ่อ..นี่มหาลัยมั้ยไม่ใช่สนามแข่งรถ -_-? ให้เดารถแพงๆ พวกนั้นก็คงไม่พ้นของใครสักคนแก๊งค์เทพเจ้าอย่าง Nightshade อะไรนั่นแหงๆ ฉันเหล่ตามองนิดหน่อยแต่ไม่ได้สนใจอะไรแล้วเดินต่อ แต่ระหว่างทางดันปวดฉี่ขึ้นมาซะงั้น อืม..งั้นแวะเข้าห้องน้ำข้างลานจอดรถนี่ก่อนละกันมีป้าแม่บ้านอยู่ด้วยพอดีนี่นะ
ไวเท่าความคิด ฉันเดินเลี้ยวเข้ามาในห้องน้ำทันที แต่พอป้าเห็นฉันก็ทำหน้าตกใจเลิ่กลั่ก แล้วรีบสาดน้ำราดลงที่พื้นห้องน้ำอย่างรีบร้อน ก่อนที่ฉันจะเห็นคราบเลือดจางๆ ปนมากับน้ำที่ไหลผ่านไปและหลุดปากถามอย่างไม่คิดอะไร
“มีเรื่องกันหรอคะป้า?”
“ปะ..เปล่าหรอกจ้ะหนู ไม่มีอะไร...”
ป้าส่งยิ้มแหยๆ มาให้ฉัน แล้วรีบออกแรงขัดพื้นที่มีคราบเลือดจางๆ อยู่หลายต่อหลายครั้ง ดูหนักอยู่เหมือนกันแฮะแต่คงไม่ตายหรอกมั้ง
พอเห็นป้าแกก้มตาก้มตาขัดพื้นไปฉันเลยเดินมาเข้าห้องน้ำห้องถัดไป แต่ยิ่งเดินลึกเข้ามาก็เจอกระดุมเสื้อนักศึกษาหญิงหล่นกระจายเต็มพื้นไปหมด หึ.. หลักฐานคาตาขนาดนี้จะบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่ได้ละ ส่วนท่าทางเลิ่กลั่กของป้าแกกับรถที่พุ่งออกไปด้วยความเร็วเมื่อกี๊แบบนั้น ให้เดาไอ้แก๊งค์เทพเจ้านั่นมีเอี่ยวด้วยแหงๆ แต่ช่างเหอะ.. ฉันรีบจัดการตัวเองแล้วไปเอาจักรยานปั่นกลับห้องทันที จะได้รีบเคลียร์งานในคลาส กับงาน proof ให้จบๆ ไปคืนนี้จะได้นอนมั้ยไม่รู้ แต่ก็ยังดีที่วันนี้มันวันศุกร์ เพราะงั้นฉันยังมีเวลาปั่นงาน proof วันเสาร์ อาทิตย์อีกตั้งสองวัน
@ ร้านบะหมี่ลุงตี๋
“ลุง เหมือนเดิม!”
ฉันตะโกนสั่งบะหมี่แล้วเดินไปตักน้ำมานั่งรอ ลุงตี๋เจ้าของร้านแกก็ตะโกนตอบกลับมาอย่างคุ้นเคย
“ได้เลยไอ้โม รอแป๊บ”
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง แถมร้านนี้ก็เป็นร้านประจำที่กินทุกวันไม่เบื่อตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมฉันเลยแวะจัดซะหน่อย แต่สมัยนี้คนในเมืองคงกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางกันไม่เป็นหรอกมั้ง ต้องไปกินตามห้างนู่นแต่ฉันไม่มีตังค์เยอะขนาดนั้นหรอก
...ก็ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่ วันที่ตัดสินใจหนีจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี่ฮาร์ดคอร์สุดละ ดูนีโมมากไปไงเลยอยากจะเผชิญโลกกว้าง ถ้าไม่ได้บะหมี่ลุงไม่โตมาจนทุกวันนี้หรอกเอาจริงๆ
“อย่ากลับดึกนัก ยังไงเอ็งก็เป็นผู้หญิงนะเว้ย!”
