ห้าสิบปีแล้วนับต้องแต่วันสิ้นโลกได้เริ่มต้นขึ้น เพื่อเอาชนะสงครามกับสัตว์ประหลาดต่างดาวที่กินเวลามายาวนานทหารหน่วยพลีชีพจึงถือกำเนิดขึ้น แต่มีทหารหน่วยพลีชีพอยู่สามคนที่เอาชีวิตรอดมาได้ตลอด พวกเขาจะเอาชีวิตรอดไปได้อีกนานแค่ไหนและความสัมพันธ์พิเศษที่พวกเขาไม่คิดว่ามันเป็นมากกว่าเพื่อนจะลงเอยไปอย่างไร เรื่องราวกับทหารในวันสิ้นโลกทั้งสามคน #3P #โอเมก้า #อัลฟ่า #วันสิ้นโลก #ต่อสู้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเป็นเพื่อนตายเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเพศรองของพวกเขาปรากฏ สโนว์ที่แม้จะเป็นอัลฟ่าหญิงแต่ก็ดันพัฒนาไม่สมบูรณ์จนไม่แต่จะสามารถมีอวัยวะของอัลฟ่าได้ ส่วนเพื่อนชายทั้งสองของเธอดันเป็นโอเมก้า แถมเป็นโอเมก้าที่ดุร้ายพร้อมที่จะกดอัลฟ่าไม่สมบูรณ์อย่างเธอด้วย ท่ามกลางสงครามในวันสิ้นโลกนี้จะทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาความสัมพันธ์เป็นมากกว่าเพื่อนได้หรือไม่?
[1] [ตายตอนนี้ก็คงมีแค่นรกที่เปิดรับ]
เสียงระเบิด เสียงปืน และเสียงกรีดร้องทั้งจากมนุษย์และจากปรสิตต่างดาว เสียงพวกนี้บ่งบอกว่าสถานการณ์ในสนามรบตอนนี้กำลังโกลาหลได้ที่ แต่ถึงจะมีเสียงพวกนี้ดังเข้ามาในโสตประสาทเพื่อย้ำเตือนถึงสถานการณ์รอบตัวในตอนนี้แล้วพลทหารหญิงสโนว์ก็ยังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นสนามรบราวกับยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว
ซึ่งสโนว์ก็ยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วจริงๆ เพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่ในสนามรบระหว่างมนุษย์และปรสิตต่างดาวมาตลอด ตอนนี้สโนว์ตัดสินใจแล้วว่ามันถึงขีดจำกัดของเธอแล้ว ทั้งร่างกายและจิตใจ…
“หวังว่าเจ้าพวกนั้นจะไม่โกรธถ้าฉันไปสวรรค์ก่อน…”
เพียะ!
“ตื่น สวรรค์ของโลกนี้ไม่ต้อนรับคนในตอนนี้หรอก มีแต่นรกเท่านั้นล่ะที่ต้อนรับคนในตอนนี้”
สั่งเสียเสร็จก็ตั้งใจจะไปเข้าเฝ้าพระเจ้าเลยแต่กลับโดนบางอย่างตบหน้าเรียกสติก่อนและยังโดนบอกว่าสวรรค์ไม่ต้อนรับอีก
เธอไม่ได้เลวขนาดที่สวรรค์รับไม่ได้สักหน่อย!
ตั้งใจจะลืมตาขึ้นมาโวยวายใส่คนที่บังอาจมาขัดขวางการนอนพักผ่อนตลอดกาลของตัวเอง แต่ความคิดนั้นก็ต้องพับเก็บไปเมื่อสโนว์ได้เห็นสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเธอ มันคือสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีหน้าตาเหมือนแกะและมีขนาดเท่าฝ่ามือและมีปีกด้วย
เจ้าก้อนขนดูนุ่มนิ่มและน่ารักตัวนี้มันคืออะไร?
“มนุษย์พิเศษอย่างเธอยังตายไม่ได้” สิ่งมีชีวิตประหลาดตรงหน้าได้กล่าวกับเธอ “เธอต้องทำภารกิจกำจัดพวกปรสิตพวกนั้นในสำเร็จก่อน!”
ทันใดนั้นดวงตาสีเขียวของสโนว์ก็มีแววตามุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง ภารกิจยังไม่สำเร็จเธอจะยังตายไม่ได้เด็ดขาด
เพื่อที่จะดิ้นรนมีชีวิตอยู่ต่อไปสโนว์จึงจำใจฝืนลุกขึ้นยืนแม้ว่าบาดแผลที่ต้นขาและหน้าท้องจะทำให้เธอเจ็บจนแทบไม่อยากเคลื่อนไหวเลยก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็จะต้องฝืนลากสังขารของตัวเองออกไปจากสนามรบแห่งนี้ให้ได้เพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง
แต่พอเดินไปได้ไม่ไกลสโนว์ก็เหนื่อยเกินกว่าจะยกขาก้าวต่อไปแล้ว สโนว์สบถด่าร่างกายของตัวเองในใจ ทั้งที่ร่างกายได้วิวัฒนาการจากการได้รับการกระตุ้นจากเซรุ่มพิเศษของกองทัพทหารแล้วแต่ร่างกายของเธอก็ยังอ่อนแอเกินไปสำหรับสงครามนี้อยู่ดี
“สโนว์! สโนว์!”
ในขณะที่เธอกำลังวุ่นวายกับการควบคุมร่างกายของตัวเองให้เดินต่อไปอยู่นั้นเสียงตะโกนเรียกชื่อของเธอก็ดังขึ้นมาแข่งกับเสียงระเบิดรอบตัวและไม่ทันที่สมองของสโนว์จะได้ประมวลผลว่าใครเป็นคนเรียกเธอ ทันใดนั้นร่างกายของสโนว์ก็ถูกคนที่ตะโกนเรียกเมื่อครู่จับอุ้มพาดบ่า
“ยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม!?” เขาตะโกนถามเธอพร้อมกับวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนพวกปรสิตที่วิ่งตามหลังมาวิ่งตามไม่ทัน
“ฉันไม่ยอมตายหรอกจนกว่าจะคิดบัญชีเรื่องที่นายแย่งลูกอมของฉันไปกินเมื่อสองปีก่อน!”
“นี่เธอยังแค้นไม่เลิกอีกเหรอ?” วินเตอร์ยิ้มแห้งกับความแค้นอันฝังลึกของเพื่อนสาวเพียงคนเดียว
“ระเบิดจะระเบิดในอีก 30 วินาที!” ฟรอสต์ เพื่อนทหารร่วมรบอีกคนของพวกเธอขี่มอเตอร์ไซค์ตามพวกเธอมา จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกข่าวร้ายขณะเดียวกันก็ใช้ปืนยิงพวกปรสิตที่วิ่งตามพวกเธอมาจนหมด
“พวกเรายังอยู่ในรัศมีของระเบิดอยู่เลยนะ!” วินเตอร์เอ่ยเสียงเครียด
“มีบางอย่างผิดพลาดกับระเบิดทำให้เวลาถูกเร่ง เราต้องไปหาที่หลบก่อน” ฟรอสต์อธิบาย
“เฮงซวย!” สโนว์สบถอย่างอดไม่ได้
เพื่อหลบหนีออกห่างจากเขตที่จะได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด วินเตอร์จึงวิ่งในความเร็วที่มากขึ้นและฟรอสต์จึงต้องเร่งความเร็วของมอเตอร์ไซค์ตามไปด้วย เนื่องด้วยความพิเศษของร่างกายวินเตอร์จึงสามารถวิ่งได้เร็วเทียบเท่ากับความเร็วสูงสุดของมอเตอร์ไซค์ของฟรอสต์เลยทีเดียว หากช้าฟรอสต์คงตามไม่ทันแน่
“ข้างหน้ามีหลุม” ฟรอสต์เอ่ยเพื่อชี้ทางให้กับวินเตอร์ หลุมที่ฟรอสต์เห็นมันเป็นหลุมที่เกิดมาจากระเบิดขนาดเล็กที่พวกเขาใช้ระเบิดพวกปรสิตตัวหนึ่ง มันไม่ใหญ่มากแต่ก็มากพอสำหรับให้คนสามคนใช้หลบ
วินเตอร์และฟรอสต์จึงไม่รอช้าที่จะกระโดดลงไปในหลุมตรงหน้า แต่แค่นั้นก็ยังไม่น่าวางใจได้ว่ามันจะปลอดภัยวินเตอร์จึงวางสโนว์ลงก่อนและรีบวิ่งไปดึงรถถังพังๆ มาปิดปากหลุมและเสริมด้วยโล่สีใสที่เกิดจากพลังพิเศษของเขามาคลุมอีกชั้น
ตูม!!
เสี้ยววินาทีหลังจากนั้นระเบิดที่มีอานุภาพรุนแรงที่สุดของมนุษย์ก็ระเบิดออก มันราวกับโลกจะแตกเพราะเสียงระเบิดมันดังมากและสร้างปรากฏการณ์แผ่นดินไหวได้รุนแรงมากและคลื่นลมจากแรงระเบิดก็ทำเอารถถังหนักหลายตันเหนือหัวพวกสโนว์ปลิวหายไป หากไม่มีโล่ของวินเตอร์ที่ช่วยป้องกันอีกชั้นพวกเธอคงถูกเศษซากสิ่งต่างๆ ที่ปลิวมาหล่นลงมาทับตาย
นานหลายนาทีกว่าที่ทุกอย่างจะสงบ พวกเธอปลอดภัยจากแรงระเบิดแต่สโนว์คิดว่าเธอกำลังตายเพราะเสียเลือดมาก สติของเธอเริ่มเลือนรางจึงไม่มีสติพอที่จะทำแผลห้ามเลือดให้ตัวเองได้
“สโนว์?” ฟรอสต์สังเกตเห็นความผิดปกติของสโนว์เมื่อเห็นว่าเธอวางหัวบนไหล่ของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรงและพอเขามองไปเห็นชุดทหารสีดำของสโนว์เปียกชุ่มเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือเลือด “วินเตอร์! สโนว์กำลังบาดเจ็บหนัก!”
ฟรอสต์รีบหันไปบอกวินเตอร์ขณะที่เขารีบนำอุปกรณ์ทำแผลและยาออกมาจากมิติซึ่งเป็นพลังพิเศษของเขา ส่วนทางด้านวินเตอร์เมื่อได้ยินคำบอกของฟรอสต์เขาก็ฉีกเสื้อทหารที่หนาแน่นของสโนว์ทิ้งทันทีเพื่อที่จะได้ทำแผลได้อย่างสะดวก
“มีแผลที่ต้นขาและหน้าท้อง” วินเตอร์เอ่ยเพื่อบอกฟรอสต์
ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมายพวกเขาก็แบ่งหน้าที่กันอย่างรู้งาน วินเตอร์รับผิดชอบทำแผลที่ต้นขาของสโนว์ส่วนฟรอสต์ก็ทำแผลบริเวณหน้าท้องของสโนว์ เนื่องจากว่าพวกเขาถูกฝึกมาเป็นทหารตั้งแต่จำความได้ เรื่องการทำแผลจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาและพวกเขาก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็ทำแผลให้สโนว์เรียบร้อยเหลือเพียงให้ร่างกายของเธอรักษาตัวเองเท่านั้น เพราะสำหรับร่างกายที่ได้รับสารพิเศษจนวิวัฒนาการแล้วสามารถฟื้นฟูร่างกายที่บาดเจ็บหนักได้เพียงแค่พักผ่อนสามวัน
“รู้สึกหิวซะแล้วสิ” เมื่อสโนว์ได้สติเธอก็บ่นขึ้นมา ฟรอสต์หลับตาหนีอย่างเอือมระอากับความตะกละของเธอ
“ท้องเป็นรูรั่วอยู่ไม่ใช่รึไง” ฟรอสต์กล่าว แต่เขาก็เอาอาหารแห้งออกมาจากมิติและป้อนให้กับสโนว์
“ให้ฉันด้วยสิ” วินเตอร์อ้าปากรอการป้อนจากฟรอสต์เหมือนกับลูกนก ฟรอสต์โยนอาหารแห้งเข้าปากวินเตอร์อย่างปฏิเสธไม่ได้ อีกอย่างยังไงซะเขาก็ทำหน้าที่ป้อนหาอาหารให้ลูกนกสองตัวนี้บ่อยๆ อยู่แล้ว เขาค่อนข้างชินกับมัน
พวกเขาทั้งสามคนจะต้องหลบอยู่ในหลุมสักพักจนกว่าพวกปรสิตจะโดนสารพิษที่มาพร้อมกับระเบิดเมื่อครู่ฆ่าตายทั้งหมด ระหว่างนั้นพวกเขาจึงถือโอกาสพักเติมพลังเพื่อจะได้มีแรงปฏิบัติงานต่อ
“ครั้งนี้…หน่วยของเรามีใครรอดบ้าง” วินเตอร์เริ่มบทสนทนาขึ้นมากะทันหัน สโนว์ที่กำลังเคลิ้มหลับจำเป็นต้องลืมตาขึ้นมามองวินเตอร์ ก่อนที่เธอจะเบนสายตาขึ้นไปมองท้องฟ้าสีเทาเพราะถูกควันระเบิดปกคลุมไว้ทั้งหมด
พวกเขาทั้งสามคนเงียบ คำตอบของคำถามจึงเข้าใจได้ไม่ยากนอกจาก…มีแค่พวกเธอสามคนอีกแล้วที่รอดชีวิตมาได้
พวกเธอเป็นทหารหน่วยพลีชีพ หน้าที่ของทหารหน่วยพลีชีพก็คือบุกทะลวงเข้าไปในรังของพวกปรสิตเพื่อวางระเบิดบวกสารพิษที่เป็นอันตรายต่อพวกปรสิตเพื่อฆ่าล้างพวกมันในคราวเดียว ซึ่งหน้าที่นี้มันเป็นหน้าที่ที่เสี่ยงตายมากเพราะกว่าจะบุกทะลวงฝ่าดงปรสิตเข้าไปได้พวกเขาก็ต้องสูญเสียเพื่อนร่วมรบไปมากมาย
ทหารหน่วยนี้ได้ชื่อว่าทหารหน่วยพลีชีพเพราะว่าทำงานเสร็จแล้วก็ตายยังไงล่ะ
วันหนึ่งมีกล่องปริศนาว่างอยู่หน้าบ้านของเลอาและแฟนหนุ่มของเธอ ในกล่องนั้นมีหนังสือนิยายเล่มหนึ่งด้วยความสงสัยเลอาจึงเปิดอ่านและเธอก็พบว่ามันเป็นนิยายวาย! แถมดูเหมือนมันจะเป็นแนว 3P เสียด้วย ในนิยายมีตัวละครที่ชื่อเหมือนเธอด้วย และนายเอกของนิยายเรื่องนั้นก็มีชื่อเหมือนแฟนของเธอ! เลอาไม่อยากจะอ่านต่อเพราะความหึงหวง แต่เธอก็มาพบภายหลังว่านิยายเล่มนั้นได้เขียนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเธอและแฟนหนุ่มของเธอ "ฉันจะตายเรอะ!? แถมแฟนของฉันก็จะถูกผู้ชายสองคนรุมทึ้ง!? ไม่! ฉันไม่ยอมให้แฟนสุดที่รักถูกใครหน้าไหนแย่งไปเด็ดขาด! ถ้ากล้าแตะต้องแฟนของฉัน ฉันจะต้องได้ข้ามศพของพวกแกไปก่อน! " เพื่อไม่ให้แฟนหนุ่มถูกผู้ชายอื่นแย่งไปเลอาพยายามหลบเลี่ยงความตายของตัวเองและพยายามขัดขวางเหล่าพระเอกนิยายวายไม่ให้เข้าใกล้แฟนของเธอ แต่ฆาตกรก็ยังพยายามตามฆ่าเธอและแฟนหนุ่มของเธอเสียเหลือเกิน พวกพระเอกนิยายวายก็สลัดทิ้งยากยิ่งกว่าฆาตกร จะรอดไปได้หรือไม่ติดตามกันได้เลย!
บทนำ เธอไม่รู้หรอกว่าโลกนักเขียนที่แท้จริงคืออะไร สิ่งที่เธอทำก็คือการเขียนจินตนาการลงไปในกระดาษหรือพิมพ์บนแป้นพิมพ์ เรื่องราวในนิยายของเธอมีผู้คนชอบอย่างมาก พวกเขาติดตามเธอเพราะต้องการอ่านเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่ในโลกความเป็นจริงจะไม่มีวันพบเจอ เธอชอบที่พวกเขาชื่นชมและสนุกไปกันมัน เธอเป็นนักเขียนที่ชอบเขียนนิยายเพราะมันจะปลดปล่อยความเครียดของเธอได้ เธอเขียนอย่างต่อเนื่องจนสามารถขายออกเป็นรูปเล่มได้ เธอหากินโดยการเขียนนิยายตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอ นักเขียนที่มีนามปากกาว่า เลล่า หรือชื่อเล่นก็คือ นิรา ก็ได้รับพลังวิเศษ! สิ่งนั้นถูกเรียกว่า God eyes และระบบ Writer มันสามารถทำให้เธอมองเห็นโลกอีกโลกหนึ่งได้โดยการหลับตา มันมีโลกมากมายที่แตกต่างกันออกไป และระบบ Writer สามารถทำอะไรได้มากมายอย่างเช่นแลกเงินหรือไม่ก็ของวิเศษ! พลังพวกนี้มันมีไว้สำหรับนักเขียนโดยเฉพาะ! และได้มีจดหมายจากผู้ที่เรียกตัวเองว่า พระเจ้า ส่งมา จดหมายได้บอกว่านักเขียนผู้ถูกเลือกจะต้องเลือกใครสักคนจากต่างโลกแล้วเขียนบรรยายเรื่องราวชีวิตของคนๆ นั้นให้โลกอีกฝั่งได้อ่าน ยิ่งเรื่องราวชีวิตของคนนั้นมีความน่าสนใจเท่าไหร่ก็จะได้รับค่าตอบแทนมากเท่านั้นและสิ่งที่เธอทำนั้นสามารถช่วยโลกได้อีกด้วย! สรุปง่ายๆ คือมองหาตัวละครที่จะเป็นตัวเอกของนิยายจากนั้นก็ติดตามชีวิตของคนๆ นั้นแล้วเขียนเล่าเรื่องราวออกมาเป็นตัวอักษร! ต่อไปนี้เธอจะกลายเป็นนักเขียนที่บรรยายเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ จากต่างโลก
บทนำ "อยากตาย" เป็นคำพูดของคนที่ไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว หญิงสาวนามฟางเซียนพบกับความลำบากและความเหนื่อยยากของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มาแล้ว น้องสาวคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิต แต่เมื่อไม่นานมานี้น้องสาวของเธอก็เพิ่งจะตายไปเพราะโรคร้าย เธอจึงคิดว่าตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะงั้นเธอจึงพยายามฆ่าตัวตาย... เธอพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าสิบครั้งด้วยกัน ผลน่ะหรือ? ล้มเหลวน่ะสิ!! ถ้าสำเร็จเธอคงไม่ต้องมานั่งคิดว่าวิธีตายใหม่แบบนี้หรอก!! "ดื่มยาพิษ กรีดข้อมือ โดดน้ำ โดดตึก ขนาดนี้แล้วทำไมฉันยังไม่ตายอีก!! สวรรค์ ไม่สิ นรกไม่อยากรับคนเพิ่มรึไง!! " ฟางเซียนกรีดร้องอย่างหนักราวกับคนบ้า ในตอนนั้นเองบางสิ่งก็ได้ปรากฏต่อหน้าเธอ [สวัสดีคุณฟางเซียน ผมคือระบบห้ามฆ่าตัวตาย ต่อจากนี้ไปคุณต้องถูกผูกมัดกับระบบห้ามฆ่าตัวตาย กฎของระบบห้ามฆ่าตัวตายที่หนึ่งคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎที่สองคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎที่สามคือ ห้ามฆ่าตัวตาย] "...." มองหน้าต่างระบบตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ฟางเซียนหันไปหยิบมีดขึ้นมาเตรียมฆ่าตัวตายต่อ แต่จู่ๆ ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถที่จะขยับได้อีกราวกับว่ามีบางอย่างเข้ามาควบคุมร่างกายของเธอ [คุณจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้จนกว่าจะมีอายุครบหนึ่งหมื่นปี โปรดเข้าใจด้วย] "เข้าใจมารดาแกสิ!! หมื่นปีเรอะ! ใครจะอยากอยู่นานขนาดนั้นกัน! " [มนุษย์] "เออ! แต่พอดีฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวจากดาวเนปจูน ฉันจะฆ่าตัวตาย!! " [กฎคือห้ามฆ่าตัวตายเด็ดขาด เนื่องจากสถานที่รอเกิดเต็มแล้ว หากคุณต้องการฆ่าตัวตายคุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ภารกิจแรก เป็นอาจารย์ของตัวร้ายสูงสุด ภารกิจที่สองจะตามมาในอีกร้อยปีต่อมา และอีกหนึ่งร้อยปีต่อไปภารกิจที่สามจะตามมา และอีกร้อยๆ ปีต่อมาภารกิจที่สี่ก็จะตามมา] "....ไปตายซะไอ้ระบบเฮงซวย!! " ....................................................................... ฟางเซียนต้องการที่จะฆ่าตัวตายเพราะมันคือทางที่เธอได้เลือกแล้ว ตายไปทุกอย่างที่ผ่านมาก็จะเป็นเพียงภาพลวงตา เธอจะได้เกิดใหม่โดยที่ใหม่ต้องจำอะไรได้อีก เพียงแค่ตายเธอก็จะได้เห็นโลกใบใหม่แล้ว! แต่ทำไมระบบห้ามฆ่าตัวตายถึงไม่ยอมให้เธอตายสักที!! ขัดขวางการฆ่าตัวตายของเธอไม่พอมันยังลากเธอไปโลกจีนโบราณและบังคับให้เธอรับตัวร้ายในอนาคตเป็นลูกศิษย์!! ใครก็ได้ช่วยฆ่าเธอทีเถอะ!! ในภายหลังฟางเซียนพยายามคิดหาวิธีฆ่าตัวตายมากมาย ...................................................................... ระบบ: กฏที่หนึ่งคือห้ามฆ่าตัวตาย กฏที่สองคือห้ามฆ่าตัวตาย กฏที่สามคือห้ามฆ่าตัวตาย คนอยากตาย: ......ระบบเวร!! ระบบ: เพื่อความอมตะคุณต้องฝึกตนเป็นมาร ไม่ต้องห่วงระบบจะเติมทรูให้เอง! คนอยากตาย: ไม่อยากเป็นอมตะโว้ย!! ระบบ: ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน! ระบบมีเงินพร้อมที่จะเปย์คุณ *โปรยเงิน คนอยากตาย: .....
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"