ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง
ชายพิการคนนั้น
การสละชีพเพื่อปกป้องดินแดนคือเกียรติยศสำหรับทหารกล้า เพราะเชื่อแบบนั้น ต่อให้ตายจึงคิดว่าไม่เป็นไร การตายของตนจะนำมาซึ่งเกียรติยศและชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูลเป็นแน่ แต่หากกลายเป็นคนไม่สมประกอบขึ้นมา เรื่องมันจะต่างออกไป…
“นี่ ได้ยินเรื่องลูกชายบ้านนั้นหรือเปล่า” เสียงซุบซิบจากคนที่ผ่านไปมาหน้ารั้วบ้านดังให้ยิน
“น่าสมเพชจริง ๆ ว่าไหม สภาพแบบนั้น”
“ได้ยินว่ามารดาเขายอมจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้คนที่จะยอมมาเป็นสะใภ้เลยนี่”
“ตายจริง นั่นก็น่าสนใจนะ ข้ามีบุตรสาววัยออกเรือนอยู่ตั้งสองคน”
“น่าสนใจอะไรกันล่ะ ลูกต้องได้สามีเป็นคนพิการ
ไม่อับอายแย่รึ?”
“จริงสิ สภาพแบบนั้นจะรับราชการอีกก็ไม่ได้แล้ว พาลูกข้าไปลำบากเปล่า ๆ “
น้ำจากถังไม้ถูกสาดมาโครมใหญ่ หญิงสาววัยกลางคนทั้งสองร้องลั่นด้วยความตกใจ หันไปโวยวายใส่คนที่สาดน้ำใส่ตน
“นี่เจ้า!”
“ส่งเสียงแว้ด ๆ น่ารำคาญอยู่ได้”
“เจ้าเด็กไร้มารยาทนี่”
“มาส่งเสียงรบกวนหน้าบ้านคนอื่นมีมารยาทมากอย่างนั้นสิ รีบไสหัวไปเลย ไม่อย่างนั้นถังต่อไปจะเป็นมูลวัวในบ้านข้า!”
คำขู่นี้ทำให้พวกนางหวีดเสียงโวยวายอันเสียดหู
แต่ก็วิ่งหนีไปอย่างที่จางอวี๋จิงต้องการ
ครอบครัวสกุลจางเคยเป็นครอบครัวใหญ่มีบุตรหลายคน อดีตเคยมีไร่นามากมายจนคนเท่านี้ยังดูแลไม่ไหว แต่ภัยแล้งและความอดอยากที่เคยได้เผชิญก็ทำให้พวกเขาไม่เหลืออะไร ชีวิตกลับตาลปัตรจากคนมั่งมีกลายเป็นยากจนจนข้าวสารยังไม่มีสักเม็ด ระหกระเหินร่อนเร่จนมาปักหลักที่เมืองแห่งนี้ในที่สุด
จางอวี๋จิงเลยวัยปักปิ่นมาได้เกือบสองปีแล้ว
แม้หน้าตานางจะพอไปวัดไปวาได้ แต่สถานะของครอบครัวทำให้ไม่มีบุรุษใดเหลียวแล เพียงมีบางอย่างที่คนที่นี่ตัดสินว่าบกพร่องก็จะถูกกีดกันออกไปนอกวงสังคม เมื่อได้ยินเรื่องของชายผู้นั้นที่ดูคล้ายกัน นางจึงโมโหขึ้นมา
ถ้าไม่นับคนนิสัยเสียที่มีอยู่เกลื่อนเมือง ที่นี่ก็ถือว่าน่าอยู่มากทีเดียว
“ท่านยาย อาหารเช้าเสร็จแล้ว ข้าออกไปก่อนนะเจ้าคะ” นางตะโกนเสียงดัง เพราะหูของผู้อาวุโสในบ้านไม่ดีอย่างเก่าแล้ว
“ท่านพี่ไปเถอะ ข้าดูท่านยายให้เอง” ได้ยินเสียงน้องชายตอบกลับมานางก็สบายใจ แล้วออกไปหาเงินสำหรับวันนี้
จางอวี๋จิงสะพายตะกร้าใบใหญ่ขึ้นเขา มีชาวบ้านเก็บผักและตกปลาอยู่ตามรายทาง นางเดินลึกเข้ามาจนกระทั่งเจอมารดากำลังขุดดินหาหัวเผือกหัวมัน
“ท่านแม่”
“มาแล้วรึ ยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าเตรียมกับข้าวกับปลาไว้ให้แล้ว จางฟงก็อยู่
ไม่ต้องห่วงหรอก” จางอวี๋จิงนั่งลง
“ท่านแม่ ได้ยินเรื่องพลทหารที่พิการกลับมานั่นไหม” เรื่องนี้ติดอยู่ในหัวนาง สลัดไม่หลุดเสียทีจึงพูดออกมาให้โล่งเสีย
“ใคร ๆ ก็พูดกัน ทำไม หรือว่าเจ้าสนใจ”
“ข้า…”
“จิงเอ๋อร์ ต่อให้เขาจะพิการ แต่เขาอาจเลือกสตรีที่เหมาะสม ไม่ใช่สตรีใดก็ได้ที่ไปหา ถึงออกจากราชการมาแล้วก็ไม่ได้ทำให้พวกเขามองคนอย่างเราว่าคู่ควรหรอก”
เหออิงยังจำฝังใจ เมื่อบุปผาแรกแย้มบานนางกับสามีก็ตั้งใจจะหาคู่ครองให้ลูก จางอวี๋จิงไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ ไม่เคยเป็นสตรีมีตำหนิ ถ้าขยันขันแข็งเอาการเอางาน
เหออิงเชื่อไม่ลงว่าจะมีใครเมินลูกนางได้ แต่คนเป็นแม่มองโลกในแง่ดีเกินไป
ไม่มีใครอ้าแขนรับบุตรสาวของนางเป็นสะใภ้แม้แต่บ้านเดียว เพียงเพราะนางต่ำศักดิ์กว่า อีกทั้งยังยากจน ข้ออ้างอันไม่สมเหตุสมผลทำให้บุตรสาวของนางไร้คู่
คนในเมืองนี้ราวกับมีสมองขึ้นราอัดอยู่ในกะโหลก ขอแค่แตกต่างไปจากพวกของตน ไม่ว่าน้อยหรือมากล้วนถูกแบ่งแยกออกมา
เหออิงจมอยู่ในห้วงภวังค์จึงไม่ทันได้สังเกตสีหน้าลูก ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น นางจึงคิดว่าเรื่องนี้จบลงไปแล้ว เมื่อตะวันเด่นอยู่กลางฟ้า พวกเขาก็กลับบ้านไปพัก
เตรียมตัวสำหรับงานตอนบ่าย
สองแม่ลูกเดินกลับมาก็เห็นว่าบิดาเลิกงานแล้วเช่นกัน เขามาพบกันที่หน้ารั้วบ้านพอดิบพอดี ยังไม่ทันได้ทักทายก็มีเสียงโครมครามดังมาจากด้านใน ทำเอาทั้งสามตกใจเป็นอย่างมาก
จางอวี๋จิงใจคอไม่ดี ตะโกนถามน้องชายที่บังเอิญได้หยุดงานวันนี้
“จางฟง! เกิดอะไรขึ้น!”
“ท่านยาย! ท่านยายล้มไปแล้ว เรียกหมอที!”
ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา "ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"