หนานซ่งเค้นคำพูดนี้ออกมาจากในลำคอด้วยความอย่างยากลำบาก แววตาสั่นกระเส่า แต่กลับยังคงเต็มไปด้วยความหวัง
อวี่จิ้นเหวินกลางคิ้วขมวดเข้าหากัน คิ้วตาที่เย็นชาหยุดชะงักลงบนใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของฝ่ายหญิง สุดท้ายก็จ้องมองดวงตาที่แดงระเรื่อของเธอ คิ้วขมวดกันแน่น
แม้ว่าจะเป็นหน้าสด หนานซ่งก็ยังคงสวย เธอไม่ใช่สาวสวยที่เห็นโครงหน้าชัดเจน แต่ผิวขาวนวล ใสซื่อไร้เดียงสา เป็นรูปลักษณ์ที่ดูสบายตา
ดวงตากลมโตของเธอจ้องเขาตาใสทั้ง ๆ แบบนี้ แววตาเต็มไปด้วยความวิงวอน ไฝหนึ่งเม็ดใต้หางตาขวา ผมยาวสลวยปล่อยตรงลงบริเวณหู อ่อนโยนไร้ซึ่งความก้าวร้าว
แต่ในสายตาของชายหนุ่ม นี่คือผู้หญิงที่อ่อนโยนแต่ก็เรียบง่ายและน่าเบื่อ
ในฐานะที่เป็นภรรยา เธอไม่มีข้อบกพร่องอะไรเลย แต่เขาแค่ไม่ได้รักเธอเท่านั้น
เมื่อสามปีก่อนเขาประสบอุบัติเหตุ ท่อนบนเป็นอัมพาต หมอบอกว่าเขาอาจจะยืนไม่ได้ตลอดไป และในตอนนั้นเอง ที่เขาถูกบีบบังคับให้เลิกกันกับผู้หญิงอันเป็นที่รัก แม่บังคับให้เขาไปนัดบอด ต้องหาภรรยาที่เป็นหมอมาดูแลเขาไปตลอดชีวิต เขาเลือกพยาบาลคนนึงหนึ่งในคนที่นัดบอด นั่นก็คือลู่หนานซ่ง เธอไม่มีภูมิหลังอะไร และเธอก็เป็นคนเงียบด้วย
“คุณอยู่กับผมมาสามปีแล้ว แล้วก็ดูแลผมมาสามปีแล้ว เงินห้าสิบล้านนี้ถือค่าชดเชยให้กับคุณล่ะกัน”
ตอนที่เขาพูดคำพูดแบบนี้แสงในแววตากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด ยิ่งมองไม่เห็นความรู้สึกรักที่มีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย “หรือ คุณต้องการอย่างอื่น...”
“ทำไม?”
หนานซ่งพูดแทรกเขาเป็นครั้งแรก เบ้าตาที่เริ่มแดงเต็มไปด้วยความยึดติด แล้วก็... ไม่อยากจะยอมรับ “ทำไมถึงต้องขอหย่าตอนนี้”
พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของพวกเขา เธอเตรียมการวางแผนเอาไว้มากมาย ถึงขนาดที่เธอยังคิดอีกด้วยว่า อีกสามปีต่อมา อีกยี่สิบสามปีต่อมา นั่นก็คือตลอดชีวิตแล้ว
“คุณก็รู้ คนที่ผมรักไม่ใช่คุณ”
น้ำเสียงที่เย็นชาของเขาแฝงไปด้วยความเยือกเย็นอย่างไร้ที่สิ้นสุด ถึงขนาดที่เขาไม่แม้แต่จะให้ความหวังกับเธอเลยแม้แต่น้อย “ซวนซวนกลับมาแล้ว ผมจะแต่งงานกับเธอ”
หนานซ่งราวกับถูกสายฟ้าผ่าเข้ากลางหัว ร่างกายที่ผอมบางไม่สามารถรับความหนักอึ้งขนาดนี้ได้ สั่นเทาขึ้นมาทันที
ชีวิตแต่งงานที่เธอดูแลรักษามันมาตลอดสามปี กลับไม่อาจต้านทานคำพูดประโยคเดียวของอีกฝ่ายได้เลย... “ฉันกลับมาแล้ว”
“คุณผู้ชาย...”
พ่อบ้านตรงเข้ามารายงานด้วยความรีบร้อน “คุณจั๋วอาเจียนอาหารที่เพิ่งจะกินเข้าไปออกมาอีกแล้วครับ แถมยังกระอักเลือดอีกด้วย!”
ใบหน้าที่เงียบขรึมของชายหนุ่มสั่นไหวเล็กน้อย เขาเดินอ้อมหนานซ่งตรงไปที่ห้องรับแขกทันที ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “เตรียมรถ ไปโรงพยาบาล”
ผ่านไปไม่นาน อวี่จิ้นเหวินก็อุ้มผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องรับแขก ผู้หญิงคนนั้นรูปร่างซูบผอม บนตัวยังคลุมด้วยผ้าห่มปักผืนบาง ซึ่งเป็นผ้าที่หนานซ่งปักด้วยตัวเอง
สีหน้าขอเธอซีดเผือด มองออกว่าอยู่ในอาการป่วย ราวกับจะจากโลกนี้ไปได้ทุกเมื่อ คนทั้งคนซบพิงอยู่ในอ้อมกอดของอวี่จิ้นเหวิน เสียงเบามาก “พี่จิ้น คุณลู่เธอ...”
อวี่จิ้นเหวินหยุดฝีเท้าลงตรงมุมบันได ก่อนจะหันไปพูดกับหนานซ่ง “รายละเอียดของการหย่าทนายความจะไปเจรจากับคุณเอง เชิญคุณย้ายออกจากบ้านภายในสามวันด้วย”
จากนั้น เขาก็อุ้มผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาในอ้อมแขน อุ้มเธอลงไปข้างล่างอย่างไม่หันกลับมาอีก
หนานซ่งยืนอยู่ตรงทางลงบันได จั๋วซวนนอนอยู่ในอ้อมกอดของอวี่จิ้นเหวิน เงยหน้าขึ้นมามองหนานซ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยแสงแห่งชัยชนะ
ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ผู้หญิงที่ป่วยคนนี้พูดกับเธออย่างยิ้มแย้ม “ฉันเข้ามาอยู่ในบ้านอย่างโจ้งแจ้ง เธอคืนเขามาให้ฉันซะ”
จนกระทั่งร่างของพวกเขาหายลับไป หนานซ่งถึงได้ล้มทรุดลงไปราวกับร่างกายไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบหน้าอย่างเงียบ ๆ เธอกอดตัวเองเอาไว้ รู้สึกเพียงว่าร่างกายหนาวจับใจ
สิบปี
นับตั้งแต่วินาทีที่เขาช่วยเธอออกมาจากนรกจนถึงตอนนี้ เธอก็ติดตามเขามาตลอดสิบปี แล้วก็รักเขามาตลอดสิบปีแล้วเหมือนกัน ชีวิตของคนเรามันจะมีสักกี่สิบปีกัน
แต่ไม่รักก็คือไม่รัก ต่อให้จะยอมขนาดไหน เธอก็ไม่สามารถทำให้ผู้ชายคนนี้รู้สึกหวั่นไหวได้ ไม่สามารถทำให้เขารักเธอได้เลยแม้แต่น้อย
“จิ้นเหวิน นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะร้องไห้ให้กับคุณ”
หนานซ่งยื่นมือออกมาเช็ดน้ำตาที่เย็นเฉียบทิ้งไป ก่อนจะลุกขึ้นมาจากพื้น ผู้หญิงที่เดิมทีอ่อนแอ เปลี่ยนกลายเป็นเย็นชาอย่างถึงที่สุด ในตาสะท้อนความมุ่งมั่นเด็ดเดียว
ถึงเวลาที่ต้องจากไปแล้ว
หนังสือข้อตกลงการหย่าถูกวางเอาไว้อยู่บนหัวเตียงในห้องนอนใหญ่ มันโดดเด่นสะดุดตามาก
หนานซ่งเปิดไปหน้าสุดท้ายตรง ๆ เห็นลายเซ็นที่คุ้นเคย แววตาของเธอเป็นประกายวิบวับ เธอลูบเบา ๆ ไปยังชื่อ “อวี่จิ้นเหวิน” อย่างระมัดระวัง รู้สึกแน่นจมูกขึ้นมา
เธอสูดจมูก กลั้นน้ำตาที่กำลังจะออกมาให้กลับไป ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อของตัวเองลงไปบนนั้นอย่างไร้ซึ่งความอาลัยอาวรณ์ ลู่หนานซ่ง
ในเมื่อเริ่มต้นด้วยชื่อนี้ งั้นก็ต้องจบสิ้นด้วยชื่อนี้เช่นกัน
หนานซ่งวางตราประทับอันหนึ่งอยู่บนหัวเตียง ตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุจนถึงการซื้อหยกชิ้นนี้ เธอต้องใช้เวลาไปเกือบหนึ่งปี นี่เป็นของขวัญครบรอบสามปีที่เธอตั้งใจเตรียมเอาไว้ให้กับเขา
อันที่จริงตลอดสามปีมานี้เธอก็เคยมอบของขวัญให้กับเขามากมาย ไม่มีชิ้นไหนที่ไม่ได้เตรียมอย่างไม่ได้ตั้งใจเลยสักชิ้น แต่ปลายทางสุดท้ายกลับถูกทิ้งเอาไว้อยู่ในตู้เสื้อ หรือไม่ก็โยนทิ้งลงไปในถังขยะไปตรง ๆ มันก็เหมือนกับความจริงใจที่เธอมีต่อเขา
ทันทีที่เดินออกมาจากบ้าน รถหรูสีดำคันหนึ่งก็จอดอยู่ริมถนน หนานซ่งขึ้นไปบนรถ ก่อนจะพูดอย่างนิ่ง ๆ “ฉันหย่าแล้ว”
ที่นั่งคนขับ ผู้ชายที่สวมแว่นกันแดดสีชายิ้มออกมาอย่างร้าย ๆ “ยินดีด้วย คุณได้รับอิสระกลับคืนแล้ว”
เขายื่นโน้ตบุ๊คมาให้กับหนานซ่ง “ถึงเวลากลับมาเป็นตัวเองได้แล้ว พวกเราต่างกำลังรอการกลับมาของคุณ”