เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่ ทำให้ ศิรวิช จำใจต้องแต่งงานกับ สุทธิดา ชายหนุ่มทำทุกทางให้หญิงสาวทนไม่ไหว แต่เพราะความรักตั้งแต่แรกเจอ ทำให้สุทธิดาทนอยู่กับคนใจร้าย จนวันที่หญิงสาวทนไม่ไหวในวันที่สายไป ศิรวิชต้องเสียเธอไปพร้อมกับลูกแฝดที่เขาไม่เคยรับรู้
"คุณพ่อคะ เรื่องมันก็เก่านมนานมากแล้วนะคะ คุณพ่อจะมาสนใจทำไมอีกล่ะคะ ตาวิชต้องไม่ยอมแน่ ๆ ค่ะ ประภาก็ไม่ยอมให้ลูกต้องถูกคลุมถุงชนแน่ ๆ ยุคสมัยนี้ใครเขาจะมาจับคลุมถุงชนกันอีก ไร้สาระจะตายไปค่ะคุณพ่อ"
"ไม่ยอมไม่ได้ ฉันไม่ยอมเสียคนเป็นครั้งที่สองแน่ ๆ คราวตาวุธก็ทีหนึ่งแล้ว ถ้าไม่เห็นแกว่าเธอท้องหลานฉันอยู่ฉันไม่ยอมเป็นแน่แม่ประภา"
พรประภาสะบัดหน้าใส่คุณปู่สรยุทธ ประมุขใหญ่ของบ้าน ศิริกิจวัชโชติ อย่างไม่พอใจก็จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะ นอกจากเรื่องเดิม ๆ ที่คุณปู่พูดอยู่ทุกครา พรประภาทราบดีว่าพ่อสามีไม่ชอบตนเองนัก เพราะคนที่สรยุทธหมายมั่นปั้นมืออยากให้มาเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่เธอคนนี้ แต่เป็นผู้หญิงบ้านนอกคอกนา อยู่ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงรายโน้น เมื่อคราวสรยุทธยังอยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่ เขาได้เดินทางไปเที่ยวที่ดอยแม่สลอง และไปพบมิตรสหายท่านหนึ่งเกิดคุยกันถูกคอหรืออย่างไรไม่ทราบ สรยุทธกับสหายท่านนั้นจึงได้ผูกสัญญาสายันต์กันไว้ว่าจะให้สราวุธบุตรชายของตนไปแต่งงานกับสุทธิรักหญิงสาวชาวดอยบุตรสาวมิตรสหายของเขานั่นเอง
ในตอนนั้นสราวุธมีคนรักอยู่แล้วก็คือพรประภา สรยุทธก็มิได้สนใจเขาบังคับให้ทั้งคู่เลิกคบหากันเสีย แต่พรประภาก็ปล่อยตนเองให้ท้อง ศิรวิช ขึ้นมานั่นแหละสรยุทธจึงได้ยินยอมแต่นี่อะไร พอหมดรุ่นลูกก็จะมาบังคับหลานตนเองอีก หัวเด็ดตีนขาดยังไงคนเป็นอย่างเธอก็จะไม่มีวันยินยอม
"อะไรนะครับคุณแม่ นี้คุณปู่เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก ไม่เอาอ่ะวิชไม่ยอมหรอก แล้วยัยป้านั่นไม่ยอมแต่งงานมีลูกมีผัวไปแล้วเหรอครับคุณแม่ ป่านนี้ไม่แก่หนังเหี่ยวไปแล้วหรือรุ่นเดียวกับคุณแม่ด้วยนี่น่ารุ่นนั้นแก่จะลงโล่งแล้วนะครับ"
"ตาวิช!!!! "
พรประภาหันไปถลึงตาใส่บุตรชายตนเองมีอย่างที่ไหนมาว่ารุ่นราวคราวเดียวกับเธอมีแต่คนแก่ ๆ เธอยังไม่แก่สักหน่อย ผิวพรรณก็เต่งตึงสามีกอดหอมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
"อุ๊ย!! ..คือ..โถ่..คุณแม่ครับ คุณแม่ต้องเข้าใจนะครับว่าผู้หญิงในเมืองเหมือนคุณแม่น่ะ ยิ่งมีอายุยิ่งสวยและยิ่งสาว จะไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงบ้านป่าเมืองเถื่อนได้อย่างไรล่ะครับ พวกนั้นน่ะ รู้จักหรือเปล่าเถอะครีมบำรุงผิวน่ะ น้ำหงน้ำหอมน่ะไม่เคยใช้กันบ้างไหม แต่ละคนวิชว่าน่าจะใช้ใบไม้ทำเสื้อผ้าอยู่เลยมั้งครับ"
ศิรวิชที่รู้ว่าตนเองพลั้งปากไม่ดีออกไปจึงรีบกลับคำมาเอาใจมารดาของตนเอง มิฉะนั้นจะได้โดนมารดาที่เป็นพวกเดียวกับตนงอนก็เป็นไปได้ แล้วถ้ามารดางอนใครจะเป็นคนช่วยงัดข้อกับคุณปู่กันล่ะ คุณพ่อน่ะหรือ หึ ไม่มีทางซะหรอก รายนั้นยังรู้สึกผิดกับคุณปู่อยู่เลย ก็เรื่องครั้งก่อนที่คุณแม่ท้องถึงกับทำให้คุณปู่ล้มป่วย แต่ไม่ใช่คุณปู่จะไม่รักตนนะ คุณปู่น่ะรักตนมาก เว้นเสียแต่เรื่องนี้ไม่รู้เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก ศิรวิชคิดอย่างเบื่อหน่าย
"ไม่ใช่อย่างนั้นลูก คนที่จะแต่งงานกับลูกน่ะไม่ใช่ยัยสุทธิรักอะไรนั่นแต่เป็นลูกสาวของนาง ชื่ออะไรแล้วนะคุณแม่ก็ลืม ๆ เอ๋!! ..ชื่ออะไรแล้วน๊า"
พรประภาทำท่าครุ่นคิด เธอนึกไม่ออกจริง ๆ คุณปู่ก็บอกมาแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าไม่ได้มีความสำคัญอะไรที่จะต้องจำอยู่แล้ว เห็นไหมผิดคำเธอที่ไหนศิรวิชค้านหัวชนฝา แต่ก็อย่างว่าใครมันจะยอมโดนบังคับ ชีวิตคนทั้งชีวิตเลยนะ
"ช่างมันเถอะครับคุณแม่จะรู้หรือไม่รู้วิชก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับยัยลิงป่านั่นแน่ ๆ สงสัยจะขี้เหร่มากล่ะสิถึงสามีไม่ได้แบบนี้ แต่งไปอายเขาตาย ยี๋!! ..แค่คิดก็ขนลุกแล้วครับคุณแม่ คุณแม่ต้องช่วยวิชนะครับ"
"โถ่ ๆ ๆ ตาวิชของคุณแม่ ฟังคุณแม่นะลูก ตราบใดที่คุณแม่ยังอยู่คุณแม่จะไม่ยอมให้การคลุมถุงชนบ้า ๆ นี้เกิดขึ้นแน่ ๆ เชื่อคุณแม่นะครับลูกรัก จุ๊บ ๆ " พรประภาดึงศิรวิชมากอดเอาไว้แล้วจูบลงที่ศีรษะลูกชายคนเดียวอย่างรักใคร่
"วิชเชื่อมือคุณแม่นะครับ แต่ว่าคืนนี้วิชไม่กลับบ้านนะครับ วิชว่าจะไปเที่ยวคลับกับพวกไอ้บอสนะครับ ถ้าคุณพ่อกับคุณปู่ถามคุณแม่ก็บอกว่า วิชติดคุยกับลูกค้านะครับ จุ๊บ วิชรักคุณแม่นะครับ จุ๊บ ๆ ๆ "
"อิอิ ลูกคนนี้นี่ไม่รู้จักโตจริง ๆ เลย แล้วนี่เงินพอใช้ไหมลูกบัตรเครดิตใบใหม่ที่คุณแม่ให้ไปไม่อั้นวงเงินนะจ๊ะ จ่ายตามสบายเลย"
"เพราะงี้ไงวิชถึงได้รักคุณแม่ที่สุด "
พรประภาเดินออกมาส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนขับรถ ซูเปอร์คาร์ยุโรปสีแดงเพลิง รุ่นล่าสุด ที่เธอทุ่มเงินซื้อให้กับศิรวิชด้วยจำนวนเงิน 25.2ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าคุณปู่อย่างสรยุทธไม่พอใจเป็นอันมาก พรประภาก็ได้แต่ค่อนขอดอยู่ในใจ รวยจะตายยังจะขี้งกอีกสมบัติก็ฐานทั้งหลายแหล่ มันจะตกเป็นของใครถ้าไม่ใช่ของหลานชายคนเดียวอย่างศิรวิช แล้วจะมางกทำอะไรกันแค่เอาเงินตนเองออกมาใช้ก่อนแค่นิดหน่อยเอง
"เป็นอะไรวะวิช หน้าบึ้งมาเชียว หนู ๆ มาเอาใจพี่วิชหน่อยเร็ว"
"ค่ะ พี่วิชขาอย่าเครียดเลยนะคะ เจนนี่จะช่วยให้พี่อารมณ์ดีเองนะคะ อือออ"
ศิรวิชออกมาจากบ้านก็ตรงมาที่คลับหรูย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของเขาและแก๊งเพื่อนเพลย์บอยของตน ทันทีที่เข้ามานั่งพีอาร์สาวสวยก็ทำหน้าที่ของตนโดยการเข้าไปนั่งตักคลอเคลียชายหนุ่มอยู่ไม่ห่าง ศิรวิชเองก็รั้งคนบนตักมากอดมาหอม แถมมีวิสกี้นอกที่ดื่มแล้วชุ่มคอแค่นี้ก็ทำให้อารมณ์ชายหนุ่มเย็นลงแล้ว ราตรีนี้อีกยาวไกล ศิรวิชและเพื่อน ๆ ต่างก็ปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่ หญิงสาวสวยที่พวกเขาเรียกมาต่างก็เอาอกเอาใจ ก็จะไม่เอาใจได้อย่างไรแต่ละคนกระเป๋าหนา ๆ ทั้งแถมยังเป็นไฮโซตัวพ่อของเมืองไทยอีกต่างหาก ทิปแต่ละทีพวกเธอสบายไปเป็นเดือน ๆ เลยล่ะ
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
เพราะความผูกพันที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้หทัยชนกไม่อาจหักห้ามความรักที่มีต่ออาหมอสิงได้อีกต่อไป และแม้รักนี้พ่อจะไม่ปลื้ม แต่หญิงสาวจะขอฝ่าฟันและไม่มีทางยอมแพ้ให้อุปสรรคในครั้งนี้เด็ดขาด
นพวรรณ ถูกบิดาและมารดาบังเกิดเกล้าที่ติดการพนันอย่างหนักขายหักหนี้ให้กับ คิม ซีวาน หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลีเจ้าของบ่อนคาสิโนหรูย่านใจกลางเมือง หลังจากรู้จักกับซีวาน นพวรรณ จึงได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็น มันคือยังไง ชายหนุ่มปฎิบัติกับหญิงสาวเยี่ยงทาส นพวรรณจะทนได้นานแค่ไหน เธอจะหนีจากขุมนรกนี้ได้อย่างไร
ต่ำศักดิ์ ไร้ค่าแล้วอย่างไร ในสายตาของนาง เขาคือยอดบุรุษผู้สง่างาม ความอัปยศที่เขาเคยได้รับ ความเจ็บช้ำที่เขาเคยต้องอดทน วันนี้นางจะทวงคืนให้เขาเอง "บุรุษของข้า ใครกล้าแตะต้องก็ลองดู"
ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ฉันเป็น ขวัญชนก วงศ์ษา ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง อายุ 18 ปี 1 วัน อายุ 18 ปี 2 วัน ฉันเป็น ขวัญชนก ฟง เขาคือ ดีแลน ฟง อายุอานามก็ 30 ปี ชายร่างสูงเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบันเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอย้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คำโปรย : “ห้าแสน!” “เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ขวัญชนก สาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้าสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน” เอาสิ! ถ้าเขาไม่มา เธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน “สองล้านครั้งที่หนึ่ง...” ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้หญิงสาวบนเวที เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ “ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!”
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"