ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
"อาหลิง อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งกับเสิ่นหัวหรง" น้ำเสียงร้อนรนแฝงด้วยความปวดใจดังขึ้นจากด้านหลัง ดรุณีน้อยผู้มีนามว่าเยี่ยนหลิงเอียงหน้าหันไปมองด้านหลัง พร้อมกับมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย
ครั้นเห็นสีหน้าของผู้เป็นมารดา นางก็มิได้สนใจและหันหน้ากลับไปหั่นผักบนเขียงไม้ต่อเช่นเดิม ปล่อยให้ท่านแม่มองแผ่นหลังของนางอย่างไม่พอใจ
"ถึงอย่างไรวันหน้าเจ้าก็ต้องแต่งงานกับผู้อื่นอยู่ดี จะแต่งกับผู้ใดก็ต้องแต่งมิใช่หรือ แต่เจ้าลองคิดดูเอาเถิด เสิ่นหัวหรงเป็นถึงบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้านหยู่เปิงแห่งนี้ อีกอย่างเขาก็ถูกใจเจ้ายิ่งนัก แม่ว่าหากเจ้าแต่งออกไปเขาจะต้องดีต่อเจ้าแน่นอน"
ครั้นเห็นว่าบุตรสาวยังไม่ยอมปริปากพูดสิ่งใดออกมา จ้าวเหรินมารดาของเยี่ยนหลิงก็ถอนหายใจพลางเร่งยาแรงไปอีกคำรบ ในใจของผู้เป็นมารดา ย่อมต้องอยากเห็นลูกสาวแต่งงานกับคนที่ดี และนางก็คิดว่าเสิ่นหัวหรงก็เป็นตัวเลือกที่ดี หากพลาดไปแล้วจะมาเสียใจภายหลัง มีสตรีตั้งเท่าไรที่อยากเกี่ยวดองกับสกุลเสิ่น
"คุณชายเสิ่นหัวหรงเป็นถึงบุตรชายของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าก็รู้ว่าหมู่บ้านเรามิได้ใหญ่โต อำนาจของสกุลเสิ่นยิ่งใหญ่เพียงใดเจ้าไม่รู้หรอกหรือ พวกเราเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าเล็ก ๆ เขาก็ยินดีมาสู่ขอเจ้าอย่างถูกต้อง สามหนังสือหกพิธีการ ล้วนไม่ขาด
หากเจ้าไม่ยินดี จะไม่เป็นการหักหน้าสกุลเสิ่นหรอกหรือ อาหลิงการค้าของครอบครัวเราจะราบรื่นหรือไม่ก็อยู่ที่เจ้าแล้ว แม่ขอร้องเจ้าคิดเสียว่าทำเพื่อครอบครัวเถอะนะ" เยี่ยนหลิงยังไม่กล่าววาจาใดเช่นเดิม จ้าวเหรินผู้เป็นมารดาเห็นเช่นนั้นก็ร้อนใจ แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าไม่ควรเร่งรัดนางมากไปกว่านี้
"เจ้าลองคิดดูดี ๆ เถิด"
ครั้นเงาร่างของมารดาไกลออกไปแล้ว เยี่ยนหลิงก็วางมีดทำครัวลง นางเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ที่ท่านแม่นั่งเมื่อสักครู่ ก็ใครใช้ให้นางเป็นบุตรสาวของท่านแม่กันเล่า ครอบครัวของเยี่ยนหลิงทำอาชีพค้าขายเล็ก ๆ ในหมู่บ้านหยู่เปิง หมู่บ้านเล็ก ๆ ของเมืองหลิงอี้ นางมีพี่ชายผู้หนึ่งนามว่าเยี่ยนฟง ท่านพี่มีสุขภาพไม่สู้ดีมาตั้งแต่เกิด บัดนี้ก็ได้แต่แบกห่อยานอนอยู่แต่ในห้อง ออกมาโดนแดดโดนลมเพียงนิดก็ไม่ได้
จะว่าไปครอบครัวนางถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวย ทว่าการค้าขายก็นับว่าพอไปได้ แต่เรื่องดี ๆ มักจะอยู่ได้ไม่นาน จนกระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านคนก่อนจากไปด้วยวัยชรา บุตรชายของเขานามว่าเสิ่นอันจึงขึ้นมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแทน เสิ่นอันมีบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนหนึ่งคนนั่นก็คือเสิ่นหัวหรง คุณชายเสิ่นพึงใจในตัวเยี่ยนหลิงมากมิใช่แค่ถูกใจวันสองวันนี้
แต่เสิ่นหัวหรงนั้นคอยเฝ้าเกี้ยวนางมาโดยตลอด เมื่อก่อนที่ท่านหัวหน้าผู้เฒ่าเสิ่นยังอยู่ คนพวกนั้นก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ ตั้งแต่ผู้เฒ่าเสิ่นจากไป เสิ่นอันขึ้นมาแทนที่ กิจการของสกุลเยี่ยนก็พลันสะดุดลง
"ท่านป้าเยี่ยนกำลังจะทำสิ่งใดอยู่หรือ ให้ลูกเขยช่วยดีหรือไม่ พวกเจ้ายืนซื่อบื้ออยู่ทำไม มาช่วยว่าที่แม่ยายข้าเร็วเข้า" เสียงที่ดังเข้ามาจากทางหน้าบ้านไม่ต้องเห็นหน้า ก็รู้ว่าเป็นผู้ใด
"อาหรงเจ้าจะยกของพวกนี้ได้อย่างไร มา ๆ นั่งลงก่อน อาหลิงเอ๊ยยกน้ำชามาให้อาหรงหน่อยลูก" เยี่ยนหลิงหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึกจนเจ็บอก นางไม่อยากทำ แต่หากไม่ทำท่านแม่ก็ต้องเรียกนางออกไปอยู่ดี หญิงสาวลุกขึ้นไปที่หน้าเตาไฟ เทใบชาใส่ในกาแล้วจึงยกออกไปด้านนอก
"รบกวนหลิงเอ๋อร์แล้ว"
"หากรู้ว่ารบกวน เหตุใดยังมาเล่า รู้ว่ารบกวนคราวหน้าก็ไม่ต้องมา"
"อาหลิง!"
"ท่านป้าเยี่ยนไม่เป็นอันใดขอรับ หลิงเอ๋อร์ก็แค่เขินอายเท่านั้นเอง ใบชานี่หอมมาก พี่หรงรู้ว่าหลิงเอ๋อร์ชอบดื่มชา วันนี้ข้าจึงนำชาเข็มเงินมาฝาก หลิงเอ๋อร์รับไปสิ" จ้าวเหรินเห็นว่าบุตรสาวไม่ยื่นมือออกไปรับ นางจึงรับเอามาเสียเอง
"โอ๊ย! ลำบากคุณชายเสิ่นแล้ว ชาเข็มเงินมีแต่พวกขุนนางนิยมชงดื่ม เป็นวาสนาของอาหลิงที่คุณชายเอ็นดู"
"ข้าต้มยาให้พี่ชายอยู่บนเตา ขอตัวก่อน" ไม่รอให้ผู้ใดได้เอ่ยรั้ง เยี่ยนหลิงก็สะบัดตัวเดินหนีกลับเข้าไปในห้องครัว เบื่อที่จะฟังท่านแม่กับคุณชายผู้นั้นพูดกันเจ้าคำข้าคำอีก
ความจริงแล้วคุณชายเสิ่นหัวหรงผู้นี้นับว่าเป็นบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาอันดับหนึ่งของหมู่บ้านหยู่เปิงเลยทีเดียว แต่แม้จะหน้าตาดีเพียงใด ทว่านิสัยกลับเป็นพวกไม่เอาไหน วัน ๆ ดื่มแต่สุรา เข้าโรงพนันเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ยังไม่นับก่อนหน้านี้เขาไปฉุดสตรีนางหนึ่งที่มีสามีแล้วมาเป็นอนุของตน อีกทั้งยังทุบตีสามีของสตรีนางนั้นจนตายไปอีกด้วย บุรุษเช่นนี้นางไม่มีทางแต่งไปเป็นภรรยาของเขาแน่นอน
"อาหลิงยกสำรับออกไปเร็วเข้า ท่านพ่อเจ้ากลับมาแล้ว ไม่ต้องมองแล้วคุณชายเสิ่นกลับไปแล้ว แล้วนี่สมุนไพรจากเมืองหลวงคุณชายเสิ่นไปซื้อมาให้พี่ชายของเจ้าประเดี๋ยวก็เอาไปต้มให้อาฟงกินด้วยเล่า ไม่รู้เวรกรรมอันใดของข้า การแต่งงานที่ดีเช่นนี้เจ้ายังไม่ต้องการ เลือกมากมายถึงเพียงนั้นไม่เข้าวังไปเป็นสนมของฮ่องเต้เสียเลยเล่า"
