เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ตอนที่1.จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย
ไฟหน้องผ่าตัดดับลงพร้อมกับประตูห้องที่ถูกดันให้เปิด นายแพทย์อาวุโสท่านหนึ่งเดินออกมาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน สีหน้าของเขาเรียบสงบ คงเพราะเคยชินกับความเป็นความตายในทุกๆ วัน
ดานันทะลึ่งพรวด โผเข้าไปหาด้วยความร้อนใจ
“คุณหมอคะยายหนูเป็นอย่างไรบ้างคะ”
เสียงถอนใจดังขึ้นเบาๆ ดานันใจหายวาบ!!
“คนสูงอายุที่บาดเจ็บตอนนี้ต้องใช้เวลาพักรักษาตัวนานหน่อย แต่ว่า...” สีหน้าของนายแพทย์ท่านนี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะถูกเกลื่อนหายไป
มือเรียวเล็กกำเข้าหากันแน่น
“หนูเข้าใจค่ะ หนูจะพยายามหาค่ารักษาพยาบาลมาจ่ายให้เร็วที่สุดค่ะ” โรงพยาบาลเอกชนเป็นเรื่องธรรมดามากที่ค่าใช้จ่ายจะเยอะจนเป็นภาระให้กับครอบครัวผู้ป่วย
“ผมเข้าใจ แต่หากหนักเกินไป ผมจะช่วยทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้”
ท่าทางซอมซ่อของเด็กสาวตรงหน้า คนที่ผ่านโลกมานานเลยอดเป็นห่วงไม่ได้
ดานันเม้มปากก้มหน้ายอมรับ
ถึงเธอจะมีนามสกุลพ่วงท้ายที่คนทั้งเมืองรู้จัก แต่สถานะของเธอก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกๆ คนคิด
ดานัน อินทรโชติ เธอเป็นแค่ลูกสาวนอกสมรสของบิดาผู้มั่งคั่ง ครอบครัวอินทรโชติไม่ใคร่ใยดีเธอนัก คงเพราะรังเกียจความต่ำต้อยของมารดาเธอ แต่ครั้นจะไม่ใส่ใจเลยก็จะพลอยทำให้วงสุกลมัวหมอง ดานันเลยได้รับการอุปการะแบบเสียไม่ได้ แถมมารดาผู้อาภัพของเธอก็ชิงลาโลกไปก่อนเสียอีก ปล่อยให้บุตรสาวกับมารดาของท่านเผชิญหน้ากับความรัดทดแค่เพียงสองคน
“ขอบคุณค่ะ”
ดานันเดินจากมา สองเท้าและบ่าหนักอึ้ง
เธอนึกไม่ออกเลยว่าปัญหาหนักหน่วงครั้งนี้เธอจะบากหน้าไปพึ่งพาใครได้ ในเมื่อประกาศิตครั้งสุดท้ายของสุรีพร ภรรยาของบิดาผู้มั่งคั่งของเธอกำหนดไว้ว่า... “หล่อนเรียนจบแล้วนะยะ จะมาเบียดเบียนบ้านใหญ่อีกต่อไปไม่ได้แล้ว รีบๆ ออกไปหางานทำซะ แล้วอย่ามาเสนอหน้าที่บ้านใหญ่ให้ฉันรำคาญลูกตาอีกละ”
ยายคือญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ ไม่นับบิดาที่เจอหน้ากันครั้งสุดท้ายตอนไหน ดานันเองก็คร้านที่จะจำ
ช่วงนี้เธอกับยายลำบากมาก คงเพราะบ้านใหญ่ตัดความช่วยเหลือทุกทาง อาหารการกินที่อัตคัดอยู่แล้วเลยเข้าขั้นวิกฤติ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยายก็เกิดอุบัติเหตุหนักบาดเจ็บขึ้นมาอีก เงินเก็บก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ยังต้องงัดออกมาใช้ แถมยังไม่พอชดใช้ค่ารักษาพยาบาล
เนื่องจากร้อนใจอาการบาดเจ็บของยาย ดานันเลยไม่ทันได้คิดทบทวน โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าที่เธอจะแบกรับไหว
“มาพอดีเลย จะได้ไม่ต้องถ่อสังขารไปตาม”
ทันทีที่โผล่หน้าเข้ามาในอาณาเขตบ้านหลังใหญ่
“คุณนายรออยู่ รีบเข้าไปหาสิ!!” เพราะดานันยืนนิ่ง เพลินตาเลยตะคอกซ้ำ
“ป้าเพลินพอรู้ไหมคะ ว่าคุณผู้หญิงอยากพบฉันทำไม?” ดานันพยายามหาข้อมูลล่วงหน้า เผื่อไม่ให้ตนเองทำให้สุรีพรขุ่นเคืองใจ ยังไงวันนี้เธอก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากสุรีพรอยู่แล้ว ต่อให้ถูกเสียดสีจนแทบทนไม่ไหว เธอก็ต้องได้เงินก้อนนี้
“ฉันจะไปรู้เรอะ!!”
เป็นเรื่องปกติเสียแล้วที่ดานันต้องเจอ คนรับใช้บ้านอินทรโชติไม่มีสักรายที่ยำเกรงเธอ ในเมื่อเจ้าบ้านฝ่ายหญิงเหยียดหยามดานันไม่เว้นวัน
“กาฝาก!!” เสียงพึมพำที่ตั้งใจให้ตนเองได้ยิน ดานันหลุบเปลือกตาลง พยายามไม่ใส่ใจ ไม่อย่างนั้นตัวเธอเองจะมีเรื่องหนักใจเพิ่มขึ้น
โถงกว้างห้องรับรองแขก ชุดรับแขกนำเข้าจากต่างประเทศดูโอ่อ่าสมฐานะของครอบครัวมั่งคั่ง ดานันทรุดนั่งที่พื้นพรม ยกมือทำความเคารพมารดาเลี้ยงอย่างเรียบง่าย
“หล่อนหายหน้าไปไหนมาทั้งวันยะ” เสียงกระแทกกระทั้นดังผ่านริมฝีปากสีแดงสด
“ออกไปข้างนอกมาค่ะคุณผู้หญิง”
“ได้ข่าวว่ายายหล่อนเข้าโรงพยาบาลเหรอยะ” ในน้ำเสียงไม่ได้แฝงด้วยความเป็นห่วง คงถามอย่างเสียไม่ได้นั่นเอง “ฉันเองก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำอะไร เรื่องยายหล่อนฉันจะช่วยเอง”
ดานันเงยหน้ามองอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“คุณผู้หญิงพูดจริงๆ เหรอคะ?”
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
อดีตที่น่าอับอาย กับแววตาหยามหยันของใครบางคน เลยทำให้ ‘บุหลัน’ ฮึดสู้ขึ้นมา มันจะเป็นยังไงนะ หากเธอสามารถ ‘หลอกล่อ’ เขาให้ติดกับได้ มันจะเป็นไงนะ หากเธอทำให้ ‘เขา’ หลงรักเธอได้สักครั้ง ...แม้ความหวัง จะมีเพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตาม... แต่หากเสี่ยงแล้วได้ผลลัพธ์เหมือนที่ตั้งความหวังไว้ ‘เกมล้างอัปยศ’ ครั้งนี้ก็น่าจะคุ้มค่า แต่...บุหลันลืมไป ก้อนเนื้อที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ ไม่มีมนุษย์คนไหนควบคุมได้ เรื่องที่เกินความคาดหมายเลยเกิดขึ้น
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!