อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
สายฝนโปรยปรายลงมาจากท้องนภาอย่างไม่ขาดสาย ท้องฟ้ายามค่ำคืนไม่ได้มืดมิดเท่าไรนัก ต่อให้เวลานี้จะดึกดื่นเพียงใด ก็ยังคงมีแสงสว่างจากหลอดไฟตามข้างทาง คงเป็นเหมือนที่ใคร ๆ ต่างก็พูดกัน กรุงเทพเป็นมหานครที่ไม่เคยหลับใหล หญิงสาวในชุดวิวาห์สีราวไข่มุก เดินตระกองกอดตนเองฝ่าสายฝนตรงมายังบ้านหลังเล็กที่สร้างขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวอยู่ท้ายซอย เครื่องสำอางราคาแพงที่บรรจงแต่งแต้มบนใบหน้าถูกสายฝนชำระล้างเลือนรางออกไป ทว่าเธอไม่ได้สนใจเลยสักนิด ตอนนี้สิ่งที่เธอคิดเพียงแค่ต้องการไปยังบ้านหลังเล็กหลังนั้น ที่นั่นมีคนที่แสนดีรอเธออยู่
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
"พัท...ฮือ ๆ พัทช่วยฝนด้วยฝนกลัว ทุกคนมองฝนเหมือนตัวประหลาด...ฝนอยากตาย...ฮือ ๆ"
ฉันโผล่เข้าไปกอดพงษ์พัทชายคนรัก คนที่ยอมฉันมาตลอดไม่ว่าฉันจะเลวร้ายเพียงใด พัทก็ไม่เคยทิ้งฉันไปไหน แต่ตอนที่พัทเปิดประตูออกมา เขากลับพยายามดันฉันออก เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ไม่ยินยอมให้ฉันกอดเช่นกัน ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ พัทไม่เคยทำอย่างนี้กับฉัน เกิดอะไรขึ้น!!
"พี่พัทใครมาเหรอคะ" คิ้วของฉันขมวดเข้าหากัน เพราะได้ยินเสียผู้หญิงที่ดังออกมาจากในบ้าน ฉันกำลังจะอ้าปากถามว่าเธอเป็นใคร แต่พัทก็หันกลับไปตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เสียงที่เขาใช้คุยกับฉันเสมอ
"ไม่มีอะไรหรอกแพทเพื่อนเก่าน่ะ เข้าบ้านเถอะเดี๋ยวเพื่อนพี่ก็กลับแล้ว" เพื่อนเก่า..เพื่อนเก่าอย่างนั้นหรือ ทำไมพัทถึงได้...
"ไม่ชวนเธอเข้าบ้านก่อนเหรอคะ ดูท่าทางเธอไม่ค่อยโอเคเลยนะ"
"ไม่ต้องหรอกเธอไม่เป็นอะไร เดี๋ยวเธอก็จะกลับแล้ว" พัทหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาเย็นชา เขาไล่ฉัน..เขาไล่ฉันอย่างนั้นเหรอ
ฉันยืนตัวชาฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่ ทำไมพัทอยู่กับผู้หญิง เธอเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่กับพัทได้ แล้วทำไมพัทถึงไม่ให้ฉันเข้าบ้าน หรือเพราะการมีเธอคนนั้นอยู่ฉันจึงไม่มีสิทธิ์จะเข้าไป น้ำตาของฉันค่อย ๆ ไหลออกมา ฉันหวังจะหลบหนีจากเรื่องร้าย ๆ ที่ฉันเพิ่งจะพบเจอ เพื่อมาพักใจกับคนรัก แต่มันไม่ทันแล้วใช่ไหม ฉันเสียคนที่รักฉันที่สุดไปแล้ว แต่จะโทษใครได้ก็คงต้องโทษตัวฉันเอง ฉันยิ้มออกมาอย่างขื่นขม รอยยิ้มฉันคงจะน่าเกลียดมาก เพราะตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะยิ้มหรือร้องไห้ดี พัทยังคงมองหน้าฉัน แต่มองด้วยความเฉยชา ฉันยังใส่ชุดเจ้าสาวอยู่ไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะเปลี่ยนเลยด้วยซ้ำ ความจริงวันนี้เป็นวันที่ฉันต้องแต่งงานกับพี่ดล คนที่แม่ฉันถูกใจ แต่เพราะพี่ดลประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ แม่ฉันจึงคิดให้น้องสาวสวมรอยเข้าห้องหอแทน ฉันไม่ขัดข้องเลยแม้แต่น้อย นั่นเพราะฉันก็ไม่ได้รักพี่ดลเช่นกัน แต่ทำไมตอนนี้พัทเห็นฉันถึงก้าวถอยหลังไปอย่างนั้น ฉันเบิกตามองประตูที่ถูกกระชากปิดใส่หน้าฉันอย่างแรง หึ!!..ฉันยังได้ยินเสียงประตูที่ถูกปิดลง มันยังคงก้องอยู่ในหูฉันอยู่เลย
ทุกอย่างมันจบลงแล้ว มันสายเกินไปแล้ว พัทไม่รอฉันอีกต่อไปแต่จะโทษใครได้ นอกจากตัวฉันเอง ฉันไม่ควรทำอย่างนั้นกับพัท ฉันเห็นว่าเขาคอยตามใจฉันตลอด ยอมเป็นเบี้ยล่าง ยอมแม้กระทั่งปล่อยให้ฉันได้หมั้นหมายกับผู้ชายอีกคน ฉันลืมตัวไป ฉันลืมคิดไปว่าทุกอย่างย่อมมีขีดจำกัด พัทก็มีความอดทน และเขาใช้มันหมดไปแล้ว
"พัท..ฝนขอโทษ"
ฉันเงยหน้าขึ้นมองสายฝนที่ตกลงมาชะล้างหยาดน้ำตาของฉัน ฉันค่อย ๆ ทรุดตัวนั่งร้องไห้ออกมา ไม่มีใครกอด ฉันก็ต้องกอดตัวเอง ร่างกายที่หนาวเหน็บยังไม่เท่าความหนาวจากหัวใจ ฉันรู้สึกว่าภาพตรงหน้าดูพร่ามัว พร้อมกับหัวที่ปวดจนแทบจะระเบิด แต่แล้วฉันก็ไม่รับรู้สึกใด ร่างกายฉันค่อย ๆ เอนลงไปพร้อมกับความมืดที่เข้ามา....
นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"
หลิวชิงเฟยดาราสาวในยุคปัจจุบัน กำลังเข้าฉากบู๊ที่ต้องปีนลงจากตึก ความจริงแล้วเธอควรจะใช้ตัวแสดงแทน ทว่าดาราสาวอยากท้าทายความสามารถของตนเอง ความไม่ชำนาญจึงให้ทุกอย่างพลาด!!!...นอกจากจะไม่ได้ท้าทายแล้วเธอกลับต้องจบชีวิตลง! แต่ทว่าวิญญาณกลับไม่ยอมไปยังปรโลก ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอจึงมาอยู่ในร่างของหลิวชิงเฟย หญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับเธอ นอกจากนั้นใบหน้าก็ยังงดงามเหมือนกัน แต่นิสัยกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว ชิงเฟยผู้นี้มีนิสัยร้ายกาจเห็นแก่ตัวเป็นอย่างมากจนทำให้ครอบครัวต้องล่มจม หลิวชิงเฟยผู้นี้ยังมีพี่สาวชื่อหลิวจิ้งเฟย และหลานชายชื่อหลิวซานอีกด้วย เดี๋ยวก่อนนะ...เหตุใดตัวละครเหล่านี้มันช่างคุ้นหูเหลือเกิน หลิวชิงเฟยผู้นี้มิใช่ตัวประกอบหญิงที่ต้องตายเพราะถูกพระเอกที่เป็นผู้มีอิทธิพลติดหนึ่งในสามของนครเซียงไฮ้ฆ่าตายหรอกหรือ คนเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายเป็นครั้งที่สอง แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อคำสั่งเสียของพี่สาวผู้วายชนม์ต้องการให้เธอพาหลานชายไปหาบิดาของเขา ถ้าไปก็ต้องถูกเขาฆ่าตาย แต่ถ้าไม่ไปวิญญาณหลิวจิ้งเฟยก็คงไม่ได้ไปสู่สุคติ มองไปทางไหนก็เหมือนจะไม่มีทางเลือกเลย หลิวชิงเฟยคิดหนักเหลือเกิน เธอควรเลือกทางไหนดี...
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
ในขณะที่เขาเฝ้ารักสตรีผู้นั้น ทว่าในขณะเดียวกันนางก็เฝ้ารอความรักจากเขาอย่างมีความหวัง 'ความรักทำให้คนโง่งม' คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับนางยิ่ง หรือชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นได้เพียงอากาศ วนเวียนอยู่รอบกายแต่กลับไร้ค่าไม่มีตัวตน "พระองค์จะหันมาเหลียวแลหม่อมฉันบ้างได้หรือไม่ หม่อมฉันก็มีหัวใจไม่ต่างจากผู้อื่นเช่นกัน"
นิยายเรื่องนี้เป็นการนำตัวละคร ของสามเรื่องหลัก มาแต่งเป็นตอนพิเศษสั้น ๆ เพื่อตอบแทนนักอ่านที่รักทุกท่านที่สนับสนุนกันมาตลอดเวลา จะเป็นฉากเก็บตกที่รี๊ดขอมาทั้งสิ้น ฝากติดตามด้วยนะคะ
เพื่อแคว้นนางเสียสละ เพื่อบิดานางกตัญญู จำใจรับสถานะพระชายาที่พระสวามีไม่ยินดี ได้ครองร่างกายแต่มิอาจได้ครองใจ เพราะมิอาจขัดขืนคำสั่งพระบิดา ฟางหลินจึงต้องอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ทว่าองค์ชายผู้นั้นกลับมีสตรีในดวงใจแล้ว เห็นทีชีวิตการแต่งงานของนางคงไม่พ้นต้องแบกรับความไม่เป็นธรรม
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
“อ๊ะ… อ๊อย... ” ดวงตาของฝ้ายคำหลับพริ้ม เม้มปากแน่น เมื่อโดนสามีกดใบหน้าแนบเน้นซุกไซ้เข้าหาความเป็นสาว ฉั่วๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงลิ้นสากเฉาะรัว ลากเลียเลยขึ้นเป็นจังหวะยาวๆ ตามรูปทรงของกลีบสวาท เบียดกันแน่นเป็นพูงามอร่ามอะร้าอยู่ตรงง่ามขาของหญิงสาวที่เข่าสองข้างโดนดันแบะอ้า แอ่นร่องสวาทให้สามีเบิร์นอย่างดิบเถื่อน “อ๊า... ซี้ด... อูย... เสียวค่ะ... ฮึ่ก” ทั้งที่หล่อนพยายามกัดฟัน เม้มริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นเสียงคราง กลัวว่าจะหลุดออกมาน่าอาย หากความเสียวซ่านก็ทำให้เสียงของคนโดนเลียร่องหอย เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสั่นระริก ปลายลิ้นของอลังค์จุ่มจ้วงทะลวงเลียกลีบมาลีสีชมพูสดสวยอย่างโหยหา “อ๊า... อ๊า... อ๊า... ” หญิงสาวร้องครางตามจังหวะลิ้นปาดเลียรัวๆ สลับลากเสยขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวความยาวของร่องสวาท เรียกน้ำเสียวของหญิงสาวให้สาดทะลักออกมาอย่างมิอาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ “อ๊า... ที่รักจ๋าฝ้ายเสียวเหลือเกิน... ซี้ดอูย... สะ... เสียวมาก” คนโดนจู่โจมหนอกเนินสวาท เปล่งเสียงร้องครางครวญออกมาอย่างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง ปลายลิ้นของอลังค์เสียบรัวเข้าใส่กลีบบอบบาง โดนแบะบีบจนเบ่งบวมขึ้นมารับปลายลิ้น บดขยี้ลงบนความนุ่มอ่อน ไชชอนสำรวจซอกหลืบอย่างมีลีลา สมกับเป็นสายเบิร์นตัวจริง อลังค์ไม่ทำให้หญิงสาวผิดหวัง ทำเอาผู้หญิงสามคนที่กำลังมองดูภาพของการเล้าโลมสุดเร่าร้อนผ่านหน้าจอมอนิเตอร์จนเกิดอาการน้ำเดินไปตามๆ กัน