“ไม่อยากให้ดูดบุหรี่ใช่ไหม แล้วจะให้ดูดอะไรแทนครับ...ปากคุณรึ?”
แล้วแต่คุณจะการุญ
บทนำ
.
.
.
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งอัปโหลดคลิปวิดีโอที่เจ้าหล่อนรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเป็นประเด็นร้อนในสังคมลงในแพลตฟอร์มดังกล่าว พร้อมด้วยข้อความเรียกทัวร์จากชาวเน็ต ‘ทุกคนมามุงด่วน คนดังคนไหนคือคนที่จะไปตีท้ายครัวของมะไฟกับแฟนอะ ชีใบ้ว่าเป็นนักร้อง เพิ่งปล่อยเพลงใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว คืนนี้โคนันไทยไม่ต้องหลับต้องนอนกันแล้วจ้า’
เพียงไม่กี่นาทียอดรีทวีตก็พุ่งแตะหลักร้อย และยังทะยานขึ้นเรื่อยๆ ไปถึงหลักพัน อีกไม่นานคงแตะหลักหมื่น พร้อมการคาดเดาต่างๆ นานาของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
‘ถ้านักร้องหญิงที่ปล่อยเพลงเมื่อเดือนที่แล้วก็มีอยู่สามคน แต่คนที่เข้าเค้าที่สุดคือ ต ตน หรือเปล่านะ เพราะแฟนของมะไฟก็ไปเป็นพระเอก MV ให้ชีนิ เมื่อต้นเดือนชีลงรูปอยู่ภูเก็ตอย่างที่มะไฟเล่าด้วย’
‘ต ตน คือใคร’
‘ตอบไม่ได้ค่ะ’
‘ค่า ถ้าตอบไม่ได้วันหลังก็ไม่ต้องพูดเนาะ วงนงวงในรู้เยอะกว่าใครเพื่อนแต่รู้อยู่คนเดียวก็ไม่ต้องแง้มค่ะ’
‘ชื่อเพลง ตอบไม่ได้ ค่ะ ใครร้องเพลงนี้ก็คนนั้นแหละ’
‘อ้อ ขอโทษค่ะ ว่าแต่เป็นคนนี้จริงเหรอคะ ไม่น่าเชื่อเลย เห็นใสๆ ไม่เคยมีข่าวเสียหาย’
‘วงการมายาอะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ’
เพียงเท่านั้นคนอื่นๆ ก็เข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร พวกเธอจำเป็นต้องเลี่ยงบาลีโดยการไม่เอ่ยชื่ออย่างตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้หมายศาลมาหาถึงบ้าน แต่เอ่ยถึงชื่อผลงานแทน ซึ่งชื่อเพลงที่เพิ่งพิมพ์ออกไปก็เป็นเพลงดัง ทุกคนรู้ว่านักร้องคือใคร หากไม่ทราบจริงๆ สามารถหาในอินเทอร์เน็ตได้
และใน MV เพลงนั้นก็จะพบว่าคนที่ตกเป็นประเด็นอย่าง เทียน ธเนศ แฟนหนุ่มของดาราแห่งยุคอย่าง มะไฟ เฟื่องนรี มารับบทเป็นพระเอกคู่กับตัวนักร้องที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งของสังคม ณ เวลานี้
หลังทราบตัวการแล้วความเห็นของผู้คนก็ร้อนระอุเพราะชอบเสพสื่อคาวๆ เป็นทุนเดิม เรื่องใดเล่าจะน่าติดตามเท่าเรื่องผัวๆ เมียๆ ของพวกคนดัง
เสียงกีตาร์โปร่งดังคลอเบาๆ ภายในห้องพักบนชั้นสี่สิบของคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ด้านหน้ามีกระดาษหนึ่งแผ่นที่ถูกเขียนบางอย่างลงไป ก่อนจะถูกฆ่าทิ้งซ้ำๆ จนแทบไม่เหลือที่ว่าง ด้วยยังไม่พึงพอใจกับเนื้อเพลงที่ถูกกลั่นออกจากหัวสมองของตนเอง
ตาว ตรีนาถ นักร้องหัวตารางของเมืองไทยนั้นนอกจากจะมีน้ำเสียงอันไพเราะและเป็นเอกลักษณ์ชนิดหาตัวจับยาก ยังมีความสามารถในการแต่งเพลงอีกด้วย ทุกเพลงที่ปล่อยออกไปจะมีชื่อของตนเป็นหนึ่งในผู้แต่งอยู่เสมอ กับเพลงต่อไปเธอก็กำลังแต่งอยู่ แต่ผ่านมาเกือบสองชั่วโมงยังขึ้นท่อนแรกไม่ได้เลย
สาวเจ้าบิดขี้เกียจไปมา คว้ามือถือมาดูนาฬิกาก็พบว่าเกือบสี่ทุ่มแล้ว
เธอลุกขึ้นยืนพร้อมคว้ากระเป๋าสตางค์มาถือไว้ ตั้งใจจะลงไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อหาอะไรทานก่อนนอน วันนี้เธอมีตารางงานทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น ช่วงกลางคืนจึงไม่ได้รับงานร้านเหล้าไว้
ทว่ายังไม่ทันจะก้าวออกจากจุดที่ยืนอยู่ เสียงเรียกเข้าจาก ‘เจ๊เป็ด’ หญิงวัยสามสิบต้นๆ ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
ตรีนาถกลอกตาไปมา ถึงกระนั้นก็ยอมรับสายแต่โดยดี
“มีอะไร-”
(ตาว! เป็นเรื่องแล้ว)
คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นโบ หน้าผากมนย่นอย่างช่วยไม่ได้ “เป็นเรื่องอะไรคะ ใจเย็นๆ ก่อนนะเจ๊ มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจา-”
(เอาอะไรมาเย็น เจ๊จะบ้าตายอยู่แล้ว นี่เธอยังไม่เห็นข่าวใช่ไหม)
คนเด็กกว่ายังคงมีสีหน้าฉงน “ข่าวอะไรคะเจ๊”
เสียงกระแทกลมหายใจหนักๆ ของปลายสายลอยมาเข้าโสตประสาท นอกเหนือจากนั้นน้ำเสียงที่เปรมหทัยใช้เอื้อนเอ่ยก็ไม่เหมือนทุกครั้ง อยู่ด้วยกันมาหลายปี ไม่เคยได้ยินโทนเสียงร้อนรนขนาดนี้ของคุณผู้จัดการส่วนตัวมาก่อนเลย
(ก่อนเธอจะไปตามอ่าน เจ๊ขอถามเรื่องหนึ่ง)
“...คะ?”
(เธอกับเทียนไม่ได้แอบกินกันลับหลังแน่นะ)
“...”
(ถ้าเธอทำอะไรลับหลังเจ๊ เจ๊ช่วยไม่ได้นะตาว เจ๊บอกตลอดว่าไม่ว่าอะไรก็ต้องบอกเจ๊ทุกเรื่อง)
ใช้เวลาเกือบนาทีกว่าตรีนาถจะทำความเข้าใจได้ หล่อนทิ้งสะโพกนั่งลงที่เดิม ล้มเลิกความคิดเรื่องที่จะออกไปหาอะไรทานที่ร้านสะดวกซื้อเพราะมีเรื่องอื่นเข้ามาดึงความสนใจจนไม่รู้สึกหิว “เจ๊คิดว่าตาวมีซัมติงกับคุณเทียนเหรอคะ”
(เจ๊ไม่ได้คิด แต่คนอื่นเขาคิด)
“หา!?” เธอร้องเสียงหลง “บ้าน่า ตาวคุยกับเขาแค่เรื่องงานที่กองถ่ายอย่างเดียว ไม่เคยคุยนอกรอบหรืออะไร แล้วตาวก็ไม่เคยยุ่มย่ามอะไรกับเขาด้วย ไม่ได้ชอบสักหน่อย เขามีแฟนแล้วนี่ แต่ต่อให้ไม่มีแฟนตาวก็ไม่ได้ชอบ ไม่ใช่สเปกอะ”
ธเนศอายุสามสิบหรือสามสิบเอ็ดก็ไม่แน่ใจ เธอไม่ให้ความสนใจในตัวเขาในแง่ชู้สาวเลยสักนิด เธออยากคบกับคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองสักปีสองปี อยากเป็นพี่สาวคนสวยของหมาเด็ก ไม่ได้อยากเป็นชู้ของหมาแก่ที่ไหน
เรื่องที่อีกฝ่ายมาเป็นพระเอกเอ็มวีให้ก็ไม่ใช่ธุระที่เธอเป็นฝ่ายจัดการ มันเป็นเรื่องของทางต้นสังกัด เธอมีหน้าที่ทำไปตามที่เบื้องบนสั่งมาเท่านั้น ใครจะเป็นพระเอกหรืออะไรก็ไม่เคยไปจิ้มเลือกเอง เพราะหากผู้ใหญ่คัดมาแล้วเธอก็ร่วมงานได้กับทุกคน
(ถ้าเธอยืนยันความบริสุทธิ์ได้แบบนั้น แก๊งตัวมัมมันจะกล้าพูดแบบนั้นเชียวเหรอ) ก่อนเปรมหทัยจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจัง (ตาว เธอต้องไม่โกหกเจ๊)
“ตาวยังงงอยู่ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ที่ตาวมั่นใจคือตาวไม่ได้ยุ่งกับผู้ชายคนไหน พูดก็พูดนะเจ๊ ที่ผ่านมาตาวเคยมีข่าวเสียหายหรือมีเรื่องผู้ชายมาให้เจ๊ปวดหัวไหมคะ”
คนฟังทอดถอนลมหายใจอย่างหนักอก เพราะมันเป็นเช่นที่ตรีนาถว่ามาทุกประการ ยายเด็กนี่คือเด็กที่ตนเห็นแววจึงชวนมาเข้าวงการ ปูมหลังเป็นอย่างไรก็ทราบดีกว่าใคร และไม่เชื่อว่าตรีนาถจะทำเช่นนั้น แต่การที่คู่กรณีกล้าออกมาโจมตีโต้งๆ จึงต้องเค้นเอากับคนของตนเอง
เปรมหทัยว่าเสียงอ่อย (ก็ไม่เคย)
“ใช่ค่ะ ตาวไม่เคยทำตัวเหลวไหล ว่าแต่ต้นเรื่องมาจากไหนคะ เมื่อกี้เจ๊บอกว่าแก๊งตัวมัม แก๊งคุณมะไฟน่ะเหรอคะ”
(อือ)
“ทำไมเขาพูดงั้น”
(เจ๊ก็ไม่รู้ เธอไปดูเองแล้วจำไว้ว่าอย่าตอบโต้เด็ดขาด ไม่ต้องโพสต์หรือเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้นไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ตาม หุบนิ้วให้ดีเดี๋ยวมันไม่จบ นี่นักข่าวโทร. มาที่เจ๊จนสายไหม้แล้ว พรุ่งนี้คงจะมีคนถาม ไว้ค่อยพูดทีเดียว เดี๋ยวเจ๊จะเขียนสคริปต์ให้)
“เจ๊”
(ว่า)
“ตาวโดนด่าเหรอคะ หมายถึงว่าขึ้นเทรนด์อะไรทำนองนั้นน่ะ”
ปลายสายระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ (อันดับสามจ้ะ แต่อย่าเพิ่งไปตามอ่าน เดี๋ยวนอนไม่หลับ)
“ค่ะ แล้วตาวจะไปดูต้นเรื่องได้ที่ไหนคะ ใครโพสต์หรือคุณมะไฟไปออกรายการอะไร”
(จะรายการอะไรล่ะ ก็ช่องของยายมาดามชิชาที่ชอบจับหัวทำคลิปกันนั่นแหละ)
“อ้อ งั้นเดี๋ยวตาวไปดูก่อนนะคะ”
หลังวางสายจากผู้จัดการส่วนตัว หัวใจดวงน้อยก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน วันๆ มีแค่ร้องเพลง หาเงินเลี้ยงชีพ ไม่ค่อยได้สุงสิงอะไรกับคนอื่นเขา พยายามทำตัวดีๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องตกเป็นสนามอารมณ์ของชาวเน็ต แต่แล้ววันที่กลัวก็เดินทางมาถึง
คลิปวิดีโอจากช่อง CHICHA TALK ที่เพิ่งอัปโหลดเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้ถูกตรีนาถเปิดเพื่อที่ตนจะได้รู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด
เป็นคลิปที่แก๊งตัวมัมนั่งอยู่ในรถคันหนึ่ง โดยมีปภาพินนั่งตำแหน่งคนขับ เบาะข้างๆ เป็นของเจ้าของช่องอย่างช่อชมพู ด้านหลังเป็นเฟื่องนรีและคติยา ทั้งหมดคือบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของเมืองไทยที่จับพลัดจับผลูมาเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มกัน
ป่าน ปภาพินอายุน้อยที่สุดแต่ก็มากกว่าตรีนาถอยู่เกือบสามปี เป็นนักแสดงอิสระ มีแฟนเป็นผู้จัดละคร ด้านครีม คติยานั้นเป็นถึงหลานสาวเจ้าของช่องโทรทัศน์ Top 3 ของประเทศ มีข่าวว่ากำลังปลูกต้นรักกับทายาทเศรษฐี ส่วนคู่กรณีของตรีนาถอย่างมะไฟ เฟื่องนรีก็เป็นดาราแห่งยุคที่มีผลงานทั้งจอแก้วและจอเงิน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้นับสิบแบรนด์ ในขณะที่ชิชา ช่อชมพูไม่ได้เป็นนักแสดง ไม่เคยมีผลงานใดๆ ด้านนี้ แต่ก็เป็นเซเลบแถวหน้าของเมืองไทยที่สังคมให้ความสนใจอยู่ตลอด ด้วยไลฟ์สไตล์หรูหราเกินเอื้อม หยิบจับอะไรก็เป็นกระแส อีกทั้งสามียังเป็นนักธุรกิจชื่อดัง
โลกเหวี่ยงสี่คนนี้ให้มารู้จักกันในนาม ‘แก๊งตัวมัม’ ที่ใครก็ไม่อยากมีปัญหาด้วย
แต่ตรีนาถกำลังมี...
ช่อชมพูมักถ่ายคลิปการใช้ชีวิตสุดลักซ์ชัวรีมาลงในอินเทอร์เน็ต และมีการถ่ายรายการชิชาทอล์กกับแก๊งเพื่อนในหัวข้อต่างๆ โดยที่ทั้งสี่จะนั่งโดยสารอยู่ในรถแล้วขับรถไปคุยไป เดี๋ยวนี้คนมักชอบทำรายการแบบนี้ ตัวตรีนาถเองก็เคยไปออก เพียงแต่ไม่ได้ไปของช่อชมพู เธอและคนพวกนั้นไม่ใกล้เคียงคำว่าสนิทกันเลย
คลิปวันนี้มีชื่อว่า ‘เรื่องชวนปวดหัวของแก๊งตัวมัม’ ที่แม้จะเพิ่งลงไปได้ไม่นานแต่ยอดวิวพุ่งไปสามแสนแล้ว
วิดีโอนั้นถูกเล่นไปเรื่อยๆ สี่สาวคุยสัพเพเหระกระทั่งมาถึงหัวข้อที่เป็นประเด็น
ช่อชมพูเป็นฝ่ายเอ่ย ‘ช่วงนี้ความรักของพวกเธอราบรื่นกันดีใช่ไหม’
ปภาพิน คติยา ได้ช่องอวดแฟนกันยกใหญ่ ต่างกับนางเอกแห่งยุคที่ทำทีเป็นเบะปากคล้ายคนจะร้องไห้ ‘การมีแฟนเป็นขวัญใจชาวบ้านก็เจอแต่เรื่องเดิมๆ’
ทั้งสามมีปฏิกิริยาที่ไม่ต่างกันคืออยู่ในอารามตกใจ แต่ตรีนาถรู้ดี มันเป็นสคริปต์ ก่อนถ่ายจะต้องคุยกันแล้วว่าจะพูดเรื่องอะไร ไอ้ตกใจแบบนี้น่ะ แสดงทั้งนั้น
‘ฮะ ยังไง ไหนเล่า’
‘ก็พี่เทียนเขาไปทำงานใช่ไหม แล้วก็เจอคนนู้นคนนี้ตามประสาดารา แต่สังคมก็รับรู้ว่าเขาคบกับฉัน’
คติยาว่า ‘อาฮะ คู่รักที่ดังที่สุดในพ.ศ. นี้ใครจะไม่รู้จัก’
‘ก็ใช่ แต่บางคนมันก็ไม่กลัวอะไรเลย รู้ทั้งรู้ก็ยังเก็บอาการไว้ไม่ได้ พวกเธอก็รู้ใช่ปะว่าพี่เทียนเขาเป็นคนยังไง ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็เล่าให้ฟังตลอด จะเรื่องเล็กเรื่องน้อยเกิดอะไรขึ้นรายงานทุกฝีก้าว ทีนี้เขาก็มีงานของเขา แล้วเวลาออกงานไปเจอผู้คนเขาจะเป็นกันเองมาก ทักทายทุกคนในกองเลยมั้ง’ หล่อนว่ายิ้มๆ ‘แล้วมันมีคนหนึ่งมาชวนเขาคุย เขาก็คุย เป็นคนเฟรนด์ลี่อะ ตรงนี้ไอ้เราก็ไม่ได้หึงได้หวงอะไร ไว้ใจเขา ร่วมงานกันก็เข้าใจว่าต้องคุยกันบ้างอะไรบ้าง แต่งานจบคนไม่จบซะงั้น’
‘ทำไม’
‘นางก็พยายามติดต่อชวนพี่เทียนออกไปหาตลอด ชวนไปปาร์ตี้บ้าง สังสรรค์บ้าง อ้างว่าอยากขอบคุณเรื่องงานอะไรทำนองนั้น ซึ่งงานจบไปแล้วจ้ะสาว ไม่ต้องนอกรอบ แต่นางรอบคอบมากนะ’ พอเพื่อนๆ มีท่าทีอยากรู้ แม่นางเอกแห่งยุคก็ว่าต่อ ‘ไม่แชตมาเองเพราะมันจะมีหลักฐาน เลยเข้าหาทางเพื่อนพี่เทียนให้เพื่อนช่วยนัดให้อีกที แต่พี่เทียนก็ไม่เคยไป ล่าสุดพี่เทียนบินไปภูเก็ต อีกวันนางก็โผล่ภูเก็ตเลยจ้า ดีที่ฉันบินตามไปทีหลัง ไม่งั้นไม่อยากจะคิด’
‘แรงมาก กล้าทำได้ไงอะ คนในวงการปะ’
‘ในวงการสิ แต่ไม่ใช่ดารา’
‘งั้น?’
‘นักร้อง’
สามสาวเบิกตาโต ปฏิกิริยานั้นบอกให้รู้ว่าตกใจเพียงใด
ช่อชมพูเป็นฝ่ายถาม ‘เธอทำให้ฉันอยากรู้ แง้มให้นิดหนึ่งได้ไหม’
‘พูดได้เหรอ’
‘เร็วๆ เลย ใบ้มา คนมันอยากรู้’
‘อะๆ ก็ได้ เพิ่งปล่อยเพลงเมื่อเดือนที่แล้ว นอกนั้นไม่พูดละ แต่ก็แค่เล่าสู่กันฟังนะไม่ได้จะโจมตีอะไร น้องก็ยังเด็กยังต้องเจอโลกอีกมาก ทุกวันนี้พี่เทียนก็ไม่ได้สนใจจะเล่นด้วยอะไรเลยจบๆ กันไป ไม่อยากมีเรื่อง แต่นิสัยแบบนี้แนะนำว่าให้รีบปรับปรุงตัวก่อนจะสายนะ อนาคตน้องยังอีกยาวไกลมาก ทางนี้ก็ไม่ได้ติดใจจะเอาความอะไร แต่ถ้ายังไม่เลิกทำตัวแบบนี้แล้วไปเจอคนที่เขาเอาจริงขึ้นมาจะยุ่ง’
คลิปถูกกดปิดก่อนเจ้าหล่อนจะแค่นหัวเราะ ทว่าในทรวงกลับขมขื่นจนกลืนก้อนความรู้สึกจุกอกลงคอไม่ได้
นักร้องที่ปล่อยเพลงเมื่อเดือนที่แล้วก็เธอ คนที่เพิ่งร่วมงานกับธเนศก็เธอ เมื่อต้นเดือนเพิ่งบินไปภูเก็ตก็เธอ
ทว่าเรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่เฟื่องนรีพูดสักประการเดียว แต่วงการมายาใครมีพรรคมีพวกก็รอด พวกหัวเดียวกระเทียมลีบจะเอาอะไรไปสู้
“เฮ้อ วงการบันเทิงอะเนอะ”
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก