แทนไท’ รองประธานบริษัทเครื่องสำอาง มีข่าวว่าเป็นเกย์ออกหน้าหนังสือพิมพ์คู่กับพระเอกคนดัง แม้จะพยายามบอกอย่างไรว่าเป็นแค่ข่าวที่สร้างมา ทว่ากลับไม่มีใครเชื่อ หนำซ้ำครอบครัวตัดสินใจว่า การแต่งงานคือทางออกที่ดีที่สุด และเมื่อรู้ว่าเจ้าสาวไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ‘ณัฐกฤตา’ หญิงสาวที่เคยพบเจอเพียงไม่กี่ครั้ง นั่นทำให้เขารู้สึกไม่อยากจะแต่งงานด้วย ตรงกันข้ามกับเธอที่ดีใจราวกับว่าโชคนั้นเข้าข้าง แม้จะรู้ดีว่าเขามีข่าวว่าเป็นคู่เกย์กับนักแสดงชาย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหัวใจดันหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ แล้วงานนี้เธอจะต้องทำอย่างไรเพื่อพิสูจน์ว่าเขานั้นแมนทั้งแท่ง ! ในเมื่อเขาลั่นปากออกมาว่า “ผมไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง”
บทนำ
ปึก!
เสียงหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ที่นั่งทำงานอยู่ถอนหายใจพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยและแปลกใจ
“นี่ไงที่แกบอกว่าเขาหล่อนักหล่อหนา” วรรณรดาผู้เป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ครั้นเมื่อมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีที่ยังทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้ร้อนหนาวก็ยิ่งโมโหใหญ่
“ก็แล้วไงล่ะ? ฉันชอบเขา”
ณัฐกฤตาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจกับข่าวตรงหน้าที่เพื่อนสาวนำมาให้
“แกชอบเขา แต่ฉันไม่ชอบ ฉันบอกแกเลยว่าอย่าไปคบเด็ดขาด!” วรรณรดาเอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียวเพราะเธอรู้ดีว่าน้องนิสัยเป็นอย่างไร แล้วอย่างนี้คนพี่จะเหลือหรือไง!
“จะอะไรนักหนากันยัยดา แกรู้ได้ไงว่าคบด้วยไม่ได้ ฉันว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและเพอร์เฟ็กต์ จนฉันอยากอยู่ใกล้ทุกวันเลย”
ณัฐกฤตาลุกขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนมองใบหน้าเพื่อนสาว
“ก็...ก็อยู่กับผู้ชายที่เป็นเกย์เนี่ยนะ แกพูดออกมาได้ยังไง” วรรณรดาถามพลางมองใบหน้าของผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยิ้มระรื้อออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะส่ายหน้าถอนหายใจออกมา ถ้าไม่เป็นเพราะเจอโดยบังเอิญในวันนั้นอย่างที่เล่าให้ฟังป่านนี้คงไม่เพ้ออย่างนี้หรอก
“เขาไม่ใช่!” ณัฐกฤตาสวนขึ้นทันที ดวงตากลมลุกวาวด้วยความขุ่นเคือง
“แกก็อ่านข่าวสิ ฉันไม่ได้โกหกแกสักหน่อย บอกแล้วว่าสายตาฉันดูคนไม่เคยพลาด” วรรณรดาส่งหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานให้กับณัฐกฤตา
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ที่เพื่อนสาวยื่นส่งให้ ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อได้อ่านข้อความในหนังสือพิมพ์อีกทั้งยังมีรูปภาพประกอบเป็นหลักฐาน
ณัฐกฤตาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพร้อมกับส่ายหน้ารัวอย่างไม่เชื่อสายตา บางทีข่าวที่เธออ่านจะเป็นแค่เรื่องโกหก ภาพที่เธอเห็นอาจะเป็นภาพตัดต่อก็ได้
“ทีนี้เชื่อฉันหรือยัง?” วรรณรดาถาม
“ไม่!” ณัฐกฤตาตอบเต็มเสียงด้วยความมั่นใจ ตราบใดที่เธอยังไม่พิสูจน์กับตัวเธอไม่มีทางเชื่อว่าเขาเป็นเกย์อย่างแน่นอน!
เรื่องราวทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่องานเปิดกองถ่ายละครเรื่อง ดวงหทัย ณัฐกฤตาหน้าที่เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าของดาราดังหลายคน ซึ่งงานนี้เธอได้รับการไว้วางใจจากคนที่รู้จักให้ตัดชุดของนักแสดงแต่ละคน หญิงสาวจึงมีโอกาสที่ได้ใกล้ชิดดาราชื่อดังมากมายและนั้นก็คือจุดเริ่มต้นความรักของเธอนั่นเอง
ในฤดูฝนเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่เธอรีบเร่งออกจากห้องประชุมเพื่อเดินกลับไปที่ห้องเก็บของเตรียมกลับบ้านในตอนกลางคืน เกรงว่าจะไม่มีรถเนื่องจากว่ารถของเธอเพิ่งจะเข้าไปซ่อมที่อู่เพราะโดนขับชนท้าย ต้องกลับรถแท็กซี่ทุกวันในช่วงสัปดาห์นี้ ทั้งที่บิดาของเธอจะให้คนขับรถมารับแต่เธอไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้บางครั้งเธอก็ทำงานที่ร้าน บางครั้งก็ต้องออกมานอกสถานที่แบบนี้
สามทุ่มกว่าๆ ที่จะเลิกงาน ณัฐกฤตาเก็บเอกสารและแบบชุดที่ทางกองถ่ายที่สั่งตัดเอาไว้ในแฟ้มเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินออกจากห้องไป สายตาคู่สวยก้มมองนาฬิกาพร้อมกับรีบก้าวลงไปที่บันไดด้วยความรีบร้อนจนไม่ทันสังเกตเห็นชายหนุ่มที่เดินตรงมากำลังขึ้นบันได
ตุบ!
เสียงแฟ้มเอกสารและงานกระจายหล่นไปตามพื้น หญิงสาวย่อตัวลงก้มเก็บงานด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความหงุดหงิด
‘ขอโทษครับ’ ชายหนุ่มกล่าว
อันที่จริงคนที่ผิดต้องเป็นณัฐกฤตาเต็มๆ อยู่แล้วเพราะเธอรีบร้อนจนไม่ดูว่ามีคนเดินสวนทางขึ้นมา หญิงสาวยังคงก้มหน้าเก็บของโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปมองหรือสนใจชายหนุ่ม มือของเขาเอื้อมมาพร้อมหยิบเก็บเอกสารที่ปลิวกระจายอยู่รอบๆ ตัวส่งให้กับเธอ
‘ขอบคุณค่ะ’ เธอรับของจากมือเขา ก่อนสอดงานเข้าในแฟ้มรวดเดียวโดยไม่สนใจและไม่คิดที่จะเงยหน้ามองชายหนุ่มเพราะตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เธอคงต้องรอรถอีกกว่าจะผ่านมาสักคัน
‘ไม่เป็นไรครับ’ เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับ ณัฐกฤตาเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มใบหน้าเรียวขาวคมเข้มออกจีน คิ้วเข้มดวงตาเรียวคม จมูกโด่งเป็นสันรองรับกับริมฝีปากของเขาอย่างพอดี
หล่อ!
ดวงตากลมกะพริบจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างละเมอ แต่ก็เพียงชั่วครู่เมื่อสติของเธอเตือนว่าให้รีบกลับบ้านเร็วที่สุดแต่ใบหน้าของเขายังลอยเข้ามาในสมองของเธออยู่ ยิ่งคิดยิ่งเพ้อ
เขาคือผู้ชายในแบบที่เธอต้องการ!
1. โลภะพิศวาส เสียงสะท้อนในความมืด คือ ปีศาจที่ซ่อนเร้น หากปรากฏขึ้น ไฟพิศวาสอาจแผดเผาเป็นเถ้าธุลี "ครั้งแรกของคุณไม่ใช่เหรอ" เขาเอ่ยขึ้นราวกับเป็นเรื่องปกติ "ถ้าไม่เตรียมให้พร้อมคุณจะเจ็บเอานะ" -------------------------------- 2. ตัณหะราตรี ปีศาจ คือ ความมืดในใจของมนุษย์ หากมีแล้วปีศาจจะปรากฏขึ้น ท่ามกลางไฟราคะแห่งนิรันดร์ "เธอยั่วฉันเองนะ ห้ามพูดว่าไม่ไหว เพราะฉันจะทำให้เธอพูดแค่ว่าเข้ามาลึก ๆ สิ"
หวงรักซาตาน ความรู้สึกที่ต้องเก็บไว้เพียงคนเดียว มันอึดอัดมากขนาดไหนคนๆ นั้นไม่มีทางเข้าใจ ทั้งที่พยายามมาตลอด ทำทุกอย่างให้เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทำไมถึงต้องแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา ได้โปรด...เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ "พราว...ฉันขอนะ” เขากระซิบน้ำเสียงพร่าบอกเธอ แต่ทว่าหญิงสาวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เอานะ คิวคิว...เราเป็นเพื่อนกันนะ” เพื่อน...!! นครินทร์หยุดชะงักลงมองคนใต้ร่างที่ตัวสั่น มันเป็นที่เขาไม่อยากจะคิดถึงในตอนนี้ จะให้เขาหยุดทั้งที่เขาอยากจะเข้าไปอยู่ในร่างเธอจะตายอยู่แล้ว ไม่มีทางซะหรอก… "แล้วยังไง” ++++++++++++++++++++++ ซ่อนรักซาตาน ยิ่งหนียิ่งโหยหา ยิ่งพยายามดิ้นให้หลุดยิ่งผูกมัด “ฉันนอนกับนายไปแล้ว นายก็รักษาสัญญาบ้างสิ! ...” เธอกำลังกลัว “ฉันไม่เคยบอกว่าจะนอนกับเธอแค่ครั้งเดียว” “ณัฐ!...” เขายิ้มที่มุมปากในขณะที่มองท่าทางโกรธของอีกฝ่าย “นอนกับฉันจนกว่า ฉันจะพอใจแล้วจะไปตามคำที่เธอขอ” “คนใจร้าย...” ญาตาวีมองหน้าชายหนุ่มด้วยความเสียใจและขุ่นเคือง “นายต้องการอะไรอีก!! สนุกมากสินะ...สนุกที่แกล้งฉัน” “อืม...เธอน่าแกล้ง” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในวงแขนแกร่ง “แล้วก็ น่าเอาด้วย”
เมื่อสาวสายอ่อยสิบแปดมงกุฎได้รับข้อเสนอของมาเฟียหนุ่ม เธอจะต้องทำอย่างไร เพราะเงินเป็นสาเหตุที่ทำให้หนีไม่พ้นจากพันธนาการเขา !
คราแรกไซเรนวัยเเรกผลิได้ลองฝึกใช้เวทย์มนต์กับมนุษย์ เพื่อลวงให้เขาหลงใหล ทว่ากลับหลงลีลาร่ายสวาทจากชายผู้นั้นเสียเองกระทั่งก่อเกิดเป็นความรัก...ทั้งที่รู้ว่าความรักระหว่างเธอเเละเขามิอาจสมหวัง เเต่เธอยังคงปรารถนาที่จะรัก... ไม่ว่าอย่างไรเธอไม่อาจทนกับการสูญเสียเขาได้ “ไม่ต้องถอยห่างข้าก็ได้ ข้าไม่ทำอะไรเจ้า ข้าสัญญา” ฟรานซ์ตอบพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้น “ข้าคิดว่าไม่เหมาะ...อีกอย่างท่านมีคนรักอยู่แล้ว...” ไซเรนสาวตอบ ทว่ามือแกร่งชายหนุ่มกลับรั้งร่างอรชรเเนบชิดปะทะแผงอกแกร่งรับรู้ถึงเลือดเนื้อที่ร้อนเร่าดั่งเพลิงพายุ “ฟรานซ์!” “ข้าหนาวเจ้าไม่หนาวบ้างรึ?”
เพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าจะมาเป็นภรรยาคนใหม่ ทำให้บุตรชายเพียงคนเดียวอย่าง "จิรัฎฐ์" ไม่ยอมรับเเละพยายามข่มขู่หญิงสาวด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ออกไปจากชีวิตบิดา แต่กลายเป็นว่าเขากลับติดใจบทลงทัณฑ์ซะเอง
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเเละพบว่าได้เสียความทรงจำทั้งหมดไป ขณะที่เขาเดินเข้ามาหาเเละบอกว่า "ผมคือสามีของคุณ" ...เธอเชื่อหมดใจ เเละมอบร่างกาย หัวใจให้ จนกระทั่งวันที่เขาพูดขึ้นว่า "ที่รัก...เราหย่ากันไหม?"
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที