ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
จ้าวหลันอวี่นั่งหลับตานิ่งงันหวนคะนึงถึงวันที่นางคิดว่าตนเองเป็นนางพญาหงส์ มีอำนาจอันยิ่งใหญ่อยู่ในมือ นางยังจำได้ดีว่าวันพระราชพิธีสถาปนาฮองเฮาของแคว้นตงหยางถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่เพียงใด
ร่างอรชรสวมชุดประจำตำแหน่งอย่างเต็มยศแหงนหน้ามองขึ้นไปบนสุดของปลายบันไดหยก ที่บนสุดของพระที่นั่งมีร่างสูงใหญ่สวมชุดมังกรสีเหลืองนั่งมองอยู่ด้วยสายตาอ่อนโยน
มงกุฎหงส์ประดับไข่มุกแวววาวเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ มันสั่นไหวตามการเคลื่อนของศีรษะ ใบหน้าหวานพลันแย้มยิ้มออกมา ในที่สุดนางก็มีวันนี้ และในที่สุดความแค้นที่ท่านแม่ถูกวางยาก็จะได้รับการพลิกคดีขึ้นมาใหม่ด้วยสองมือของนางเอง อำนาจของฮองเฮาด้อยกว่าก็แค่เพียงฮ่องเต้ แล้วผู้ใดเล่าจะกล้าขัดขวาง ทว่าความยิ่งใหญ่นั้นก็คล้ายกลายเป็นเพียงหมอกควันที่จางหายไป
เพราะยามนี้จ้าวฮองเฮาที่เคยยิ่งใหญ่อยู่ในอำนาจได้แค่เพียงสามเดือน กลับถูกจองจำอยู่ในตำหนักเย็นเพียงลำพัง ดวงตาหงส์จ้องมองไปยังปลายแสงสว่างที่หน้าประตู ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดมังกรสีเหลืองเดินเข้ามาช้า ๆ สายตาคมจ้องมองไปยังเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ หนานกงกงเห็นดังนั้นก็รีบถอดเสื้อคลุมวางลงบนเก้าอี้ และเดินค้อมตัวออกไปยืนรอรับคำสั่งอยู่ที่ด้านหลัง
“เจ้าสบายดีหรือไม่” เสียงทุ้มเอ่ยถามเหมือนห่วงใยกัน ทว่าความเป็นจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ หากเขาห่วงใยนางจริง เขาจะส่งนางมาอยู่ที่นี่ทำไมกัน ข้อตกลงที่เคยทำร่วมกันบัดนี้เขาตระบัดสัตย์หักหลังนางอย่างโหดร้าย ร่างอรชรยืดตัวขึ้นแผ่นหลังตั้งตรง อาภรณ์ที่สวมใส่มิได้ยับย่นไปเลยแม้แต่น้อย เคยงดงามเช่นไร ก็ยังคงงดงามเช่นนั้น
“พระองค์ก็ลองถูกกักขัง และถูกใส่ร้ายดูบางสิเพคะ จะได้รู้ว่าหม่อมฉันสบายดีหรือไม่?”
“หลันอวี่เราเองก็จนใจ หากไม่กำจัดเจ้าทิ้งเสีย บัลลังก์ของเราก็จะไม่มั่นคง นังเฒ่าหวังอรพิษนั่นมีราชโองการ...”ตวนมู่หมิงฮ่าวฮ่องเต้หยุดพูดกลางคันพลางถอนหายใจออกมา
“ช่างเถอะ บอกเจ้าไปก็ไม่ประโยชน์อันใดอีกแล้ว อวี่เอ๋อร์ความจริงในใจเราชื่นชอบเจ้าเป็นอย่างมาก หากเป็นไปได้เราก็อยากจะเก็บเจ้าไว้ข้างกาย แต่เราไม่อาจทำได้ หากให้เลือกระหว่างหัวใจและอำนาจ เจ้าเองก็คงต้องเลือกเหมือนเช่นเราจริงหรือไม่” ใช่!..หากให้เลือกระหว่างหัวใจและอำนาจ นางย่อมเลือกอำนาจ มิเช่นนั้นนางจะเลือกผลักดันเขาขึ้นนั่งบัลลังก์หรือ
“พระองค์จะสังหารหม่อมฉันใช่หรือไม่?” นางเชิดหน้าขึ้นถามออกไป มิได้มีความกลัวแม้แต่น้อย จะต้องกลัวไปไย ในเมื่อเส้นทางนี้นางเลือกด้วยมือของตนเอง นางลิขิตมันด้วยตนเอง หากมันจะต้องจบนางก็หากลัวไม่
เพียงแต่ข้อหาที่เขาป้ายลงมาบนศีรษะนางช่างน่าขำนัก วางยาพิษไทเฮาเช่นนั้นหรือ แน่นอนว่านางอยากให้ไทเฮาชั่วนั่นตายไปเสีย ทว่านางคงไม่โง่ถึงขั้นวิ่งไปวางยาพิษที่ตำหนักเฉินเฉียนกงกระมัง?
“เลือกมาเถิด ผ้าขาว หรือสุราพิษ” ดวงตาเรียวหดเกร็งหากบอกว่าไม่กลัวความตายก็คงเป็นการโกหก ผู้ใดบ้างจะอยากตาย นางยังไม่ได้แก้แค้นให้มารดา หวังจิ่วเหมยและหวังไทเฮายังไม่ได้รับโทษฐานที่สังหารมารดานางเลย ใต้หล้ายังมิได้รู้ถึงความชั่วที่คนพวกนั้นร่วมมือกันทำร้ายมารดานางเลย นางจะยอมได้อย่างไร
“เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดต้องใส่ร้ายหม่อมฉัน” นางหันหน้าไปมองพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ถึงแม้จะรู้ดีแก่ใจว่าเพราะนางหมดประโยชน์เป็นเพียงหมากไร้ค่าก็ต้องถูกกำจัดเป็นธรรมดา
“เพราะเราไม่มีทางเลือก หากเจ้าไม่ตายเราก็แต่งตั้งจ้าวม่านฟางเป็นฮองเฮาไม่ได้ แต่เจ้าไม่ต้องกลัว จ้าวม่านฟางก็ถือตราหงส์ได้ไม่นานหรอก หึ...” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน จ้าวม่านฟางน้องสาวต่างมารดาของนางเองหรอกหรือ มีความเป็นไปได้เพราะมารดาของม่านฟางเป็นน้องสาวของไทเฮาย่อมอยากผลักดันกันขึ้นมาแทนที่นางอยู่แล้ว
“พระองค์บอกหม่อมฉันว่าจะสังหารหวังจิ่วเหมยและหวังไทเฮาคืนความเป็นธรรมให้มารดาหม่อมฉัน นี่มิใช่ว่าข้ามแม่น้ำรื้อสะพานหรอกหรือ” นางมิได้สนใจว่าผู้ใดจะได้เป็นฮองเฮาต่อจากนาง สิ่งที่สนใจคือศัตรูของนางยังไม่ตาย!...
“วางใจเถอะ แม่เลี้ยงเจ้าเราจะสังหารให้เอง และนังเฒ่าอสรพิษนั่นด้วย แต่...มันยังไม่ถึงเวลา เจ้าไปดีเถิดนะ หากจะแค้นก็แค้นที่โชคชะตาเถิด” ตวนมู่หมิงฮ่าวมองใบหน้าหวานอีกครั้ง ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับหนานกงกง เขาลุกขึ้นยืนสะบัดชายอาภรณ์เหลือทองเดินออกไปจากตรงนั้น
“ฮองเฮา...กระหม่อมล่วงเกินแล้ว”หนานกงกงและขันทีน้อยเดินถือถาดสองถาดเข้ามาตรงหน้า
จ้าวหลันอวี่หัวเราะลั่นราวกับคนเสียสติ ริมฝีปากบางบิดเบี้ยวลงไป ตวนมู่หมิงฮ่าวหยุดเดินอยู่หน้าประตู หันกลับมามองหญิงสาวที่เคยร่วมชีวิตกันมา สายตาจ้องมองกันหนึ่งสว่างหนึ่งมืดมิด
“ตวนมู่หมิงฮ่าวหากข้ามีโอกาสได้เลือกอีกครั้ง ข้าสาบานว่าจะไม่มีวันเลือกเจ้า สุราพิษจอกนี้ข้าจะคืนมันให้เจ้าแน่นอน” พูดจบก็คว้าเอาจอกเหล้าผสมยาพิษขึ้นกระดกลงไปในลำคอ หากได้เลือกใหม่อีกครั้งต่อให้ทุกภพชาติจะมิได้เกิดเป็นมนุษย์อีก นางก็ยอม...
“เช่นนั้นชาติหน้าเจ้าก็คืนมันมาให้เราเถิด แต่หากเป็นชาตินี้...อวี่เอ๋อร์เจ้าหมดสิทธิ์แล้ว”
ภาพยามเยาว์วัยผุดขึ้นมาในหัว ใบหน้าของบุรุษผู้เป็นคู่หมั้นลอยเข้ามาในห้วงแห่งความคิด หากนางเลือกเขาตั้งแต่แรก นางจะตายอนาถเช่นนี้หรือไม่ หากนางแต่งไปอยู่ต่างเมืองกับเขา เขาจะแก้แค้นให้กับมารดาของนางหรือไม่
คำถามมากมายที่ไร้คำตอบ เพราะบัดนี้ร่างอรชรพลันล้มลงบนตั่ง ริมฝีปากบางมีโลหิตไหลออกมา ทว่าดวงตายังคงเบิกโพลง มองเงาร่างสูงใหญ่นั่นไกลออกไปทุกที
เปรี้ยง!...เสียงฟ้าผ่าดังก้องไปทั่วท้องนภา สายอสุนีบาตฟาดลงไปที่ต้นไม้หน้าตำหนักเย็นเกิดประกายไฟลุกไหม้ เพียงไม่นานสายฝนก็สาดลงมาดั่งฟ้าพิโรธ
ตวนมู่หมิงฮ่าวเงยหน้ามองท้องฟ้า และหันไปมองต้นไม้ต้นนั้น ดวงตาคมเบิกกว้างเหมือนเป็นดั่งลางร้าย ฝนตกหนักถึงเพียงนี้แล้วเหตุใดไฟที่ต้นไม้จึงไม่ดับ ฮ่องเต้หนุ่มรีบส่งเสียงคำรามสั่งหนานกงกงให้ดับไฟนั้นเสีย ควันไฟลอยคลุ้งหลังจากที่ไฟบนต้นไม้ดับลง
เขามองดูกลุ่มควันไฟ อดจะหันกลับเข้าไปมองในห้องมิได้ สายตาที่เบิกโพลงยังคงจ้องตรงมาที่เขา ถึงแม้จะรู้ว่ายามนี้นางหาได้มีชีวิตอยู่แล้ว แต่กระนั้นขนบนแขนก็ยังคงตั้งชัน
************************
เพราะความผูกพันที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้หทัยชนกไม่อาจหักห้ามความรักที่มีต่ออาหมอสิงได้อีกต่อไป และแม้รักนี้พ่อจะไม่ปลื้ม แต่หญิงสาวจะขอฝ่าฟันและไม่มีทางยอมแพ้ให้อุปสรรคในครั้งนี้เด็ดขาด
เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่ ทำให้ ศิรวิช จำใจต้องแต่งงานกับ สุทธิดา ชายหนุ่มทำทุกทางให้หญิงสาวทนไม่ไหว แต่เพราะความรักตั้งแต่แรกเจอ ทำให้สุทธิดาทนอยู่กับคนใจร้าย จนวันที่หญิงสาวทนไม่ไหวในวันที่สายไป ศิรวิชต้องเสียเธอไปพร้อมกับลูกแฝดที่เขาไม่เคยรับรู้
นพวรรณ ถูกบิดาและมารดาบังเกิดเกล้าที่ติดการพนันอย่างหนักขายหักหนี้ให้กับ คิม ซีวาน หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลีเจ้าของบ่อนคาสิโนหรูย่านใจกลางเมือง หลังจากรู้จักกับซีวาน นพวรรณ จึงได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็น มันคือยังไง ชายหนุ่มปฎิบัติกับหญิงสาวเยี่ยงทาส นพวรรณจะทนได้นานแค่ไหน เธอจะหนีจากขุมนรกนี้ได้อย่างไร
ต่ำศักดิ์ ไร้ค่าแล้วอย่างไร ในสายตาของนาง เขาคือยอดบุรุษผู้สง่างาม ความอัปยศที่เขาเคยได้รับ ความเจ็บช้ำที่เขาเคยต้องอดทน วันนี้นางจะทวงคืนให้เขาเอง "บุรุษของข้า ใครกล้าแตะต้องก็ลองดู"
ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"