"แล้วพี่ชอบตอนโดนเด็กเอาไหม"
เวลาเกือบหกโมงเย็น
ณ ป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีและการอาชีพแห่งหนึ่ง จากที่ผู้คนพลุกพล่านในช่วงเย็นหลังเลิกการสอบ ค่อยบางตาลงเพราะวันนี้เป็นวันสอบ งดเว้นการเรียนภาคค่ำ อีกทั้งสายฝนเริ่มโปรยปราย ฟ้าใสเริ่มมืดมัว เมฆก้อนดำทับตะวัน ทำให้แสงสีทองจางหายไปจากขอบฟ้า
ท่ามกลางความเงียบงัน มีร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอสวมเครื่องแบบของระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือ ปวส. ผมสลวยดำขลับถูกรวบตึงไว้เรียบร้อย อวดให้เห็นใบหน้ารูปไข่สวยหวานแต่นัยน์ตาของเธอดูเศร้าเหลือเกิน
ทิชา คือชื่อของหญิงสาวสวยวัยยี่สิบปีผู้นี้ เธอเรียนแผนกการบัญชี ชั้น ปวส.ปีที่สอง และเธอนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่สอบเสร็จตอนบ่ายสามโมงครึ่งเพราะนัดกับแฟนหนุ่มที่ชื่อ แทนไท หรือแทน แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ ชั้น ปวส.ปีที่สองเอาไว้ว่าจะไปกินมื้อเย็นกันหลังสอบ
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่มา...
แทนไทเป็นหนุ่มเนื้อหอม เขาย้ายมาจากกรุงเทพฯ ตอนเข้าชั้น ปวส.ปีที่สอง ด้วยความขาวสูง หน้าตาดี ปากหวาน เลยกลายเป็นหนุ่มฮอตของวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว
ทิชาเองก็แอบมองแทนไทเช่นที่สาว ๆ หลายคนแอบมอง เขาเป็นคนเฟรนด์ลี่ ยิ้มเก่ง คุยเก่ง ขี้อ้อน ครบสูตรของผู้ชายเจ้าชู้ที่รู้ว่าจะทำอย่างไรผู้หญิงจึงจะใจอ่อน และทันทีที่เขาเข้ามาจีบ เธอเองก็ตกลงปลงใจอย่างรวดเร็ว
แต่ตลอดมาที่คบหากัน เขามักจะทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เวลาอยู่ด้วยกันก็มักจะปิดมือถือ บางทีนัดแล้วก็ไม่มาเสียดื้อ ๆ ก่อนจะหาเหตุผลมาแก้ตัวในคราวนี้ที่เจอกันอยู่ร่ำไป แล้วเธอที่ตั้งธงเอาไว้ว่าจะไม่ใจอ่อนก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนเสียทุกที
จริง ๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย ทิชาระแคะระคายเข้าหูอยู่เรื่อยว่าเขาแอบไปคบคนโน้นคนนี้ แอบไปกินข้าวกับคนอื่น แต่เมื่อไม่มีหลักฐานและเขาเองก็ไม่ยอมรับ ทั้งยังยืนยันว่ารักเธอเพียงคนเดียว ทิชาก็ไปไหนไม่รอด
แต่บางทีเธอก็เหนื่อย เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องมานั่งคิดมากและร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ อย่างเช่นวันนี้ที่เธอนั่งรอมาเป็นเวลาชั่วโมงกว่าแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้เงาของเขา
เพราะคำว่ารักคำเดียว คำคำนั้นมันทำให้หญิงสาวคนหนึ่งที่ทั้งสวย เรียนเก่ง ดูดีเพียบพร้อม กลับต้องกลายเป็นคนโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
“ขอโทษนะครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้น ทิชาสะดุ้งแล้วรีบหันไปตามเสียงเพราะหวังว่าจะเป็นใบหน้าของคนที่เธอรออยู่
แต่ไม่ใช่...
หากเป็นชายคนหนึ่งที่ตัดผมรองทรงสูงเรียบร้อย ใบหน้าคมเข้ม สวมแว่น จมูกโด่ง ริมฝีปากเต็มอิ่มได้รูปแบบผู้ชาย โดยเฉพาะดวงตาของเขาที่แม้จะมีแว่นตาปกปิด หากแพขนตางอนระยับชนิดผู้หญิงยังอายประดับอยู่มันยังส่งแววหวานมาให้ ยิ่งยามที่เขายิ้ม ลักยิ้มที่สองแก้มนั่นยิ่งมีเสน่ห์และเขากำลังยิ้มให้กับเธอ
เขาอยู่ในชุดเสื้อนักเรียนสีขาว กางเกงสีดำ ซึ่งเป็นเครื่องแบบนักเรียนมัธยมปลายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน
“มีอะไรเหรอคะน้อง” ทิชาถามขึ้น กล้าใช้สรรพนามนั้นเพราะคิดว่าอย่างไรเสียเธอที่อยู่ชั้น ปวส.ปีที่สอง จะต้องอายุมากกว่าเด็กมัธยมหกที่โตที่สุด อายุไม่น่าเกินสิบแปดสิบเก้าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตัวเขาจะสูงใหญ่มากก็ตาม สูงจนเธอต้องแหงนคอตั้ง ดูแล้วน่าจะสูงกว่าแทนไทแฟนของเธอด้วยซ้ำ
เขาทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอ กระนั้นความขายาวตัวใหญ่ของเขาก็ทำให้ความสูงของทั้งคู่เกือบจะเท่ากันอยู่แล้ว
“ผมมองมาจากฝั่งโน้นเห็นพี่นั่งนิ่ง ๆ อยู่คนเดียวนานแล้ว ฝนก็ตก พี่ยังไม่ไปไหน ก็เลยเป็นห่วงครับ” เขาพูดแล้วจ้องมองมาที่เธอ ก่อนจะยิ้มจนตาโต ๆ หยีลง ลักยิ้มที่แก้มปรากฎขึ้น เป็นยิ้มที่สดใสเหลือเกินจนทิชาอดจะยิ้มออกมาด้วยไม่ได้
“ขอบคุณนะ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก”
“ทะเลาะกับแฟนเหรอครับ” เขาถามมาตรง ๆ เธออึกอักก่อนตอบออกไป
“เปล่าหรอกค่ะ จริง ๆ นัดกันไว้แต่เขายังไม่มา อาจจะติดธุระอะไรกะทันหัน”
“แต่ถ้าเขาติดธุระก็ควรจะส่งข้อความหรือว่าโทรมาบอกพี่ก่อนนะครับ ไม่ใช่มาปล่อยให้พี่นั่งรออย่างไร้จุดหมายแบบนี้ รอนานแค่ไหนแล้วครับ”
“ก็... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว”
“โทรหาเขาหรือยัง”
“โทรแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ค่ะ”
“แฟนพี่นี่ใจร้ายจัง ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ มานั่งรอคนเดียวแบบนี้ได้ยังไง แถมฝนก็ลงเม็ดด้วยเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เขาพูดออกมาและจ้องหน้าเธอตรง ๆ สายตาคม ๆ คู่นั้นทำให้เธอต้องก้มหลบ
“ถ้าพี่เป็นแฟนผม ผมจะไม่มีวันปล่อยให้พี่ต้องเศร้าแบบนี้เลย”
“เอ่อ...” เธออึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับสถานการณ์ปุบปับที่เกิดขึ้นข้างหน้านี้ดี
จู่ ๆ ก็มีเด็กมอปลายมาพูดจาแบบนี้ด้วย
พรึ่บ !
ทิชารู้สึกว่ามีอะไรคลุมลงมาบนตัว ก้มลงมองก็พบว่าเป็นเสื้อนักเรียนของอีกฝ่าย เงยหน้ามองเห็นเขายืนขึ้น ท่อนบนเปลือยเปล่าเพราะถอดเสื้อนักเรียนมาคลุมให้เธอ
เพราะเขายืนอยู่ตรงหน้าไม่เกินสองฟุต ระดับสายตาเลยมองเห็นเด่นชัดทั้งแผงอกและหน้าท้อง
เด็กมอปลายมีซิกแพกด้วยเหรอวะ !?
“น้อง เอาเสื้อคืนไปเหอะ” เธอเบือนหน้าหนีแล้วรีบหยิบเสื้อส่งคืนให้ แต่เขาส่ายศีรษะและยิ้มจนตาหยีเช่นเคย
“ผมมีเสื้อนักเรียนหลายตัว ให้พี่ไปสักตัวคงไม่เป็นไร”
“แต่ว่า...”
“เอาเหอะ ฝนกำลังตก พี่ใส่เสื้อขาวแล้วมันเปียก”
เขาก้มลงต่ำมาใกล้ ๆ ใบหน้าของเธอแล้วลดเสียงลง
“เสื้อมันเปียกแล้วมองเห็นเสื้อใน”
เธอพยักหน้าหงึกหงัก อดจะหน้าแดงกับคำพูดของเขาไม่ได้
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ รถ SUV เจ็ดที่นั่งก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าป้ายรถ กระจกถูกลดลง แล้วเด็กมอปลายชายอีกสี่ห้าคนในนั้นก็พยายามโผล่หน้าออกมายิ้มแฉ่ง ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว
“เฮ้ยวิน จะไปได้ยังเนี่ย ไอ้พวกนั้นโทรมาเร่งแล้วว่ารอที่สนามฟุตซอล มัวแต่โชว์แมนสาวอยู่นั่นแหละ”
“นี่มึงจะถอดเสื้อถอดผ้าตรงนี้เลยเหรอวะ”
“เฮ้ย พูดอะไรให้เกียรติพี่เขาด้วย” เด็กหนุ่มคนนั้นว่า และพวกเพื่อน ๆ ในรถก็เงียบปากลงทันทีก่อนจะยกมือขึ้นไหว้และประสานเสียง
“ขอโทษค้าบ” ก่อนเขาจะหันมาหาเธออีกครั้ง
“พี่จะกลับบ้านเลยไหม ผมจะไปส่ง”
ทิชาส่ายศีรษะทันทีเพราะเห็นคนเต็มรถ
“ไม่ดีกว่า”
“ไอ้แวนเพื่อนผมมันขับรถคล่อง พ่อให้ขับตั้งแต่อายุสิบห้าเพราะช่วยงานโรงน้ำแข็งที่บ้าน มันโอเค ปลอดภัย” เขาพูดต่อเพราะกลัวว่าเธอจะกังวลเรื่องความปลอดภัย หญิงสาวยิ้ม
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“พี่ยังจะรอเหรอ”
“คือ... ขอนั่งอีกสักพัก เดี๋ยวก็จะไปแล้ว”
เขายืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ยิ้มออกมา ตัดสินใจได้ว่าควรไปจากตรงนี้
“ถ้าพี่ยืนยันอยากจะรอผมก็จะไม่กวนใจ หวังว่าแฟนพี่จะคิดได้และไม่ทำให้พี่เสียใจอีก แต่อยากจะบอกไว้อย่าง ตรงไหนไม่สบายใจพี่ก็ควรเดินออกมานะครับ”
เธอยิ้มและพยักหน้า
“อืม ขอบใจนะ”
“เอาเสื้อผมคลุมหัวไว้ จะได้ไม่เปียกมาก”
เธอพยักหน้าหงึกหงัก เขาเดินกลับไปที่รถแล้วยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่าง ส่งยิ้มตาหยี โบกมือให้เธอ และเพื่อน ๆ ของเขาก็ทำตาม
“บ๊ายบายค้าบ พี่คนสวย” ทิชายิ้ม ยกมือขึ้นโบกตอบ
“บ๊ายบายจ้า”
แล้วรถยนต์คันนั้นก็เคลื่อนออกไป ห่างไปเรื่อย ๆ จนลับตา แต่ทิชาเองก็ยังรู้สึกดีกับรอยยิ้มของพวกเขาโดยเฉพาะเจ้าของเสื้อ
เธอหยิบเสื้อนักเรียนตัวใหญ่ที่คลุมกายเอาไว้มาดู
มาวิน ญัศวาหะ
คือชื่อเจ้าของเสื้อ
“ขอบใจนะมาวิน” เธอพูดกับเสื้อ
นั่งอยู่อีกไม่ถึงห้านาทีเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้น โดยมีคำพูดของเด็กมอปลายตัวใหญ่นั้นก้องอยู่ในหัว
‘ตรงไหนไม่สบายใจพี่ก็ควรเดินออกมา’
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ถูกพ่อแท้ ๆ ขายให้กับชายแก่คราวพ่อเพื่อไปเป็น 'เมียน้อย' เธอไม่อยากเสียซิงให้ชายแก่คราวพ่อ จึงเลือกเสียมันให้กับหนุ่มหล่อที่ 'ขายตัว' แต่เธอดันตกใจจนหมดสติทั้งที่เขาเสียบเข้าไปได้แค่ส่วนหัว บ้าบอฉิบ ! เมื่อได้สติ ขวัญเอยอับอายเป็นอย่างมาก สบถสาบานเอาไว้ว่าจะไม่ทำอะไรไร้สติเช่นนี้อีกแล้ว และภาวนาอย่าได้พบได้เจอเขาอีกเลย แต่ดูเหมือนเทวดาไม่เป็นใจ เพราะหนุ่มเจนรักคนนั้น กลับกลายมาเป็นนักศึกษาในคลาสที่เธอสอน แถมบ้านอยู่ติดกับเธออีกด้วย เวรล่ะสิ !
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"