คำโปรย เพราะคืนนั้นคืนเดียวที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาและเธอไปเสียทุกอย่าง จากความรัก กลายสู่ความใคร่ และเป็นความแค้นในที่สุด เมื่อเธอไม่อยากพบเจอเขา แต่พรหมลิขิตก็เหวี่ยงให้ทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ภาพของพิษแค้นเสน่หาในวันวาเลนไทน์จึงหลอกหลอนใจทั้งคู่อีกครั้ง ด้วยรัก ธันยวีร์
ในเวลาเช่นนี้นี้ภิญตรัยรอคอยด้วยความกระวนกระวายใจอีกครั้ง แล้วเมื่อไหร่หล่อนจะเลิกงานเสียทีนะ ทำให้เขานั้นอดบ่นไม่ได้ และความเป็นจริงตั้งแต่แรกนั้น เขาไม่อยากให้หล่อนทำงานแบบนี้หรอก เพราะมันเลิกดึกเกินไปและค่อนข้างอันตรายสำหรับตัวผู้หญิงคนเดียว
แต่หล่อนก็ไม่ฟังเขาค่อนข้างดื้อนี่จะรู้ไหมว่าเขายืนรอคอยหล่อนเป็นเวลาเนิ่นนานแล้วนะ จนรู้สึกเมื่อย แต่เขาก็อดทนเพื่อที่จะบอกถึงความสำคัญของวันนี้ คือวันแห่งความรักไง หากเมื่อเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้ง
เขาอยากจะพาเธอไปทานข้าวในวันที่แสนจะโรแมนติกอย่างในวันนี้ ที่ดอกกุหลาบนั้นดูสะพรั่งพรึบเต็มไปทั่วท้องตลาดสดแล้วก็ราคาแพงที่สุดอย่างมากมาย คือ วันนี้
หากเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเกลียวลินินอดที่จะแปลกใจไม่ได้อีกครั้งเพราะเขาโทร.ผ่านมือถือมาหา หล่อนไม่ได้รับหรอกเพราะทำงานอยู่ มาเปิดดูในภายหลังที่ล็อกเกอร์ส่วนตัว
จึงได้รู้ว่าเขาโทร.มารู้ว่าหล่อนและเขาคบหากันมานานแต่เกลียวลินินไม่เคยวาดหวังสูงไปกว่านั้น ได้ยินเขาเอ่ยผ่านโทร.มือถือ หล่อนไม่เคยให้ความหวังเขา
แต่ฝ่ายภิญตรัยต่างหากที่เขาเป็นฝ่ายตามตื้อหล่อน จนกระทั่งว่าเกลียวลินินยินยอมใจอ่อนลงในที่สุด
จึงได้ขยับเลื่อนฐานะของเขามาเป็นแฟนและเรื่องนี้เป็นที่รับรู้กันระหว่างหล่อนกับเขาเพียงสองคนเท่านั้นกับเพื่อนสนิทอีกไม่กี่คน ก็ไม่นึกว่าเขาจะจริงจังและ แสดงผ่านความรู้สึกออกมาให้หล่อนรับรู้ด้วย
ทีแรกหล่อนคิดว่า คงเป็นเพียงคำพูดที่เลื่อนลอยผ่านริมฝีปากของเขาเท่านั้น เมื่อเรียนจบก็คงจบแล้วกันไป เพราะต่างคนต่างเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ภิญตรัยติดหนึบหนับเกาะเธอติดแน่นเหมือนตังเม ทั้งที่เขาเป็นรุ่นพี่จบการศึกษาไปแล้วก่อนหล่อน
หากแต่เขายังเทียวไปเทียวมา เพื่อแวะรับและส่งเสมอ มันคือครั้งแรกในความรู้สึกของหนุ่มหล่อตระกูลผู้ดี นั่นเพราะว่าในหัวใจของภิญตรัยนั้นในยามที่ได้พบกับเกลียวลินินในครั้งแรก
เขาก็ตกตะลึงในความสวยน่ารักของหล่อน
ที่มีผิวพรรณขาวผุดผ่องแม้ไม่ได้ขาวจัดแต่ก็ขาวละเอียดนวลเนียน หล่อนวางตัวได้เหมาะสม ทั้งบุคลิกท่าทาง
จนเขานั้นแอบเก็บเธอไว้เทิดทูนบูชาอยู่ในใจด้วยความภักดี ที่เขาหมายมั่นปั้นมือ จะแต่งงานกับเธอให้ได้ในอนาคต
เขาคิดอย่างนี้ ทั้งที่เกลียวลินินไม่เคยรู้สักนิด เขาไม่เคยคาดเดาความรู้สึกของหล่อน รู้แต่ว่า..คนนี้ใช่เลย แบบถูกสเปกต์มากที่สุด เพราะหล่อนมีรูปร่างบอบบางระหงอ่อนหวานทั้งกิริยาคำพูดและการวางตัว
ดังนั้นความรู้สึกที่เรียกว่ารัก นั้นมันเกิดขึ้นตั้งนานนมแล้วในใจของภิญตรัย ตั้งแต่แรกพบเจอผู้หญิงคนนี้
เพราะหลังจากนั้นที่ได้พบเจอหล่อน
ภิญตรัยไม่เคยคบหาผู้หญิงคนไหนอีกเลย ในตำแหน่งแฟน นอกจากคำว่าเพื่อน เพราะถือว่าเขาได้ยกไปให้หล่อนแล้วคนเดียว เขาทำให้หล่อนรู้และวางใจ จนสายสัมพันธ์นั้นผสานแนบแน่น เป็นเกลียวใยรักที่หวานชื่นของทั้งคู่ ที่รับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกันตามลำพังเท่านั้น
มีดอกกุหลาบหรูผูกช่อไว้อย่างสวยงามช่อหนึ่ง ที่เขาวางไว้ในเบาะหลังของรถสปอร์ตปอร์เช่คันงามส่วนตัว
และเพราะภิญตรัยนั้นเขาอยากจะส่งดอกกุหลาบนี้ให้ถึงมือหล่อนเพื่อบอกถึงความรักที่แน่นแฟ้นและซาบซึ้งตรึงใจเหมือนวันปีที่ผ่านมา
ที่เขานั้นซื่อสัตย์ต่อหล่อน และภิญตรัยจึงอยากให้หล่อนซื่อสัตย์กับเขาแบบนี้ตลอดไป
ในยามนี้นั้น หากบนท้องถนนนั้นรถค่อนข้างโล่ง..
อีกทั้งภิญตรัย ได้ขอร้องให้หล่อนอยู่คอย หลังขากเลิกงาน เมื่อเขาโทร.ไปอีกครั้ง ที่ใกล้เวลาเลิก หล่อนรับสายของเขาแล้วพูดคุยเพียงไม่กี่คำเป็นการตอบรับ เพื่อไม่ให้เขาน้อยใจ
เขาสักครู่ วันนี้เป็นวันพิเศษ และเขามีของขวัญที่จะมอบให้แก่สาวสาย พร้อมตั้งใจจะบอกคำว่ารักออกจากปากด้วย ถ้าตัวเองไม่เขินอายมากนัก
“รอหน่อยนะเกลียวเรายังไม่อยากให้เกลียวกลับไปตอนนี้..น่าเรามีสิ่งที่จะมาเซอร์ไพรสเป็นพิเศษแป๊บเดียว ขอเวลาสิบนาที คอยอยู่ที่ป้ายรถเมล์ก่อนนะ”
นั่นคือเหตุผลของภิญตรัย เและเกลียวลินินตกลงรับปากตามที่เขาเอ่ย..ด้วยความเกรงใจมากกว่า
แล้วก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของภิญตรัยนั้นปราดแล่นมาหยุดจอดเยื้องไปจากป้ายรถเมล์ ตรงนั้นไม่กี่ก้าว
เมื่อกวาดตามองเห็นหล่อนแล้วร่างสูงได้กลับไปที่รถคันหรูอีกครั้งพร้อมกับในมือขาวแข็งแรงนั้นถือช่อดอกกุหลาบราคาแสนแพง
เมื่อหล่อนเห็นแล้ว หล่อนถึงกับอึ้งแกมตะลึงไปในทันทีแล้วภิญตรัยก็เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มกระซิบที่ริมกกหูของหล่อน
หลังจากที่เขาถือวิสาสะดึงแขนของเธอพ้นห่างจากป้ายรถเมล์ตรงที่เดิมในบรรยากาศท่ามกลางแสงเงาที่ตะคุ่มของดวงไฟริมทาง และป้ายโฆษณาขนาดมหึมา
“วันวานเลนไทน์ปีนี้ไงจากภิญรับเอาไว้สิครับ เกลียวจ๋า เอ้อ เพราะภิญตรัยอยากมอบให้เกลียวคนเดียวเท่านั้น ถ้ารู้ว่าดอกกุหลาบสื่อความหมายถึงอะไร เกลียวก็คงพอจะเข้าใจความรู้สึกของภิญที่มีต่อเกลียวนะจ้ะ”
คำโปรย ครูหนุ่มที่ฐานะต่างกันกับอาสาวของลูกศิษย์ ที่หัวใจผูกรักใคร่ วาดฝันถึงทางรักที่สวยงาม แต่ทางรักมีอุปสรรค เมื่อเขาโบยบินไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาด้วยใจที่บอบช้ำ ดั่งพรหมลิขิตกลั่นแกล้ง รอคอยเพียงเธอ จะตามมาสมทบหัวใจ เหมือนไปให้สุดทางสุดเสน่หา ธันยวีร์
คำว่าเมีย” อย่างเธอ เด็กสาวอ่อนต่อโลก “ช่อดมิสา” มีที่มาแบบไม่ขาวสะอาด เพราะถูกอุปถัมภ์โดยหนุ่มใหญ่ อภิวานต์หรือว่าน ที่มีความแค้นแต่อดีตหนหลังระหว่างพ่อแม่ของเธอ คำว่าเมียเลี้ยง” ไม่ต่างจากที่ใครๆกล่าวหา เธอถูกนำมาไว้ที่บ้านสวนเพื่อปรนนิบัติดูแลคุณย่า ผลตอบแทนของเธอที่ได้รับ คือ สติปัญญา คุณค่า และการเอาตัวรอด ท่ามกลางอุปสรรคจากคนรอบข้าง ศัตรูร้าย และเพื่อนที่แสนดี คอยประคับประคองทะนุถนอมให้กำลังใจ ผิดไปจากเขาที่มอบแต่ความเถื่อน เหมือนซาตานร้าย แต่จะทำอย่างไรได้ และไม่อาจปฏิเสธตำแหน่ง ที่เขายัดเยียดให้ ด้วยรัก ช่อดมิสา
เจ้าสาวที่กลัวฝนอย่าง ฝ้ายนิิล นางเอก มีปมความหลังที่เพื่อนถูกคนรักทำร้าย และพี่สาวถูกสามีหลอกลวงปอกลอก ทำให้ตั้งป้อม อคติกับเพศตรงกันข้าม จนเมื่อ พระเอก กริญจน์ เพลบอยหนุ่มเข้ามาในชีวิต ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเป็นขมิ้นกับปูน เริ่มเปิดรับความรักที่แสนอบอุ่น
ความรักของสองหนุ่มที่ขับเคี่ยวในเกมรัก เมื่อรักนั้นไม่ใช่รักธรรมดา พระเอก ไอยวุธ มองความรักด้วยสติ ความรอบคอบ ไม่เผลอไผลให้กับหญิงร้ายที่พยายามยั่วยวนเขา ผิดไปจากเพื่อนของเขา ที่คลำไม่เป็นหางก็ฟาดดะ ไอยวุธพบรักกับนางเอก ชฏาเดือน เป็นทนายความสาว เขาต้องทนุถนอมเธอ แต่ก็ต้องฝ่าฟันผู้หญิงร้ายที่ต้องการตัวเขา
“เมียขายฝาก” เรื่องราวความรักชุลมุล ที่มาจากความเข้าใจผิด ของนักเขียนหนุ่ม พระเอก “ ปางภู” ร่ำรวย เย่อหยิ่ง งานอดิเรก เล่นการพนันเป็นบางครั้งแก้เครียด ส่วน นางเอก “ ใบฟาง” ประชาสัมพันธ์สาว ที่แฟนหนุ่มนำตัวเธอมาขายให้พระเอก เพราะติดพนัน ความเลวร้าย และเจ็บปวดจึงเกิดขึ้นกับเธอ จึงโทษเขาที่มีส่วนร่วมกับแฟนหนุ่ม เพราะว่าเธอได้กลายเป็นเกมของเขา ที่ขุดบ่อล่อปลาให้เธอเป็นเมียขายฝาก หลังจากความสัมพันธ์คืนนั้น ที่ต้องพัวพันกับเขาทั้งดีและร้าย
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"