นวพรรษเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่และในตำแหน่งที่ทุกคนอิจฉา ตอนเรียนปริญญาตรีที่ต้องฝึกงานของมหาวิทยาลัยเขาก็มาฝึกที่นี่ตำแหน่งนี้ ผลงานของเขาเด่นจนท่านประธานบริษัทท่านมีเมตตาทาบทามให้มาเป็นเลขาหลังจากที่เรียนจบ แต่นวพรรษขอกลับไปเรียนต่อปริญญาโทก่อน ท่านประธานก็เมตตารอ อันที่จริง เจ้าสัวเวทิน โชติกุลวัฒนา ท่านประธานและเจ้าของบริษัทท่านมีเลขาอยู่แล้ว แต่ท่านให้รับนวพรรษมาเพิ่มอีกคน แค่ให้เหตุผลว่าอยากหาคนมาแบ่งเบาเลขาคนโปรดคนเดิม และเจ้าสัวก็เป็นเพื่อนรักกับท่านฑูตนวพล และคุณหญิงอัญพัชร์ ปรียานันท์บิดาและมารดาของนวพรรษอยู่เดิม ยิ่งทำให้เจ้าสัวเวทินเอ็นดูนวพรรษมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว และเอาตำแหน่งนี้ไว้ให้นวพรรษคนเดียวโดยเฉพาะ
ตอนนี้นวพรรษยืนอยู่หน้าของบริษัทแล้ว เขารอพี่ท้อปหรือธนศิลป์ เลขาของท่านประธาน ที่ชั้นหนึ่งแล้วรอขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกัน เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่นวพรรษได้กลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาอย่างเต็มตัว รอเพียงชั่วครู่ธนศิลป์กับเจ้าสัวเวทินก็เดินมาหาเขา
“สวัสดีครับท่านประธาน สวัสดีครับพี่ท้อป” นวพรรษกล่าวสวัสดีพร้อมยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม “หวัดดีลูก”เจ้าสัวรับไหวพร้อมเอ่ยทักทาย
“รอนานไหมครับน้องนิว” ธนศิลป์เอ่ยถามหนุ่มรุ่นน้องหน้าหวาน
“ไม่นานครับ”
“ป่ะเราขึ้นไปชั้นบนกันเถอะ” เจ้าของบริษัทบอกกับทั้งสองคนพร้อมเดินนำไปที่ลิฟต์ผู้บริหาร
พอทั้งสามเดินมาถึงโต๊ะทำงานหน้าห้องประธานกรรมการบริษัท ที่ตอนนี้เพิ่มมาอีก1ชุดเพื่อให้นวพรรษได้เรียนรู้งานจากธนศิลป์อย่างเข้มข้นตามคำสั่งของเจ้าของบริษัท
“น้องนิว เรียนรู้งานกับพี่ท้อป ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ท้อปได้นะ แต่ไม่ต้องเครียดนะค่อยๆเรียนรู้ไป ลุงเชื่อว่าน้องนิวทำได้ นิวเก่งอยู่แล้วเชื่อลุง ผมฝากหน่อยนะคุณท้อป” ท่านเจ้าสัวเอ่ยกับทั้งสองหนุ่มที่หน้าหวานทั้งคู่
ถ้าใครได้มาเห็นเลขาของท่านประธานบริษัทนี้ คงคิดว่าเค้าคัดหน้าตามาแน่เลย เพราะเลขาของท่านประธานทั้งสองคนหน้าตาดีถึงขั้นดีมาก หน้าหวานผิวเนียนลุคโอปป้าทั้งสองคน เพียงแต่ธนศิลป์ตัวบางและเล็กกว่านวพรรษเล็กน้อยเท่านั้น
ตั้งแต่นั้นมานวพรรษก็ตั้งใจเรียนรู้งานทุกอย่างจากธนศิลป์และสามารถทำได้ดีเกือบเท่ากับคนสอน
“ทำได้ดีมากน้องนิว ไม่เสียเเรงที่พี่สอนจริง”ธนศิลป์เอ่ยชมจากใจจริงเขาชอบเด็กคนนี้มาก ตั้งใจเรียนรู้ และขยันทำงาน โดยไม่คิดว่าตัวเองเป็นเด็กเส้นเป็นลูกของเพื่อนเจ้าของบริษัทเลย ทำตัวเหมือนพนักงานธรรมดา ไม่ถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ทั้งยั้งรู้จักมีสัมมาคารวะ รู้จักผู้ใหญ่ผู้น้อย นอบน้อมถ่อมตน ทำให้ทั้งธนศิลป์เองและท่านเจ้าสัวเอ็นดูเป็นอย่างมาก
“นิวเองต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ท้อปมากๆ เลยนะครับ ที่ช่วยสอนและแนะนำนิวมาตลอด อดทนกับนิวจน นิวทำได้” นวพรรษกล่าวขอบคุณรุ่นพี่อย่างท้อปที่คอยสอนคอยแนะนำ จนเขาเข้าใจในงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมากขึ้น เขารู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานที่ดีและเจ้านายที่ดีอย่างนี้
ตั้งแต่นวพรรษเข้ามาทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทยของท่านเจ้าสัวเวทินผู้เป็นเพื่อนของบิดามารดา นอกจากเจ้าสัวและคู่รักอย่างธนศิลป์จะให้ความเอ็นดูแล้ว คนอัธยาศัยดี หน้าตาดีอย่างนวพรรษก็มีแฟนคลับในบริษัทมากมาย ไม่ว่าจะทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย แค่ได้เห็นหน้าหรือรอยยิ้มพิมพ์ใจของคุณเลขาหน้าหวานเท่านั้นแหละ ก็โดนเจ้าของใบหน้าหวานตกเอามาเป็นแฟนคลับหมด บางคนถึงขั้นเอาขนมหรือของกินไปดักรอให้นวพรรษถึงทางเดินเข้าบริษัท บางคนไม่กล้าเจอหน้าเพียงเพราะเขินอายไม่กล้าที่จะสบตาก็ฝากเอาไว้ที่แผนกต้อนรับของบริษัทแทน ซึ่งเรื่องนี้พี่ท้อปและท่านเจ้าสัวรู้ดี
ยิ่งรู้มาว่าคุณเลขายังโสดยังไม่มีแฟน นวพรรษยิ่งกลายเป็นคนเนื้อหอมมีแฟนคลับอย่างกับดารา ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้เคยเกิดกับธนศิลป์เลขาหน้าหยกของท่านประธานมาก่อน แต่พอธนศิลป์โดนท่านประธานอย่างเจ้าสัวเวทินจับกินเสียเอง แฟนคลับเลยอกหักกันเป็นแถวๆ แต่ใช่ว่าแฟนคลับจะหมดไป ยังมีคนตั้งคลับสายวายมาให้อีก แต่พอมีนวพรรษเข้ามาในบริษัท เลขาหน้าหล่อออกไปทางหวานละมุน หุ่นสูงโปร่ง มาปรากฏตัวที่บริษัททำให้หัวใจแฟนคลับทั้งหลายกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีก ต่างพากันชื่นชมในหน้าตาและนิสัยกริยาของคุณเลขาคนใหม่ ที่ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงลูกท่านฑูต สิ่ยิ่งเพิ่มกระแสความฮ็อตเข้าไปอีก
ท่านฑูตนวพล กับ คุณหญิงอัญพัชร์ ปรียานันท์ คุณป๊ากับม่าม๊าของนวพรรษ มีลูกชายแค่คนเดียวเลยรู้สึกรักเเละเป็นห่วงลูกชายมาก ให้ไปเรียน ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก เจ้าลูกชายก็ไม่เอา ไม่ชอบเมืองนอก เลยจำใจต้องให้ลูกชายคนเดียวใช้ชีวิตที่เมืองไทยคนเดียว นานๆคุณป๊ากับคุณม๊าจะบินกลับมาหาลูกชายที ไม่อย่างนั้นก็ให้ลูกชายบินไปหา พอเรียนจบถึงเวลาต้องทำงาน ท่านฑูตเลยฝากลูกชายคนเดียวเข้าทำงานที่บริษัทของเพื่อนรักอย่างเจ้าสัวเวทิน ซึ่งตอนแรกที่นวพรรษมาฝึกงานท่านเจ้าสัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกชายของเพื่อนรัก แต่ก็ชอบและเอ็นดูในความเก่งของเด็กหนุ่มคนนี้อยู่แล้ว ยิ่งพอรู้ว่าเป็นลูกของเพื่อนรักยิ่งเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีก และรับปากว่าจะดูแลให้อย่างดีจนเพื่อนรักอย่างท่านฑูตเบาใจ