ความรักต่างวัยของอาโหน่งกับหนูครีม ที่ได้ลงเอยกันด้วยเรื่องบังเอิญ เหมือนอุบัติเหตุรักที่ไม่อยากให้เกิด ลึกๆ ในความรู้สึกของหนูครีมแอบปลื้มผู้ชายที่ดูอบอุ่น หล่อ สมาร์ต แบบอาโหน่งอยู่แล้ว แต่การแต่งงานแบบคลุมถุงชนของสองปู่ ที่อยากเห็นหลานของตัวเองเป็นฝั่งเป็นฝา อยากให้ได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน หนูครีมได้มาเป็นเจ้าสาวแทนเค้กพี่สาวของเธอที่หนีตามคนรักไป เรื่องราวของหัวใจที่ไม่อาจจะห้ามได้ มาติดตามเป็นกำลังใจให้กับหนุ่มใหญ่ กับสาววัยกระเตาะกันค่ะ คำโปรย “รู้ไหมว่าการแต่งงานคืออะไร มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ครีมหรือใครจะมาล้อเล่นกับอานะ แล้วครีมรู้ไหม ถ้าครีมเป็นเมียของอา ครีมต้องทำยังไงบ้าง” เขาถามเธอตรงๆ ชิดใบหน้าจนเกือบชน เด็กสาวได้แต่ก้มหน้างุดๆ แต่มันก็แทบจะแนบสนิทกับใบหน้าของเขา “ครีมเข้าใจความหมายที่อาโหน่งกำลังพูดถึงไหม ฮึ...” เขาถามอีกครั้ง พัสกรโกรธที่เธอไม่ตอบคำถามของเขา “ครีมพร้อมไหมที่จะเป็นเมียอา” *** บทรักแซบเด้อ ขอบอก ***
ณ ไร่เจ้าขา
รถยนต์คันใหญ่แล่นเข้ามาในเขตของไร่ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มได้ยินไปทั่ว ตามถนนเห็นฝุ่นตลบตามหลังรถยนต์คันใหญ่นั้นเป็นทาง จนเด็กสาวที่ปั่นจักรยานอยู่ริมถนนต้องจอดแล้วยกเอาชายเสื้อขึ้นมาปิดบังใบหน้าและรูจมูกเพื่อไม่ให้สูดเอาฝุ่นเข้าไปในปอด
'รถคุ้นจังแฮะ' หญิงสาวนึกตาม ขยับแว่นตา มองตามตูดรถคันใหญ่นั้น
'รถอาโหน่ง' แววตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความดีใจ ขยับตัวรีบขึ้นคร่อมจักรยานสีชมพูเข้มของตัวเองแล้วปั่นออกตัวไปอย่างรวดเร็ว
เสียงฝีเท้าที่วิ่งตึงตังขึ้นไปบนเรือน ทำให้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกนั้นหันมามองเป็นตาเดียว
"หวัดดีค่ะ" เสียงเจื้อยแจ้วที่ส่งออกมาจากกลีบปากคู่บาง ภาวนารีบยกมือไหว้ คลานเข่าเข้าไปหาพวกผู้ใหญ่ที่นั่งหันมามองเธอกันหมด ปากสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มออกมาตลอดเวลา สีหน้ายิ้มระรื่นเต็มไปด้วยความดีใจ
ป้าแววพี่สาวของแม่ ป้าแท้ ๆ ของหนูครีมหันมามองใบหน้าน้อย ๆ ด้วยสายตาตำหนิ แต่เด็กสาวไม่ได้สนใจรีบคลานผ่านหน้าคุณป้าเข้าไปหาคุณตาของเธอทันที
"ไปซนที่ไหนมาอีกล่ะ" ท่านถามด้วยความรักและเอ็นดูเด็กสาว ยกมือขึ้นลูบหัวหลานรักคนเล็กของบ้านเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
"คุณปู่พนัสหายไปนานเลยนะคะ คิดถึงจังเลยค่ะ" เธอรีบทักผู้เฒ่าชราเพื่อนรักของคุณตาด้วยความสนิทสนม
"โตเป็นสาวแล้วนะเรา แหม...เจอหน้าหนูครีมก็ทำปากหวานกับคนแก่ทุกทีแหละนะ" ปู่พนัสทักทาย
"ที่ไหนได้คะคุณพ่อ ยังนี้เขาเรียกซนยังกะลิง ยังวิ่งไล่เล่นงูกินหางกับเด็กท้ายสวนอยู่เลยค่ะ" ป้าแววเหน็บหลานรักขึ้นทันควัน
สายตาของเด็กสาวที่หันมองไปรอบ ๆ เหมือนสำรวจหาใครสักคน ท่าทางดูเลิ่กลั่ก ก่อนจะถามปู่พนัสขึ้น
"ใครมาส่งคุณปู่คะ ครีมเห็นรถของอาโหน่งจอดอยู่ใช่ไหม" แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้
"เรานี่ความจำดีไม่ใช่เล่นนะ ใช่แล้วรถของอาโหน่ง แต่ปู่ขับมาเองจ้ะ เพราะอาโหน่งเขาได้รถคันใหม่มาใช้แล้ว เลยยกคันนี้ให้ปู่ เห่อ ๆ...." ท่านหัวเราะ
หนูครีมทิ้งตัวนั่งลงไปแบบผิดหวัง เพราะเธออยากจะเห็นหน้าเขาใจจะขาด ไม่เจออาโหน่งตั้งนานแล้ว
"นึกว่าจะได้เจออาโหน่งเสียอีก" เธอพูดขึ้น แววตาหม่นลงไป
"โธ่... ยายหนูครีม ทีแรกเนี่ย ปู่คิดว่าหนูครีมจะคิดถึงปู่จริง ๆ เสียอีก ที่แท้ไปนึกถึงคนอื่นเสียนี่ เฮ้อ... คนแก่ชักน้อยใจซะแล้ว" ปู่สัพยอก
"แหม...คุณปู่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย แค่คิดว่าถ้าอาโหน่งมาจริง ๆ ครีมจะชวนไปขี่ม้าเล่นด้วยกันนะสิคะ เฮ้อ..." เด็กสาวทำหน้าเซ็งสุด ๆ
"อีกหน่อยขี้คร้านจะได้เห็นหน้าอาโหน่งกันบ่อย ๆ คงเจอกันทุกวันแล้วละ แต่จะพาอาโหน่งเขาไปซนกับเราเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ" ตาเกชาพูดด้วยสีหน้าระรื่น
ครีมนั่งทำตาโตด้วยความสงสัย
"ยังไงคะ ทำไมต้องได้เจอกับคุณอาทุกวัน"
เธอมักเก็บอาการของความอยากรู้ไว้ไม่ได้จริง ๆ สงสัยในคำพูดของคุณตาจริง ๆ ยังไม่ทันที่จะมีใครตอบ ทุกคนก็หันไปมองหญิงสาวอีกคนที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง ภาวินี พี่สาวคนเดียวของภาวนาได้เดินเข้ามา ท่าทางเหนื่อยหอบ เพราะเดินมาจากห้องทำงานส่วนกลางของไร่เจ้าขา
"มาแล้วค่ะ" ป้าแวว บอกกับทุกคนด้วยสีหน้าและแววตาดีใจ
ภาวินียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกท่านก่อนจะนั่งลงด้วยสีหน้าเรียบเฉยกว่าปกติ จ้องมองคุณป้าที คุณตาที ก่อนจะจบลงสบสายตากับน้องสาว แต่ก็เลยไปมองใบหน้าของปู่พนัส
"ว่ายังไงหนูเค้ก" ปู่พนัสเรียกทันทีแบบเสียเวลา เพราะรอการมาของภาวินีอยู่แล้ว
เค้กเริ่มอึกอักพูดไม่ออก หันไปมองคุณตาเหมือนจะขอตัวช่วย
หนูครีมนั่งนิ่งเพราะอยากรู้ว่าที่ทุกคนมานั่งรวมกันอยู่ตรงนี้มีเรื่องอะไรกันแน่
คุณตาเกชารีบตบที่เบาะนั่งของท่านเบา กวักมือ ส่งเสียงเรียกให้ภาวินีเข้าไปนั่งใกล้ ๆ
"เค้ก ปู่พนัสเป็นเพื่อนรักกับตานะ ตากับปู่พนัสเราสองคนรักกันมาก และทุกอย่างตาคิดดีแล้วว่ามันจะต้องดีกับทุก ๆ คน หากเค้กได้แต่งงานกับโหน่ง ตาก็จะโล่งใจ หมดห่วงเค้กไปได้สักคน อีกอย่างมันต้องดีกับตัวเค้กเอง ตาเชื่อมั่นว่าโหน่งจะดูแลเค้กแทนตาได้"
หนูครีมถึงกับหน้าถอดสี เธอใจเต้นตึก ๆ กับเรื่องที่กำลังได้ยินได้ฟัง นั่งจ้องใบหน้าของพี่สาวแบบลุ้น ๆ
ภาวินีก็มีท่าทีต่างไป เธอมีใบหน้าซีดเผือด กลืนน้ำลายลงคอแบบฝืด ๆ อย่างเห็นได้ชัด
'ตาจะให้พี่เค้กแต่งงานกับอาโหน่ง เฮ้ย...มันคืออะไร"
หนูครีมคิดอยู่ในใจ เด็กสาวจ้องหน้าของพี่สาวเขม็งตาไม่กะพริบ อยากได้ยินด้วยหูของตัวเองว่า พี่เค้กจะตอบโอเคหรือไม่
"นี่ยายหนูครีมออกไปก่อนได้ไหม เร็ว ๆ ด้วย เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเด็ก"
ป้าแววออกปากไล่ พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของเด็กสาวเบา ๆ เธอหันไปมองป้าด้วยใบหน้าที่ยังคงตกตะลึง คุณป้าชี้นิ้วไปที่เธออีกครั้ง ครีมขยับแขนยกนิ้วชี้ไปที่หน้าอกของตัวเอง
"เอ่อสิ...ใช่ ออกไปก่อน" ป้าไล่ พลางทำปากขมุบขมิบ ส่งสายตาดุ ๆ มาให้ด้วย
‘แต่หนูอยากนั่งฟังอยู่ด้วยนี่น่า’ เธอเถียงป้าอยู่ในใจ ภาวนาทำหน้าแบบเซ็ง ๆ ในใจไม่อยากออกไปเลยสักนิด แต่ขัดใจคุณป้าของเธอไม่ได้ หนูครีมหมุนตัวคลานถอยออกไปอย่างเชื่องช้า พอพ้นประตูก็หลบอยู่ตรงหลังประตูนั้นเพื่อแอบฟัง หูเนี่ยกางผึ่งด้วยความที่อยากรู้เต็มที่
กามเทพแสนกลช่างล้อเล่นกับความรักของสามคู่หนุ่มสาว ให้เกิดความรักที่มีทั้งความสุข ทั้งความทุกข์ปะปนกันไป พรหมลิขิต หรือว่า เนื้อคู่ ใครนะที่จะมีด้ายสีแดงผูกกันไว้ หากสองเราเป็นคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันจริงหรือ หลิน สาวน้อยจากเชียงรายผิวขาวเนียนสวย สะอาดสะอ้าน ปากนิด จมูกหน่อย ยิ้มเก่ง ขยันทำงาน และตั้งใจเรียน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง จะมาเสียเอาตอนสุดท้าย กับชายหนุ่มที่ทั้งหล่อและรวย หลินจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต จากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับพี่พีค นายพีระ หรือว่า พี่พีค ซีอีโอหนุ่ม เจ้าของโรงแรมใหญ่กลางกรุง หน้าตาดีหล่อเหลา ฐานะร่ำรวย ร่างกายกำยำ หุ่นกระชากใจ เป็นที่หมายปองของสาว และเขาได้ชื่อเป็นคาสโนว่าตัวพ่อ ถ้าเขาจะคบกับผู้หญิงคนไหน เขาจะให้เวลาเธอแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ชายหนุ่มผู้ที่ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ความสัมพันธ์นั้นที่มันเกิดขึ้น คือ ความผิดพลาด หรือความตั้งใจกันแน่ ในเมื่อตัวเธอรักเขาเข้าไปแล้ว ความรักที่เกิดขึ้นของหลิน เธอจะทางสมหวังในความรักหรือเปล่า พีคจงใจนอนกับหลิน หญิงสาวที่แสนจะธรรมดา ที่ทำไมดึงดูดใจเขายิ่งนัก เขาคิดยังไง มันเป็นแค่ความใคร่ หรือความต้องการของผู้ชายกันแน่ หรือ เขาแค่อยากชนะผู้หญิง ที่วิ่งหนีเขาก็เท่านั้น เพียงชั่วข้ามคืน สิ่งที่เขาทำ มันจะเปลี่ยนชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งไปตลอดกาล ในเรื่องยังมีอีกหลายคู่ ความรักของแพรวาและกฤษ รักแรกของกันและกัน รวมถึงความรักของพ่อหนุ่มเนื้อหอมเจ้าเสน่ห์อย่างอย่างนายภุชงค์ มาติดตามกันค่ะว่า ผู้หญิงแบบไหนจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของพ่อหนุ่มคนนี้ และเธอคนนั้นจะเป็นคนหยุดเขาได้หรือไม่ ขนมผิงกับติ๊ดชึ่ง ทอมกับผู้ชายเนิร์ด พี่คีตากับหญิง รุ่นพี่ที่รักจริงหวังฟัน และคู่เกย์น่ารัก กุ้งเต้นกับตุ๊กตุ่น คู่วายในเรื่อง --------- เขาทำดีกับเธออย่างนี้คนเดียว หรือว่ากับผู้หญิงทุกคนนะ คิดถึงเรื่องแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกหนาวเข้าไปในใจ ‘พี่พีคคงเห็นเราเป็นของเล่นชิ้นใหม่ ของใหม่ เขาคงยังไม่เบื่อ แล้วถ้าเขาเบื่อเราล่ะ ไม่... ฉันจะไม่รอให้เขามาบอกลา หรือทิ้งฉันก่อนแน่ ๆ’ หลินรีบเก็บโต๊ะอาหาร เธอหยิบกระเป๋าถือ รีบเดินออกจากห้องไปทันที ++++++ สปอย “เอ่อ...ก็รู้แล้วลงจากตัวเขาได้ยัง” เธอผลักอกเขาเบา ๆ “ไปอาบน้ำด้วยกันนะ เดี๋ยวเขาอาบให้มี่เอง” เขาชักชวนเธอ เพราะรู้สึกตรงกลางร่างงามฉ่ำแฉะไปหมดแล้ว “มี่รู้ไหมเขามีความสุขที่สุดเลย” บอกเธอด้วยน้ำเสียงดีใจปนปลื้มสุด ๆ “อือ...” เธอยิ้มกลับส่งสายตาหวานให้ “แต่เดี๋ยวเขามีเรื่องจะถาม” ลีโอเอ่ยมาน้ำเสียงจริงจัง จ้องหน้าโดยใช้นิ้วมือของเขายึดใบหน้าเธอให้ตรึงอยู่กับที่ “เรื่องอะไร...” “ทำไมมี่ใส่ถุงยางอนามัยคล่องจัง เขายังไม่ค่อยเป็นเลย” เขาถามน้ำเสียงจับผิด เธอส่ายหน้าหน้าแดงไม่ยอมตอบ “บอกมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นเขาจะเอาตัวเองต่อ” พูดพลางขยับอัดแท่งลงร่องแน่น “บ้าเหรอลีโอเดี๋ยวถุงแตก” เธอร้องห้ามบิดตัวหลบปลายจมูกที่ซุกไซ้ลงมา “ไหนบอกมาก่อนเร็ว ๆ” เขาหยัดร่างใช้สองมือคร่อมหน้าเธอไม่ให้ขยับ “แหม...อยู่หอ ไอ้พวกเด็กหอมันไม่มีอะไรทำกัน ก็เลยซื้อมาลองหัดใส่ดูเผื่อได้ใช้” เธอตอบคำถามทำหน้าอาย ๆ “ผู้หญิงสมัยนี้มันจริง ๆ เลย” เขาพูดขึ้นก่อนจะก้มลงจุ๊บไปที่ปากที่กำลังจะเถียง “แต่ก็ได้ใช้เห็นไหม” “ครับที่รัก มีมี่ของลีโอเก่งไปทุกเรื่อง แต่เรื่องบนเตียงเราค่อยมาเรียนรู้พร้อมกันนะ พรุ่งนี้เขาจะหาท่าใหม่ ๆ มาบ้าง ตัวเองจะได้ไม่เบื่อ” พูดส่งเสียงทะเล้นปนทะลึ่ง “บ้า...ลีโอเนี่ย...” ว่าพลางทุบหน้าอกเขาอีกครั้ง “ไปอาบน้ำดีกว่า ดึกแล้วนะพรุ่งนี้ขอบตาเขาจะช้ำ” เธอรีบบอกเขา เพราะเลยเวลานอนมามากโขแล้ว “เขาว่าอย่างอื่นอาจจะช้ำมากกว่าขอบตาอีกนะ” พูดจบก็แกล้งกระแทกลำตัวเบา ๆ “ไอ้ลีโอ ไอ้ลามก...” “มี่เรียกเขาว่า ไอ้...ใช่ไหม ต้องลงโทษสถานเดียว” ลีโอกอดรัดมีมี่แน่น ซุกไซ้จมูกและปลายลิ้นไปทั่ว กว่าสองคนจะได้อาบน้ำนอนก็ใกล้รุ่งเต็มที...ฟ้าเหลืองเลยงานนี้
ณ ไร่สิงขร มีคุณสิงขร หรือ ดำ (40 ปี) เป็นเจ้าของ มีทั้งสวนลำไย ลิ้นจี่ บ่อเลี้ยงปลา ไร่ นา อีกเป็นพันๆ ไร่ เขาแต่งงานกับคุณเด่นนภา หรือ ไก่ มีลูกสาวคนโตชื่อ ข้าวผัด หรือ นางสาวดรุณี (18 ปี) ลูกชายคนเล็ก (15 ปี) ชื่อว่า สีหราชย์ หรือ ข้าวโพด ครอบครัวสิงขรรับเอา ไผท หรือ ไผ่ (36 ปี) เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่เรียนรวมสถาบันเดียวกันที่มาขออาศัยพึ่งใบบุญ เพราะไผทรักกันกับดาริน (30 ปี) หรือ เหมย ลูกสาวคนจีนในตลาดเมืองกำแพงเพชร และเขาได้พาเธอออกจากบ้าน เป็นวิวาห์เหาะมาเมื่อ 5 ปี ก่อน เพราะครอบครัวของดารินจะจับเธอคลุมถุงชนกับลูกเจ๊กในตลาดเช่นเดียวกัน แต่เพราะดารินตั้งท้องลูกของไผท ก่อนสิ้นปีนั้นดารินก็ได้คลอดน้อง ผิงผิง หรือเด็กหญิงดาริกา ซึ่งกำลังน่ารักน่าชัง พูดจ้อๆ ร้องเพลงทั้งวัน สวรรค์กลั่นแกล้งคุณพ่อของดารินตามมาเจอ แล้วก็ฉุดเอาลูกสาวของพวกเขากลับไป โดยไม่ฟังเสียงร้องของไผทและเด็กสาวตัวน้อยๆ ดารินร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้ และพาเธอไปอยู่ด้วยที่อเมริกาทันทีหลังเสร็จพิธีแต่ง ทำให้ไผทที่เคยเป็นผู้ชายที่รักลูกรักเมียทำแต่งาน เสียใจเอามากๆ เขากลายเป็นนักดื่มที่สามารถดื่มได้ทุกเวลา ภาระในการเลี้ยงดูเด็กหญิงดาริกา จึงตกเป็นของข้าวผัดไปโดยปริยาย ข้าวผัดพยายามทำดีกับน้าไผทและตั้งใจว่าจะให้เขากลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ น้าไผทคือผู้ชายที่ดรุณีรักและประทับใจ แต่สิ่งที่เธอเดิมพันเอาไว้ คือหัวใจของเธอ และชีวิตที่เหลืออยู่ แต่อุปสรรคไม่ได้มีแค่เรื่องอายุ แต่มีทั้งคุณสิงขรและคุณเด่นนภาที่ไม่อยากเห็นลูกสาวของพวกเขาต้องได้สามีเป็นพ่อหม้ายลูกติด เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป มาติดตามกันค่ะ
ด้วยคำว่า “เงิน” คำเดียว และฐานะที่ด้อยกว่า ที่ทำให้คนอย่างบุรินทร์ เขาตัดสินพวกเธอว่า เป็นพวกสิบแปดมงกุฎที่กำลังเข้ามาปอกลอกบูรณี พี่สาวของตัวเอง เขาไม่คิดว่า อติคุณ ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่อายุแก่กว่าเป็นสิบปีได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงแก่กว่าคนนั้น เธอมีเงิน และอรุณวนา เธอผู้เป็นพี่สาวของพี่เขยที่เขาคิดว่าเป็นตัวแสบ เธอจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของน้องชาย เพื่อพิสูจน์ว่าความรักแท้นั่นมีอยู่จริง แต่สุดท้ายคนที่พ่ายแพ้ต่อเล่ห์ร้ายของตัวเอง ก็คือตัวเขาเอง และเมื่อถึงเวลานั้น เธอจะให้อภัยและยอมรักว่าเธอรักเขา และพร้อมที่จะใช้ชีวิตไปกับผู้ชายคนนี้ที่ตั้งแง่รังแกและรังเกียจเธอตั้งแต่ต้นหรือไม่
ปอป่านถูกอาเฟื่องรัตน์เรียกตัวกลับเมืองไทย แต่ในวันที่จัดงานต้อนรับเธอ คุณอากลับประกาศนี่คืองานหมั้น พร้อมกับ นายธราเทพ หญิงสาวทั้งน้อยใจและตัดพ้อว่าทำไมคุณอาทำแบบนี้ เฟื่องรัตน์ป่วยเป็นเนื้องอกที่สมองและเธอคิดว่าคงไม่มีเวลาที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว เธอจึงตัดสินใจเลือก ธราเทพ เพื่อนและพี่จ๋าในวัยเด็กของปอป่านให้เขาเป็นสามีเฉพาะกิจของหลานสาว ธราเทพบอกกับเฟื่องรัตน์ว่าเขารักปอป่าน และเป็นผู้พิทักษ์ของเธอ ด้วยทรัพย์สินที่มากเกินไป กับคุณอาชัยนันท์ลูกนอกสมรสของคุณปู่และลูกของเขาคงสร้างปัญหาให้กับปอป่านบ้าง เธอตั้งป้อมกับเขา แต่ธราเทพจะเอาชนะหัวใจของหญิงสาวได้หรือไม่
เธอเป็นแค่เหยื่อของแม่เลี้ยงขี้อิจฉา และวางแผนกำจัดเธอให้ออกไปจากชีวิต แล้ววันหนึ่งยายแม่เลี้ยงก็ทำสำเร็จ เมื่อเธอถูกมอมยาและนำตัวไปขายซ่อง เขาเป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย แต่เธอกลับคิดว่า เขาคือคนที่คิดทำลายและทำร้ายเธอ เขาเพียงเห็นเธอในครั้งแรก หัวใจของเขาก็เต้นแรง และยิ่งใกล้ชิดเธอมากเท่าใด เขาก็ประจักษ์แก่ใจว่า เขาอยากจะเป็นคนดูแลและคุ้มครองเธอไปตลอดชีวิต ต้องกราบขออภัยหากชื่อกับนามสกุลไปพ้องกับใคร และชื่อสถานที่ต่าง ๆ เป็นเพียงการสมมุติขึ้นมาเท่านั้นค่ะ คุณธิดาขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อุดหนุนผลงานของคุณธิดามาโดยตลอด เป็นกำลังใจที่มากล้นจนไม่อาจละจากงานเขียน คุณธิดาพยายามปั่นผลงานใหม่ ๆ ออกมาสู่สายตาของทุกท่านแบบตั้งใจ หวังว่าคงจะสนุกกับเรื่อง กรงรักร้อนภรรยาคนเถื่อนนะคะ เป็นอีกเรื่องที่อยากให้คุณได้อ่านค่ะ คำโปรย “คุณมันเป็นคนร้ายใช่ไหม คุณกล้าดียังไงถึงทำกับฉันแบบนี้” มยุรดามุ่งเข้ามาทำร้ายเขา และทุบตีอินทนิลยกใหญ่ “ไปกันใหญ่แล้วคุณ ผมเป็นคนช่วยคุณนะ” เขาหวากใส่หน้าของเธอเช่นกัน อินทนิลพยายามปกป้องตัวเอง เขารวบมือและแขนของเธอเอาไว้ แล้วกอดรัดร่างที่มุ่งจะทำร้ายเขาให้สงบนิ่งลง “หลักฐานอยู่ทนโท่ว่าคุณเป็นผู้ร้ายลักพาตัว คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอยังลั่นปากพูดในสิ่งที่อยากพูด รู้ทั้งรู้ว่าเสียเปรียบ และเธออยู่ในฐานะที่ไม่สามารถสู้เขาได้ด้วยซ้ำไป “จะเล่ายังไงดีนะ” อินทนิลพูดคุยกับเธอตลอดตอนที่เธอไม่ได้สติ ตอนนี้ร่างเล็ก ๆ และนุ่มนิ่มของมยุรดาอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอนั่งอยู่บนตักของร่างใหญ่ ลำแขนของเขาพาดกอดรัดรวบหน้าอกหน้าใจ ปลายคางแหลม ๆ ของเขาจรดวางอยู่ที่ต้นคอของเธอ ในหัวใจของมยุรดาเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่เคยมีชายใดได้เข้ามาใกล้เธอแบบนี้ นอกจากคุณพ่อเท่านั้น อินทนิลขยับตัวให้ตัวเองนั่งดี ๆ และไม่มีทีท่าจะปล่อยหญิงสาว “อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันกลัวแล้ว ฉันขอร้องล่ะ” เธอพูดกับเขาอย่างแผ่วเบา รับรู้ได้ถึงลมหายใจของชายหนุ่มที่เป่ารดอยู่ข้างแก้ม เขาถอนหายใจดังเฮือก เหมือนที่คุณหมอสุชาดาบอกว่า ระวังจะโดนผู้หญิงคนนี้เข้าใจผิด แล้วตอนนี้เธอก็กำลังเข้าใจเขาผิดอยู่จริง ๆ “อย่าทำอะไรฉันนะ” น้ำเสียงสั่นเครือ อินทนิลรู้สึกสงสารเธอจับใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าบอกเธออย่างไร เพื่อลบล้างในสิ่งที่เธอคิด
หัวใจเจ้าสาวจอมเกเร อีวาน บันตี ดารุจ พี่ชายต่างมารดาที่รักน้องสาวมาก เขาแค่อยากช่วยให้งานแต่งงานของน้องสาวไร้อุปสรรค ไม่ให้มีอะไรมาขัดขวาง เขาจึงตัดสินใจทำเรื่องบ้าบอลงไป อีวานจับเอาดาวประดับ ลูกสาวเจ้าปัญหาของคุณเภาเจ้าบ่าวของน้องสาวไปกักขัง หลังจากนั้นก็มีเรื่องอลหม่านและอลเวงเกิดขึ้นมากมายให้นักอ่านได้ติดตามลุ้นไปกับนักเขียนค่ะ เรามาลุ้นไปด้วยกันว่า เรื่องของอีวานกับดาวประดับจะลงเอยอย่างไร สุดท้ายแล้วนิยายของคุณธิดาแทบทุกเรื่องจะเป็นนิยายโรมานซ์ มี NC ให้พอเลือดสูบซีด อย่างไรฝากให้ทุกท่านติดตามผลงานของคุณธิดาไปตลอด ให้สนุกไปกับการอ่านนะคะ และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายและสุขาภพใจแข็งแรง มีเงินใช้กันทั่วหน้าค่ะ
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป