'วายุ' หรือ 'วา' นายแบบหนุ่มหน้าหวาน ผู้มีรูปร่างสวยสง่า ปานอิสตรีผู้เลอโฉม มีชีวิตเฉิดฉายบนเส้นทางสายบันเทิงและแคทวอล์ค... เขา 'ณธีร์' หรือ 'ธีร์' ข้าราชการหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม นายแบบเนื้อหอมอย่างวา กำลังตามหาชายหนุ่มอย่างเขามาแสนนาน ….หนุ่มหน้าหวานที่ร้อนรุ่มดังสายลมร้อนเฉกเช่นวายุไฟอันระอุ แรงปรารถนาของเขาจะเป็นจริงหรือไม่... ติดตามได้แล้วที่นี่ค่ะ!!
"พร้อมนะครับ… สวยครับสวย… (แชะ) สวยครับ... (แชะ)...อีก 2 รูปนะครับ... สวยครับ... เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยนะครับ…ใช่ครับ... (แชะ)... เอียงหน้านิดนึงครับ...ใช่ครับ... (แชะ)" เสียงชัตเตอร์ดังไม่กี่ครั้งโดยช่างภาพมือโปรที่กำลังกำกับท่าทางของวายุในชุดราตรี ที่ผ่านการออกแบบอย่างสวยหรู ดูเซ็กซี่เล็กๆ ตามสไตล์โมเดิร์นสีขาว เขายืนโพสต์ท่าด้วยความชำนาญ อย่างสง่างามราวกับตนเองเป็นเจ้าหญิง แสงแฟลชส่องกระทบเรือนร่างของนายแบบหนุ่มเป็นระยะ ตามคำกำกับของช่างภาพหนุ่ม
วายุ อัคคี นายแบบหนุ่มผู้เลอโฉมในวัยเพียง 18 ปี ผู้มีความงดงามทั้งใบหน้าที่สวยหวาน รูปร่างเพรียวบางสมส่วน ผิวขาวอมชมพูดั่งกลีบซะกุระของประเทศญี่ปุ่น สมกับเป็นนายแบบดังแห่งยุคสมัย มีทั้งความอ่อนหวาน ใบหน้าสวยหวาน รูปร่างงดงามราวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ความฉลาดปราดเปรื่อง พรั่งพร้อมด้วยความสามารถเกินตัว ทั้งหมดนี้ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มวัยเพียง 18 ปีคนนี้ ไม่ว่าจะรับบทบาทเป็นนายแบบหรือนางแบบ วาก็ไม่ทำให้ลูกค้าหรือคนที่จ้างเขาผิดหวังในความสามารถแม้แต่ครั้งเดียว งานถ่ายแบบชุดราตรีครั้งนี้ก็เช่นกัน
วาเป็นเด็กหนุ่มที่ใครต่อใครต้องการชิดใกล้ ด้วยความน่ารักสดใสเป็นกันเองดูแล้วมีชีวิตชีวา จึงเป็นที่หมายตาของหนุ่มๆ หลายคนมากกว่าที่จะมีสาวๆ มาหลงใหล ไม่ว่าจากในวงการบันเทิงและนอกวงการต่างพากันชื่นชอบวามากมาย ดังนั้นยุคนี้จึงกลายเป็นยุคทองของเขา วา วายุ อัคนี
"เรียบร้อยแล้วใช่มั๊ยครับพี่เอก เป็นยังไงบ้างครับ วาพอใช้ได้มั๊ยครับ" เขาเอ่ยถามช่างภาพอย่างเป็นกันเอง โดยไม่ถือตัวว่าเป็นนายแบบดัง
"สวยมากครับคุณวายุ โพสต์ท่าได้ดีมากครับ สวยราวกับเจ้าหญิงเลยครับ สมกับเป็นนายแบบระดับประเทศมากความสามารถจริงๆ ครับ"
“พี่เอกก็ชมเกินไปแล้วครับ วาก็โพสต์ตามที่พี่บอกแหละครับ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นนายแบบระดับประเทศอะไรหรอกครับ" เขากล่าวอย่างถ่อมตน ขณะเดียวกันมือถือของเขาก็มีสายประจำโทรเข้ามา
"คุณวามีสายเข้าครับ จะให้ผมรับหรือคุณจะรับเองครับ"
"เดี๋ยววารับเองครับ เสร็จงานพอดี" เขากล่าวตอบ 'นะ' ผู้จัดการและตากล้องส่วนตัว
"พี่เอกครับ ถ้าอย่างนั้นวาขอตัวกลับก่อนนะครับเพราะมีธุระต่อครับ"
"ครับน้องวายุ เดี๋ยวโอกาสหน้าร่วมงานกันใหม่นะครับ"
"ครับ สวัสดีครับพี่"
"สวัสดีครับน้องวายุ" เขากล่าวลาทุกคนในสตูดิโออย่างเป็นกันเอง ก่อนจะรับมือถือจากนะมารับสายสำคัญ
"ได้รูปครบมั๊ยครับนะ" วาเอ่ยถามนะเพื่อสอบถามถึงรูปที่ต้องลงอัพเดทการทำงานให้แฟนคลับหรือ FC ให้ได้รับรู้เพื่อคอยสนับสนุนติดตามผลงานของเขาต่อไป ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของเขาในแต่ละวัน เพราะเขาคิดเสมอว่าถ้าไม่มี FC ก็คงไม่มีเขาในวันนี้ ดังนั้น FC จึงเป็นกำลังใจที่สำคัญของเขารองจากครอบครัวที่อบอุ่น
"ครบครับคุณวา"
"ดีครับ จะได้ลงในไอจีกับเพจเฟซบุ๊กคืนนี้"
"ครับ"
ครืด ครืด ~~ ก่อนจะกดรับสายที่โทรเข้า
"สวัสดีครับเดย์ สบายดีนะครับ" เขากล่าวกับปลายสายอย่างสนิทสนมคุ้นเคยด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีครับวา คิดถึงจังเลยครับ ไปต่างประเทศตั้งหลายวันวาคิดถึงผมมั๊ยครับ" ปลายสายหยอดคำหวานจนวาอดยิ้มไม่ได้
"ปากหวานตลอดเลยนะครับเดย์เนี่ย วาเขินหมดแล้วนะ 5555"
"วาแอบชิมปากผมตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ถึงรู้ว่าหวานอ่ะครับ 5555”
ประโยคนี้ทำเอาหนุ่มน้อยเขินจนมือไม้อ่อนเป็นผลให้กระเป๋าถือถึงกับหลุดมือลงพื้น พลอยทำให้นะตกใจเล็กน้อยกับท่าทางของนายแบบหนุ่มจนอดอมยิ้มตามด้วยไม่ได้ ทั้งคู่เดินไปยังรถสปอร์ตสีแดง ยังลานจอดรถของบริษัทที่เขามาถ่ายงาน ขณะที่นายแบบหนุ่มคุยไปยิ้มไปอย่างมีความสุขโดยมีผู้จัดการส่วนตัวเดินตามไม่ห่าง ก่อนที่ทั้งคู่จะขับรถออกจากบริษัทแห่งนั้นไปถ่ายงานต่อ
วายุเสร็จงานสุดท้ายเกือบสามทุ่มของวัน ทำเอาเขาเพลียร่างแทบต้องมีคนหิ้วเขากลับมาบ้านพักใจกลางกรุง โชคดีที่เขามีผู้จัดการส่วนตัวอย่างนะ ที่คอยดูแลเขาทุกระเบียบนิ้วตั้งแต่เรื่องจีปาถะจนถึงเรื่องใหญ่โตโดยไม่มีข้อแม้ วันนี้ก็เช่นเคยที่วาลุยกับงานจนเหนื่อยอ่อนหลับในรถระหว่างเดินทางมายังบ้านพักของตน ทำให้นะต้องอุ้มเขาขณะที่หลับอยู่จากรถสปอร์ตไปยังเตียงนอนในห้องแล้วก็เป็นเช่นนี้แทบทุกวันด้วยความรักและไว้ใจกัน นายแบบหนุ่ม กับ 'นะ นที ณัฐนนท์' ผู้จัดการหนุ่มพ่วงด้วยหน้าที่ตากล้องส่วนตัวที่รู้จักกันนานกว่า 5 ปี ในความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เจ้านายกับลูกจ้างหรือแบบคนรัก แต่นั่นคือความสัมพันธ์ในรูปแบบเพื่อนที่เอื้ออาทรต่อกัน จึงทำให้วาไว้ใจนะว่าจะไม่ทำร้ายเขา แม้ตอนที่นะอุ้มวาเข้าห้องนอนได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร
เมื่อนะอุ้มนายแบบหนุ่มมาถึงเตียงนอน เขาค่อยๆ วางคนที่หลับใหลลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลเพื่อไม่ให้อีกคนตื่น จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ดึงผ้านวมผืนใหญ่คลุมตัววาอย่างแผ่วเบา ทันทีที่เขาดูแลคนหลับให้นอนบนเตียงเป็นที่เรียบร้อยเขาจึงเดินออกจากห้องนอนเพราะรู้ดีว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงคนหลับจะตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวลงมาทานข้าวเย็น
นั่นคือการพักผ่อนชั่วคราวของวายุ ไม่ว่าจะเลิกงานดึกแค่ไหน เขาจะตื่นอาบน้ำแต่งตัวลงมาทานอาหารรองท้องก่อนนอนทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดีของเขา
ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
ชีวิตที่พลิกผันเปลี่ยนเด็กหนุ่มกำพร้าให้มีเจ้าพ่อมาเฟียรับเขาไปอุปการะเลี้ยงดูราวกับน้องชายร่วมสายเลือด ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจที่จะมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เด็กน้อยรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตจะกลายเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาให้พังพินาศที่สุดด้วยเช่นกัน การตัดสินใจที่จะหนีออกมาจากคฤหาสน์สุดหรู เพราะเขาไม่สามารถทนกับความรุนแรงและความเจ้าชู้ได้ ในที่สุดเด็กหนุ่มกลับได้พบรักกับนายแบบนู้ดชื่อดังอย่างไม่ตั้งใจ… เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของเขาจะพลิกผันอีกหรือไม่ไปติดตามพร้อมๆกันค่ะ
ดาราชื่อดังอย่างทิชาพบรักกับจันทร์ จันทร์หอมที่เป็นพ่อค้าขายผักในตลาด คนทั้งสองต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยมีแม่ของทิชาเป็นต้นเหตุที่คอยกีดกันความรักของเขาทั้งสองคนตลอดเวลา จนกระทั่งแม่ทิชานำตัวเองเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะให้ทิชาได้แต่งงานกับหลานชายของตน ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้ทิชาได้สมหวังในความรักกับคนธรรมดาอย่างจันทร์ ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรและไปในทิศทางไหน มาติดตามกับความรักของคนทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันค่ะ
องค์รัชทายาทตกอับถูกท่านน้าขับไล่ออกจากพระราชวังเพื่อหวังตั้งตนเป็นใหญ่ กระทั่งรัชทายาทหนุ่มต้องเร่ร่อนมาเป็นพ่อบ้านของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ถูกกลั่นแกล้งจนต้องลาออกจากงานที่นั่นไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บ้านของคุณชายทายาทของตระกูลใหญ่และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ในที่สุดท่านน้าเกิดสิ้นพระชนม์จึงมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับไปดำรงตำแหน่งรัชทายาทผู้ครองพระราชวังตามพินัยกรรมของพระมารดาโดยทันที LIPPO
รักคือการให้ยังได้ยินอยู่ทุกยุคสมัยและเป็นคติประจ าใจของ ‘เมฆ’ เสมอมา ตั ้งแต่ได้มาพบกับ ‘ก๊อป’ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึง กับน้องชายผู้จากไป ท าให้เขาอดคิดถึงอีกคนเสียไม่ได้ เมฆจะมีวิธี อย่างไรเมื่อฟ้าลิขิตให้ก๊อปเดินเข้ามาในวันที่เขาสูญเสียน้องชายไปตลอด กาล... ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่เขาวาดไว้กลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น ความเกลียดชังแก่อีกฝ่ายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ..." LIPPO
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน