ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / นิยายสั้น / โอกาสแก้ตัวของฉัน, ความสำนึกผิดของเขา
โอกาสแก้ตัวของฉัน, ความสำนึกผิดของเขา

โอกาสแก้ตัวของฉัน, ความสำนึกผิดของเขา

5.0

พันธสัญญาที่ประทับตราด้วยความตายของพ่อ บังคับให้ฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายจากตระกูลกิจอนันต์ในวันเกิดครบรอบ 22 ปี และสวมมงกุฎ CEO คนต่อไปให้เขา หลายปีที่ผ่านมา ฉันวิ่งไล่ตามภัทร กิจอนันต์ เชื่อสุดหัวใจว่าความรักข้างเดียวของฉันจะชนะใจเขาได้ในสักวัน แต่ในงานวันเกิดของฉัน เขากลับมอบสร้อยข้อมือที่ควรจะเป็นของฉันให้กับจูน น้องสาวต่างแม่ของฉัน ต่อหน้าทุกคน “ทำตัวให้ชินซะเถอะพริ้ม” เขาเยาะเย้ย “ฉันกำลังจะได้เป็น CEO ฉันจะผูกมัดตัวเองกับผู้หญิงคนเดียวไม่ได้” เขาเรียกฉันว่าผู้หญิงหน้าไม่อายและร้ายกาจ เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล เขาทำให้ฉันต้องอับอาย นอกใจฉันไปกับจูน และเรียกร้องให้ฉันยอมรับเรื่องผู้หญิงของเขาถ้าอยากจะเป็นภรรยา ความโหดร้ายของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาตบหน้าฉันในที่สาธารณะ และถึงขั้นพยายามจะใช้มีดแทงฉันในวันแต่งงาน ชาติที่แล้ว ความรักที่มืดบอดนี้ได้นำไปสู่ชีวิตแต่งงานที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น เขาค่อยๆ วางยาพิษฉัน และฉันก็ตายอย่างโดดเดี่ยวในขณะที่เขามีความสุขกับน้องสาวต่างแม่ของฉัน แต่เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกลับมาอยู่ในงานเลี้ยงนั้น ช่วงเวลาก่อนที่เขากำลังจะมอบของขวัญของฉันให้คนอื่น ครั้งนี้ ฉันรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว และฉันก็รู้ว่าฉันจะไม่เลือกเขาอีกต่อไป

สารบัญ

บทที่ 1

พันธสัญญาที่ประทับตราด้วยความตายของพ่อ บังคับให้ฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายจากตระกูลกิจอนันต์ในวันเกิดครบรอบ 22 ปี และสวมมงกุฎ CEO คนต่อไปให้เขา

หลายปีที่ผ่านมา ฉันวิ่งไล่ตามภัทร กิจอนันต์ เชื่อสุดหัวใจว่าความรักข้างเดียวของฉันจะชนะใจเขาได้ในสักวัน

แต่ในงานวันเกิดของฉัน เขากลับมอบสร้อยข้อมือที่ควรจะเป็นของฉันให้กับจูน น้องสาวต่างแม่ของฉัน ต่อหน้าทุกคน

“ทำตัวให้ชินซะเถอะพริ้ม” เขาเยาะเย้ย “ฉันกำลังจะได้เป็น CEO ฉันจะผูกมัดตัวเองกับผู้หญิงคนเดียวไม่ได้”

เขาเรียกฉันว่าผู้หญิงหน้าไม่อายและร้ายกาจ เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล เขาทำให้ฉันต้องอับอาย นอกใจฉันไปกับจูน และเรียกร้องให้ฉันยอมรับเรื่องผู้หญิงของเขาถ้าอยากจะเป็นภรรยา

ความโหดร้ายของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาตบหน้าฉันในที่สาธารณะ และถึงขั้นพยายามจะใช้มีดแทงฉันในวันแต่งงาน

ชาติที่แล้ว ความรักที่มืดบอดนี้ได้นำไปสู่ชีวิตแต่งงานที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น เขาค่อยๆ วางยาพิษฉัน และฉันก็ตายอย่างโดดเดี่ยวในขณะที่เขามีความสุขกับน้องสาวต่างแม่ของฉัน

แต่เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกลับมาอยู่ในงานเลี้ยงนั้น ช่วงเวลาก่อนที่เขากำลังจะมอบของขวัญของฉันให้คนอื่น

ครั้งนี้ ฉันรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว และฉันก็รู้ว่าฉันจะไม่เลือกเขาอีกต่อไป

บทที่ 1

พริ้ม กาญจนวิวัฒน์ POV:

พันธสัญญาที่ลงนามด้วยหมึกและประทับตราด้วยความตายของพ่อ ให้ความรู้สึกเหมือนคำพิพากษามากกว่าคำสัญญา มันกำหนดว่าในวันเกิดครบรอบ 22 ปีของฉัน ฉันจะต้องแต่งงานกับคนของตระกูลกิจอนันต์ และการทำเช่นนั้น ก็คือการสวมมงกุฎ CEO คนต่อไปของกิจอนันต์ กรุ๊ป

ฉันเพิ่งเดินออกจากห้องทำงานของเจ้าสัวธนินท์ กิจอนันต์ ประตูไม้โอ๊กหนักอึ้งปิดลงตามหลัง น้ำหนักของคำพูดของท่านยังคงถ่วงอยู่บนบ่าของฉัน อากาศในโถงทางเดินใหญ่โตนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นของเงินเก่าและอภิสิทธิ์ชน

ขณะที่ฉันเลี้ยวตรงหัวมุม ฉันก็เดินชนเข้ากับคนคนเดียวที่ฉันหวังว่าจะหลีกเลี่ยงพ้น... ภัทร กิจอนันต์ และเขาไม่ได้มาคนเดียว กลุ่มลูกพี่ลูกน้องและญาติผู้น้องของเขากำลังยืนล้อมรอบ หัวเราะกับอะไรบางอย่างที่เขาพูด

พวกเขาเห็นฉันและเสียงหัวเราะก็เงียบลง กลุ่มคนแหวกทางออกเหมือนทะเลแยก ปล่อยให้ภัทรยืนอยู่ตรงนั้น เป็นภาพจำลองของความเย่อหยิ่งในชุดสูทสั่งตัดราคาแพง

“ดูสิว่าใครมา” ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งชื่อซาร่า หญิงสาวหน้าตาเฉี่ยวคมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

เพื่อนของเธอหัวเราะคิกคัก “ยังตามตื๊อภัทรอยู่เหรอพริ้ม? ไม่เบื่อบ้างหรือไง?”

“น่าแปลกใจที่เธอกล้าโผล่หน้ามานะ” อีกคนพึมพำเสียงดังพอให้ฉันได้ยิน “หลังจากเรื่องงามไส้ทั้งหมดที่เธอทำไว้”

พวกเขาชอบยกเรื่องพ่อของฉันขึ้นมาพูดเสมอ ผู้ร่วมก่อตั้งในตำนาน ราวกับว่าวิญญาณของพ่อเป็นโล่ที่พวกเขาใช้หยามเหยียดฉันได้

“พ่อเธอคงพลิกตัวในหลุมศพถ้ารู้ว่าเธอทำตัวแบบนี้” ซาร่าพูด น้ำเสียงของเธอเจือไปด้วยความสงสารจอมปลอม “น่าสมเพชจริงๆ เป็นความอัปยศของตระกูลกาญจนวิวัฒน์”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภัทรเอาแต่จ้องมองฉัน ดวงตาสีฟ้าของเขาเย็นชาและไร้ความปรานีเหมือนท้องฟ้าในฤดูหนาว เขาปล่อยให้คำพูดของพวกนั้นลอยอยู่ในอากาศ แต่ละคำเหมือนก้อนหินเล็กๆ แหลมคมที่ขว้างมาใส่ฉัน ในชาติที่แล้ว คำพูดของพวกเขาคงทำให้ฉันแหลกสลาย แต่ตอนนี้ มันเป็นแค่เสียงน่ารำคาญ

“เธอมาทำอะไรที่นี่ พริ้ม?” เสียงของภัทรแทรกผ่านเสียงกระซิบ คมกริบและไร้ความอดทน

เขาก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว สายตาของเขากวาดมองฉันอย่างดูแคลน

“ให้ฉันเดานะ” เขาพูด พลางแสยะยิ้มอย่างโหดร้าย “เธอเข้าไปหาพ่อฉันมาใช่ไหม? พยายามจะให้ท่านเข้าข้างเธอ”

เขาชี้มือกลับไปทางห้องทำงานอย่างไม่ใส่ใจ “จะบอกให้นะ บทลูกสาวหุ้นส่วนผู้ล่วงลับนี่มันเก่าแล้ว เธอรีดไถมันจนไม่เหลืออะไรแล้ว”

คำพูดของเขาตั้งใจจะทำให้ฉันเจ็บปวด ทำให้ฉันรู้สึกต่ำต้อยและน่าสมเพช เขาคิดว่าเขากำลังทำลายศักดิ์ศรีของฉัน

“เธอเล่นเกมนี้มาหลายปีแล้ว” เขาพูดต่อ น้ำเสียงต่ำและแฝงไปด้วยอันตราย “แต่มันจบแล้ว เธอทำให้ฉันอับอาย และเธอก็ทำให้ตัวเองอับอาย”

เขามองไปรอบๆ กลุ่มญาติที่กำลังยิ้มเยาะ “คนทั้งกรุงเทพฯ กำลังพูดถึงเรื่องของเรา เรื่องที่เธอไม่ยอมปล่อยฉันไปไหน ฉันเริ่มจะคิดทบทวนเรื่องแต่งงานทั้งหมดนี่แล้วนะ”

เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้น กลิ่นโคโลญจน์ของเขารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของฉัน “และเพื่อให้ชัดเจนนะ การวิ่งไปฟ้องพ่อฉันไม่ได้เปลี่ยนใจฉันหรอก ไม่มีอะไรที่เธอทำจะเปลี่ยนใจฉันได้”

ดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจที่คุ้นเคยจับจ้องมาที่ฉัน มันเป็นแววตาเดียวกับที่เขามองฉันเป็นพันๆ ครั้งในชีวิตแต่งงานที่เหมือนตกนรกของเรา แววตาที่มาก่อนการทรยศทุกครั้ง คำโกหกทุกคำ มันเป็นแววตาที่บอกฉันว่าฉันไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย

ฉันนึกถึงความรักข้างเดียวในชาติที่แล้ว ความรักที่มืดบอดจนนำฉันไปสู่ความตาย ความทรงจำนั้นเป็นปมเย็นเยียบในท้องของฉัน

ฉันสูดหายใจเข้าช้าๆ อย่างตั้งใจ เพื่อตั้งสติ พริ้มคนที่เขารู้จักคงจะพังทลายไปแล้ว เธอคงจะอ้อนวอน ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา

แต่ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้ว

“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะภัทร” ฉันพูด น้ำเสียงของฉันสงบนิ่งและราบเรียบอย่างน่าประหลาดใจ

ฉันสบตาเขาโดยไม่หลบ

“ฉันไม่ได้พยายามจะให้ท่านธนินท์เข้าข้างฉัน ท่านต่างหากที่เป็นคนเชิญฉันมา”

ฉันปล่อยให้คำพูดนั้นซึมซับเข้าไปครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยหมัดเด็ด

“ท่านจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 22 ปีให้ฉัน ที่นี่ ที่คฤหาสน์หลังนี้”

ความเงียบที่ตามมานั้นสมบูรณ์แบบ รอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของเหล่าลูกพี่ลูกน้องของเขาแข็งค้าง กลายเป็นความตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

“งานเลี้ยง?” ซาร่าพูดตะกุกตะกัก “ที่นี่? ท่านธนินท์เป็นคนจัดเองเลยเหรอ?”

พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ และฉันก็เข้าใจว่าทำไม เจ้าสัวธนินท์เป็นคนเก็บตัว เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานสังคมของครอบครัวมาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่ภรรยาของท่านเสียชีวิต การปรากฏตัวของท่านสงวนไว้สำหรับห้องประชุมและแวดวงธุรกิจระดับสูงสุดเท่านั้น

การที่ท่านจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ใครสักคนเป็นมากกว่าแค่การแสดงออก มันคือการประกาศจุดยืน

มันเป็นสัญญาณว่าพันธสัญญาที่พ่อของฉันทำไว้กับท่านกำลังจะเกิดผล คำสัญญาที่ว่าในวันเกิดครบรอบ 22 ปีของฉัน ฉันจะเลือกบุตรชายคนหนึ่งของท่านมาเป็นสามี การตัดสินใจของฉันไม่เพียงแต่จะกำหนดอนาคตของฉัน แต่ยังกำหนดว่าใครจะได้รับมรดกหุ้นส่วนใหญ่ของกิจอนันต์ กรุ๊ป และกลายเป็น CEO คนใหม่

เดิมพันครั้งนี้มันสูงลิบลิ่ว

รอยยิ้มเยาะเย้ยช้าๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซาร่าขณะที่เธอหันไปหาภัทร

“แหม แหม” เธอพูดเสียงหวาน “ยินดีด้วยนะ ลูกพี่ลูกน้อง”

คนอื่นๆ ก็พูดเสริมขึ้นมา น้ำเสียงหวานเลี่ยนไปด้วยความชื่นชมจอมปลอม “ดูเหมือนว่าคุณกำลังจะได้เป็นใหญ่เป็นโตแล้วนะภัทร”

“ในที่สุดเธอก็ได้ตัวคุณไปจนได้”

สีหน้าของภัทรเปลี่ยนจากความสับสนเป็นความมั่นใจอย่างลำพองใจ เขามองมาที่ฉัน แววตาเป็นประกายแห่งชัยชนะ ราวกับว่าฉันเพิ่งจะยื่นมงกุฎให้เขา

“ยินดีด้วยนะพริ้ม” เขาพูด น้ำเสียงเจือไปด้วยชัยชนะที่ดูถูกเหยียดหยาม “ในที่สุดเธอก็ได้สิ่งที่เธอต้องการมาตลอด”

เขาก้าวเข้ามาใกล้ สายตาหยิ่งผยองกวาดมองฉันไปทั่ว เขาลดเสียงลงกระซิบ มีเพียงฉันเท่านั้นที่ได้ยิน

“แต่อย่าคิดว่านี่จะเปลี่ยนแปลงอะไรนะ” เขาขู่ฟ่อ “ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนครั้งที่แล้ว”

การเอ่ยถึง “ครั้งที่แล้ว” ทำให้ฉันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลัง หรือว่าเขาจะจำได้เหมือนกัน?

“ถ้าเราจะแต่งงานกัน” เขาพูดต่อ น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นรายการข้อเรียกร้อง “มันมีเงื่อนไข เราจะอยู่กันคนละปีกของบ้าน เธอห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน และเธอห้ามถามว่าฉันจะไปไหนหรืออยู่กับใคร นั่นคือเงื่อนไขของฉัน จะรับหรือจะปฏิเสธก็แล้วแต่”

ฉันตกตะลึงกับความหน้าด้านของเขา กับเสียงสะท้อนของชีวิตในอดีตในคำพูดของเขา จนเกือบจะไม่ได้ยินเสียงนุ่มๆ ที่เรียกชื่อเขา

“ภัทรคะ?”

หญิงสาวคนหนึ่งก้าวเข้ามาในโถงทางเดิน เธอคือจูน ทอมป์สัน น้องสาวต่างแม่ของฉัน เธอสวมชุดเดรสสีขาวเรียบๆ ที่ทำให้เธอดูไร้เดียงสาและบอบบาง ผมยาวสลวยเป็นลอนนุ่มสยายรอบไหล่ เธอกุมแขนตัวเองไว้ สีหน้าเจ็บปวด

ท่าทีของภัทรเปลี่ยนไปในทันที ผู้ชายเย็นชาและเจ้าเล่ห์ที่เพิ่งยื่นคำขาดหายไป กลายเป็นชายหนุ่มผู้ห่วงใย

“จูน? ออกมาจากเตียงทำไม? เธอยังไม่สบายนี่” เขารีบเข้าไปหาเธอ น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยแสดงให้ฉันเห็นมาก่อน

“ขอโทษค่ะ” เธอกระซิบ พิงเขาอย่างอ่อนแรง “คุณพ่อบังคับให้ฉันมา ท่านบอกว่า... ท่านบอกว่าฉันควรจะมาอยู่ที่นี่”

เขาจับมือเธอ สัมผัสของเขาอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ตอนนี้เธอก็มาแล้วนี่”

จากนั้น สายตาของเขาก็เหลือบกลับมามองฉัน และความเย็นชาก็กลับมา คมกริบยิ่งกว่าเดิม

“ดูเธอสิ” เขาเยาะเย้ย ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ “เธอสุขภาพแข็งแรงดี แต่ยังต้องมีคนคอยตามเป็นพรวน จูนตัวร้อนเป็นไข้ เธอยังมาที่นี่ด้วยตัวเองได้เลย”

เขาโอบแขนปกป้องเธอ ดึงเธอออกไปราวกับว่าฉันเป็นเชื้อโรค

ขณะที่พวกเขาเดินไปตามโถงทางเดิน เขาเหลือบมองข้ามไหล่กลับมา

“อย่าลืมที่ฉันพูดล่ะพริ้ม” เขาเตือน น้ำเสียงขู่ต่ำ “ทำตัวดีๆ ถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้ ฉันจะไม่แต่งงานกับเธอ”

เสียงหัวเราะที่เงียบงันและขมขื่นผุดขึ้นในลำคอของฉัน

โอ้ ภัทร

ถ้านายรู้ว่าฉันอยากให้มันเป็นจริงแค่ไหนก็คงจะดี

---

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 10   เมื่อวานซืน17:36
img
img
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
บทที่ 10
29/10/2025
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY