ในชาติก่อนจางหลินซินเคยเป็นนักฆ่าผู้เก่งกาจ แต่ถูกครอบครัวทรยศและถูกยิงอย่างโหดเหี้ยม เฉินจือหานล้างแค้นแทนเธอและไปสวรรค์พร้อมกัน ในชาตินี้เธอได่เกิดใหม่และต้องการล้างบางพวกที่มันทำกับเธออย่างสาสม!!!
ในชาติก่อนจางหลินซินเคยเป็นนักฆ่าผู้เก่งกาจ แต่ถูกครอบครัวทรยศและถูกยิงอย่างโหดเหี้ยม เฉินจือหานล้างแค้นแทนเธอและไปสวรรค์พร้อมกัน ในชาตินี้เธอได่เกิดใหม่และต้องการล้างบางพวกที่มันทำกับเธออย่างสาสม!!!
โกดัง, ชานเมืองจิ้งอู๋
บรรยากาศในโกดังปกคลุมด้วยกลิ่นคาวเลือดและดินปืนที่ลอยแน่นในอากาศ พื้นแตกกระจายจากการต่อสู้โดยมีนักฆ่าสิบคนนอนตายกระจัดกระจาย เลือดสีแดงสดไหลนองเต็มพื้น
สองนักฆ่าที่รอดชีวิตมองผู้หญิงที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั่วร่าง ก้มลงสูบบุหรี่อย่างใจเย็น หลังสูบเสร็จก็โยนลงพื้นและเหยียบให้ดับ
“ให้ตายเถอะ...ผู้หญิงคนนี้มันแข็งแกร่งจริงๆ ทำยังไงก็ไม่ตาย” นักฆ่าคนหนึ่งเยาะเย้ย
“อย่าพูดเลย เรามากันยี่สิบคน เกือบโดนผู้หญิงคนนี้จัดการหมด โชคดีที่เราสองคนลอบโจมตีเธอและยิงเข่าของเธอจนพัง”
ริงงงง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในจังหวะที่ไม่เหมาะสม
“จัดการเรียบร้อยไหม?” เสียงผู้หญิงที่ไม่พอใจดังขึ้นจากปลายสาย
“คุณหนูจาง เรียบร้อยแล้ว แต่เราสูญเสียคนมากมาย คุณต้องจ่ายเงินให้เพิ่มสองเท่า”
“เรียบร้อยก็ดีแล้ว เงินฉันจะโอนให้พรุ่งนี้”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
สายถูกตัดไปทันที
สองนักฆ่ามองหน้ากัน พวกเขารับงานมามาก แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงที่ดูไร้พิษภัยแต่ใจโหดเหี้ยมเหมือนจางเหยียนอี้แม้กระทั่งพี่สาวของตัวเองยังฆ่าได้ พวกเขาไม่ลังเลที่จะหยิบปืนจากกระเป๋า และยิงจางหลินซินที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นจนตาย เลือดไหลจากมุมปากของจางหลินซินไหลลงมาตามคอ เธอมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นลมหายใจเริ่มขาดห้วงและหัวใจหยุดเต้นในที่สุด หลังจากแน่ใจว่าจางหลินซินตายสนิท สองนักฆ่าถ่ายรูปส่งให้จางเหยียนอี้ก่อนจะรีบออกไปจากที่เกิดเหตุ
วิญญาณของจางหลินซินมองทุกอย่างได้อย่างแจ่มชัด
ตั้งแต่เธอถูกนักฆ่าล้อมและเสียเลือดจนหมดสติ วิญญาณของเธอก็แยกออกจากร่าง เห็นตัวเองถูกยิงตายด้วยอย่างอนาจ ได้ยินความจริงที่อยู่เบื้องหลังด้วยหูของตัวเอง จางหลินซินรู้ดีว่าเธอถูก ลักพาตัว โดยน้องสาวที่แสนดี จางเหยียนอี้ จ้างนักฆ่ามาสังหารเธอ คิ้วของจางหลินซินขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาแฝงความอาฆาต เธอหัวเราะเยาะตัวเอง แต่ไม่รู้จะหัวเราะให้กับเรื่องไหนก่อน ระหว่างเสียฆ่าให้กับนักฆ่า หรือเย้ยหยันโชคชะตาที่ครอบครัวใจร้ายกับเธอ
ไม่กี่นาทีต่อมา รถพอร์ชคันหนึ่งหยุดที่หน้าโกดัง ผู้ชายคนหนึ่งลงจากรถด้วยความร้อนรนและวิ่งเข้าไปในโกดังเมื่อเห็นเลือดและศพทั่วโกดัง ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย ใบหน้าซีดเผือด รู้สึกใจไม่ดี เมื่อเดินลึกเข้าไปด้านใน เขาเห็นกล่องกระดาษซ้อนกัน และตรงกลางมีกลางร่างที่คุ้นเคยดี เขารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมา
เพราะนั่นคือภรรยาที่เขารักที่สุด เป็นดวงใจของเขา เขามาสายเกินไป!
จางหลินซินเห็นเฉินจือหานมาก็ตกใจเช่นกัน เขานิ่งไปไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลของภรรยา เขารีบเข้าไปปลดเชือกที่มือของเธอ กอดร่างที่เย็นชืดไว้โดยไม่พูดอะไร เฉินจือหานน้ำตาไหลแต่ไม่ร้องไห้ เขาเพียงกอดจางหลินซินแนบแน่น เรียกชื่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“อาซิน...อาซิน ขอโทษนะ ขอโทษ ฉันมาสายเกินไป...”
“อาซิน...ฉันขอร้อง ตื่นขึ้นมาได้ไหม”
“ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ...อาซิน...อา!!!”
เฉินจือหานร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเหมือนสัตว์ร้ายที่ไร้ทางออก เสียงแหบพร่า น้ำตาไหลรินหยดลงบนใบหน้าของจางหลินซิน เธอมองเฉินจือหานกอดร่างของตัวเองอย่างรู้สึกเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเฉินจือหานหมดหนทางและเจ็บปวดขนาดนี้ หัวใจของจางหลินซินบีบแน่น รู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ แทงเข้ามาในหัวใจ ทำให้เธอรู้สึกรวดร้าว ความขมขื่นแผ่ซ่านในปากของเธอ ทำให้เธอรู้สึกทรมานอย่างมาก
ตอนนี้เธอยอมรับแล้วว่า เธอรักเฉินจือหาน…รักมากๆ
จางหลินซินพยายามยื่นมือไปเช็ดน้ำตาของเฉินจือหาน แต่พบว่ามือของเธอทะลุผ่านร่างของเขาไป เธอตกใจ เธอลืมไปแล้วว่าเธอตายแล้ว
จากนั้นภาพก็เปลี่ยนไป วิญญาณของจางหลินซินมาอยู่ที่ห้องใต้ดินของตระกูลเฉิน เธอเห็นเฉินจือหานนั่งบนโซฟาสูบบุหรี่ ควันลอยออกจากปากของเขา ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยควันจ นมองไม่ออกว่าเขาเศร้าหรือโกรธ เมื่อเห็นก้นบุหรี่เต็มพื้น น้ำตาของจางหลินซินก็ไหลออกมา
ขณะนั้นเฉินอวี้เปิดประตูเข้ามา เห็นเฉินจือหานในสภาพสิ้นหวังก็ตกใจ เขาเคยเห็นภรรยาทำให้คุณชายเจ็บปวดหลายครั้ง และเห็นคุณชายสูบบุหรี่คนเดียวบ่อยๆ แต่การที่เจ้านายสูบบุหรี่มากขนาดนี้ ทั้งยังหดหู่เช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่เฉินอวี้เห็น
“คุณชาย... อย่าสูบเลยนะครับ คุณผู้หญิงจะเสียใจที่เห็นคุณเป็นแบบนี้” เฉินอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา
“การสืบเรื่องตระกูลจางไปถึงไหนแล้ว” จือหานพ่นควันบุหรี่ มองเฉินอวี้อย่างเย็นชา
“สืบได้แค่นี้ครับ ว่าเป็นคำสั่งของตระกูลจางอยากให้คุณหนูตาย ตระกูลจางอยู่เบื้องหลังทั้งหมด” เฉินอวี้รู้สึกสั่นกลัวในใจ แต่พูดอย่างจริงจัง
จือหานสูดลมหายใจลึก น้ำตาคลอเบ้า ตะโกนเสียงดัง “ไปเตรียมคน กำจัดตระกูลจางให้หมด!!! ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครมีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียว!”
“การตายของคุณผู้หญิงเกี่ยวข้องกับจางเย่าหยาง เขากลัวว่าคุณผู้หญิงจะกระทบตำแหน่งของลูกชาย เลยจ้างมือปืน จางเหยียนอี้ก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เธอหลอกคุณผู้หญิงว่าตัวเองถูกลักพาตัว ทำให้คุณผู้หญิงต้องช่วยแล้วจึงถูกจับตัวไป”
เมื่อฟังจบเฉินจือหานมองเฉินอวี้ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงเล็กกระจายไปทั่ว สีหน้าน่ากลัวขึ้นไปอีก เขาบีบแก้วเหล้าในมือจนแตก ไวน์แดงและเลือดหยดลงบนฝ่ามือ เฉินอวี้มองคุณชายของเขาในสภาพนี้ รู้ทันทีว่าเจ้านายต้องการกำจัดพวกตระกูลจางทั้งหมด
จางหลินซินเองก็ได้ยินเรื่องเหล่านี้ นึกถึงอดีต จางเหยียนอี้เป็นลูกติดและจางหลินซินรู้สึกสงสาร เห็นเธอเป็นน้องสาวมาตลอด พ่อของเธอลำเอียง รักแต่แม่เลี้ยงกับจางเหยียนอี้ แต่จางหลินซินไม่เคยโกรธพ่อ เธอทนมาตลอดหลายปี
เพราะเธอเชื่อใจครอบครัว ถูกจางเย่าหยางยั่วยุ จนเกิดความขัดแย้งกับคนที่เธอรักที่สุด ที่จริงแล้วเป็นจางเย่าหยางที่หาคนมาวางยาเธอ แต่กลับถูกบิดาบอกว่าเป็นฝีมือของเฉินจือหาน ทำให้เธอเข้าใจผิด หลังจากนั้นเธอยังถูกจางเย่าหยางผลักไสไม่รับผิดชอบใดๆ ตอนนี้คนเลวนั้นทำเพื่อผู้หญิงที่ท้องลูกของเขา เพื่อครอบครองทรัพย์สินตระกูลจาง ร่วมมือกับจางเหยียนอี้จ้างมือปืนฆ่าเธอ
ช่างเป็นพ่อที่ดีจริงๆ!!
จางหลินซินหน้าตึง ไม่คาดคิดว่าก่อนตาย จะได้เห็นความจริงของพ่อกับลูกสาวที่ชั่วร้ายขนาดนี้ โทษตัวเองที่อยู่ในครอบครัวไม่ดีและเชื่อใจคนผิด
เฉินจือหานลุกขึ้น เดินไปยังคุกใต้ดินด้านในสุด ในคุกมืดมีเพียงเสียงฝีเท้าของเฉินจือหานที่ดังชัด แม้แต่มือปืนที่เดินตามยังต้องระวังลมหายใจ วันนี้คุณเฉินเหมือนมัจจุราชจริงๆ ในคุกใต้ดินมีสามคนถูกมัดไว้บนไม้กางเขน เปื้อนเลือดไปทั่ว ทั้งสามตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด หน้าอกเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน เหลือเพียงเสียงหายใจแผ่วเบา
สามคนนี้คือ จางเย่าหยาง จางเหยียนอี้ และหลี่หลิงเจิน
จางหลินซินตกใจ หลี่หลิงเจิน?! เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
หลี่หลิงเจินเป็นเพื่อนสนิทของจางหลินซิน ทั้งคู่สนิทกันมาก เธอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง? จางหลินซินหัวใจเต้นแรง คิดถึงความเป็นไปได้ที่ไม่คาดคิด หรือว่าแม่เลี้ยงของจางเย่าหยางคือหลี่หลิงเจิน?! ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้หลี่หลิงเจินท้องโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ จางหลินซินพยายามเกลี้ยกล่อมให้หลี่หลิงเจินทำแท้ง แต่เธอไม่ยอม
ไม่คิดเลยว่าลูกในท้องจะเป็นของจางเย่าหยาง ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าทั้งคู่จะเลวเช่นนี้
ทั้งสามคนถูกทรมานจนใบหน้าเละเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดสกปรก เมื่อจางเย่าหยางเห็นเฉินจือหาน เขาร้องขอความเมตตา หวังว่าเฉินจือหานจะปล่อยเขาไป
“ขอร้องล่ะ...คุณเฉิน...ปล่อยฉันไปเถอะ ฉัน...ฉันยังเป็นพ่อของจางหลินซินนะ คุณฆ่าฉันไม่ได้...”
“คุณยังกล้าพูดอีกเหรอ? จางเย่าหยาง!” เฉินจือหานพูดพลางพันผ้าพันแผลที่มือ แล้วต่อยหน้าของจางเย่าหยาง“คุณไม่สมควรเป็นพ่อจริงๆ วันนี้ฉันจะจัดการพวกคุณเพื่อจางหลินซิน!”
“อ๊าก!” จางเย่าหยางร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
ตอนนี้เฉินจือหานเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำให้จางเย่าหยางตัวสั่นด้วยความกลัวใบหน้าซีดเผือด เฉินจือหานใช้มีดแทงหน้าอกจางเย่าหยาง เลือดพุ่งออกมาทำให้ผ้าเช็ดหน้าของเขาเปื้อนเลือด สุดท้ายจางเย่าหยางถูกแทงตาย มีบาดแผลนับไม่ถ้วนที่หน้าอก
“พ่อ!”
“เย่าหยาง!”
จางเหยียนอี้และหลี่หลิงเจินตกใจ ไม่คิดว่าเฉินจือหานจะกล้าฆ่าจางเย่าหยางต่อหน้าพวกเขา
เฉินจือหานเดินมาหาพวกเขา เช็ดเลือดบนมีด พูดอย่างช้าๆ “พวกคุณมันคนใจหยาบ ตายกี่ครั้งก็ไม่พอ”
“ไม่...ไม่...”
“การตายของจางหลินซินไม่เกี่ยวกับพวกเรา...เป็นจางเย่าหยางที่วางแผนทั้งหมด”
ทั้งสองพยายามผลักดันความรับผิดชอบ หวังว่าเฉินจือหานจะปล่อยพวกเขาไป ใครจะไม่อยากมีชีวิตอยู่? เฉินจือหานไม่ฟัง ใช้ปืนยิงแขนซ้ายของทั้งสอง ทำให้พวกเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเต็มไปด้วยความทรมานและเปื้อนเลือดดูน่ากลัวมากขึ้น
เฉินจือหานยังยิงพวกเขาต่อหน้าเธอ ทำให้หลี่หลิงเจินเสียสติทันที ทั้งสองมีจุดจบเหมือนจางเย่าหยาง
หรืออาจจะแย่กว่านั้น
“จางหลินซินตายแล้ว พวกคุณต้องตามไปด้วย!” เฉินจือหานพูดด้วยความเย็นชา มองไปที่ศพทั้งสามบนไม้กางเขน
กรรมตามสนอง!
เมื่ออยู่ๆ 'นิตย์รดี โขคฉลุย' ต้องมาตกงานกะทันหัน เสียงานออกแบบภายในดีกรีปริญญาโทไปในพริบตา ต้องระเห็ดกลับมาอยู่บ้านเกิดที่พังงา สถานการณ์บังคับให้ต้องทำงานที่เลือกไม่ได้ หญิงสาวมาสมัครงานที่บ่อทรายของ 'นายหัวศิธา' ในตำแหน่งคนจดคิวรถ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดช่วงพายุถนนขาดกลับไม่ได้ เลยต้องค้างที่่บ่อทราย โชคยังดีเพราะมีห้องว่างแต่เธอดันเข้าห้องผิด!
เมื่อท่านประธานสุดเหลี่ยมมาเจอกับเด็กที่เหลี่ยมกว่า! ชีิวิตของท่านประธานน่านฟ้าถึงคราวปั่นป่วนเมื่อใช้เล่ห์เหลี่ยมในคลับหรู จนได้เด็ก N มานั่งแบบฟรีๆ แต่ดันโดนเด็กเหลี่ยมกลับท่านประธานถึงกับไปไม่เป็น!
เพราะหน้าตาเขาถูกใจอย่างจัง คุณหนูโรสจึงทำสารพัดวิธีเพื่ออ่อยมาเฟียหนุ่มให้ยอมตกเป็นของเธอ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาทั้งไล่ ทั้งด่าทำปากแจ๋วใส รสรินทร์จึงต้องงัดกลเม็ดความเด็ดที่มี พิชิตตัวพิชิตใจทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามาครอบครอง “เหนือเพชร” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสุดยั่วยวน ทำใจกล้าส่ายสะโพกลงบนตัวตนที่รับรู้ได้ว่ากำลังพองขยาย เขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา มีอะไรเหมือนคนปกติแต่ทำไมเล่นตัวจัง “ต้องการอะไร” เขานอนนิ่งจ้องมาด้วยแววตาที่เย็นชาจัด “ก็ต้องการนายไง” ถามมาได้ก็บอกอยู่ทุกวันว่าอยากได้ๆ ยอมๆ มาก็จบ ฟินๆ กันทั้งสองฝ่าย เธอก็ปากดีไปงั้นแหละประสบการณ์เป็นศูนย์ แต่เต็มใจมากถ้าครั้งแรกของเธอเป็นของเหนือเพชร “เห็นเป็นที่ระบาย?” เขาไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ รู้จักกันก็เปล่าคุยกันนับคำได้ เขาทั้งไล่ทั้งด่าแต่เธอก็ยังไม่หยุดตื้อ เขาไม่มีความคิดที่จะคบหาใครในตอนนี้ และไม่อยากมีสัมพันธ์กับโรสเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันอยากได้ตัวนาย แล้วก็ตรงนี้...ของนายด้วย” โรสจิ้มนิ้วลงไปที่กลางอกของเขา เธออยากได้หัวใจมากกว่าร่างกายเสียอีก แต่เขาไม่อ่อนให้เธอเลย “ฝัน?” เหนือเพชรจับตรึงสะโพกของเธอไว้ เพราะลีลาการส่ายที่เย้ายวนของคนสวย เริ่มปลุกให้แก่นกายของเขาตื่นเต็มลำ ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างอันตราย “ไม่ฝันหรอกคอยดูเถอะ นายก็ไม่ได้รังเกียจฉันนี่นา”
ริชาร์ด คาลเวิร์ตเจ้าของเรือสำราญสุดหรูกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถูกสาวน้อยลูบคมด้วยการใช้ลูกได้ตุกติกในการเล่นคาสิโน แต่ยังไม่ทันที่ปานฟ้า เฮนเดอร์สัน ยังไม่ได้ทันหอบเงินไปใช้ เธอก็โดนจับได้เสียก่อน ปานฟ้ามีเหตุให้ต้องตัดสินใจเข้ามาเสี่ยงโชคในเกมคาสิโน เพราะต้องการเงินก้อนใหญ่ไปใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ ปานฟ้าไม่อยากโดนจับเธอขอแลกกับการทำงานบนเรือเพราะเธอเชี่ยวชาญด้านงานช่างเป็นอย่างดี ริชาร์ดเห็นว่าจะส่งเธอกลับตอนนี้ก็ไม่ทันเพราะเรือออกจากฝั่งมาไกลมาก จึงให้เธอทำงานและจับตาอยู่อย่างใกล้ชิด แต่สงสัยจะใกล้ชิดเกินเหตุ จากจับตากลายเป็นจับใจหลงไม่ไหว อยากได้นางโจรมาเป็นเมีย!
เมื่อกี้มีใครได้จูบคุณหรือเปล่าคะ” ดวงตาคู่หวานจ้องมองอย่างจับผิด ไม่มี” เดร็ครีบตอบ แต่เมื่อเห็นความหวงในแววตานั้นเขารู้สึกถูกใจ ถ้าเป็นคนอื่นอาจผลักลงจากเตียงไปแล้ว แต่เป็นคามิล่าที่แสดงความหวงแหน และเขาก็ชอบมัน “อืม แต่ชักแน่ใจแล้ว บางทีอาจจะมี…” พูดยังไม่ทันจบคามิล่าก็ก้มลงประกบริมฝีปาก เธอจูบไม่เป็นแต่พยายามขบริมฝีปากหนา แล้วแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขา เดร็คจูบตอบทันทีความเงอะงะไม่เป็นภาษา กระตุ้นอารมณ์ร้อนภายในร่างกาย จูบของคามิล่าเต็มไปด้วยความหวงแหน แสดงความเป็นเจ้าของผ่านจูบดูดดื่ม“มาลองคิดดูดีๆ ไม่น่ามี” เดร็คถอนริมฝีปากออกแล้วกดจูบที่ข้างแก้มสวย เธอน่ารักน่าเอ็นดู มีเสน่ห์แบบที่ไม่ต้องทำอะไร เขาก็หลงหัวปักหัวปำไปหมดแล้ว
ปฐวีเจ้าของนิตยสาร SEXY ISSUE วัย 24 ปี แต่ต้องกลายมาเป็นเสี่ยซะงั้น เพราะสาวหน้าเด็ก 'น้ำมนต์' เสนอตัวขอเป็นเด็กแลกกับเงิน ก็นะเด็กมันเดือดร้อนคนหล่อใจบุญ จะปล่อยไปได้ไง ตอนแรกกะจะไม่สนใจหรอกแค่ส่งเสียเฉย ๆ แต่ไหงไป ๆ มา ๆ กลายเป็นสมภารกินไก่วัดซะงั้น ก็เธอน่ะ ทั้งน่ารัก ทั้งใสซื่อจนอดใจไว้ไม่ไหว พอผมเริ่มคิดจะจริงจัง ขึ้นมาเรื่องราวกับพลิกผันเพราะเธอดันไปมีเสี่ยคนอื่น แล้วรู้มั้ยว่าสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือ....การทรยศ!!!
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด