/0/19855/coverbig.jpg?v=a37cc7a1b33362824650a04a7dcc4a71)
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
เพียงพริบตาก็ผ่านไปแล้วสามปี กิจการค้าผักปราณของตระกูลเว่ยดีวันดีคืน ภายในระยะเวลาข้างต้นมีคู่ค้าไปแล้วร่วมยี่สิบราย ทั้งจากดินแดนเบื้องล่างและดินแดนเบื้องบน
ด้วยเหตุนี้ตระกูลเว่ยจึงมีชื่อเสียงมากในดินแดนเบื้องบน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยย่างกรายขึ้นไปเหยียบทวีปที่สูงกว่าเลยก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
อย่างไรก็ตามกิจการและความสำเร็จของตระกูลเว่ยนั้นมากเกินไปจนไปเตะตาผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนเข้า โชคดีที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับสองพี่น้องตระกูลโอหยาง เมื่อครั้งที่ตัวตนระดับราชันมากดดันตระกูลเว่ยถึงหน้าประตูจวน ก็ได้สองพี่น้องที่ออกหน้าช่วยเหลือ ยังมีหอเทพโอสถและสมาคมอักขระเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ผู้มีอำนาจคนนั้นจึงล่าถอยไปด้วยความเจ็บใจ
เดิมทีหลายคนคิดว่าตระกูลเว่ยจบสิ้นแล้ว พวกเขาถึงกับส่ายหน้าเสียดาย แต่อย่างว่าความสำเร็จของตระกูลเว่ยมีมากเกินไป ไม่แปลกที่จะไปกระตุ้นตัวตนระดับนั้นเข้า ใครจะไปคาดคิดว่าผลจะออกมาเช่นนี้เล่า นอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบแล้วยังมีสองขั้วอำนาจระดับสูงหนุนหลัง คนที่รอเหยียบย่ำซ้ำเติมหากตระกูลเว่ยล่มจมถึงกับกระอักเลือดให้กับความโชคดีนี้
จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วมสามปีแล้ว ตระกูลเว่ยไม่เคยถูกผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนรุกรานอีกเลย หลายสิ่งเปลี่ยนผัน นอกจากความรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุดของตระกูลเว่ย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เกินหยั่งเช่นกัน
ระดับการฝึกตนของตระกูลเว่ยในปัจจุบันน่ากลัวมาก จนคนที่เคยเป็นศัตรูเริ่มสวามิภักดิ์ทีละคน ๆ แม้ไม่จริงใจถึงที่สุดแต่ก็ลดความคิดเลวร้ายลงไปมาก
แคว้นโจวจากที่เคยเป็นแคว้นอ่อนแอและยากจนที่สุดกลับพลิกผันกลายเป็นแคว้นที่มีความเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น พื้นที่หลายแห่งของแคว้นโจวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ช่วงนี้เงินจึงสะพัดเข้าคลังหลวงจนผู้เป็นโอรสสวรรค์แย้มพระโอษฐ์มีความสุขไปทั้งวัน
ความแข็งแกร่งของตัวตนผู้ครองแคว้นก็ไม่ได้น้อยหน้าตระกูลเว่ยเช่นกัน เพราะนอกจากพระองค์จะเสวยผักผลไม้ปราณเป็นประจำทุกวันแล้ว ยังได้รับน้ำพลังปราณเจือจางสามในสิบส่วนจากเว่ยซือซาน ด้วยความช่วยเหลือนี้เอง ระดับพลังของโอรสสวรรค์ในปัจจุบันจึงอยู่ที่ระดับจักรพรรดิขั้นกลาง
ฮองเฮาคู่พระทัยที่พระองค์รักยิ่งแม้จะไม่ได้มีระดับพลังขั้นเดียวกัน แต่พระนางก็สามารถฝึกฝนจนมาถึงระดับปราชญ์ขั้นสูงแล้ว คาดว่าให้เวลาแม่ของแผ่นดินราวครึ่งปีน่าจะสามารถเลื่อนระดับมาอยู่ในขั้นจักรพรรดิได้แน่
ชินอ๋องโจวเฟยหมิงก็ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ชายที่เขานับถือด้วยเช่นกัน ระดับพลังปัจจุบันของอ๋องหนุ่มคือจักรพรรดิขั้นต่ำ
ตระกูลที่สนิทชิดเชื้อกันดีอย่างตระกูลหลิน ตระกูลหลิว และตระกูลกู้ ผู้นำตระกูลทั้งสามล้วนมีพลังระดับจักรพรรดิขั้นต่ำทั้งสิ้น ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลระดับพลังก็เพิ่มขึ้นด้วย มากน้อยแตกต่างกันไป
ด้วยพลังระดับจักรพรรดิทั้ง 7 คนของแคว้นโจว ย่อมสร้างความน่าหวาดหวั่นให้แคว้นอื่น ๆ ไม่ยาก ชนเผ่าที่เคยกระด้างกระเดื่องก็เข้ามาสวามิภักดิ์ปัจจุบันกลายเป็นประชากรแคว้นโจวอย่างถูกต้อง ไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนอันตรายอีกต่อไป
แคว้นหนานที่เคยทะนงตนว่าแคว้นตนแข็งแกร่งที่สุดเพราะมีสมาคมอักขระสาขาย่อยตั้งอยู่ในแคว้นตนเอง ยามรู้ข่าวตัวตนจักรพรรดิทั้งเจ็ดของแคว้นโจวเล่นเอาร้อนรุ่มในอก โดยเฉพาะอ๋องหนานอี้เฉิน ที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นมาโดยตลอดจะทนได้อย่างไร
ทว่าก่อนที่เขาจะได้ลงมือสร้างความวุ่นวาย ผู้เป็นฮ่องเต้แคว้นหนานก็จัดการส่งเขาไปปกครองทิศใต้ของแคว้นเสียก่อน ถึงจะเจ็บใจจนกระอักเลือดแต่ทำอันใดไม่ได้แล้ว ทั้งนี้เขายังตกหลุมพรางพ่อลูกตระกูลฮุ่ยซึ่งจัดฉากให้เขาหลับนอนกับนางโลมจนชื่อเสียงฉาวโฉ่ อ๋องหนุ่มจะเจ็บใจน้อยกว่านี้มากหากแผนดังกล่าวไม่ใช่แผนเดียวกันกับที่เขาเคยคิดใช้กับโจวเฟยหมิง!
