"ล้านบาท สำหรับวันนี้ ถ้าคุณมือขึ้น ผมขอเงินคืน ถ้าคุณเสียหมด คุณจะเป็นหนี้ผมสิบล้าน รวมกับของเก่าอาทิตย์ที่แล้ว" ชายหนุ่มพูดภาษาอังกฤษน้ำเสียงหนักแน่น ชัดเจน บอกออกไป โยธิน ยิ้มกว้าง ออกมาทันที ขอเเค่คืนนี้ได้ต่อทุน คืนนี้จะต้องเป็นวันของเค้า ชายหนุ่มวัยสามสิบปียิ้มกว้างออกมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้างนอก เพื่อใช้เงินล้านคืนนี้ต่อทุนเป็นสิบล้าน นิอร ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะวางจานขนมใบเล็กลงบนโต้ะอย่างเอาใจคนตรงหน้า "คุณป้าขา อย่าโมโหเลยค่ะ พี่โย อาจจะแค่เมาไม่กลับเท่านั้นเองค่ะ อย่าห่วงไปเลยค่ะ" เสียงหวานปลอบใจผู้มีพระคุณ ก่อนจะตักขนมช่อม่วงชิ้นสวย ให้คุณป้าได้ลองชิม "อรลองทำช่อม่วงค่ะ คุณป้าช่วยชิมให้อรได้ไหมคะ ถ้าเผื่ออร่อยจะได้เอาไว้รับรองแขกที่บริษัท" สาวน้อยทำทีเปลี่ยนเรื่อง เพื่อหันเหความสนใจ ป่านนี้พี่โยอยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน
นักพนันกว่าร้อยคนแบ่งแยกกันนั่งตามโต๊ะที่จัดแบ่งเอาไว้อย่างสะดวกสบายภายในตึกหรูใจกลางเมืองกรุงเทพ ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมถูกนำมาใช้กับที่นี่
'เดฟ หยาง' เจ้าพ่อ กาสิโน แห่งเกาะฮ่องกง เดินทางเข้ามาเปิดกิจการบ่อนหรูลอยฟ้าที่นี่เป็นแห่งแรกในเมืองไทย ฉากหน้าเค้าคือนักธุรกิจนำเข้าส่งออก อาหารและผลไม้ไทยไปทั่วโลก เม็ดเงินลงทุนหลายร้อยล้านบาทในระบบ เบื้องหลังเค้ายังมีธุรกิจกาสิโนที่ถูกกฎหมายในต่างประเทศ แต่ผิดกฎหมายในเมืองไทย เสียงพูดคุยภาษาไทยออกจากปากชายหนุ่มอย่างชัดเจน
"คืนนี้ให้มันไปสักสามล้านก่อน" เจ้านายหนุ่มสั่งลูกน้องให้จัดการลูกค้าคนล่าสุด
'โยธิน '
นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมไทยส่งออกที่เค้าเป็นลูกค้ารับขนมจากที่นี่ไปส่งขายในซุปเปอร์ทั่วโลกที่เค้าดีลอยู่ ยอดซื้อแต่ละเดือนนับสิบล้านบาท แม้จะขายได้ขายดี แต่ถ้านายโยธินคนนี้โอ้อวด อวดดี และเก่งแต่ปากแบบนี้คงต้องได้รับบทเรียนบ้าง เดฟ คนนี้ ไม่ใช่เพื่อนเล่นของใคร
ชายหนุ่มยิ้มกว้างออกมาอย่างพอใจ ชิปเงินจำนวนมากกองอยู่ตรงหน้ามากมายกว่าใคร เพื่อนร่วมโต้ะหลายคนต่างชำเลืองมองด้วยความสนใจและแอบแซวด้วยความอิจฉาน้อยๆว่า
"มือขึ้นมากเลยนะครับคุณโย กองนี้น่าจะหลายล้าย" เจ้าตัวยิ้มกว้างอย่างลำพองใจ
"ครับ คืนนี้เป็นคืนของผม" ชายหนุ่มมองดูกองชิปและดูนาฬิกา เค้านั่งมานานเกินไปแล้ว ป่านนี้แม่เค้าได้บ่นจนน้ำลายหมดคอแล้วแน่ๆ ชายหนุ่มบอกกับเจ้ามือว่า
"อีกสองตาผมขอตัวนะครับ"
เช็กเงินสดล้ามล้านถูกพับใส่กระเป๋าสตางค์อย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มยิ้มเยาะกับคนดูแล พร้อมบอกด้วยน้ำเสียเย่อหยิ่งว่า
"บอกคุณเดฟด้วยว่า คืนนี้จะเอาเงินมาคืน" ผู้จัดการยิ้มรับแล้วโค้งให้ลูกค้าอย่างสุภาพ ก่อนจะกดลิฟต์ลงไปส่งลูกค้าที่รถด้วยตัวเอง ยิ่งทำให้โยธินรู้สึกถึงความพิเศษของตัวเอง
รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดในบ้านหลังใหญ่ โยธินทั้งง่วงทั้งเพลียแต่เค้าต้องกัดฟันเดินตรงไปหาแม่ตัวเองก่อนเป็นอย่างแรก เสียงบ่นถึงเค้าลอยเข้ามาในหูแทบจะทันที
"มาแล้ว บ่นมากเหลือเกิน" ลูกชายเย้าแม่อย่างอารมณ์ดี เช็กเงินสดในกระเป๋าทำให้เค้ายิ้มอย่างมีความสุข
"ผมไปทำงานมานะแม่ ดีลลูกค้าฮ่องกงนะครับ" ลูกชายรีบบอกก่อนจะฟังเสียงแม่บ่น คนเป็นแม่ทำตาค้อนใส่
"เหรอยะพ่อคุณ ดีลลูกค้าหรือกกพริตตี้" เเม่ย้อนคำ ลูกชายกอดแม่เอาไว้อย่างเอาใจ ก่อนจะส่ายหน้า
"พริตตี้ที่ไหนไม่มีหรอก มีแต่สาวสวยคนนี้ต่างหาก" ลูกชายทำเสียงอ้อนจนผู้เป็นแม่ยิ้มกว้างออกมา เรียกหาเด็กรับใช้หาข้าวปลาอาหารมาให้ลูกชายคนเดียวกันขวักไขว่ เพื่อบำรุงลูกชายคนเดียวอย่างแสนรัก ทำงานหนักต้องกินมากๆ
นิอรรับเช็กเงินสดมาจากพี่ชายร่วมบ้าน ก่อนจะมองตัวเลขในมือ
"แกเอาไปขึ้นเงินมายัยอร ให้คนรถขับพาไปนะ แล้วเอามาดีๆด้วย อย่าให้หายไปแม้แต่บาทเดียว" พี่ชายสั่งเสียงเครียดก่อนจะควักเงินสดในกระเป๋าออกมา "ค่าธรรมเนียมอะไร เอานี่จ่ายที่เหลือแกเอาไปเลย พี่ให้ แล้วอย่าบอกใครเรื่องเงินนี่ เข้าใจไหม " โยธินกดเสียงต่ำ ก่อนจะมองน้องสาวบุญธรรมของตัวเองแล้วส่งสายตาดุๆกำหราบออกไป
"พี่โย รีบไหมคะ ไปตอนนี้เลยหรือเปล่า" ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ
"ไปเลย กลับมาก็เอามาให้ด้วย พี่จะบอกแม่เองว่าใช้งานแก" น้องสาวพยักหน้ารับคำ ก่อนจะรีบไปเรียกคนรถประจำบ้าน แม้จะสงสัยบางอย่าง แต่ก็คิดในแง่ดีว่าอาจจะเป็นเงินค่าทำสัญญาฉบับใหม่ก็เป็นได้ สาวน้อยรีบออกไปทำธุระให้พี่ชายทันทีอย่างไม่มีคำถาม
"นายครับ คุณโยธิน ไปขึ้นเงินแล้วนะครับ" ลูกน้องโทรมารายงานตามที่นายสั่งไว้ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศ ปลายสายรับคำ ก่อนจะบอกกลับมาว่า
"ถ้าคืนนี้มันมาให้มันไปอีกสักห้าล้าน" ลูกน้องรับคำสั่ง ก่อนรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมจะออกมา นายเดฟไม่โกงใคร โยธินเสียสิบล้าน นายเดฟจะคืนให้สิบล้าน แต่ถ้าได้ครบแล้วไม่หยุด นั่นถือว่านายโยธินโลภมากเองก็เท่านั้น
เพราะฐานะที่ต่างกันมาก เหลือเกิน ทำให้เค้า ได้แต่เฝ้ามองเธอเพียงเท่านั้น ความรัก ของเค้า ที่จะส่งไปให้ถึงใจเธอ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในเมื่อ ครอบครัว ของเธอ ไม่มีวันเห็นดีเห็นงาม และถ้าจะต้องตัดใจ เค้าจะทำได้ไหม ในเมื่อ เธอ คือ ความหวัง ความฝัน และความหวานละมุน ในชีวิตที่แสนจะขมขื่นของเค้า อนาคตที่มองไม่เห็นทางข้างหน้า แต่เมื่อมีเธอ เดินเข้ามา ชีวิตของเค้า ก็ดูเหมือนกับว่า อะไรมันจะง่ายลงไป แม้จะไม่ง่ายจริงๆ แต่ว่า เค้ากลับมีพลังใจในการต่อสู้ เพื่อจะอยู่ต่อไป อยากจะพิสูจน์ตัวเอง ให้เธอ ได้เห็นว่า เค้า มีเธอ เป็นแรงใจในทุกๆวัน
"ถ้าคืนนี้ ไปต่อ ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่ลิลลี่ " เธอสวย เธอหรู เธอแพง ในเล้าจ์แห่งนี้ เธอเหมาะจะอยู่แค่บนเตียง ไม่เหมาะจะเดินเคียงข้าง" " เควิน ซุง " มองเธอด้วยความโกรธ ที่เธอท้าทายเขา กล้าดียังไงถึงมานั่งกับคนอื่น แบบนี้ "เขาเป็นลูกค้า เขาอยากนั่งกับลิลลี่ ลิลลี่เลือกไม่ได้ แล้วเขา เลี้ยงดริ้งก์คืนนี้แล้วค่ะ ถ้าคุณเควินอยากนั่งกับลิลลี่ ก็ต้องจ่ายหนักหน่อยนะคะ " "ลิลลี่ ถ้าเล่นตัวนัก จะจัดให้ร้องทั้งคืนเลย " เธอกล้าดียังไง มาทำให้เขาโกรธ แม่ดอกลิลลี่
การตัดสินใจเดินจากมา เพราะรัก การที่เธอเลือกทางเดินเอง ก็เพราะรัก ไม่ว่าตรงหน้าของเธอ จะมีพี่นายหรือไม่ ไม่ว่าความจริงที่เจอ จะปวดร้าวเพียงใด แต่นิตาไม่เคยเสียใจสักวัน ที่เลือกจากทางเดินนี้
นางร้ายขายดี อย่าง ทอปัด ตั้งใจว่า ถ้าต่อไปนี้ ใคร จะเดินเข้ามา ขอความจริงใจ เปิดเผยและชัดเจน ความรักที่ผ่านมา ทำให้เธอ ทั้งเจ็บ และ อาย บทเรียนราคาแพง ที่ทำให้เธอ ต้องระวังระวังใจ จนกระทั่ง เขา เดินเข้ามา แล้วบอกกับเธอว่า เขาจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ไปไหน จะจับมือเธอ เดินไปข้างหน้า และบอกทุกคนว่า คนนี้ แฟนผม
เพราะเรื่องราวในครั้งนั้น เขาไม่ชัดเจน ทำให้เธอ ต้องเสียใจ เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง เขาตั้งใจว่า จะไม่ปล่อยเธอไป แต่ว่า เขาไม่รู้เลย ช่วงเวลาที่เขาหายไป เธอกลายเป็นแม่ไปแล้ว แม่ที่น่ารักแสนดี ที่มีลูกสาว และคนข้างๆ ยืนเคียงข้างไม่ห่าง หนังสือรักเล่มเดิม ที่จะปรับปรุงใหม่ จะช้าเกินไปไหม สำหรับคำว่าเรา สองคน
นิยายรัก หวานละมุน ของคุณอา และ หลานสาว ความรักของน้องพรีน ที่มอง อาแพค มานาน รักครั้งแรก ของพรีน คือ อาแพค แต่ว่า รักแรกของเธอมองเธอเป็นเพียงหลานสาว เพราะอาแพค มีแฟน ที่เหมาะสม และคู่ควรกัน การรอคอย การแอบรัก และเฝ้ามอง มานานแสนนาน น้องพรีนจะ อยู่ห่างๆ มองอาแพคไกลๆ จนกว่า อาแพค จะหันมา แล้วเจอพรีน อยู่ตรงนี้
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน