นพวรรณ ถูกบิดาและมารดาบังเกิดเกล้าที่ติดการพนันอย่างหนักขายหักหนี้ให้กับ คิม ซีวาน หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลีเจ้าของบ่อนคาสิโนหรูย่านใจกลางเมือง หลังจากรู้จักกับซีวาน นพวรรณ จึงได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็น มันคือยังไง ชายหนุ่มปฎิบัติกับหญิงสาวเยี่ยงทาส นพวรรณจะทนได้นานแค่ไหน เธอจะหนีจากขุมนรกนี้ได้อย่างไร
“โบว์ วันนี้มึงไปไหน ไปกินหมูกระทะกันไหมร้านเปิดใหม่ ลดตั้ง 30%เลยนะเว้ย”
“ร้านไหน”
“ก็ร้าน Pig pig หมูกระทะไง”
“ไป...แต่ไม่ได้ไปกินนะไปทำงานน่ะ”
“ขยันโคตรๆ”
“ไม่ขยันแล้วจะเอาอะไรกิน ไปล่ะๆๆ กูไปก่อนแล้วเจอกัน”
ฉันชื่อโบว์ นพวรรณ เทพสิริ ปีนี้ฉันเรียนอยู่ม.6 แล้วปีสุดท้ายของชีวิตนักเรียนม.ปลาย ชีวิตฉันไม่ได้สวยหรูหรอก ลูกคุณหนูคงไม่เข้าใจ ฉันต้องเรียนและทำงานไปด้วย ถ้าฉันไม่ทำงานฉันก็ไม่มีจะกิน แล้วทำไมไม่ขอพ่อกับแม่น่ะเหรอ หึ!! ..พ่อกับแม่ฉันน่ะพึ่งพาอะไรไม่ได้หรอก คนแบบนั้นน่ะ
กริ้งงงงง
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันจึงล้วงมือลงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนขึ้นมา โทรศัพท์เครื่องนี้ฉันใช้มันมาตั้งแต่ม.2 แล้ว เป็นเครื่องเดียว เครื่องแรกเลยที่มี ความใหม่น่ะเหรอไม่ต้องพูดถึง แค่รับสายได้ สายเข้า โทรออกได้ก็บุญแล้ว
"ฮาโหลว่าไงบี "
(พี่โบว์อยู่ไหนคะ บีเดินมาหาพี่ที่หน้าห้องแต่ไม่เจอ)
"อ๋อ!!! ..บีลงมาข้างล่างเลย พี่อยู่หน้าตึกแล้ว"
(ได้ค่ะ)
น้องบี น้องสาวฉันน่ะ ครอบครัวฉันมี 4 คนมีพ่อ แม่ ฉัน แล้วก็น้องบี น้องสาวฉันเรียนอยู่ชั้นม. 2 ห่างกับฉัน 4 ปีเลยล่ะ น้องสาวฉันเป็นคนเรียบร้อย เป็นเด็กที่น่ารัก ที่ฉันทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อน้องฉันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่มีน้อง ฉันก็ไม่อยู่หรอกบ้านหลังนั้นน่ะ
"พี่โบว์..บีมาแล้วกลับกันเลยไหมคะ"
"น้องบีต้องกลับก่อนนะ พี่ได้งานใหม่น่ะ เป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ร้านหมูกระทะ Pig pig หมูกระทะไงรู้จักไหม"
"ค่ะ ได้ยินเพื่อนในห้องพูดถึงอยู่เหมือนกันค่ะ"
"อยากกินไหม"
"ไม่หรอกค่ะ ก็แค่หมูบางๆ เอาไปย่างไงไม่เห็นจะน่ากินเลย"
ฉันรู้ว่าน้องอยากกิน แต่น้องฉันน่ะเก่งมากไม่เคยร้องขออะไรเหมือนเด็กคนอื่นๆ หรอกนะ อะไรที่อดได้น้องฉันก็จะอด ฉันน่ะทนได้แค่ขอให้น้องฉันได้กินอิ่ม นอนหลับก็พอ เพราะฉันน่ะเลี้ยงน้องบีมาตั้งแต่เกิดแล้วน่ะ
"...โบว์ มึงมาดูน้องด้วยกูไปหาเงินก่อน"
"พ่อก็ไปแล้ว ทำไมแม่ต้องไปด้วยล่ะ แม่อยู่บ้านกับหนูกับน้องไม่ได้เหรอ"
"โอ๊ย อีโบว์มึงอย่ามาขัดลาภกูอีห่า กูบอกให้ดูน้องก็มาดู"
........
"... อีโบว์ ไหนเงินเดือนมึงออกแล้วใช่ไหม"
"ยังเลยพ่อ เจ้านายยังไม่มาเขาเลยยังไม่ได้เบิกให้"
"กูไม่เชื่อไหนมาดูสิ "
อำนาจย์ บิดาของนพวรรณเดินมากระชากกระเป๋านักเรียนของนพวรรณ ซึ่งในขณะนั้น นพวรรณอยู่เพียงม.3 เท่านั้นน้องสาวของเธอก็อยู่เพียง ป.5 นพวรรณยื้อกระเป๋านักเรียนตัวเองไว้ไม่ยินยอมให้บิดาได้เอากระเป๋าตนเองไปได้ แต่เด็กหญิงก็สู้แรงบิดาของตัวเองไม่ได้ กระเป๋านักเรียนหลุดออกจากมือของหญิงสาว อำนาจย์รีบรื้อค้นหาเงินค่าเงินอันน้อยนิดที่นพววรรณไปทำงานเป็นเด็กล้างจานที่ร้านข้าวมันไก่ที่หน้าปากซอย เจ้าของร้านข้าวมันไก่สงสารและเอ็นดูเด็กหญิงจึงให้ทำงาน ซึ่งจริงๆ ที่ร้านไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่มด้วยซ้ำเพราะลูกๆ หลานๆ ของอาเจ๊กลีเจ้าของร้านข้าวมันไก่ ก็ช่วยงานกันอยู่แล้ว
"ไหนเงินมึงวะอีโบว์ ไปทำงานเหี้ยอะไรไม่ได้เงิน กูจะไปด่าไปเจ๊กไอแก่เบี้ยวค่าแรงลูกกู"
"อย่าไปด่าอาเจ๊กเลยพ่อ เดี๋ยวเงินออกหนูเอามาให้ "
เด็กหญิงนพววรณเอื้อมมือไปดึงกระเป๋ามาจากบิดาของตน เด็กหญิงกำลังจะเดินหนีเข้าไปในห้องที่เด็กหญิงใช้นอนกับน้องสาวของตน
"เดี๋ยวอีโบว์ ปริ้นกระเป๋ามึงมาดูสิ"
"กระเป๋าอะไรพ่อ พ่อก็ดูไปแล้วนี่มันไม่มี"
"กระเป๋ากระโปรงมึง"
เด็กหญิงนพวรรณหน้าเสียเมื่อได้ยินบิดาเอ่ยมาเช่นนั้น เธอพยายามเดินหนีออกมาให้ไวแต่ไม่ทันที่บิดาคว้าแขนเธอไว้ อำนาจย์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงลูกสาว เงินค่าจ้างจำนวนหนึ่งถูกหยิบออกมา
"นี้อะไรอีโบว์มึงโกหกกูหรอ อีลูกเวร 1 2 อะไรทำไมแค่สองพัน ค่าแรงมึงสามพันนี้"
"พ่อเอาคืนมานะ หนูต้องเอาเงินนั้นพาน้องไปหาหมอนะ น้องบีไม่สบายพ่อก็รู้"
"น้องมึงมีบัตรทอง อีโง่ ไม่เสียสักบาทมึงจะไปให้มันเสียเงินทำไม"
"แต่ที่คลินิกนี้เขาบอกว่าดีหมอเก่งนะพ่อ ไปโรงพยาบาลรัฐต้องรอคิวนานหนูสงสารน้อง"
เด็กหญิงนพวรรณพยายามกระโดดแย่งเงินจากมือของบิดา อำนาจย์ยกมือขึ้นสูงทำให้เด็กหญิงนพวรรณไม่สามารถหยิบมันถึง เด็กหญิงทั้งพยายามทั้งดึงบิดาตนเอง จนอำนาจย์โมโห พลั้งมือตบเข้าไปที่ใบหน้าของบุตรสาวตนเอง
เพี๊ยะ!!!!!!
เสียงฝ่ามือที่กระทบกับแก้มของลูกสาวดังเข้ามาในโสตประสาทของคนเป็นพ่อ วูบหนึ่งในแววตาของอำนาจย์สั่นไหว แต่แค่เพียงวูบเดียวเท่านั้น เด็กหญิงตัวน้อยล้มลงนอนเอามือจับหน้าตนเองที่พื้น
"ก็บอกแล้วว่าเอามาให้กูดีๆ มึงจะได้ไม่เจ็บตัวแบบนี้ไง เอานี่ 500 มึงเอาไปใช้ ที่เหลือ 1500 กูจะเอาไปต่อทุน เดี๋ยวได้เงินมากูจะมาคืนให้ แล้วจะซื้อของอร่อยๆ ให้มึงกับน้องมึงกินด้วย"
"พี่โบว์ พี่โบว์เป็นอะไร พ่อทำอะไรพี่โบว์"
"อีบี มึงพาพี่มึงเข้าบ้านไป"
อำนาจย์รีบเดินออกไป นวพร หรือน้องบี น้องสาวแท้ๆ ของนพวรรณรีบเข้ามาประคองพี่สาวแล้วพาเข้าห้องไป นวพรเด็กเกินกว่าที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดดูไม่ออกว่าพี่สาวโดนบิดาตี
"พี่โบว์ เหม่ออะไรอยู่ แล้วพี่ไม่กลับกับบีเหรอ"
นพวรรณ ได้สติหันมามองหน้าน้องสาว หลังจากที่ตนเองเผลอคิดไปถึงอดีต เพราะการพนันตัวเดียวทำให้ครอบครัวเธอเป็นอย่างนี้
"พี่ต้องไปทำงาน เอานี่เงิน เราไปกินข้าวมันไก่ร้านเจ๊กลีนะ แล้วก็เข้าห้องล็อกห้องให้ดีรู้ไหม"
"ข้าวมันไก่อีกแล้ว กินจนบีจะเป็นเก๊าแล้วนะ อิอิ"
"เออ!! ..งั้นอยากกินอะไรก็ไปกินเถอะ พี่ไปทำงานก่อนนะ"
"ค่ะพี่โบว์ สู้ๆ นะคะ"
"อืม"
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
เพราะความผูกพันที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้หทัยชนกไม่อาจหักห้ามความรักที่มีต่ออาหมอสิงได้อีกต่อไป และแม้รักนี้พ่อจะไม่ปลื้ม แต่หญิงสาวจะขอฝ่าฟันและไม่มีทางยอมแพ้ให้อุปสรรคในครั้งนี้เด็ดขาด
เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่ ทำให้ ศิรวิช จำใจต้องแต่งงานกับ สุทธิดา ชายหนุ่มทำทุกทางให้หญิงสาวทนไม่ไหว แต่เพราะความรักตั้งแต่แรกเจอ ทำให้สุทธิดาทนอยู่กับคนใจร้าย จนวันที่หญิงสาวทนไม่ไหวในวันที่สายไป ศิรวิชต้องเสียเธอไปพร้อมกับลูกแฝดที่เขาไม่เคยรับรู้
ต่ำศักดิ์ ไร้ค่าแล้วอย่างไร ในสายตาของนาง เขาคือยอดบุรุษผู้สง่างาม ความอัปยศที่เขาเคยได้รับ ความเจ็บช้ำที่เขาเคยต้องอดทน วันนี้นางจะทวงคืนให้เขาเอง "บุรุษของข้า ใครกล้าแตะต้องก็ลองดู"
ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก