หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"
เสิ่นเจียงหนานผลักประตูบานใหญ่ของวิลล่าออก และก้าวเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเธอกับฮั่วเป่ยอัน เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าจะฉลองอย่างไร
“เป่ยอัน คุณอยู่รึเปล่า?”
เสิ่นเจียงหนานมองไปรอบ ๆ แต่วิลล่าหลังใหญ่กลับว่างเปล่าไปหมด
เธอเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยความงุนงง แต่แล้วจู่ ๆ เสียงผู้ชายกับผู้หญิงที่กำลังพลอดรักกันก็ดังมาจากทางห้องนอน
ผู้หญิงคนนั้นครวญครางออกมาเสียงดัง ขณะเดียวกันก็เค้นเสียงพูดออกมาว่า “เป่ยอัน อย่าทำอย่างนี้เลย ทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับเจียงหนาน......”
เสิ่นเจียงหนานแทบจะหน้าซีดลงภายในชั่วพริบตา
ซูเหมิ้งหราน!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอคือคนที่อยู่ในใจ และยากที่จะลืมได้ของฮั่วเป่ยอัน เธอ..... กลับมาแล้วจริง ๆ ด้วย......
พวกเขากำลังทำเรื่องแบบนั้น บนเตียงนอนของเธอ ในห้องหอของเธอกับเขา
“มีอะไรไม่ยุติธรรมกัน? เธอก็แค่ภรรยาที่ผมแต่งงานด้วยเพื่อเอาเป็นเครื่องประดับให้ช่วยเชิดหน้าชูตาผมก็เท่านั้น อันที่จริงผมไม่ได้ชอบเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้สนใจในร่างกายของเธอเลยสักนิด หลายปีที่ผ่านมาผมไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอเลยสักครั้ง!”
“งั้นเธอก็น่าสงสารมากเลยนะ แต่งงานมาตั้งสามปีแล้ว แต่กลับยังไม่เคยได้รับความรักจากสามีเลย”
เสิ่นเจียงหนานตัวสั่นอย่างรุนแรง การสนทนาของพวกเขาทั้งสองคนเหมือนกับมีดที่มองไม่เห็น และทิ่มแทงลงมายังใจเธอเข้าอย่างจัง!
เธอกับฮั่วเป่ยอันแต่งงานกันเพื่อธุรกิจ
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอยอมที่จะสละความรุ่งโรจน์ของเธอทั้งหมด มาเป็นแม่บ้านคอยซักเสื้อผ้าทำอาหารให้เขา พยายามอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแม่บ้านที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่เขากลับไม่เคยแตะต้องเธอเลย
เดิมทีเธอคิดว่าเพราะเธอไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะภรรยาให้ดีพอ เธอจึงไม่ได้รับการยอมรับจากเขามากพอ แต่แล้วเธอกลับไม่คาดคิดเลยว่า ที่แท้กลับกลายเป็นว่าเขาต่างหากที่ไม่เคยมีความคิดอยากจะแตะต้องเธอเลย!
เสียงที่ไม่เข้าหูเหล่านั้นดังออกมาจากในห้องอย่างต่อเนื่อง ทำให้หัวใจของเสิ่นเจียงหนานเต้นแรงไม่หยุด
ปัง——
จู่ ๆ ประตูก็ถูกเปิดออกอย่างแรง!
เวลานี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังนัวเนียกันแบบแนบชิด ปฏิกิริยาแรกของฮั่วเป่ยอันรีบหยิบผ้าห่มขึ้นมาบังตัวเองและซูเหมิ้งหรานเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเป็นเสิ่นเจียงหนาน สีหน้าของฮั่วเป่ยอันก็ดูตื่นตระหนก แต่ในครู่ต่อมาใบหน้าที่เย็นชาไม่แยแสของเขาก็ดูเหมือนจะเย็นชามากยิ่งขึ้น
เขาพูดขึ้นมาด้วยความรังเกียจว่า “ไสหัวไป!”
แม้ว่าจะถูกมองด้วยมุมมองของคนที่จับชู้ได้อย่างคาหนังคาเขาเช่นนี้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาลดน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย
เสิ่นเจียงหนานรู้สึกเจ็บปวดหัวใจไปหมด เธอมองไปยังชายผู้ที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดใด ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ และถามขึ้นว่า “ฮั่วเป่ยอัน ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉันได้ลงคอ?”
ซูเหมิ้งหรานโผล่หัวออกมา และจงใจดึงเสื้อบนไหล่ของเธอลงไป เพื่อจะเผยให้เห็นรอยแดงจาง ๆ บนกระดูกไหปลาร้าของเธอ
เธอถอนหายใจเบา ๆ และพูดออกมาเสียงอ่อยว่า “เจียงหนาน เธอก็รู้นี่ว่าผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้วต่างก็มีความต้องการทางเพศกันทั้งนั้น เป่ยอันเขาไม่ได้รักเธอ เขาก็เลยไม่สามารถทำเรื่องอย่างว่ากับเธอได้ มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่เขารัก แล้วก็มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเติมเต็มความต้องการของเขาได้ หวังว่าเธอจะเข้าใจพวกเราได้ใช่ไหม?”
หลังจากพูดจบ มุมปากของซูเหมิ้งหรานก็โค้งขึ้นเล็กน้อย เธอจงใจเลือกวันครบรอบแต่งงานของพวกเขาทำเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะ แต่ไม่รู้ว่าเซอร์ไพรส์นี้เสิ่นเจียงหนานจะชอบรึเปล่า?
เสิ่นเจียงหนานกำมือแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ “การเป็นเมียน้อยมันทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจมากเลยรึไง?”
ซูเหมิ้งหรานแสดงท่าทีเศร้า ๆ ออกมาเล็กน้อย เบ้าตาของเธอแดงก่ำไปหมด “ทำไมเธอถึงได้พูดแบบนี้ล่ะ? ถ้าในตอนนั้นพ่อแม่ของเธอไม่เอาชะตาชีวิตครอบครัวของฉันมาข่มขู่ฉัน ฉันจะยอมเลิกกับเป่ยอันได้ยังไง? เสิ่นเจียงหนาน ความรักที่เกิดจากการบังคับ มีแต่จะทำให้คนทั้งคู่ต้องทุกข์ใจ อีกอย่างในบรรดาพวกเราสามคน คนที่ไม่ได้รับความรักจากใครต่างหากที่เป็นเมียน้อย!”
คำโปรย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลัวเซียงเซียง ถูกดูดเข้ามาอยู่ในนิยายจีนโบราณที่ตัวเองกำลังอ่าน ชีวิตในนิยายไม่ได้ง่ายเลยเมื่อต้องมาอยู่ในร่างของนางร้ายที่ใคร ๆ ก็ขนานนามว่าเป็นอสรพิษและสุดท้ายต้องสังเวยชีวิตเพราะความชั่วร้ายของตัวเอง วิธีการเดียวที่จะออกไปจากนิยายเรื่องนี้ได้ก็คือต้องเอาตัวรอดจนกระทั่งบทสุดท้ายในนิยายเรื่องนี้ หลัวเซียงเซียงจึงพยายามแสดงความร้ายกาจออกมาให้เป็นที่รังเกียจที่สุด ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง เพื่อไม่ให้ฝ่าบาทมอบสมรสพระราชทาน ถูกจับเข้าตำหนักฉินอ๋องหลงเฟยเยี่ยเพื่อเอาชีวิตรอดและออกไปจากนิยายน้ำเน่าเรื่องนี้เสียที 'เชิญรักกันตามสบาย นางร้ายอย่างฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด' ชินอ๋องหลงเฟยเยี่ย มีสตรีที่อยู่ในใจ ทว่าฝ่าบาทกลับบังคับฝืนใจให้เขาแต่งกับคุณหนูรองจากจวนแม่ทัพหลัวเพื่อผูกใจของคนผู้นั้นเอาไว้ นิสัยของคุณหนูรองผู้นี้เขาย่อมรู้ดี ต่อหน้าทำเป็นแสนดีลับหลังกลับร้ายกาจ หลอกลวงฝ่าบาทจนพระองค์คิดว่านางคือคนดี จึงทำให้เขาไม่คิดย่างกรายเข้าไปเหยียบตำหนักหวางเฟยของนางโดยเด็ดขาด ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันทำให้จำใจต้องใกล้ชิด ทำให้เขาได้รู้ว่าทุกสิ่งที่เขาได้ยินมานั้นและรู้มานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดแผกจากที่เคยรู้ ทำให้หลงเฟยเยี่ยบังเกิดความประหลาดใจ 'แท้จริงแล้วสตรีผู้นี้เป็นคนเช่นไรกันแน่' มู่ลี่เอ๋อร์ ผู้เป็นที่รักของหลงเฟยเยี่ย ในเนื้อหานิยายเรื่องนี้ เดิมนางผู้นี้จะถูกหลัวเซียงเซียงแอบลอบสังหารเพราะเป็นหนามตำใจ ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อหลัวเซียนเซียนผู้เคยร้ายกาจกลับคิดญาติดีกับนาง 'ทำให้มู่ลี่เอ๋อร์งวยงงยิ่งนัก'
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”