/0/21917/coverbig.jpg?v=98f563f555c8e6e81c9e3c156ae2a886)
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
ตอนที่1 การเกิดใหม่
ท่ามกลางรัตติกาลสีเย็นแสนเงียบสงัด สายลมพัดโชยโรยราบนทุ่งหญ้าส่ายไสว สาวน้อยนางหนึ่งจากที่เคยหลับตาข่มสนิทยามนี้เบิกโตขึ้นฉับพลัน นัยน์ตาประดุจน้ำหมึกสีดำสนิทฉายประกายไอเย็นเยี่ยงนักฆ่า ท่อนมือเรียวบางคล้ายกิ่งไม้แห้งที่ดูยังไงก็ทั้งอ่อนแอและไร้พลัง มันกลับเคลื่อนไหวลงมือด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ นางพุ่งจับศีรษะของชายเถื่อนร่างใหญ่เบื้องหน้าหวังใช้เป็นศูนย์ถ่วง ร่างอรชรเล็กจิ๋วตีลังกาหนึ่งตลบขึ้นขี่พร้อมบิดหัวทิ้งเสียงกระดูกลั่นแตกดังกร๊อบ!
ภายในเสี้ยวอึดใจขณะ ชายเถื่อนร่างใหญ่สิ้นใจตายทันที!
หยานเจิ้นเจิ้นถีบร่างไร้วิญญาณที่ล้มทับบนตัวนางออกไป ก่อนจะลุกขึ้นจัดระเบียบร่างกายและเสื้อผ้า หนึ่งปราดสายตากวาดสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบที่สุดแสนจะไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย ที่นี่ไม่มีทั้งฝูงซอมบี้นับพันหมื่น ปราศจากเสียงฉีดกระชากของเนื้อหนังและการฆ่าฟัน ไร้ซึ่งร่องรอยความโกลาหลโหดร้ายใดๆ
ที่นี่…ที่ไหนกันนะ?
หยานเจิ้นเจิ้นลูบศีรษะตัวเองเจือผสมแววความมึนงงกว่าหลายส่วน อีกทั้งร่างกายของเธอก็ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ปลอดภัยดี สิ่งนี้ยิ่งทำให้เธอประหลาดใจหนักเข้าไปใหญ่
ในช่วงค.ศ.xxxx ภายหลังจากมหันตภัยการระบาดใหญ่ของเชื้อซอมบี้ครั้งที่ 108 ส่งผลให้ระบบรัฐบาลโลกล่มสลายไปอย่างสมบูรณ์ ชัยชนะตกอยู่ในกำมือของเหล่าซอมบี้และเข้าสู่โลกโลกาวินาศที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ ในวันนี้ระหว่างที่เธอเดินทางออกไปหาเสบียง แต่ดันพลาดท่าถูกฝูงซอมบี้โจมตีและโดนรุมกินโต๊ะชนิดตายทั้งเป็น แต่ประเด็นชวนคิดคือ เพราะเหตุใดเธอถึงยังไม่แปรสภาพกลายเป็นซอมบี้เหมือนคนอื่น? มิหนำซ้ำยังโผล่มาที่ไหนก็ไม่รู้ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมอีกด้วย?
หนึ่งชั่วขณะฉุกคิด ธารน้ำแห่งความทรงจำนับไม่ถ้วนพลันไหลทะลักแล่นสู่สมองของเธอ
ภายหลังใช้เวลาสักครู่ใหญ่เพื่อทำความเข้าใจและปะติดปะต่อเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด เธอจึงรู้แจ้งในท้ายที่สุด ปรากฏว่าตนเองได้ทะลุมิติมาเกิดใหม่อีกครั้ง
เจ้าของร่างเดิมที่เธอใช้อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบันเป็นสาวน้อยจากครอบครัวชาวนาตระกูลหนึ่งในจักรวรรดิลั่วอันยิ่งใหญ่ อีกทั้งชื่อของสาวน้อยนางนี้ยังเหมือนกับเธอพอดี
เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้คือช่วงที่เจ้าของร่างเดิมกำลังออกเดินทางตามหาพ่อที่หายตัวไปอย่างลึกลับกว่าครึ่งเดือนแล้ว ทว่าดันถูกโจรภูเขาพบตัวเข้า ขณะวิ่งหนีตายเพราะความตื่นตระหนกเสียขวัญนั่นเองเลยไม่ทันระวัง สะดุดพื้นล้มหัวกระแทกพื้นตายคาที่ และนั่นเป็นจังหวะที่วิญญาณของหยานเจิ้นเจิ้นคนนี้ได้เข้ามาสิงร่างใช้งานแทน
“จับตัวได้รึยัง? อย่าบอกนะว่าเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เจ้าจะดันโง่ปล่อยให้หลุดมือไปได้น่ะ?”
ชายเถื่อนร่างกำยำใหญ่อีกคนเดินถือกระบองเข้ามาพร้อมกับเสียงพูดเยาะเย้ยถากถาง แต่เมื่อเข้ามาใกล้ๆพลันค้นพบว่า เพื่อนโจรคนนั้นที่คุยด้วยเมื่อครู่ดันนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่คิดจะขยับเขยื้อนด้วยซ้ำ เจ้าตัวถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตะโกนด่าเสียงดังหวังปลุกให้ตื่นโดยหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายได้กลายเป็นศพนานแล้ว
“บัดซบ! ก็ว่าทำไมหายไปนาน! ที่แท้ก็มานอนอยู่ตรงนี้นี่เอง!”
ชายเถื่อนคนนั้นร้องสบถดุด้วยความไม่พอใจอยู่หลายถ้อยคำ ทำเอาหยานเจิ้นเจิ้นชักรำคาญหนวกหูขึ้นมา จึงสวนน้ำเสียงเย็นยะเยือกขัดจังหวะไปว่า
“คนมันก็ตายไปแล้ว ยังจะด่าศพอีกเพื่อ?”
“ตายไปแล้ว? ตาย…ตายได้ยังไง?”
หยานเจิ้นเจิ้นเลิกคิ้วข้างหนึ่งมองเหยียดใส่ ก่อนจะเลื่อนมองไปทางศพของเพื่อนมันที่นอนคอหักตายอยู่บนพื้น หนึ่งความคิดผุดขึ้นในหัวของนาง ก็สมแล้วที่เป็นโจรภูเขาดูโง่ดีจริงๆ
“ที่นี่มีเราแค่สองคน ถ้าไม่ใช่ข้าแล้วใครฆ่าล่ะ?”
โจรภูเขาคนนั้นถลึงตาโตจ้องจับหยานเจิ้นเจิ้นยกใหญ่ ดวงตาของมันเปล่งประกายฉายแววโลภในทันทีทันใด แม้เสื้อผ้าและสภาพนางยามนี้จะทั้งมอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงสกปรก แต่ก็ไม่สามารถปิดซ่อนเรือนร่างอันโดดเด่นของสาวน้อยได้เลย ทั้งสัดส่วนบอบบางดูน่ารับประทาน เอวคอดเพรียวกำลังโอบกอดพอดีมือ ไหนจะใบหน้าสะสวยนั่นอีก! รับทราบเช่นนั้น เขาถึงกับระเบิดหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน ส่ายหน้าราวกับไม่เชื่อคำพูดกันแม้แต่น้อย
“แม่สาวน้อย อย่าล้อเล่นไปหน่อยเลย ตัวแค่นี้จะไปฆ่าคนได้ยังไงกัน? ชีวิตนี้กล้าจับมีดหรือไม่ก็ยังไม่รู้!”
“ไม่เชื่อ?”
ในยุควันสิ้นโลก สิ่งที่เรียกว่ากฎหมายรวมไปถึงกฎระเบียบบ้านเมืองอะไรนั่นได้ล่มสลายไปพร้อมกับโลกในอดีตโดยสิ้นแล้ว เสมือนธรรมชาติจัดสรรให้โลกใบนี้กลับสู่ยุคที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจะมีชีวิตรอด ส่วนผู้อ่อนแอก็แค่เหยื่ออันไร้ค่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยานเจิ้นเจิ้นต้องเผชิญกับทั้งภัยคุกคามจากฝูงซอมบี้ พืชกลายพันธุ์ ไหนจะมนุษย์ด้วยกันที่ไล่เข่นฆ่าเพื่อแย่งชิงทรัพยากรเอาชีวิตรอด กล่าวคือ การฆ่าคนจึงกลายเป็นเรื่องปกติ
ทว่าอย่างไร คำถามเมื่อสักครู่ของโจรภูเขากลับทำให้เธอต้องแปลกใจ!
เพราะในความคิดของนาง การที่บอกว่า ตัวแค่นี้จะไปฆ่าคนได้ยังไงกัน มันควรเปลี่ยนเป็น ตัวโตเท่านี้แล้วยังฆ่าคนไม่เป็นอีกเหรอมากกว่า!
แลมองสีหน้าที่แสนเย็นชาและจริงจังของสาวน้อยเบื้องหน้า แววตาของโจรภูเขาดำทมิฬมืดมิด เสี้ยวขณะอึดใจมิให้ตั้งตัว มันเคลื่อนไหวฉับพลันพุ่งถลาเข้าใส่นางหวังนำตัวมาขืนใจให้สาสม ทว่ากลับโดนอีกฝ่ายสกัดขาถีบย้ำจนล้มตึง หยานเจิ้นเจิ้นไม่มีรอช้าคว้ากระบองหนักฉกชิงจากมืออีกฝ่ายอย่างว่องไว พร้อมหวดฟาดกระหน่ำศีรษะของมันนับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งโจรภูเขาแน่นนิ่งไปในที่สุด
ปัก! ปัก! ปัก!ๆๆ...
ยามใดคิดจะลงมือต้องเอาให้ตาย นี่ถือเป็นหนึ่งในกฎการเอาชีวิตรอดพื้นฐานของยุควันสิ้นโลก
เพื่อยืนยันว่าโจรภูเขาตรงหน้าตายสนิทแล้วจริงๆ หยานเจิ้นเจิ้นซัดกระหน่ำชนิดไม่มีพักหายใจจนกระโหลกศีรษะของอีกฝ่ายถูกตีจนบิดเบี้ยวผิดรูปมนุษย์มนา น้ำเลือดสีแดงฉูดฉาดผสมผสานกับเนื้อสมองที่ไหลออกมากลายเป็นแอ่งขนาดใหญ่ เศษเลือดเศษชิ้นเนื้อบางส่วนกระเซ็นสาดเลอะใบหน้าหยานเจิ้นเจิ้นทำให้นางในตอนนี้ดูน่าสยองอย่างบอกไม่ถูก
นางใช้มือปาดเช็ดคราบที่ว่าออกไปเบาๆสักที ก่อนจะเริ่มเคลื่อนย้ายศพทั้งสองลากไปทิ้งลงหน้าผาตามระเบียบ
หลังจากนั้น หยานเจิ้นเจิ้นได้ริเริ่มสำรวจร่างกายตัวเองอีกครั้ง หลับตาลงเพื่อเพ่งจิตรวมสมาธิภายใต้ความสงบ และทันทีที่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางพลันค้นพบว่า ตนเองได้เคลื่อนย้ายมาอยู่ในห้วงมิติพื้นที่ที่ทัศนียภาพเบื้องหน้าถูกปกคลุมเต็มไปด้วยม่านหมอกสีขาว ต่อหน้ามีประตูสีน้ำตาลอยู่บานหนึ่ง
วิเศษไปเลย! ห้วงมิติพื้นที่ส่วนตัวของข้ายังทะลุมิติมาพร้อมกัน!
หยานเจิ้นเจิ้นรู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด ในชีวิตก่อนหน้านี้มีมนุษย์บางส่วนสามารถวิวัฒนาการตัวเองไปสู่อีกขั้นหนึ่งได้ หนึ่งในนั้นก็คือตัวนางที่สามารถปลุกพลังจิตและสร้างห้วงมิติส่วนตัวที่ใช้สำหรับหลบภัยได้ขึ้นมา อาศัยห้วงมิติแห่งนี้นี่เอง ส่งผลให้หยานเจิ้นเจิ้นสามารถเอาชีวิตรอดในยุควันสิ้นโลกได้นานถึง 7 ปีเต็มๆ!
หยานเจิ้นเจิ้นเปิดประตูเข้าไป ข้างในนั้นปรากฏเป็นห้องพักพิงขนาดย่อมไม่ถึงสิบตารางเมตรด้วยซ้ำ ทุกอย่างยังคงเหมือนกับชาติที่แล้วทุกประการ ประกอบไปด้วยเตียงขนาดหนึ่งคนนอนและชั้นวางอาหารฉุกเฉินอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ขนมปังกรอบอัดแท่ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เส้นบุก รวมไปถึงของใช้อื่นๆที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ตัวเธอโดยปกติมักจะชอบซ่อนตัวอยู่แต่ในห้องนี้ แต่เพราะชาติก่อนน้ำคือทรัพยากรที่สำคัญและหายากที่สุด อีกทั้งภายในนี้ก็ไม่มีน้ำให้ดื่มกินใดๆ เมื่อน้ำสำรองหมดจึงจำต้องบุกตะลุยออกไปหาด้านนอกแดนเถื่อน ส่งผลให้เธอพลาดท่าถูกฝูงซอมบี้ระบาดบุกโจมตีสายฟ้าแลบจนสิ้นใจตาย
หยานเจิ้นเจิ้นกวาดตามองสรรพสิ่งในห้องแห่งนี้ด้วยความอาลัยคิดถึง ทว่าทันใดนั้น บางเสียงคล้ายอิเล็กทรอนิกส์พลันดังก้องภายในหัวของนาง
[ยินดีต้อนรับสู่ห้วงมิติเอาชีวิตรอด กรุณารับของขวัญต้อนรับสำหรับมือใหม่]
ใครพูดน่ะ? หยานเจิ้นเจิ้นหันขวับตลอดซ้ายขวากวาดมองว่าเสียงใคร เพราะเท่าที่นางจำได้คือ ภายในห้วงมิติแห่งนี้ของตนปราศจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แม้สักชิ้นเดียว แล้วของขวัญต้อนรับสำหรับมือใหม่ที่ว่าคืออะไรอีก?
ระหว่างที่หยานเจิ้นเจิ้นครุ่นพินิจไปพลาง พลันมีซองอั่งเปาสีแดงร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าอย่างแช่มช้า ลอยล่องลงสู่ฝ่ามือของนาง
เมื่อแกะซองเปิดออก ปรากฏว่าด้านในมีบัตรลุ้นโชคแบบขูดอยู่หนึ่งใบ
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นอีกครั้ง [กรุณาขูดเพื่อสุ่มของขวัญต้อนรับสำหรับมือใหม่ของคุณ]
แม้แต่ของขวัญต้อนรับมือใหม่ยังเป็นระบบกล่องสุ่ม?
หยานเจิ้นเจิ้นมิได้คิดเยอะมากความ ใช้เล็บตัวเองขูดบัตรใบดังกล่าวทันที
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นอีกครั้ง [สุ่มสำเร็จ ของขวัญสำหรับมือใหม่ที่คุณได้รับ: ลานบ้านชาวไร่ 1 อัตรา, เมล็ดพันธุ์บัวมุก 1 อัตรา, เมล็ดพันธุ์แตงโม 1 อัตรา บ่อน้ำพุวิญญาณ 1 อัตรา]
ลานบ้านชาวไร่?
แล้ว..ลานบ้านชาวไร่ที่ว่าจะเอาไปตั้งตรงไหน?
ด้วยความสงสัยนั้นเอง หยานเจิ้นเจิ้นจึงลองหันย้อนกลับไปทางประตูอีกครั้งและเปิดออก พบปรากฏความเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่ง เมื่อห้องขนาดเล็กเท่ารูหนูที่แสนแออัดของตนได้กลายมาเป็นบ้านไม้หลังโตที่ทั้งกว้างขวางและสว่างไสว อุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน มีเตียง โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของใหม่เอี่ยม และตู้ไม้เก็บของอีกหลายชุดตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ และเมื่อเดินผ่านประตูบานสีน้ำตาลออกมายิ่งต้องตกใจ พบว่าพื้นที่ด้านนอกที่เคยว่างเปล่า ในปัจจุบันมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นลานบ้านพร้อมแปลงนาขนาดกำลังน่ารักไปแล้ว
แม้โครงสร้างการตกแต่งทั้งหมดจะดูเป็นสมัยโบราณ แต่ด้วยเนื้อที่อันกว้างขวางและข้าวของที่ใหม่แกะกล่องหาใช่แบบเมื่อก่อน ที่ต้องคอยไล่เก็บของพังๆเหลือใช้จากข้างทาง ต่อให้มันเป็นแค่ลานบ้านชาวไร่อะไรก็เถอะ แต่สำหรับหยานเจิ้นเจิ้นแล้วนี่เปรียบดั่งคฤหาสน์!
ทว่าอย่างไร มีอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจยิ่งยวดก็คือ ข้าวของและอาหารฉุกเฉินทั้งหมดบนชั้นวางได้แปรสภาพกลายเป็นเงาสีเทาหม่นโปร่งแสง พวกมันแต่ละชิ้นล้วนมีตัวเลขคล้ายราคากำกับไว้ชัดเจน จะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทสิ่งของ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมทรัพยากรต่างๆที่สะสมอยู่ในห้วงมิติถึงถูกจำกัดการเข้าถึงล่ะ?
หยานเจิ้นเจิ้นพยายามเร่งพลังจิตหวังใช้ควบคุมสิ่งของเหล่านั้นให้มาหา แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่กลับไม่เป็นผลใดๆ ท้ายสุดต้องตัดใจยอมแพ้ไป
จ้องมองพวกมันด้วยความอาลัยสุดแสน ทรัพยากรแต่ละชิ้นเธออุตส่าห์บุกตะลุยฆ่าล้างทั้งคนทั้งซอมบี้แทบตาย!
หยานเจิ้นเจิ้นเคลื่อนสายตาไปหยุดอยู่กับข้าวของเพียงไม่กี่ชิ้นที่ยังหลงเหลืออยู่บนชั้นวาง ใจดวงนี้ชอกช้ำระบมเหลือเกิน!
ต่อให้บอกว่าแลกมาด้วยบ้านหลังโตก็เถอะ แต่ต้องเสียทุกอย่างที่อุตส่าห์หามาทั้งชีวิตไปในคราเดียว ใครเล่าจะไม่เจ็บปวดใจ!
ที่สำคัญ สิ่งปลูกสร้างจะไปมีค่ากว่าอาหารและน้ำดื่มได้ยังไงกัน!
เวลาเดียวกันนั้น เสียงอิเล็กทรอนิกส์พลันดังกึกก้องขึ้นอีกหนึ่งคำรบ
[คุณจำเป็นจะต้องอัพเกรดพื้นที่ห้วงมิติเพื่อปลดล็อคสินค้าใหม่ๆ]
สีหน้าการแสดงออกของหยานเจิ้นเจิ้นเห็นก็ทราบว่ากำลังเดือดดาลโกรธแค้นปานใด เพราะสิ่งเหล่านั้นที่ถูกยึดไปล้วนต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อหยาดเลือดจากการประจันบานกับทั้งซอมบี้และกลุ่มคน พยายามมาตั้งขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาล็อคอีก? แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว นางทำได้เพียงยอมรับความเป็นจริงพร้อมกับใจที่เริ่มสงบลงอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่ทักษะการปรับตัวในทุกสถานการณ์ที่น่าทึ่งของนาง มีหรือจะสามารถเอาชีวิตรอดมาจากวันสิ้นโลกได้นานขนาดนี้? นางเอ่ยถามระบบอย่างใจเย็น
“อ่าห๊ะ แล้วจะอัพเกรดพื้นที่ห้วงมิติยังไง?”
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ขานตอบสั้นๆ [ใช้เงิน]
ในยุควันสิ้นโลก เงินหรือธนบัตรมันก็แค่เศษกระดาษไร้ค่า เหตุนั้นเองจึงไม่มีเหตุผลอันใดให้หยานเจิ้นเจิ้นต้องเก็บสะสมสิ่งเหล่านี้ไว้ พูดก็พูด ร่างเดิมที่สิงอยู่ตอนนี้ว่าจนแล้ว แต่ตัวนางนั้นยาจกเสียยิ่งกว่า…
นางกัดฟันทำใจสงบ ยิงคำถามต่อไป
“ถ้าไม่มีเงินล่ะ? จะให้ทำยังไง?”
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นอีกคราว [ก็ไปหาเงินสิ]
หยานเจิ้นเจิ้นพยักหน้ารับทราบแต่โดยดี นั่นสินะ ในโลกยุคที่ทุกอย่างยังคงสงบสุขแบบนี้ การหาเงินถือเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆของการใช้ชีวิต! นี่แหละวิถีทางอย่างที่ควรจะเป็น!
เลยผ่านลานกว้างบ้านไร่ออกมาสักเล็กน้อย นางจึงเสาะพบเข้ากับบ่อน้ำข้างกันซึ่งอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ พร้อมกันนั้นยังมีถุงเมล็ดพืชพันธุ์ต่างๆวางกองไว้อีก
ด้วยสัญชาตญาณ หยานเจิ้นเจิ้นจึงลองนำเมล็ดพันธุ์จำนวนหนึ่งสุ่มปลูกลงในแปลงดินและตักน้ำในบ่อน้ำพุรดลงไป ไม่นานหลังซึมลงดินก็บังเกิดผลลัพธ์และงอกทันทีด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เป็นน้ำพุวิเศษจริงๆด้วย!!
หยานเจิ้นเจิ้นไม่รอช้ารีบตักอีกกระบวยขึ้นมาลองดื่มชิมดู เจ้าสิ่งนี้มีรสชาติหวานละมุนอ่อนๆชุ่มคอดี ภายหลังดื่มไปไม่กี่อึดใจ ทั้งรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวและศีรษะที่แตกของนางพลันหายดีเป็นปลิดทิ้ง!
หยานเจิ้นเจิ้นถึงกับร้องอุทานในใจ ‘บ่อน้ำพุนี่มันสมบัติล้ำค่าชัดๆ! หลังจากนี้คงต้องเริ่มคิดแผนสร้างกำไรจากเจ้าสิ่งนี้แล้วล่ะ!’
ภายหลังหว่านเมล็ดพันธุ์เพาะปลูกเสร็จ หยานเจิ้นเจิ้นจึงออกมาจากห้วงมิติ แล้วเริ่มเดินทางกลับบ้านตามร่องรอยความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิม
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
นักศึกษาสาวหัวกะทิแห่งศตวรรษที่21เกิดใหม่เป็นลูกเลี้ยงบ้านนางเอกนิยาย ทันทีที่ทะลุมิติเข้ามาดันอยู่ในฉากคันขับที่เธอกับวายร้ายหลักของเรื่องต่างเสียรู้ ถูกจับขึ้นเตียงด้วยกันเพื่อรอเวลาถูกเปิดโปง!
หลินจิงซู หญิงสาวผู้ล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตเพราะครอบครัวเฮงซวย เธอย้อนเวลาไปยังปี1990 อาศัยความรู้ในโลกอนาคตเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจ ก่อร่างสร้างตัวจนมั่งคั่งร่ำรวย เพื่อบดขยี้ทุกคนที่เคยรังแก!
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
จากชายหนุ่มที่บังเอิญได้รับมรดกตกทอดของบรรพชนสกุลเฉินเพราะอุบัติเหตุ และในที่สุด จากลูกเขยที่ไร้ค่าไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง กลับกลายมาเป็นหมอเทวดาที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศยิ่ง
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
เขาเป็นถึงมาเฟียใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเขาทั้งโหดทั้งเถื่อนแต่ทำไมเขากลับยังซิง เขารักแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาโดยตลอดแต่พอมาเจอเธอทำไมเขาถึงกลับหวั่นไหวได้ล่ะ หรือเขาจะเป็นผู้ชายหลายใจหรือรักใครไม่เป็น?
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด