"คุณคงไม่ได้หมายถึงให้ผมนอนกับคุณ" "แต่ครีมหมายถึงแบบนั้น นอนกับครีมได้ไหมช่วยทำให้ครีมลืมเรื่องแย่ๆ ที่ผู้ชายคนนั้นกับครีมได้ไหม" "คุณเมามากและผมจะไม่นอนกับคุณเพราะคุณเมา" "คุณก็คงรังเกียจใช่ไหม" "เปล่าแค่ผมไม่อยากเอาเปรียบคุณ" "ครีมเข้าใจ ครีมขอโทษที่ทำให้คุณลำบากใจ สุดท้ายแล้วคืนนี้ครีมก็ต้องอยู่คนเดียว" เสียงที่ฟังเหมือนกำลังเสียใจ น้อยใจทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะเดินออกจากห้องนี้ไปเลย
กานต์สิชามองกระทงรูปเต่าซึ่งทำจากขนมปังที่วางอยู่ข้างๆ เบาะฝั่งคนนั่งด้วยความภูมิใจ วันนี้เธอและพนักงานในร้านช่วยกันทำขนมปังเกือบอยู่หลายแบบเพื่อจะใช้ในงานลอยกระทงคืนนี้
หญิงสาวปิดร้านเร็วกว่าทุกวันเพื่อขับรถมาหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่จังหวัดนครนายกซึ่งเธอไม่ได้เจอกับคนรักมานานเกือบสองเดือนแล้ว
กานต์สิชาตั้งใจว่าจะชวนชายหนุ่มไปลอยกระทงเพราะเห็นว่าช่วงนี้เขาทำงานหนักก็เลยอยากจะให้เขาได้ผ่อนคลายบ้างหญิงสาวขับรถออกจากกรุงเทพตั้งแต่บ่ายและเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพักของกันตภูมิ
ปกติกันตภูมิจะเดินทางกลับมาบ้านของตนเองที่กรุงเทพเกือบทุกสัปดาห์แต่สองเดือนที่ผ่านมากันตภูมิบอกเธอว่างานที่ไซต์งานค่อนข้างหนักและเร่งมากจึงไม่มีเวลากลับบ้าน
กันตภูมิเป็นวิศวกรคุมโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการขนาดใหญ่ในตัวจังหวัดนครนายกซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างนานถึงสี่ปีซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบจะสองปีแล้ว เธอรู้จักกับชายหนุ่มผ่านทางรุ่นพี่คนหนึ่งตั้งแต่สมัยเรียนแต่เพิ่งจะตกลงคบกันได้ไม่ถึงสองปี
ที่ผ่านกานต์สิชาเธอไม่เคยมาหากันตภูมิที่นี่เลยสักครั้ง เขาจะเป็นฝ่ายไปหาเธอมากกว่าเพราะมารดาและพี่สาวของเขาอยู่ที่กรุงเทพ ทุกครั้งที่เขาเข้ากรุงเทพก็จะพากันไปทานข้าวและดูหนังเหมือนคู่รักทั่วไป
กันตภูมิเคยพาเธอไปเจอกับมารดาและพี่สาวอยู่หลายครั้ง ทั้งสองคนก็ให้ความเอ็นดูและต้อนรับเธออย่างดี บ้านของเขาอยู่ไม่ไกลจากร้านของเธอเท่าไหร่ หญิงสาวจึงมักจะให้เด็กที่ร้านเอาขนมไปฝากอยู่บ่อยๆ
นอกจากกระทงที่เตรียมมาลอยด้วยกันแล้ววันนี้กานต์สิชายังทิรามิสุและซอฟต์คุกกี้ของโปรดของคนรักมาให้อีกด้วย ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพเธอก็โทรหาเขาก่อนและรู้ว่าวันนี้กันตภูมิเลิกงานประมาณหนึ่งทุ่ม
หลังจากเช็กอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้วกานต์สิชาก็นั่งรอเวลาที่คนรักจะเลิกงาน พอถึงเวลาประมาณหนึ่งทุ่มหญิงสาวก็โทรศัพท์หาเขาอีกครั้ง
“พี่ภูมิทำอะไรอยู่คะ กลับถึงห้องหรือยัง”
“พี่เพิ่งกินข้าวกับเพื่อนเสร็จนะ กำลังจะขับรถกลับห้อง ครีมมีอะไรหรือเปล่าทำไมวันนี้โทรหาพี่บ่อยจัง”
“ครีมคิดถึงพี่ภูมิ จะโทรหาบ่อยหน่อยไม่ได้เหรอคะ”
“ได้สิพี่ไม่ว่าอะไรหรอกแต่วันนี้รู้สึกแปลกๆ นะ” เพราะปกติแล้วกานต์สิชามักจะไม่ค่อยเป็นฝ่ายโทรมาหาเขาก่อนแต่วันนี้หญิงสาวกลับโทรมาหาถึงสองครั้ง
“ก็คนรักกันจะโทรหากันก็ไม่เห็นจะแปลกเลย”
“พี่รู้ พี่ก็รักครีมเหมือนกัน แต่ตอนนี้พี่ยังขับรถอยู่เอาไว้ถ้าถึงห้องแล้วค่อยคุยกันดีไหม”
“พี่ภูมิพี่อย่าเพิ่งกลับได้มั้ยคะ”
“ทำไมล่ะ มีอะไรหรือเปล่าครีม”
“ครีมอยากลอยกระทงกับพี่ภูมิค่ะ”
“ลอยกระทงเหรอ”
“ใช่ค่ะพี่ภูมิลืมไปหรือเปล่าว่าวันนี้มันเป็นวันลอยกระทง”
“แต่ถ้าให้พี่ขับรถไปกรุงเทพตอนนี้คงไม่ไหวแน่ๆ วันนี้พี่เหนื่อยมาทั้งวันเลยนะครีม”
“ก็ใครว่าจะให้พี่ภูมิขับรถมาหาครีมที่กรุงเทพกันล่ะ”
“แล้วเราจะลอยกระทงด้วยกันได้ยังไงล่ะ หรือครีมหมายถึงการลอยกระทงออนไลน์ เดี๋ยวพี่ถึงห้องแล้วลอยด้วยกันก็ได้นะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ครีมหมายถึงเราจะลอยกระทงด้วยกันจริงๆ”
“พี่ภูมิมารับครีมหน่อยได้ไหมคะ”
“พี่ก็บอกครีมไปแล้วไงว่าวันนี้พี่เหนื่อย ให้ขับรถไปกรุงเทพไม่ไหวหรอกพี่กลัวว่ารถมันจะลงข้างทางเสียก่อน”
“ครีมหมายถึงให้พี่ภูมิขับรถมารับครีมที่โรงแรม XXX ค่ะ”
“อะไรนะครีมอยู่ที่โรงแรม”
“ค่ะ ตอนนี้ครีมอยู่ที่โรงแรมพี่ภูมิมารับหน่อยได้ไหมคะ”
“ครีมมาตั้งแต่เมื่อไหร่มากับใคร”
“ครีมขับรถมาคนเดียวค่ะ มาถึงตั้งแต่เย็นแล้ว”
“มันอันตรายมากนะคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกระยะทางจากกรุงเทพมานครนายกมันไม่ใช่ใกล้ๆเลยขับรถตั้งเกือบสองชั่วโมงเลยนะ”
“พี่ภูมิขาอย่าเพิ่งบ่นได้ไหมมารับครีมก่อนตอนนี้ครีมอยากเจอพี่ภูมิมากๆ เดี๋ยวครีมจะลงไปรอพี่อยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรมนะคะ”
“นี่ครีมพูดจริงๆ ใช่ไหมไม่ใช่แกล้งกันนะ”
“ครีมจะแกล้งพี่ภูมิทำไมล่ะ มารับครีมหน่อยนะคะครีมอยากลอยกระทงกับพี่จริงๆ”
“ถ้างั้นครีมรอพี่หน่อยนะ แต่น่าจะไปถึงช้าหน่อยเพราะตอนนี้พี่รู้สึกว่ารถมันเริ่มจะติดแล้ว คนคงจะออกไปลอยกระทงกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ภูมิไม่ต้องรีบหรอกเพราะครีมจองโรงแรมไว้แล้วไม่ได้รีบขับกลับกรุงเทพคืนนี้สักหน่อย”
“แล้วจะจองโรงแรมทำไมล่ะทำไมไม่มาค้างกับพี่ที่ห้องพัก” กันตภูมิแกล้งชวนเพราะรู้ว่ายังไงกานต์สิชาก็ไม่มีทางมาค้างกับตนเองแน่
“ครีมว่านอนที่โรงแรมมันน่าจะสะดวกกว่าค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ ครีมอย่าเพิ่งลงมาจากห้องรอให้พี่ไปถึงแล้วพี่จะโทรหา”
“ค่ะพี่ภูมิ”
เพราะอยากเจอกับคนรักเร็วๆ กานต์สิชาเลยลงมานั่งรอเขาบริเวณล็อบบี้เมื่อชายหนุ่มโทรศัพท์เข้ามาหญิงสาวก็เดินออกไปหน้าโรงแรม เมื่อรถเขาเข้ามาจอดเธอก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งทันที
“สวัสดีค่ะพี่ภูมิ” หญิงสาวทักทายคนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเธอรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เจอเขาหลังจากไม่ได้เจอกันมานานถึงสองเดือนถึงแม้ว่าจะวิดีโอคุยกันอยู่บ่อยครั้งแต่มันก็ไม่เหมือนกับการได้เจอตัวจริง
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
ใครจะคิดว่าคนที่เธอเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวในคืนนั้นจะกลายมาเป็นคนรักในวันนี้ แต่เขาไม่ใช่แค่คนรักธรรมดาเพราะเขาคือเจ้าของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ แต่เธอต้องเก็บเป็นความลับก่อนจะผ่านช่วงทดลองงาน
เพราะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนเธอความจำเสื่อม โดยมีตนเองเป็นต้นเหตุ หมออย่างเขาก็ไม่รีรอที่จะรับเธอไปดูแลในฐานะคนรัก
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี