“ฟ้ามีแค่คุณใหญ่คนเดียวจริงๆ นะคะ เชื่อฟ้าเถอะนะคะ ให้ฟ้าได้อธิบายบ้าง!” “เชื่อเหรอ! คุณเห็นผมโง่นักรึไงฟ้าลดา แค่ที่เห็นมาทั้งหมดวันนี้มันก็ทำให้หมดความเชื่อมั่นใจตัวคุณไปหมดแล้ว คุณก็เหมือนกับผู้หญิงอื่นที่ทั้งร่าน ไม่รู้จักพอ ผมคงทำให้คุณไม่ถึงใจสินะใช่ไหมถึงได้นัดไอ้พี่ชายนอกคอกนั่นมารับกันถึงที่!!”
บทนำ
“ไหว้คุณน้าแขไขเข้าสิลูกฟ้าลดา เพราะนับจากวันนี้ไปน้าเขาจะมาเป็นแม่เลี้ยงของเรานะรู้ไหมส่วนนั่นก็พี่พิมพ์กับพี่ธีลูกๆ ของคุณน้า สามคนเป็นพี่น้องกันแล้ว ต้องรักกันให้มากๆ รู้ไหมลูก”น้ำเสียงยินดีปรีดาของผู้เป็นพ่อที่กำลังแนะนำเด็กสาววัยสิบห้าที่เพิ่งจะสูญเสียผู้เป็นแม่อันเป็นที่รักไปไม่กี่เดือนนั้นส่งผลทำให้เด็กสาวชะงักค้างไปเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นเข้า
เพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าผู้เป็นพ่อจะหาผู้หญิงคนใหม่มาแทนแม่ของเธอได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
และไหนจะเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายที่อายุน่าจะห่างจากเธอไม่มากเท่าไหร่นักถึงสองคนตรงนั้นอีก มันช่างเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าที่เด็กหญิงวัยเพียงสิบเอ็ดขวบจะทำใจยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงใจครั้งนี้ได้อย่างสนิทใจ แต่เพราะเห็นว่านั่นมันคือความสุขของผู้เป็นพ่อหญิงสาวจึงไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากขัดอะไรอีกฝ่ายออกไป เลยทำให้ครอบครัวที่ก่อนหน้านี้เคยมีกันแค่สองคนพ่อลูกมาโดยตลอดจะมีสมาชิกเข้ามาเพิ่มถึงสามคน
อีกทั้งบริษัทส่งออกพลอยที่มีชื่อเสียงค่อนข้างมากระดับประเทศของผู้เป็นพ่อทำกำไรได้ปีละหลายๆ ล้านบาท เลยส่งผลทำให้ทุกๆ คนในครอบครัวต่างพาใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบายติดความหรูหราตามนิสัยของพวกคนรวยที่มักชอบใช้กัน
จะมีก็แต่ฟ้าลดา ที่ชีวิตผกพันเพราะถูกพิมพ์พิไลพี่สาวที่มีอายุห่างจากเธอเพียงสองปีลูกติดของแม่เลี้ยงที่ไม่เคยแสดงความรักต่อเธอเลยสักครั้งแย่งชิงไปหมดเสียทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่ถูกตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์น่ารักราวกับเจ้าหญิง ของเล่นหรือแม้ของใช้ส่วนตัวก็ยังถูกพี่สาวต่างมารดาแย่งเอาไปเป็นของตัวเองจนหมด
และที่แย่ไปกว่าอะไรทั้งหมด...
คือความรักความเอาใจใส่จากพ่อแท้ๆของเธอเอง! เพราะเพียงคิดอยากจะเอาใจภรรยาคนใหม่ส่งผลทำให้โชคชัยเฝ้าตามใจครอบครัวใหม่ทั้งสามคนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าทั้งหมดอยากจะได้อะไรเขาก็รีบสรรหามาให้ไม่เคยขาดมือ ต่างจากฟ้าลดาที่ต้องรอให้พี่สาวต่างมารดาอย่างพิมพ์พิไลส่งต่อมาให้ไม่ว่าจะเป็นชุดหรืออะไรต่อมิอะไรตั้งมากมาย
ภายในบ้านที่เด็กสาวเคยคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่มอบความอบอุ่นให้เธอมาตลอดกลับค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งรู้สึกไร้ตัวตนสำหรับทุกคนในบ้านเข้าไปทุกที
จะมีก็แต่ธีรเดชพี่ชายต่างสายเลือดที่ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเพราะรู้สึกถูกชะตาน้องสาวที่ทั้งน่ารักและแสนดีอย่างฟ้าลดาตั้งแต่วันแรกที่พบเห็น พี่ชายที่คอยปกป้องเธอมาโดยตลอดไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรทำให้ฟ้าลดามีความสุขที่อย่างน้อยๆ ก็ยังคงธีรเดชอยู่เคียงข้างเธอทั้งคน
จนกระทั่งเมื่อพี่ชายที่แสนดีคนนั้นสอบชิงทุนได้..
นั่นเองชีวิตของเธอถึงได้จมดิ่งลึกลงสู่ใจกว้างความเงียบเหงาและเปล่าเปลี่ยวอยู่ตามลำพังภายในบ้านหลังใหญ่ที่เธอแทบจะไร้ตัวตนไปเลยเมื่อเขาจากไป..
12 ปีต่อมา...
ภายในคฤหาสน์พรภักดี คฤหาสน์หลังงามสีขาวแสนสวยที่ดูเหมือนว่าเสียงเอะอะด่าทอน้องสาวของพิมพ์พิไล สิงค์หนาถจะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกๆ คนไปเสียแล้ว เหล่าบรรดาสาวใช้ต่างพากันส่ายหน้าไปมาให้กับนิสัยเจ้าอารมณ์ของคุณหนูคนกลางของบ้านแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะขัดใจเธอเลยแม้แต่คนเดียวเพราะทุกๆ คนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมีดีกรีเป็นถึงลูกสาวคนโปรดของประมุขของบ้านอย่างโชคชัย
และไม่ว่าเธอจะทำตัวร้ายกาจกับทุกๆ คนในบ้านสักแค่ไหนเขาก็ยินดีที่จะเข้าข้างมาโดยตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง จึงไม่แปลกที่พิมพ์พิไลจะเคยตัว จนติดเป็นนิสัยเอาแต่ใจตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้..
“แกรู้ไหมว่าเสื้อตัวนี้มันเท่าไหร่นังน้องโง่!! นี่แกจงใจแกล้งฉันใช่ไหม! แกอิจฉาที่คุณพ่อรักฉันมากกว่าแกใช่ไหมนังฟ้า!” พิมพ์พิไลตวาดลั่นก่อนจะปาเสื้อแบรนส์เนมตัวโปรดที่เกิดรอยยับเพียงนิดเดียวจากการซักรีด
แต่ถึงกระนั่นมันก็ยังทำให้เธอโกรธมากจนอดใจใม่ไหวตรงหน้าไปกระชากต้นแขนของน้องสาวต่างแม่เข้าหาตัวอย่างแรงจนอีกฝ่ายต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“โอ้ย! ฟ้าเจ็บค่ะพี่พิมพ์ ฟ้าขอโทษ...”
ฟ้าลดาเอ่ยบอกพี่สาวทั้งน้ำตา แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกทื่ถูกอีกฝ่ายกระทำราวกับว่าเธอไม่ใช่น้องสาวแต่ถึงอย่างไรมันก็อดน้อยใจไม่ได้เสียทุกทีที่ต้องกลายมาเป็นที่ระบายอารมณ์ให้พี่สาวต่างแม่คอยกลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวัน
“ขอโทษเหรอ! ขอโทษแล้วเสื้อฉันมันจะกลับมาเหมือนเดิมไหม! แกมีหัวเอาไว้แค่กั้นสมองรึไงนังโง่!” ยิ่งอีกฝ่ายไม่สู้พิมพ์พิไลยิ่งได้ใจหนักขึ้นทำท่าจะง้างมือฟาดใบหน้าสวยๆ ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องหลงรักไปเสียทุกรายของน้องสาวเป็นการสั่งสอน และเธอคงได้ทำแบบนั้นไปแล้วห่างประตูห้องนอนไม่ถูกเปิดออกไปเสียก่อน...
“อะไรกันๆ เสียงเอะอะโวยวายดังไปถึงข้างล่าง นี่มันเกิดอะไรขึ้นลูกพิมพ์ ฟ้า!!” โชคชัยเอ่ยถามลูกสาวทั้งสองด้วยน้ำเสียงดุดัน แค่เพียงเรื่องธุรกิจที่กำลังขาดทุนจนเกิดหนี้สินมากมายเขาก็เครียดมากพอตัวอยู่แล้ว
จึงไม่แปลกที่เขาจะหงุดหงิดที่ต้องมานั่งฟังเสียงลูกๆ ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่เช้าแบบนี้
“ก็ยัยฟ้าน่ะสิคะคุณพ่อ! แกล้งทำเสื้อตัวโปรดของพิมพ์เป็นรอย พิมพ์กะว่าจะใส่ไปงานเลี้ยงกับพี่ทินคืนนี้อยู่แล้วเชียว!” ทิน หรือทินกร อดีตแฟนหนุ่มของฟ้าลดาที่คบกันได้เพียงไม่กี่เดือนก็ถูกพี่สาวแย่งไปซึ่งๆ หน้า แม้ว่าอีกฝ่ายนั้นจะพยายามตามง้อขอคืนดีเธอเท่าไหร่แต่ก็ไม่สำเร็จ
และยิ่งเขาพยายามทำแบบนั้นมากเท่าไหร่ความโกรธเกลียดที่พิมพ์พิไลมีต่อน้องสาวต่างแม่คนนี้ก็ยิ่งหนักเพิ่มมากขึ้นเข้าไปทุกวันและมันคงไม่มีวันลดน้อยถดถอยลงไปได้ง่ายๆ
พิมพ์พิไลเกลียดทุกๆ สิ่งที่เกี่ยวกับฟ้าลดาเพราะว่าอีกฝ่ายมักจะได้ดีจนได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าอยู่เสมอ ไหนจะเรียนจนได้รับเกียจนิยมอันกับหนึ่งแถมยังเป็นที่รักของใครต่อใครอีกตั้งมากมาย จึงไม่แปลกที่จะเป็นที่ถูกอกถูกใจของทินกร หนุ่มฮอตประจำมหาลัยที่ตามจีบฟ้าลดาจนติดแต่คบกันได้ไม่นานก็ถูกพิมพ์พิไลจัดฉากทำให้น้องสาวเข้าใจผิดจนต้องขอเลิกกับแฟนหนุ่มไป ภาพของน้องสาวที่วิ่งร้องไห้เจียนจะขาดใจคิดถึงทีไรก็ยังอดสะใจไม่ได้ทุกที
“จริงรึเปล่าฟ้า หนูไปแกล้งพี่เขาทำไมล่ะลูก!”โชคชัยหันกลับมาสอบถามลูกสาวคนเล็กด้วยน้ำเสียงดุดัน แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ใจคนฟังสั่นไหวได้ไม่ยาก แม้ว่าลึกๆ ในใจก็อยากจะตอบปฏิเสธออกไปใจแทบขาดแค่ไหนก็ตามที แต่พอนึกได้ว่าจะต้องเจอกับอะไรก็หนักหนามากกว่านี้เธอจึงเลือกที่จะปิดปากเงียบพร้อมกับพยักหน้ากลับไปให้ผู้เป็นพ่อเบาๆ
“ฟ้าขอโทษค่ะพี่พิมพ์” ฟ้าลดาจำต้องยอมรับความผิดทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้เป็นคนก่อ เธอรู้ดีว่าถ้าขืนปฏิเสธไปเรื่องราวมันคงไม่มีทางจบลงง่ายๆ สู้ยอมรับและปล่อยให้เรื่องมันจบลงที่เธอเป็นคนผิดไปเสียยังดีกว่า หญิงสาวคิดกับตัวเองในใจ
สายตาจ้องมองพ่อแท้ๆ ที่นานวันก็ยิ่งห่างเหินต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความปวดร้าวในหัวใจแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของตัวเอง
“เอาล่ะๆ เดี๋ยวพ่อให้เงินไปซื้อตัวใหม่ที่เหมือนกันดีกว่า ตกลงไหมลูกพิมพ์” แม้จะไม่ค่อยพอใจกับการตัดสินที่ไร้บทลงโทษแต่พิมพ์พิไลก็จำต้องพยักหน้ารับก่อนจะโผเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อเสียยกใหญ่ซึ่งผู้เป็นพ่อก็กอดตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาวคนโปรดอย่างอดเอ็นดูไม่ได้
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
“เทียนไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่พูดเพราะเป็นห่วงเท่านั้น” พลอยบุหลันตอบเสียงแผ่วก่อนจะพาตัวเองเดินหนีกลับมาที่ห้อง เพราะไม่อยากอยู่ให้เกะกะสายตา หรือสร้างความรำคาญให้กับเขาอีก หญิงสาวนั่งลงบนเตียงก่อนจะเริ่มต้นสวดมนต์เหมือนทุกคืน ไม่นานก็ทิ้งตัวลงนอน และไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ “ฝันดีนะคะตัวเล็กของแม่…”
“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“กล้าดียังไงเที่ยวไปให้ท่าไอ้สารวัตรนั่น!” ชรัสตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่หล่อนทำลงไปในวันนี้มันหักหน้าเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบให้เธอทำเรื่องพวกนี้ขณะที่ยังเป็นเมียเขาอยู่! “อินทำอย่างนั้นตอนไหนอย่างนั้นเหรอคะ”
“ทะ…ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะคะ” คนได้ยินไม่ได้นึกตำหนิอะไรคนช่างถาม เขายิ้มก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง “จะต้องใส่ให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ เพราะอีกเดี๋ยว…ก็ต้องถอดออกอยู่ดี” คำตอบที่มาพร้อมจูบหนักๆ ที่แก้มขวาทำเอาคนที่ยังเตรียมใจรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว ย่นคอหลบหนีความซาบซ่านพัลวัน “คะ…คุณลูซคะ คะ…ว่าภัส…”
“ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องลูกในวันที่แกวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่าคุณป่านตอบตกลงจะแต่งงานกับแก!” ความจริงที่ได้รู้กลับกลายเป็นธเนศเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขายังจำภาพของเอื้องทรายที่กอดเขาร้องไห้ปานจะขาดใจในวันนั้นที่ว่าได้ดี แต่เพราะมัวหลงดีใจมากไปเลยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่เขาสมหวังกับอดีตคนรัก แต่มันคือความเสียใจ...ความเสียใจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้ที่ต้องมารับฟังมันจากปากของเธอเอง ความโกรธก่อนหน้าค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจในที่สุด
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...