เพราะชาติก่อนคุณหมอสาวโง่เขลาเชื่อมั่นในความรัก จึงถูกวางยาพิษจนตาย ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับเป็นสวีอี้หลิง บุตรสาวของท่านโหวซึ่งนางเองก็ถูกวางยาเช่นกัน การกลับมาเกิดใหม่ในครั้งนี้นางจะแก้ไขชะตาของคุณหนูที่น่าสงสารคนนี้ให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นให้ได้ สวีอี้หลิงคนนี้จะไม่คิดใส่ใจสามีที่ตนเองไม่ได้เต็มใจรับเป็นอันขาด ทว่าต่อให้ไม่สนใจ ถึงอย่างไรนางก็ต้องเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้มากความสามารถ ดังนั้นนางจะเป็นสตรีเรือนหลังที่เอาแต่จมทะเลน้ำตา และอ่อนแอไม่สู้คนไม่ได้! ต่อให้สามีไม่รักนางหรือชิงชังนางก็ช่าง นางเองก็มิได้ต้องการเขาเป็นสามีสักหน่อย แค่เพียงมอบหนังสือหย่าให้เท่านั้น สวีอี้หลิงก็พร้อมจากไปทันที ชีวิตสองชาติภพนางจะไม่ยอมให้ใครหลอกอีกแล้ว!
“คุณหมอจะกลับแล้วเหรอคะ” เสียงของพยาบาลที่อยู่วอร์ดเดียวกันเอ่ยทักทายคุณหมอสาวใจดีประจำวอร์ดเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะกลับบ้านหลังเสร็จงานวันนี้แล้ว
“ใช่แล้วค่ะ งั้นหมอกลับก่อนนะคะ”
กมลวรรณ หรือ ‘หมอเมย์’ รีบบอกลาเพื่อนร่วมงานก่อนจะ รีบตรงกลับไปที่คอนโดมิเนียมสุดหรูเพื่อเตรียมอาหารเย็นไว้รอแฟนหนุ่มอย่างเช่นทุกวัน ทว่าขณะที่กำลังเดินไปตามทางเพื่อตรงกลับห้องของตัวเอง เธอก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา ก่อนจะตามมาด้วยอาการพะอืดพะอม จนเธอต้องรีบวิ่งเพื่อให้ถึงห้องของเธอให้เร็วที่สุด
หลังจากจัดการล้างหน้าล้างปากเรียบร้อย กมลวรรณที่เริ่มผิดสังเกตกับอาการของตัวเองก็เร่งไปหยิบชุดตรวจครรภ์ในลิ้นชักออกมา แล้วทำการตรวจทันที
ส่วนหนึ่งเพราะประจำเดือนขาดไป แต่เพราะคิดไปว่าอาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เธอทำงานหนัก และเครียดกับเคสยากบ่อย ๆ เลยอาจจะทำให้คลาดเคลื่อนไปบ้าง
แต่แล้วใบหน้าสวยก็พลันคลี่ยิ้มกว้างเมื่อแท่งสีขาวปรากฏขีดสีแดงเข้มขึ้นมาชัดเจนสองขีด มือเรียววางทาบลงไปบนหน้าท้องแบนราบด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
แม้ความรักของเธอจะมีอุปสรรคมากมาย เพราะครอบครัวของ ภาสกร แฟนหนุ่มไม่ยอมรับเธอ เพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ ไม่ได้มีชื่อเสียงหรือฐานะที่จะช่วยผลักดันสนับสนุนแฟนหนุ่มในเรื่องธุรกิจได้
ห้าโมงเย็นไม่ขาดไม่เกิน ร่างสูงของภาสกรเดินเข้ามาภายในห้องชุดที่เขาซื้อเอาไว้อยู่กับคนรักตั้งแต่เริ่มคบกันได้หนึ่งปี ชายหนุ่มตรงเข้ากอดร่างนุ่มนิ่มที่กำลังจัดโต๊ะมื้อเย็นจากทางด้านหลัง
ฟอดดด~
“วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ”
“วันนี้มีผัดผัก และหมูคั่วเกลือค่ะ” กมลวรรณพลิกกายหันไปหาคนรักก่อนจะหอมแก้มสากไปอีกหนึ่งฟอด “ไปล้างมือแล้วมากินข้าวกันค่ะ”
ทั้งสองกินข้าวกันไป คุยกันไป บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ให้อีกฝ่ายได้ฟัง ก่อนที่กมลวรรณตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญออกมา
“กรคะ เมย์มีของขวัญจะให้ค่ะ”
ภาสกรได้ยินแบบนั้นก็ย่นคิ้วคมเข้าหากันยุ่งด้วยความสงสัย “อะไรเหรอครับ”
“หลับตาก่อนสิคะ”
เมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มยอมหลับตาลง กมลวรรณก็หยิบเอาแท่งตรวจครรภ์มาวางบนฝ่ามือหนาทันที ภาสกรลืมตามองของขวัญที่ว่า ก่อนจะเบิกตาโตมองหน้าคนรักด้วยความสุข ชายหนุ่มลุกแล้วตรงเข้าไปกอดหญิงสาวไว้จมอก กดจูบไปทั่วใบหน้าสวยด้วยความรู้สึกดีใจและขอบคุณ
“ดีใจไหมคะคุณพ่อ”
“ที่สุดเลยเมย์ ขอบคุณนะครับ ผมสัญญานะว่าผมจะดูแลคุณกับเจ้าตัวน้อยให้ดีที่สุด”
“ค่ะ” มือเรียวยกขึ้นกอดคนรักเอาไว้ไม่คลายเช่นกัน
สัปดาห์ต่อมา ภาสกรเลือกเอาวันที่กมลวรรณหยุดพาเธอเข้ามาหาพ่อกับแม่ของเขาที่บ้าน คฤหาสน์ตระกูลอภิรักษ์โดดเด่นเป็นสง่าเช่นเดิม กมลวรรณมองคฤหาสน์ตรงหน้าแล้วลอบถอนหายใจออกมา
เพราะตั้งแต่คบกับภาสกรมา นี่เป็นครั้งที่สองเท่านั้นที่เธอได้เหยียบย่างเข้ามาที่นี่ เธอยังจำความรู้สึกครั้งแรกได้ไม่ลืม ได้แต่หวังว่าพ่อแม่ของภาสกรจะยอมลงให้เพราะเห็นแก่หลานที่อยู่ในท้องเธอบ้างก็เท่านั้น
ภาสกรยื่นมือมากอบกุมมือเรียวเอาไว้ เพราะรู้ว่ากมลวรรณกำลังกังวลเรื่องอะไร เขาเองก็กังวลไม่น้อยไปกว่าเธอ ด้วยรู้ว่าพ่อแม่เป็นคนอย่างไร ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแม้ว่ากมลวรรณพยายามพิสูจน์ตัวเองขนาดไหน
หากแต่พ่อกับแม่ของเขาก็ไม่เคยยินดีและยอมรับในตัวเธอเลยแม้แต่น้อย เขาได้แต่หวังว่าครั้งนี้พ่อกับแม่จะเห็นแก่หลานที่กำลังจะเกิดมาบ้าง เพราะแต่ไหนแต่ไรมาพวกท่านก็อยากจะอุ้มหลานกันอยู่แล้ว
แน่นอนว่าหญิงสาวไม่ได้รับการต้อนรับเหมือนที่คิดเอาไว้ คุณหญิงเพียงแค่ปรายตามองมาทางเธออย่างไม่สบอารมณ์
“ผมกับเมย์จะแต่งงานกันครับ”
“ไม่ได้ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด” คุณหญิงเพียงแขแหวลั่นเสียงดัง
“แต่เมย์กำลังท้องลูกของผม และผมก็ไม่คิดจะแต่งงานกับคนอื่นนอกจากเมย์”
คำพูดของภาสกรทำเอาประมุขของบ้านและหญิงสูงวัยได้แต่ชะงักค้างกับเรื่องราวที่ได้รับรู้ กระนั้นก็ยังคงเอ่ยคัดค้านเสียงแข็ง ทำเอาหัวใจของกมลวรรณรู้สึกปวดหนึบไปหมด ไม่คิดว่าหลานที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข พวกท่านที่จะได้เป็นปู่เป็นย่าก็ยังไม่ต้องการ
“นี่แกปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อจะมาบีบพวกฉันอย่างนั้นเหรอ หน้าด้าน”
“แม่ครับ”
“ไม่รู้ละ หัวเด็ดตีนขาดยังไง แม่ก็จะไม่ยอมรับแม่นี่เข้ามาร่วมวงศาคณาญาติแน่นอน”
คำพูดของคุณหญิงเพียงแขทุกคำราวกับเป็นใบมีดแหลมที่ปลิวมาปักลงบนหัวใจของหญิงสาวซ้ำ ๆ จนตอนนี้มันเจ็บไปหมด เธอเสียใจจนไม่รู้จะบรรยายมันออกมาอย่างไร
หลังจากถกเถียงกันอยู่นาน เสียงโทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น และเมื่อเห็นว่าเป็นสายสำคัญ จึงเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกแทน
“เอาละ เธอพูดเองนะว่าเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน” คุณหญิงเพียงแขที่สบโอกาส เลยพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดวางแผนเอาไว้มานานเนิ่นกับกมลวรรณทันที
“ค่ะ”
“ฉันไม่อ้อมค้อม ฉันกำลังจัดการเรื่องงานแต่งงานของเจ้ากรกับหนูหลินในเดือนหน้า ถ้าเธอจะไปจากเจ้ากรตอนนี้มันก็ยังไม่สายนะ มันอาจจะลำบากสำหรับเธอที่กำลังตั้งท้อง เอาเป็นว่าฉันจะให้เงินเธอไปตั้งตัวสักก้อนถ้าเลือกจะไป แต่ถ้าอยากจะอยู่ต่อ เธอจะต้องอยู่ในฐานะเมียน้อยเท่านั้น”
จังหวะที่กมลวรรณกำลังจะพูดออกไป ภาสกรที่คุยโทรศัพท์เสร็จพอดีก็เดินเข้ามา แล้วชักชวนกันกลับ ระหว่างทางกลับคอนโดหลังจากเห็นสีหน้ากมลวรรณไม่ค่อยสู้ดีนัก ภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบ
เพราะกมลวรรณกำลังคิดถึงสิ่งที่แม่ของคนรักพูดกับตน และคิดไปว่าเมื่องานแต่งกำลังจะเกิดขึ้นเดือนหน้า อย่างนั้นภาสกรเองก็คงรู้ตัวอยู่แล้วเช่นกัน ทว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากลับไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้เธอรับรู้เลย
กมลวรรณได้แต่ตัดพ้อกับตัวเองในใจว่า เธอไปทำกรรมอะไรนักหนาในชาติที่แล้ว ชีวิตนี้เธอจึงได้ประสบแต่ความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงเรื่องราวบัดซบอย่างการถูกบีบให้กลายเป็นเมียน้อยทั้ง ๆ ที่เธอมาก่อนอย่างนี้
สุดท้ายเมื่อเห็นว่าพูดอย่างไรผู้เป็นแม่ก็ไม่ยอมรับฟัง และไม่ยอมลงให้ ภาสกรจึงพากมลวรรณกลับ เพราะไม่อยากให้คนรักคิดมากเรื่องนี้ ก่อนที่เขาจะเลือกโกหกกมลวรรณว่ามีงานด่วน และตรงกลับไปที่บ้านอีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับพ่อและแม่ให้เข้าใจ เพราะสถานะในเงื่อนไขนั้น กมลวรรณไม่ต่างจากเมียเก็บของเขา แน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน
ภาสกรตรงเข้าไปคุยกับทั้งพ่อและแม่ด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง บอกความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน จนคุณหญิงเพียงแขผู้เป็นแม่เองก็เริ่มรู้สึกขัดใจขึ้นมาอีกครั้ง เธอเลือกที่จะยื่นข้อเสนออีกข้อให้ภาสกร เพราะรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วลูกชายก็จะยอมรับ
“ฉันจะยอมให้แกพาแม่นั่นเข้ามาอยู่ในบ้านก็ต่อเมื่อ แกยอมแต่งงานกับหนูหลิน และถ้าแกไม่ยอม ไม่ใช่แค่แม่นั่นจะไม่ได้เหยียบเข้ามาที่นี่ แต่ฉันจะทำให้มันสองแม่ลูกหายไปจากชีวิตแกตลอดกาล”
ภาสกรได้แต่กำหมัดแน่นกับสิ่งที่ได้ยิน และเพราะรู้ว่าผู้เป็นแม่ทำได้ทุกอย่างตามที่พูด ไม่ใช่แค่ขู่ให้กลัวเท่านั้น สุดท้ายภาสกรจำต้องยอมตกลงไปก่อน ได้แต่เก็บเรื่องข้อเสนอนี้เอาไว้เป็นความลับ เพราะไม่อยากให้คนรักต้องรับรู้แล้วไม่สบายใจ
กมลวรรณย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านอภิรักษ์ร่วมเดือน แม้จะประสบกับความไม่ยุติธรรมอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอก็พยายามอดทนมาตลอด กระทั่งก่อนวันแต่งงานระหว่างภาสกรและลิลลารีย์สามวัน ชายหนุ่มก็ตัดสินใจบอกกมลวรรณเรื่องที่เขาต้องแต่งงานกับคนที่แม่จัดหาให้
“เมย์ ผมมีเรื่องจะบอกคุณน่ะ”
“คะ มีเรื่องอะไรเหรอ หน้าตาซีเรียสเชียว”
“คือผมต้องแต่งงานกับหลิน เพื่อแลกกับการที่ผมจะได้อยู่กับคุณ” สุดท้ายภาสกรก็เลือกบอกออกไปตรง ๆ ไม่ได้ปั้นแต่งคำพูดให้สวยหรูแต่อย่างใด
“...”
“ผมรู้นะเมย์ว่ามันไม่ยุติธรรมกับคุณเลย แต่ผมสัญญานะว่ามันจะเป็นแค่การจัดงานแต่ง ผมจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับหลินเลย และผมจะหาทางหย่ากับหลินให้เร็วที่สุด”
กมลวรรณรู้ดีว่าภาสกรเองก็คงขัดพ่อแม่ไม่ได้ เธอจึงทำเพียงคลี่ยิ้มอ่อนจางส่งไปให้ พลางตบหลังมือหนาเบา ๆ เป็นการบอกว่าไม่เป็นไร เธอเข้าใจดี
“เมย์เชื่อใจกรนะคะ”
ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา "ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้