“ฮึ่ก... พอแล้วหนูเสียว ฮือๆ ไม่ไหวแล้วค่ะคุณลุงขา” มือเรียวของฉันขยุ้มศีรษะของลุงทอมเอาไว้แน่น ลิ้นของเขาไล้เลียนุ่มนวล สลับกระแทกเสียบรุนแรง ฉันยอมรับว่าทรมาน แต่ใจจริงก็ชอบ… มันเสียวซ่าน ไม่อยากให้เขาหยุด ลุงทอมเลียเก่งเหลือเกิน “ของหนูสวยมาก… ฟิตแน่นดูดลิ้นลุงดีจัง” ลุงทอมชำแรกเรียวลิ้น ไชชอนกลีบเนื้อสีชมพูนุ่มอ่อนบอบบางของฉันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งแบะทั้งบีบกลีบสวาทออกมาไล้เลีย สลับไปมาทั้งสองข้างซ้ายขวา เสียงดังจ๊วบจั๊บหนับหนุบ “ฮื่อๆ…. ลุงขาหนูเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว” ฉันขยับสะโพก ยกหนอกเนินสวาทกระแทกสวนใบหน้าของลุงทอมที่ก้มงุดอยู่ตรงง่ามขา เบิร์นน้องสาวฉันไม่ลืมหูลืมตา เมามันจนแทบไม่อยากเงยหน้ากลับขึ้นมาหายใจ คาวสวาทของฉันคงหอมถูกใจแก กระตุ้นอารมณ์ลุงทอมจนออกอาการหลงใหลอย่างที่เห็น
นิยายชุดนี้มีสองเรื่องคือ คุณลุงขาอย่าบอกใคร และ ลุงเจมส์
"คุณลุงขาอย่าบอกใคร"
ขณะที่ฉันกำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายสุดฟินอยู่ในเปลที่ผูกเอาไว้ระหว่างต้นมะม่วงสองต้น จู่ๆ ภายในหูก็พลันได้ยินเสียงรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งเข้ามาในบ้านเช่าที่อยู่ติดกับสวนมะพร้าวข้างบ้าน
ตอนแรกฉันไม่ได้สนใจมอง แต่เป็นเพราะว่าบ้านหลังนี้อยู่ติดกับสวนมะพร้าวของพ่อฉัน ห่างกันเพียงรั้วกั้น ใครเข้าใครออกก็ต้องเห็น ลักษณะของบ้านปลูกสร้างแบบปูนเปลือยชั้นเดียวผสมไม้ ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เจ้าของเปิดให้เช่าแบบรายเดือน จึงมีลูกค้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเช่าบ้านหลังนี้ไม่ซ้ำหน้า เท่าที่เห็นส่วนมากก็เป็นพวกฝรั่งต่างชาติที่นิยมมาเที่ยวเมืองไทยแล้วอยู่นานแบบลองสเตย์
บอกตรงๆ ว่าตอนแรกฉันไม่ได้สนใจมอง กระทั่งได้ยินเสียงคนที่มาเช่าบ้าน ถือโทรศัพท์แนบหูเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน
เสียงสนทนาเป็นภาษาอังกฤษสะดุดหูฉันอย่างจัง ทำให้ต้องลุกขึ้นจากเปล เดินมาที่รั้ว มองผ่านช่องว่างระหว่างแนวรั้วหลังบ้าน
และพลันนั้นเอง ที่สายตาของฉันปะทะเข้ากับฝรั่งร่างสูงใหญ่วัยลุงคนหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์หนุ่มลาตินที่ฉันชอบ กำลังเดินตรงมาที่ป่ากล้วย ใกล้กับแนวรั้วที่ฉันยืนอยู่ แกไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงบอลขาสั้นบางๆ
เนื้อตัวของฝรั่งคนนี้กำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม แผงอกแน่นนูนไปด้วยมัดเนื้อ มีเส้นขนสีดำแผ่กระจายทั่วอกกว้าง ซิกแพคเป็นลูกเป็นลอนน่าลูบไล้ ที่ปั้นไหล่ด้านขวามีลายสักคลาสสิคเป็นเส้นสายสีดำขลัง สวมนาฬิกาสีเงินวาวที่ข้อมือข้างซ้าย โครงร่างสูงใหญ่ล่ำสันสะดุดตาฉันเหลือเกิน
‘ว้าว… อีตาลุงคนนี้เซ็กซี่สุดๆ’
ฉันอุทานในใจ เบี่ยงตัวหลบวูบว่องไวเพราะกลัวว่าแกจะเห็น รีบซ่อนร่างไว้หลังเหลี่ยมเสา แอบมองฝรั่งวัยลุงควักกล้วยของเขาออกมาอวดสายตา
‘ว้าย… อกอีแป้นจะแตก’
ไม่คิดว่าจะได้เห็นของดีเป็นบุญตาแต่เช้าตรู่ ฉันอุทานเสียงดังลั่นอยู่ในใจ อีตาลุงคนนี้ไม่ได้ดึงขอบกางเกงลงมา แต่ควักแก่นกายชนิดที่ว่าทำเอาฉันใจเต้นระทึก เพราะว่าแกรั้งเป้ากางเกงไปไว้ข้างซอกขาแล้วควักดุ้นเอ็นยาวใหญ่ออกมาจากด้านล่าง ล้วงออกมาแบบแมนๆ
‘โห… ’
ฉันตะลึง มองอีตาลุงฝรั่งยืนแอ่นสะโพก ปลดปล่อยน้ำฉี่สีเหลืองอำพัน พวยพุ่งออกมาเป็นสาย สะท้อนอยู่ในประกายแสงแดดเหลืองอร่ามของยามสาย ราดรดลงมาที่โคนต้นกล้วย ที่เห็นมันพุ่งแรงนั้นคงเป็นธรรมดาของคนท่อใหญ่
‘โอ้แม่เจ้า… ของคนหรือของม้าวะนั่น โห… ยังกะแขนเด็กแน่ะ… ใครโดนเข้าไปตายแน่ๆ’
ฉันยังคงอุทานลั่นอยู่ในใจ เอามือลูบแขนตัวเองไปมา ยอมรับว่ารู้สึกขนลุกขนพอง หากดวงตาก็ยังเบิกโพลง มองแล้วมองอีก มองจนตาแทบจะถลนออกจากมาจากเบ้า ตะลึงกับความ ‘ใหญ่’ และ ‘ยาว’ ของอีตาลุงฝรั่งสุดหล่อที่จู่ๆ ก็ควักไอ้จ้อนออกมาให้สาวน้อยอย่างฉันตาค้าง เพ่งมองด้วยใจกระเจิง
นี่ขนาดอยู่ในสภาพปกติธรรมดาก็ยังใหญ่ยาวราวกับมะเขือยาว แล้วถ้าตอนที่มันอยู่ในสภาพแข็งตัวสุดๆ ล่ะ โอ้ย… ไม่อยากจะคิด แต่ก็คิดไปแล้ว… มันคงใหญ่เบ้อเริ่มเท่าแขนของฉันกระมัง
ฉันนิ่งมอง ยืนตัวแข็งทื่อ ราวกับโดนสะกดด้วยเวทย์มนต์คาถาอะไรสักอย่าง ยืนมองลุงฝรั่งจับแท่งเอ็นฟาดกับต้นขาของตัวเองสองสามทีจนสะเด็ดน้ำแล้วดึงกลับเข้ามาทางซอกขากางเกง เมื่อเก็บอาวุธไว้ในสภาพเรียบร้อยก็ผิวปากหวือ เดินออกไปจากป่ากล้วยโดยไม่รับผิดชอบกับความรู้สึกของฉันที่ยังตะลึง ใจเต้นแรง
“อีตาลุงบ้า”
ฉันรู้สึกโล่งใจ ที่แกเดินออกไปเสียได้ สิ่งที่เห็นทำเอาเหงื่อซึมออกมาชื้นอยู่ในอุ้งมือทั้งสองข้าง ใจยังเต็นรัวไม่หาย ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาเห็นอวัยวะเพศชายขนาดอลังการในตอนกลางวันแสกๆ
“โอ๊ย… ตกใจหมดเลย”
ฉันยกมือขึ้นทาบอก ใจยังเต้นแรงเหมือนกลองรัว ก่อนที่เสียงแหวของแม่ช่วยฉุดฉันออกจากภวังค์
“นังฟ้า… นั่นเอ็งอยู่ไหนวะ”
เสียงของ ‘นางชบา’ แม่ฉันดังขึ้นมาอีก ฉันมีชื่อจริงว่า ‘เฟื่องฟ้า’ แต่แม่มักจะเรียกสั้นๆ ว่า ‘ฟ้า’ ด้วยความเคยชิน
“จ๋า… อยู่หลังบ้านจ้ะ แม่มีอะไรจ๊ะ”
เสียงของแม่เรียกสติฉันกลับมา รีบเก็บอาการพิรุธแล้วก้าวยาวๆ กลับเข้ามาในบ้าน สงสัยว่าแม่คงมีอะไรจะใช้จึงร้องเรียกเสียงดังลั่นมาถึงหลังบ้าน
“มีอะไรจ๊ะแม่จ๋า”
ฉันยื่นใบหน้าเข้ามาในครัว
“เดี๋ยวเอ็งช่วยเอาปิ่นโตไปส่งให้ลุงฝรั่งข้างบ้านนะ”
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"