จ้าวเหรินกระแทกฝ่าเท้าหมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัว พูดดีก็แล้วข่มขู่ก็แล้ว บุตรสาวหัวแข็งก็ยังเมินเฉย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามงานแต่งครั้งนี้ ย่อมต้องฟังคำพูดบิดามารดา คุณชายเสิ่นรับปากแล้วว่า จะหาหมอเทวดามารักษาบุตรชายนาง เพื่อบุตรชายแล้ว หากต้องเสียสละบุตรสาวจะเป็นอันใดไป
"เห็นว่าคุณชายเสิ่นมาหรือ เหตุใดเจ้าไม่อยู่พูดคุยกับคุณชายเสิ่นให้มากเสียหน่อยเล่าอาหลิง ถึงอย่างไรงานมงคลนี้ข้ากับแม่ของเจ้าก็เห็นดีแล้ว ไม่มีบิดามารดาที่ไหนไม่อยากให้ลูกได้ดี เจ้าลองออกไปมองดูบ้าง ว่าเจ้าโชคดีแค่ไหน บ้านสกุลถานก็อยากให้บุตรสาวแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่คุณชายเสิ่นนั้นมีใจให้เจ้า อีกอย่างคุณชายก็ส่งคนออกไปตามหาหมอเทวดาฉีแล้วด้วย ไม่อยากให้พี่ชายเจ้าหายดีหรอกหรือ"
เยี่ยนหลิงมองมารดาคีบปีกไก่ให้บิดา สองผัวเมียช่างมีน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหลือเกิน
บิดาของนางกลับมาถึงก็เอาแต่พูดเรื่องแต่งงานไม่หยุดไม่หย่อน เยี่ยนหลิงเบื่อเป็นอย่างยิ่งมีวันใดบ้างที่ท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่พูดถึง มิใช่ว่านางไม่รักพี่ชาย ทว่าท่านพ่อกับท่านแม่ไม่ถามความต้องการนางสักครึ่งคำก็ตัดสินใจแทนนางแล้ว หรือมีเพียงพี่ชายที่เป็นบุตรของพวกท่าน
เยี่ยนหลิงจึงเดินอ้อมจากบ้านและมุ่งหน้าขึ้นไปบนเขาในทันที เป้าหมายก็คือถ้ำแห่งหนึ่งที่นางชอบขึ้นไปหลบซ่อนหนีจากความวุ่นวายเห็นจะมีเพียงที่แห่งนั้นที่นางสามารถร้องไห้ออกมาได้ เช้านี้อากาศดีเหลือเกิน
ฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ ต้นไม้ใบหญ้าล้วนเขียวชอุ่มชวนมองเป็นอย่างมาก สายลมพัดเอื่อยพอประโลมจิตใจที่หม่นหมองได้ไม่มากก็น้อย เยี่ยนหลิงเดินขึ้นเขามาตามทางเรื่อย ๆ ระหว่างทางไม่ระวังจึงเผลอเตะโดนก้อนหินก้อนหนึ่ง นางซูดปากด้วยความเจ็บปวด อดจะตัดพ้อชะตาบัดซบออกมามิได้
"อันใดกัน แม้แต่สวรรค์ก็ยังกลั่นแกล้งข้ากระนั้นหรือ กระทั่งก้อนหินก็ยังขวางทางข้า สวรรค์ไม่มีตาจริง ๆ" บ่นเสร็จหญิงสาวก็เดินออกมา ทว่าสายตาของนางก็เหมือนจะมองเห็นอะไรบางอย่าง
"เอ๋! นั่นมันคือสิ่งใดกันนะ"
ร่างอรชรขมวดคิ้วขึ้นก้าวขาเลี่ยงออกไปอีกทาง ทว่าเดินไปได้สามก้าวความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้ ปลายเท้าเปลี่ยนทิศทางขยับเดินเข้าไปใกล้ ๆ ครั้นเมื่อเห็นเต็มสองตานางก็ต้องเบิกตาขึ้น
"คนอย่างนั้นหรือ!"
เยี่ยนหลิงมองดูคนตรงหน้า ที่บัดนี้กำลังนอนคว่ำหน้า ข้างกายของเขามีกระบุงใบหนึ่งล้มตะแคงอยู่ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น พลางครุ่นคิดในใจว่ากลางป่ากลางเขาเช่นนี้ เหตุใดจึงมีคนมานอนอยู่อย่างนี้เล่า
หรือว่าเขาตายแล้ว!
หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงจนได้ยินเสียงออกมานอกอก คนผู้นี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรก็ไม่อาจรู้ ทางที่ดีนางอย่าไปยุ่งเกี่ยวจะดีกว่า เพียงแค่เรื่องตนเองนางก็แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว หญิงสาวหันหลังวิ่งหนีออกไป ทว่าคุณธรรมในใจก็ร้องเตือนว่า เป็นเช่นนี้จะดีจริง ๆ หรือ หากนางยังสามารถช่วยเขาได้เล่า
แต่หากนางช่วยแล้วเขานำความเดือดร้อนมาให้นางและคนในครอบครัวเล่า นางจะรับมืออย่างไร เช่นนั้นแล้วท่านพ่อกับท่านแม่นางคงรีบจับนางแต่งเข้าสกุลเสิ่น โบราณว่าไว้บุตรสาวที่แต่งไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป ไม่ว่าวันหน้าคนผู้นี้จะมีปัญหาหรือไม่ ท่านพ่อกับท่านแม่ก็คงคิดว่าให้สกุลเสิ่นจัดการเองกระมัง
ในขณะที่คิดไม่ตกร่างอรชรก็แอบไปหลบที่หลังต้นไม้ใหญ่ ศีรษะเล็ก ๆ ชะโงกออกไปมองพลางสำรวจเนื้อตัวเขาไปด้วย อาภรณ์ที่สวมใส่ดูต่างจากพวกนางอยู่บ้าง เนื้อผ้าดูเหมือนจะใส่สบายกว่า นางนั่งตบตีกับความคิดตนเองพักใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงดังออกมาจากชายผู้นั้น
ชายหนุ่มส่งเสียงครางต่ำออกมาน้ำเสียงเหมือนจะเจ็บปวดอยู่มาก เขายันแขนขึ้นแต่แล้วก็ล้มลงไปอีกครั้ง จึงทำได้เพียงพลิกกายกลับมานอนหงาย ดวงตาคมปรือขึ้นแต่แล้วก็ปิดลงไปอีกครั้ง
ชายหนุ่มนอนนิ่งอยู่กับที่ ในหัวกลับกำลังขบคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ใช่แล้วก่อนหน้านี้เขาขึ้นเขามาเก็บสมุนไพรเพื่อนำไปปรุงเป็นยาแต่ในขณะที่กำลังก้มหน้าศีรษะก็ปวดร้าวขึ้นมา จึงทำให้ดวงตาพร่ามัวและพลัดตกลงมาจากเขา ไม่รู้ว่าเขานอนเจ็บอยู่ตรงนี้นานเพียงใดแล้ว ในท้องก็เริ่มรู้สึกหิวอยู่บ้าง ทั้งร่างกายก็เจ็บปวดจนแทบจะขยับไม่ได้ แต่เหนืออื่นใดคือเขากระหายน้ำจนคอแห้งผาก
************************
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
เพราะความผูกพันที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้หทัยชนกไม่อาจหักห้ามความรักที่มีต่ออาหมอสิงได้อีกต่อไป และแม้รักนี้พ่อจะไม่ปลื้ม แต่หญิงสาวจะขอฝ่าฟันและไม่มีทางยอมแพ้ให้อุปสรรคในครั้งนี้เด็ดขาด
เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่ ทำให้ ศิรวิช จำใจต้องแต่งงานกับ สุทธิดา ชายหนุ่มทำทุกทางให้หญิงสาวทนไม่ไหว แต่เพราะความรักตั้งแต่แรกเจอ ทำให้สุทธิดาทนอยู่กับคนใจร้าย จนวันที่หญิงสาวทนไม่ไหวในวันที่สายไป ศิรวิชต้องเสียเธอไปพร้อมกับลูกแฝดที่เขาไม่เคยรับรู้
นพวรรณ ถูกบิดาและมารดาบังเกิดเกล้าที่ติดการพนันอย่างหนักขายหักหนี้ให้กับ คิม ซีวาน หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลีเจ้าของบ่อนคาสิโนหรูย่านใจกลางเมือง หลังจากรู้จักกับซีวาน นพวรรณ จึงได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็น มันคือยังไง ชายหนุ่มปฎิบัติกับหญิงสาวเยี่ยงทาส นพวรรณจะทนได้นานแค่ไหน เธอจะหนีจากขุมนรกนี้ได้อย่างไร
ต่ำศักดิ์ ไร้ค่าแล้วอย่างไร ในสายตาของนาง เขาคือยอดบุรุษผู้สง่างาม ความอัปยศที่เขาเคยได้รับ ความเจ็บช้ำที่เขาเคยต้องอดทน วันนี้นางจะทวงคืนให้เขาเอง "บุรุษของข้า ใครกล้าแตะต้องก็ลองดู"
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