ไหว้ฟ้าดิน ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้พ่อแม่ คำนับกันและกัน สองคนกลายเป็นสามีภรรยา รักใคร่กลมเกลียว กลมเกลียวกับผีนะสิ นางไม่ได้อยากแต่งกับบุรุษที่มีคนรักเช่นเขา แต่งเข้ามาเพื่อมองพวกเขารักกันนางยิ่งทำใจไม่ได้ ในเมื่อไม่รักกันเช่นนั้นพวกเราก็ "หย่า" กันเถอะ นางจะทำทุกทางให้เขาหย่ากับนางให้ได้
ไหว้ฟ้าดิน
ไหว้บรรพบุรุษ
ไหว้พ่อแม่
คำนับกันและกัน
สองคนกลายเป็นสามีภรรยา
รักใคร่กลมเกลียว
รักใคร่กลมเกลียวกับผีน่ะสิ ลี่ถิงที่นั่งรอในห้องหอกำลังนั่งด่าว่าที่สามีที่ปล่อยให้นางรออยู่ครึ่งค่อนคืนก็ยังไม่มา ในเมื่อไม่มานางก็หมดความอดทน จึงปลดผ้าคลุมมงคลออก ทันใดนั้นเสียงท้องก็ร้องขึ้น นางมองของที่วางอยู่บนโต๊ะเหล้าสุรามงคล ขนมมงคลพวกนั้นเห็นทีว่ากินไปแล้วคงติดคอตาย
หันมองซ้ายขวาด้านนอกมีแต่เสียงคนดื่มเหล้าเมามาย เสียงงิ้วก็กลบเสียงรอบด้านจนหมด นางมองสาวใช้จู่หลิงก็เห็นหลับฟุบข้างเตียงไปแล้ว จึงย่องออกจากห้อง
เป้าหมายของนางคือ ห้องครัว
ตั้งแต่ยามเหม่า[ เวลา 05.00-06.59 น.]จนถึงยามจื่อ[ เวลา 23.00-00.59 น.]ข้าวสักเม็ดก็ไม่ตกถึงท้อง ยามนี้นางไม่สนเรื่องเข้าหอพวกนั้น หวังเพียงหาอะไรตกถึงท้องก็พอ
เรือนเหลียนฮวาที่เป็นเรือนหอของนางนั้นตั้งอยู่ที่ทิศประจิม[ ทิศตะวันตก] ของจวน ลี่ถิงเงยหน้ามองหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมา
“เข้าฤดูเหมันต์แล้วหรือ” ใบหน้านางเศร้าลงมองไปทางหินที่เริ่มมีหิมะเกาะ คงเหมือนกับใจนางในตอนนี้ที่ไม่ปรารถนาจะแต่งงานกับบุรุษที่ไหว้ฟ้าดินด้วยกันเมื่อตอนกลางวัน
นางไม่อยากแต่ง เขาก็ไม่อยากแต่ง
เมื่อไม่อยากแต่งแต่จำต้องแต่ง นางถึงได้อยู่ในสภาพเช่นนี้
ลี่ถิงเก็บน้ำตาที่เอ่ออยู่ขอบตากลับเข้าไปดังเดิม จะมาร้องไห้ตอนนี้ก็คงจะทำให้คนเขายิ่งหัวเราะ นางจึงจำต้องหาอะไรมากินให้อาหารตกถึงท้องก่อน
เมื่อคิดได้ว่าสิ่งไหนสำคัญกว่านางก็เลยก้าวย่ำลงไปบนหิมะที่ปกคลุมพื้นหิน เดินไปได้ไม่นานก็เจอกับสวนดอกไม้พร้อมกับน้ำตกและสระบัวขนาดใหญ่ สายตานางมองไปยังทิศทักษิณ[ ทิศใต้]เป้าหมายของนางคือห้องครัว
แต่การจะผ่านด่านนั้นได้ ลี่ถิงก็ต้องไม่ให้คนอื่นเห็น หันมองทางขวาก็มีผู้คนในงานยังดื่มสุราชมงิ้วกันอย่างสนุกสนาน นางจึงเลี่ยงไปทางซ้ายที่มีต้นเหมยฮวาที่ร่วงโรยเหลือเพียงกิ่งไม้ ด้านบนมีหิมะเกาะอยู่แทน
กำลังจะเดินให้เร็วขึ้นก็ได้ยินเสียงคนที่อยู่ใต้ต้นเหมยฮวาพูดขึ้น ทำให้นางที่จะก้าวเท้าต้องหยุดลง
“พี่ฝูฉาง พวกเราหนีไปกันเถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่สนเงินทองพวกนั้นขอแค่มีท่านกับข้า ข้าก็พึงพอใจแล้ว”
“อี้เอ๋อร์ เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายเพียงนั้น ข้าเป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูลเหอ ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบย่อมสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัว”
“เพราะเช่นนี้ท่านถึงได้แต่งงานกับสตรีผู้นั้น นางเป็นแค่บุตรสาวบัณฑิตยากจนที่สอบได้แค่ซิ่วไฉ แต่กล้าขอแต่งเป็นฮูหยินเอกของท่าน”ซินอี้เอ่ยวาจาน้อยใจ นางกับฝูฉางเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก บิดานางเป็นพ่อบ้านของสกุลเหอมาร่วมยี่สิบปี ถือเป็นบุคคลสำคัญของสกุลเหอ ผู้บุกเบิกเส้นทางสายไหมจนทำให้สกุลเหอร่ำรวยมาจนถึงทุกวันนี้
นางคิดว่าอย่างไรเสียชีวิตนี้ก็จะเป็นภรรยาเขา รักใคร่กลมเกลียวไม่เปลี่ยน แต่แล้วจู่ๆ สกุลเถียนก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ เข้ามาแย่งตำแหน่งฮูหยินเอกของนางไป แล้วจะให้นางอยู่เฉยได้เช่นไร
“ถึงจะแต่งงานกัน แต่ข้าก็รักเจ้าไม่เปลี่ยน ถึงนางได้เป็นฮูหยินเอก แต่ข้าก็สามารถรับเจ้าเป็นอนุได้ อี้เอ๋อร์ เจ้ายินดีจะเป็นอนุให้ข้าหรือไม่”
ซินอี้มีสีหน้าครุ่นคิด จะหนีไปก็ไม่ได้ จะอยู่ก็เป็นได้แค่อนุ แต่เพราะความรักบังตานางจึงยอมเอ่ยตอบรับ
“ข้ายินดีเป็นอนุให้ท่าน แต่ท่านต้องสัญญาว่า วันนี้ไม่รักนาง พรุ่งนี้ก็ไม่รัก และชาตินี้อย่าได้สนใจสตรีอื่นนอกจากข้า” ซินอี้ขอให้ฝูฉางสาบาน
คุณชายฝูฉางที่จิตใจเต็มไปด้วยความรักยกมือขึ้นสาบานแล้วกล่าววาจาชัดเจน
“ข้าเหอฝูฉาง ขอสาบานว่า จะไม่รักแม่นางลี่ถิง หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป”
ซินอี้ที่ร้องไห้น้ำตาเปื้อนแก้มรีบยิ้มแล้วโผเข้ากอด สองคนกอดกันรักใคร่โดยไม่สนใจว่าใครจะมาเห็น
คนที่หิวและบังเอิญได้ยินคำสาบานนั้นพอดี ก็เบ้ปากใส่ภาพนั้น ท่านไม่อยากแต่งกับข้า ข้าก็ไม่ได้อยากแต่งกับท่านเหมือนกัน
“เชิญพวกท่านรักกันให้หิมะทับตัวตายไปเลย
เพราะตอนนี้ข้าหิวข้าว!!”
หลังจากกินข้าวอิ่มลี่ถิงก็กลับมานอนหลับยาวจนถึงรุ่งเช้า และแน่นอนว่าเขาไม่ก้าวเข้ามาในห้องนางสักก้าว ซึ่งสำหรับนางแล้วถือว่าเป็นเรื่องดี
จู่หลิงสาวใช้ปรนนิบัติแต่งตัวให้พลางก็บ่นไปพลาง “คุณชายเหอทำเช่นนี้ก็เท่ากับไม่ให้เกียรติคุณหนูเลยสักนิด”
ลี่ถิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้ากระจก เงยหน้ามองไปทางหน้าต่าง เห็นดอกเหมยฮวาคนละต้นกับเมื่อวานกำลังไหวเอนตามลมหนาว
“จู่หลิงเจ้าอย่าพูดถึงคนผู้นั้นให้ข้าอารมณ์เสียเลย” นางคิดว่าจะรีบทำผมเพื่อไปคารวะฮูหยินใหญ่ที่เรือนทิศบูรพา[ ทิศตะวันออก]
ปัง!! เสียงประตูนั้นทำให้พวกนางตกใจ จากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังติดๆ กัน
“ออกมาคุยกันที่ศาลาข้างนอก” น้ำเสียงขุ่นเหมือนโกรธกันมาสิบชาติทำให้ลี่ถิงเบ้ปาก วางหวีหยกในมือลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นกำลังจะก้าวเท้าเดินออกไปจู่หลิงก็รีบนำเสื้อกันหนาวมาคลุมให้
ลี่ถิงมองเสื้อกันหนาวสีแดงตัดขอบสีขาวเข้ากับชุดสีแดงที่นางชอบใส่ก็ยิ้มรับ จากนั้นก็เดินไปยังศาลา เห็นคุณชายฝูฉางยืนหันหลังให้เอามือไขว้หลัง ท่าทางเขาตอนนี้กับเมื่อคืนช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
ลี่ถิงเดินมายืนอยู่ด้านหลังเขาแล้วเอ่ย “ท่านอยู่ส่วนท่าน ข้าอยู่ส่วนข้า พวกเราต่างคนต่างอยู่ ท่านจะกล่าวเช่นนี้ใช่หรือไม่”
คนที่หันหลังอยู่หันมามองหน้าลี่ถิง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองใบหน้าคนที่เป็นภรรยาอย่างชัดเจน ดวงตากลมใส คิ้วบางดั่งกิ่งหลิว จมูกพองาม ริมฝีปากแดงราวลูกอิงเถา
‘งาม แต่ก็ไม่งามเท่าซินอี้ของเขา’
“ดี ถ้าพูดง่ายเช่นนี้ข้าก็ไม่ต้องเปลืองน้ำลาย” สีหน้าฝูฉางโล่งใจที่ลี่ถิงเห็นด้วย
แต่...พอเห็นหน้าดีใจแล้วนางก็รู้สึกว่าไม่สนุก
“แต่ท่านก็ทราบว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในสกุลเหอ ท่านยังเป็นคุณชายของที่นี่หาใช่นายท่านใหญ่ จะทำการสิ่งใดก็ล้วนอยู่ในสายตาของบิดาท่าน และข้าซึ่งเป็นฮูหยินของท่านก็ต้องถูกจับตามองเช่นกัน ท่านไม่สนใจข้าก็ยิ่งทำให้ฐานะข้าในจวนนี้ลำบาก”
ฝูฉางทำคิ้วขมวดไม่เข้าใจความหมาย “ก่อนหน้าเจ้าพูดว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่ทำไมประโยคหลังถึงพูดเหมือนว่าเราต้องเกี่ยวข้องกัน”
“ท่านเข้าใจถูกแล้ว ลับหลังพวกเราจะต่างคนต่างอยู่ แต่ต่อหน้าผู้คนนั้นพวกเราจะต้องแสดงบทสามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียว เพื่อที่ข้าจะได้อยู่ในจวนอย่างมีเกียรติ”
คิ้วหนายกขึ้นสูง “ให้ข้าแสดงละคร?” สีหน้านั้นเหมือนกล้ำกลืนฝืนทนอย่างที่สุด
“อีกไม่กี่วันข้าจะแต่งอี้เอ๋อร์เข้ามาเป็นอนุ”
“ก็แล้วแต่ท่าน”
“แล้วจะให้ข้าแสดงความรักกับเจ้า?”
“ท่านไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไปบอกบิดาท่านว่าพวกเราอยากจะหย่าดีหรือไม่?”
แต่งเมื่อวานวันนี้หย่า นี่มันธรรมเนียมอะไรกัน ถ้าเขาทำเช่นนี้อาจจะถูกไล่ออกจากจวนก็ได้ คนถูกบีบก้าวเท้าไปหาลี่ถิงอีกหนึ่งก้าว
ลี่ถิงก็ถอยหลังหนึ่งก้าวเว้นระยะห่าง “ท่านจะทำอะไร”
มุมปากนั้นยิ้มเย้ย “ข้าคิดว่าเจ้าชอบข้าเสียอีกถึงได้เสนอสิ่งนั้นออกมา”
ริมฝีปากบางเบ้ใส่อย่างไม่ปิดบัง “ท่านอย่าได้หลงตัวเอง ที่ข้าทำก็เพื่อรักษาหน้าสกุลเถียนถึงอย่างไรเกียรติและศักดิ์ศรีตระกูลข้าย่อมสำคัญกว่าตัวข้า”
“หึ อย่าพูดคำว่าศักดิ์ศรีให้ข้าฟัง ในเมื่อบิดาเจ้าเป็นคนยัดเยียดเจ้าให้สกุลเหอ”
“ท่าน!!” ลี่ถิงถูกยั่วยุจนโกรธหน้าดำหน้าแดง เขามันน่ารังเกียจ และปากร้าย
“ใครจะอยากแต่งกับคุณชายไม่เอาไหนเช่นท่านกันเล่า”
“ว่าใครไม่เอาไหน”
“ก็ถ้าท่านมีฝีมือเหตุใดบิดาท่านถึงไม่มอบหมายงานให้ทำ วันๆ เอาแต่วิ่งตามบิดาไม่ห่าง”
ฝูฉางก้าวเท้าเข้าไปใกล้คล้ายคนเจียนหลุดสติ ลี่ถิงก็รีบวิ่งหนีไปอีกด้าน ก้าวเท้าลงบันไดอย่างรีบร้อนจนไม่ระวังทำให้
“ว้าย” ลี่ถิงตกใจเพราะตัวเองกำลังจะตกพื้น แต่แล้วก็มีมือของฝูฉางมารับเอาไว้ สองคนมองหน้ากันเพียงครู่ด้วยความตกใจก่อนที่
“พวกท่านทำอะไรกันน่ะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างตกใจ
“โอ๊ย” เช่นเดียวกับมือของฝูฉางที่ประคองลี่ถิงรีบปล่อย จนนางล้มลงก้นกระแทกพื้น
“ท่านจะฆ่าข้าใช่ไหม” นี่มันแรงกว่าตอนแรกเสียอีก
แต่คนทำไม่ได้สนใจนาง เพราะกำลังวิ่งตามซินอี้ที่งอนวิ่งหนีไปอีกเรือนหนึ่ง ปล่อยให้นางจมอยู่บนกองหิมะกำลังจะลุกขึ้นก็มีมือใครบางคนส่งมาให้
ลี่ถิงเงยหน้ามองก็พบว่าเป็น “คุณชายป๋อเหวิน”
ป๋อเหวินเป็นลูกพี่ลูกน้องของฝูฉาง บิดาเขาเป็นน้องชายของนายท่านใหญ่ ดูแลกิจการทางเหนือ นานๆ ถึงจะกลับมาสกุลเหอ ส่วนป๋อเหวินก็คอยดูแลบัญชีของสกุลเหอ ซึ่งบุรุษหยาบคายอย่างสามีนางทำไม่ได้
ใบหน้างามได้รูปราวกับเทพเซียน แตกต่างกับสามีนางที่หยาบกระด้างราวกับเทพสงคราม นางไม่ได้ส่งมือให้เขา แต่พยายามจะลุกขึ้นด้วยตัวเอง
กำลังจะยกมือปัดหิมะออก ป๋อเหวินก็ส่งผ้าเช็ดหน้าให้
“ตอนนี้ข้าถือว่าเป็นสะใภ้สกุลท่านแล้ว เกรงว่าคงจะไม่เหมาะ” นางพยายามขยับถอยห่างอีกนิด
ป๋อเหวินมีท่าทางไม่พอใจกับคำนั้น “เจ้าก็รู้ว่าเจ้าแต่งเพราะอะไร ส่วนพี่ฝูฉางแต่งเพราะอะไร เหตุใดต้องทำให้เป็นจริงเป็นจัง”
“ถึงข้าจะรู้เหตุผลพวกนั้น แต่คนอื่นไม่รู้ ดังนั้นการรักษาเกียรติชื่อเสียงของตระกูลย่อมสำคัญกว่า”
ป๋อเหวินไม่เข้าใจเหตุผลพวกนั้นอยู่ดี สีหน้าเรียบนิ่งนั้นเอ่ยอย่างจริงจัง
“หากวันใดเจ้าเบื่อละครงิ้วนี้แล้วก็จงบอกข้าเถอะ ข้าพร้อมจะดูแลเจ้าเสมอ”
“...” ลี่ถิงพูดไม่ออก เหตุใดชะตาถึงได้สลับกันเช่นนี้เล่า
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"