เรื่องราวต่าง ๆ ดำเนินไปตามครรลอง ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ประดังประเดเข้ามาไม่เว้นว่าง หากจุดเริ่มต้นของเรื่องราวหลาย ๆ อย่างกลับมีชีวิตเรียบง่ายและสงบสุขยิ่งนัก
เว่ยซือหงในวัย 10 ขวบ เพิ่งกลับมาจากการเรียนศาสตร์ทั้งสี่ของสตรี นอนแผ่หลาบนเตียงพร้อมนวดแขนเล็ก ๆ ของตนที่เริ่มปวดเล็กน้อยหลังถูกท่านย่าเคี่ยวกรำนานกว่าสองชั่วยาม(4ชม.)
“คุณหนูไม่งามเจ้าค่ะ” หลิงจูในวัย 17 ปีเอ่ยเตือนเมื่อคุณหนูของนางไม่เก็บกิริยา
“โธ่พี่หลิงจู ข้าอยู่ในเรือนตัวเอง ทั้งยังอยู่ในห้องนอน ไม่มีใครเห็นหรอกเจ้าค่ะ ท่านปล่อยข้าบ้างเถิด อย่าเคร่งครัดนักเลย”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนูโตแล้วนะเจ้าคะ ต้องระวังให้มาก” หลิงจูไม่ตามใจ ดรุณีน้อยมุ่ยหน้าผุดลุกขึ้นนั่งยกแขนกอดอกไว้พร้อมบึนปาก
“แต่ข้าเพิ่งอายุสิบขวบ”
“หรือคุณหนูอยากให้นายหญิงผู้เฒ่ามาเห็นเจ้าคะ” สาวใช้อีกคนนามหลิงอิงวัย 18 ปีเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“โธ่เอ๊ยพี่หลิงอิง ไม่เห็นต้องขู่กันเลย ทุกทีก็อยู่เงียบ ๆ แล้วแท้ ๆ” เด็กน้อยตอบสาวใช้คนสนิทอีกคนด้วยใบหน้าขัดใจราวไม่ได้รับความเป็นธรรม
สาวใช้คนสนิททั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม คุณหนูแม้จะเติบโตขึ้นมาก แต่ก็ยังสดใสน่ารักเหมือนตอนยังเด็กไม่มีผิด ถึงอุปนิสัยบางอย่างจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่กับครอบครัวและคนสนิทนางก็ยังน่ารักเหมือนเดิม!
“พวกข้าหวังดีกับคุณหนูนะเจ้าคะ ไม่ใช่ที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าเคี่ยวกรำก็เพราะท่านมาเห็นคุณหนูทำตัวเป็นม้าดีดกะโหลกเข้าหรือเจ้าคะ” หลิงจูหยิบยกการกระทำก่อนหน้าของนางขึ้นมาอ้าง ใบหน้าที่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมของเว่ยซือหงถึงคลายลง
“เอาละ ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้ข้าจะระมัดระวังตัวให้มาก ประพฤติตัวให้เหมาะสมเช่นสตรีในห้องหอทั่วไป พอใจกันหรือยังเจ้าคะ”
“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสองรับคำยิ้ม ๆ แต่แล้วต้องถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อคนที่เพิ่งรับปากกับพวกนางว่าจะเก็บกิริยาให้ดี ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง กางแขนกางขายิ่งกว่าเด็กชายจอมซนเหมือนลิงทโมนเสียอีก
“คุณหนู!”
“พี่ ๆ ทั้งสองปล่อยข้าสักวันเถอะ ข้าขอวันนี้วันเดียว เหนื่อยเกินกว่าจะรักษากิริยาได้จริง ๆ ท่านย่านะท่านย่า ปรานีอาหงสักหน่อยก็ไม่ได้” เจ้าตัวบ่นพึมพำ พร้อมทั้งขยาดกับความเด็ดขาดของหลินซือเหยายิ่งนัก
สองชั่วยามที่ต้องร่ำเรียนมารยาทที่ดีของสตรีชั้นสูง ไม่เหนื่อยเท่าการเย็บปักถักร้อยเลยแม้แต่น้อย มือขาวอวบยกขึ้นดูมองปลายนิ้วที่มีรอยพรุนเล็กน้อยจากการถูกเข็มจิ้มแล้วรู้สึกอนาถใจ
เหตุใดท่านย่าไม่เข้าใจว่าการเย็บปักมันไม่เหมาะกับนาง!
โปรย... ชะตาพลิกผันให้เจ๊ใหญ่หงทายาทมาเฟียยุค2000 ต้องไปเกิดใหม่ที่มิติใกล้ล่มสลาย ซึ่งทุกอย่างถูกวัดด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งพลังปราณ พลังธาตุ ทั้งนางยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ทว่าเมื่อลืมตาตื่นความทรงจำกลับเลือนราง นางกลายเป็นก้อนแป้งน้อยโดยสมบูรณ์! ผักก็ต้องปลูก มารก็ต้องกำจัด ความทรงจำยังเลือนรางอีก สวรรค์ท่านกลั่นแกล้งข้าหรือไร?
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา
เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..
คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"