ลุงตี๋วางชามบะหมี่ลงบนโต๊ะแล้วบ่นๆ ฉันนิดหน่อย แต่แกก็พูดไปงั้นอ่ะไม่มีหรอกแค่สไตล์คนแก่เป็นห่วงลูกหลานน่ะ
“ก่อนกลับเดี๋ยวล้างชามให้นะ” ฉันบอกออกไปเพราะทำแบบนี้ประจำอยู่แล้วแต่ลุงแกขัดประจำเหมือนกัน
“เรียนไปเถอะทำเองได้ ใกล้จบแล้วนี่” ลุงตี๋พูดพร้อมกับมองเอกสารในถุงผ้าที่ฉันแบกกลับมาด้วยอย่างรู้ทัน
“ไม่ต้องพูดมากหรอก ไม่อยากฟัง” ฉันแกล้งๆ พูดเล่นไปงั้น ลุงแกก็ขำๆ แล้วเอามือมาผลักหัวก่อนจะบ่นๆ ออกมาแล้วเดินกลับไปทำบะหมี่ต่อ
“กวนตั้งแต่เล็กจนโตนะเอ็งเนี่ย”
“เอ้า ใครสอนล่ะ!”
ฉันตะโกนตามหลังไป แล้วลุงตี๋แกก็เดินผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี หึ.. ถ้าใครถามเรื่องครอบครัวฉัน..คนเดียวที่ดูแล้วน่าใช่ก็ลุงแกนี่แหละ ถึงฉันจะไม่ใช่ลูกหลานแกก็เถอะนะ :)
ฉัน...สาวน้อยดาวเสาร์กับเรื่องวุ่นๆของ "เทพบุตรดาวพุธ" ผู้ชายถืออาวุธที่แม่หมอทำนายว่าเป็น "เนื้อคู่" ในใจก็คิดมาตลอดเลยนะว่าต้องเป็นคนในเครื่องแบบแน่ๆ แต่แล้วอยู่ๆดันหลงเข้าไปในดงมาเฟียได้ไงไม่รู้...
เพราะมีหน้าที่สำคัญต้องทำ แต่ก็โดนรุ่นน้องจอมป่วนอย่างเลโอ Nightshade มาวุ่นวาย ตามจีบไม่เว้นแต่ละวัน "ทฤษฎี 21 วัน" เลยถูกใช้เป็นไม้ตายเด็ดของฉัน คิดว่ามันจะกันคนกะล่อนอย่างหมอนี่ให้พ้นทางได้มั้ย?!
“เป็นอย่างที่เคยเป็นมันดีแล้ว” ประโยคปฎิเสธสั้นๆ ดังก้องในหัวฉันตลอดเวลาจนถึงนาทีสุดท้ายที่บินกลับมาตามคำสั่งที่เจ้าตัวน่าจะลืมมันไป แต่ใครจะไปรู้ว่าวันนึง คนที่เคยปฏิเสธ..จะเป็นฝ่ายมาขอคบกับฉันซะเอง!
แอบหื่นไปมั้ยถ้าจะบอกว่าวันเกิดปีนี้ ของขวัญอย่างเดียวที่ฉันอยากได้คือจูบที่แสนเต็มใจจากเขา... ♥ รุ่นพี่รันเวย์ของฉัน ♥ แล้วใครจะไปคิดว่าพระเจ้าจะจัดให้ตามนั้น แถมยังไม่ใช่แค่จูบ! ฉันได้รุ่นพี่ตัวเป็นๆเข้ามาอยู่ในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นมันบ้ามากที่จะบอกว่าอยู่ๆฉันก็ได้เป็นผู้หญิงของเขาด้วย!
“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอพายุ Nightshade พูดมาแบบนั้น ฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจในคำถามนั้นเหมือนกัน “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
ก็ไม่รู้ว่าโชคชะตาพาฉันมาเจอกับอะไร... ทำไมอยู่ๆชีวิตฉันถึงต้องมาข้องเกี่ยวกับพวกคนรวยที่เป็นถึงทายาทมหาวิทยาลัยชื่อดังสองแห่งอย่าง Destinesia และ Vania ที่กำลังมีเรื่องบาดหมางจนแทบจะฆ่ากัน มิหนำซ้ำตัวฉันเองและใครบางคนในความทรงจำที่ฉันกำลังตามหา ก็ดันเป็นสาเหตุหลักของปัญหาที่ว่า ปัญหา...ที่ต้องแลกด้วยชีวิต ความสูญเสีย...ที่ฉันไม่เคยรู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองก็มีส่วนในเรื่องนี้
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!