เพราะอุบัติเหตุทำให้เธอเสียคนรักไปถึงสองคน ใครใครต่างก็กล่าวหาว่าเธอมีดวงกินผัว เธอไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้วจึงปิดตายหัวใจ และยอมอยู่อย่างเหงาๆ จนกระทั่งชายหนุ่มรุ่นของที่เคยแอบชอบเธอเข้าในชวิวิตอีกครั้ง ความจริงใจของเขาทำให้เธอยอมเปิดใจอีกครั้ง และเขาก็ทำให้เธอตกลงไปในหลุมสวาทอันเร่าร้อนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ฉัตรกล้ายืนมองป้ายยินดีต้อนรับที่ติดอยู่ด้านหน้าโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอแห่งหนึ่ง 10 ปีแล้วที่เขาไม่ได้มาเหยียบโรงเรียนแห่งนี้อีกเลย มันคงเป็นเวลาที่นานมากสำหรับใครหลายๆ คนแต่สำหรับชายหนุ่มวัย 27 ปีแล้ว เขาคิดว่ามันเพิ่งผ่านไปไม่นานเขายังจำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ได้ดี แม้จะมาเรียนที่นี่แค่หนึ่งปี แต่ก็มีความทรงจำมากมายเกิดขึ้นที่นี่
วันนี้เขากลับมาอีกครั้งโรงเรียนเก่าอีกครั้ง เพราะทางโรงเรียนจัดงานคืนสู่เหย้าเพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนและจ้างอาจารย์ชาวต่างชาติมาสอนเพิ่ม
ชายหนุ่มได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่เรียนมัธยมด้วยกันให้มาร่วมงานด้วย ซึ่งนี่ไม่ใช่ปีแรกที่ทางโรงเรียนจัดงานแต่มันเป็นปีแรกที่เขาว่างและกลับมาเย็นถิ่นเก่าอีกครั้ง
“ไอ้กล้านั่นมึงใช่ไหม” เสียงเรียกทำให้ฉัตรกล้าหันไปตามเสียงแล้วเขาก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่เรียนเขานั้นคือเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
“เฮ้ย! ไอ้อั๋นไม่ได้เจอกันนานยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะมึง” เขารีบเดินเข้าไปกอดณัฐพลเพื่อนรักที่มักจะโทรศัพท์คุยกันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้เจอกันมาเกือบจะสองปีแล้ว
“มึงก็ว่าไปกล้า กูยังหล่อไม่ได้เท่าครึ่งของมึงเลย แล้วนี่มาถึงนานหรือยังทำไมไม่เดินเข้าไปทางไหนวะ ไอ้เสกกับไอ้ป๊อบรออยู่ข้างใน”
“กูเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้ ลงจากรถแล้วก็เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าโรงเรียน แล้วมึงล่ะเพิ่งมาถึงเหมือนกันเหรอ”
“กูมาถึงนานแล้วแต่ไปเอาของที่รถมา เข้าข้างในกันเถอะ ตามกูมาทางนี้เลยพวกนั้นกำลังรอมึงอยู่”
ฉัตรกล้าก็เดินตามณัฐพลไปยังสนามฟุตบอลของโรงเรียนซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยโต๊ะเรียงกันอยู่นับร้อยโต๊ะ”
“ได้งานใหญ่เหมือนกันนะ”
“เออปีนี้จัดใหญ่กว่าทุกปีปกติมีโต๊ะแค่ 50 โต๊ะแต่ปีนี้มันครบรอบ 70 ปีของโรงเรียนด้วยก็เลยขายโต๊ะมากหน่อย” ณัฐพลเขาอธิบายให้ฉัตรกล้าฟังเพราะเขาไม่เคยมางานที่โรงเรียนจัดขึ้นเลย
“กูไม่ได้มาที่นี่นานเลยคุณครูเก่าๆ อยู่บ้างไหมวะ”
“ก็พอมีอยู่นะแต่บางคนก็ย้ายไปที่อื่นบ้างเกษียณไปก็มีเยอะเดี๋ยวกูจะพามึงไปเจอครูวิไลก็แล้วกัน กูบอกครูว่ามึงจะมาครูเขาก็เลยอยากจะเจอมึงอยู่เหมือนกัน”
“โอ้โห..แม่วิไลจำกูได้ด้วยเหรอวะ”
“จำได้สิก็มึงมันลูกรักเขาไง เด็กหลังห้องแม่งไม่เคยตั้งใจเรียนแถมหลับตลอดแต่ดันสอบได้คะแนนเต็มวิชาของแก แกก็เลยจำได้นั่นไงครูวิไลอยู่ตรงนั้นพอดีเลย” ณัฐพลรีบเดินนำฉัตรกล้าไปหาครูวิไลที่กำลังยืนต้อนรับศิษย์เก่าอยู่ที่ประตูทางเข้าอีกทาง
“สวัสดีครับครู”
“สวัสดีจ้ะ นี่ใครกันนะ” ครูวิไลขยับแว่นแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นจำได้รางๆ ว่าผู้ชายคนนี้คือใคร
“โตขึ้นแล้วหล่อขึ้นเยอะเลยนะ นายกล้า”
“ครูจำผมได้เหรอครับ”
“จำได้สิก็เธอมันเด็กที่ชอบหลับในเวลาเรียนแต่พอสอบทีไรก็ทำคะแนนดีตลอดแต่น่าเสียดายที่เรียนแค่ปีเดียวก็ย้ายไปเรียนที่อื่นแล้วเป็นยังไงบ้างสบายดีไหม”
“ผมสบายดีครับละครับ”
“ก็สบายตามอายุ ปีหน้าครูก็จะเกษียณแล้ว”
“ผมนึกว่าครูอายุสัก 50 นะครับ”
“ยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะ”
“ผมพูดจริงนะครับ ครูยังดูไม่แก่เลย”
“เพื่อนเรานี่มันปากหวานจริงๆ นะนายอั๋น”
“ก็มันช่างประจบแบบนี้ไงล่ะครูถึงไม่กล้าดุมัน”
“ก็จริงนะ จะดุทีไรก็ทำประจบทุกที แล้วนี่นึกยังไงถึงมางานนี้ล่ะ ทางโรงเรียนจัดงานมาหลายปีแล้วครูไม่เคยเห็นเธอมาเลยนึกว่าจะลืมโรงเรียนเก่านี้ไปแล้วเสียอีก”
“อีกไม่ได้ลืมหรอกครับผมไม่ค่อยว่าง ก็เลยได้แต่ฝากเงินมาช่วยโรงเรียน”
“ครูรู้ ครูถึงอยากเจอเธอไง ตัวไม่มาแต่ฝากเงินมาทุกปีคุณครูใหม่ๆ ก็อยากจะรู้จักพี่เราเหมือนกันนะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ไปไหนก็มาที่โรงเรียนสิ ครูจะได้แนะนำให้ครูท่านอื่นรู้จัก”
“เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับครูผมมีงานต้องทำอีกเยอะเลย”
“อย่างนั้นเหรอไม่เป็นไร เอาไว้โอกาสหน้าคงได้มาเจอ”
“กันผมคงได้มาเจอครูบ่อยๆ ครับ”
“หมายความว่ายังไงจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เหรอ แล้วจะอยู่กับใครล่ะ” ครูวิไลรู้ว่ายายของชายหนุ่มนั้นเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว
“หรอกครับพอดี ผมต้องมาดูงานก่อสร้างอาคารของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดครับ”
“โครงการนั้นหลายร้อยล้านเลย ได้คุมงานโครงการใหญ่ๆ แบบนี้เงินเดือนน่าจะสูงล่ะสิ”
“ก็พอประมาณครับ”
ฉัตรกล้าและณัฐพลไม่ได้คุยต่อเพราะมีแขกคนอื่นเดินเข้ามาครูวิไลก็ต้องรีบไปต้อนรับ
ชายหนุ่มเดินตามณัฐพลไปรวมกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ไอ้กล้าโผล่หัวมาได้สักทีนะมึง” เสกสรรทักทายเป็นคนแรก แม้จะไม่เจอกันนานหลายปีแต่เวลาเจอกันสรรพนามที่เรียกก็ยังคงเหมือนเดิม
“ถึงกูจะไม่เคยโผล่หัวมาที่กูก็ส่งเงินมาให้ทุกปีเลยนะ”
“ก็มึงมันรวยนี่หว่า” วสันต์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วพูดขึ้นบ้าง เขารู้ดีว่าฐานะทางบ้านของเพื่อนไม่ธรรมดาเลย
“แล้ววันนี้พวกเรามากันแค่นี้เหรอวะ” ฉัตรกล้ามองเก้าอี้ที่ว่างอีกสี่หัวแล้วถาม
“เออมีกันแค่สี่คนนี่แหละ โต๊ะอื่นเขามีกันเต็ม”
“อ้าว..แล้วคนที่เหลือไปไหน”
“มันก็เหมือนมึงไงส่งแต่เงินมาแต่ตัวไม่เคยมา ยังว่าดีที่ปีนี้มีมึงมาเพิ่มนะ ปีที่แล้วพวกกูมีกันอยู่สามคนอายเขาฉิบหายเลย”
“มึงจะอายทำไมวะ วันหลังมึงก็ชวนผู้หญิงมานั่งด้วยสิ”
“ไม่ล่ะ ขืนพามาที่นี่เดี๋ยวผู้หญิงเขาจะรู้วีรกรรมตอนเด็ก กูไม่อยากให้เขารู้” วสันต์ปฏิเสธ
“ก็มึงเป็นซะอย่างนี้ไงผู้หญิงเขาถึงได้กลัว” ฉัตรกล้าพูดแล้วก็หัวเราะเพราะตอนเรียนวสันต์นั้นเป็นหัวโจกที่สร้างเรื่องไว้มากมายเหลือเกิน
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
ใครจะคิดว่าคนที่เธอเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวในคืนนั้นจะกลายมาเป็นคนรักในวันนี้ แต่เขาไม่ใช่แค่คนรักธรรมดาเพราะเขาคือเจ้าของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ แต่เธอต้องเก็บเป็นความลับก่อนจะผ่านช่วงทดลองงาน
เพราะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนเธอความจำเสื่อม โดยมีตนเองเป็นต้นเหตุ หมออย่างเขาก็ไม่รีรอที่จะรับเธอไปดูแลในฐานะคนรัก
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?