“อ๊า… ” ตาของนางหลับพริ้ม สะดุ้งเมื่อแท่งหยกถูกดันเข้ามา น้ำเสียวคัดหลั่งออกมาอาบชุ่มพุ่มขนรอบโคนอวัยวะเพศของจางเยี่ยนเฟย ขยับเข้าออกในซอกกลีบของนางเป็นจังหวะ “อ๊า… เสียวมาก รูของเจ้าหนีบแรงเหลือเกินเมียข้า” จางเยี่ยนเฟยขยับเอวเป็นจังหวะ ใบหน้ากดลงแนบซุกสองเต้าอวบขาวราวกับหยวก กระเพื่อมส่ายตามแรงกระเด้า เชยชมปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย ทั้งดูดเลียสลับบีบเคล้นไปมาจนปลายปทุมชูชัน แข็งโด่แดงเรื่อขึ้นมาเป็นสีทับทิม “อ๊า… ท่านพี่ ข้าเสียว… ซี้ดด… ดูดนมข้าสิ… ข้าชอบโดนดูดนม… ข้าชอบให้ท่านเลียหัวนม” สองมือของเยี่ยนเหนียงบีบขยำปทุมถันอวบใหญ่ของตัวเอง บีบจนหนั่นเนื้อขาวๆ ปลิ้นออกมาจากซอกนิ้ว เคล้นยอดปทุมที่กำลังเบ่งบวมชูชัน บีบป้อนใส่ปากสามีดูดเลียจนปลายยอดแฉะชุ่มไปด้วยน้ำลายเหนียวๆ “นมเจ้าใหญ่มาก… สวยมาก… ข้าชอบที่สุด” สามีชราเล้าโลมให้อย่างเร่าร้อน ทำเอาเมียสาววัยคราวลูกร้องครางครวญบิดตัวไปมาอยู่ใต้ร่างด้วยความซ่านเสียว
ฮูหยิน
ร้อนสวาท
ที่ห้องนอน ภายในบ้านหลังใหญ่ของเศรษฐีผู้มั่งคั่งมีนามว่า ‘จางเยี่ยนเฟย’
“ท่านพี่… ก่อนไปท่านพี่จะไม่ร่ำลาข้าเชียวหรือ… คราวนี้ท่านพี่ไปตั้งหลายวัน… ”
‘เยี่ยนเหนียง’ หรือที่คนรับใช้ในบ้านหลังนี้ต่างเรียกนางว่า ‘ฮูหยินจาง’ เดินเข้ามาสวมกอดสามีที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทาง
จางเยี่ยนเฟยเป็นพ่อค้า ทุกเดือนจะต้องออกเดินทางนำสินค้าไปขายยังต่างเมือง การต้องทิ้งภรรยาไปนานจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“เจ้ารอข้ากลับมาก่อนไม่ดีกว่าหรือเยี่ยนเหนียง… ตอนนี้พวกคนงานคงมารอกันแล้ว”
จางเยี่ยนเฟยเป็นห่วงเรื่องการเดินทาง ด้วยมีอุปนิสัยเป็นคนขยัน ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังมาแต่ไหนแต่ไร ทุกเดือนต้องออกเดินทางค้าขายทั้งทางบกและทางน้ำจนร่ำรวยเป็นเศรษฐีในทุกวันนี้
“โธ่… ท่านพี่ ช้านิดหน่อยจะเป็นไรไป หรือว่าท่านพี่กล้าปฏิเสธข้า… ”
เยี่ยนเหนียงรู้วิธีจะเหนี่ยวรั้งสามีเอาไว้ นางจึงแกะผ้าคาดเอว ค่อยๆ เปลื้องผ้าออกจากร่างกายทีละชิ้นจนเปลือยเปล่า อวดเรือนร่างขาวผ่องต่อหน้าสามีชราผู้มีวัยต่างกันราวพ่อกับลูก
“เจ้างามเหลือเกินฮูหยินข้า… ”
จางเยี่ยนเฟยจ้องมองเรือนร่างอะร้าอร่ามของเยี่ยนเหนียง นางช่างเป็นหญิงงดงาม ทั่วสรรพางค์กายไร้ที่ติติง ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่งขาวเนียนไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวสะพรั่ง เต้านมอวบใหญ่เป็นทรงสวยสะดุดตาชาย เอวคอดรับกับสะโพกผาย ก้นงอนสวยบ่งบอกถึงแรงกำหนัดและพลังเพศอัดแน่นอยู่ภายใน จะมีก็แต่จางเยี่ยนเฟยเท่านั้นที่รู้ว่าสตรีนางนี้เร่าร้อนเพียงใดเวลาที่นางอยู่บนเตียง
ไม่อาจทนแรงยั่วเย้า…
จางเยี่ยนเฟยโอบเอวภรรยามาที่เตียงนอน ถอดเสื้อผ้าจนเนื้อตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อนไม่ต่างกัน
“เร็วเถอะท่านพี่… ข้าอยากเหลือเกิน… ”
ด้วยความใคร่เต้นระยับอยู่ในดวงตา นางทอดกายลงนอนบนเตียง ถ่างขารับลำตัวสามี ขยับขึ้นมาทาบทับ เบียดสะโพกพร้อมกับดันแท่งหยกเข้าใส่กลีบดอกเหมยของนางที่ภายในชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำคาวสวาท
“อ๊า… ”
ตาของนางหลับพริ้ม สะดุ้งเมื่อแท่งหยกถูกดันเข้ามา น้ำเสียวคัดหลั่งออกมาอาบชุ่มพุ่มขนรอบโคนอวัยวะเพศของจางเยี่ยนเฟย ขยับเข้าออกในซอกกลีบของนางเป็นจังหวะ
“อ๊า… เสียวมาก รูของเจ้าหนีบแรงเหลือเกินเมียข้า”
จางเยี่ยนเฟยขยับเอวเป็นจังหวะ ใบหน้ากดลงแนบซุกสองเต้าอวบขาวราวกับหยวก กระเพื่อมส่ายตามแรงกระเด้า เชยชมปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย ทั้งดูดเลียสลับบีบเคล้นไปมาจนปลายปทุมชูชัน แข็งโด่แดงเรื่อขึ้นมาเป็นสีทับทิม
“อ๊า… ท่านพี่ ข้าเสียว… ซี้ดด… ดูดนมข้าสิ… ข้าชอบโดนดูดนม… ข้าชอบให้ท่านเลียหัวนม”
สองมือของเยี่ยนเหนียงบีบขยำปทุมถันอวบใหญ่ของตัวเอง บีบจนหนั่นเนื้อขาวๆ ปลิ้นออกมาจากซอกนิ้ว เคล้นยอดปทุมที่กำลังเบ่งบวมชูชัน บีบป้อนใส่ปากสามีดูดเลียจนปลายยอดแฉะชุ่มไปด้วยน้ำลายเหนียวๆ
“นมเจ้าใหญ่มาก… สวยมาก… ข้าชอบที่สุด”
สามีชราเล้าโลมให้อย่างเร่าร้อน ทำเอาเมียสาววัยคราวลูกร้องครางครวญบิดตัวไปมาอยู่ใต้ร่างด้วยความซ่านเสียว
“ข้าอยากโดนกระแทกแรงๆ… แทงหนักๆ… ทะ… ท่านพี่ได้โปรด… ”
สองขาเรียวกระหวัดรัดรอบเอวจางเยี่ยนเฟย แขนสองข้างโอบกอดลำตัว รั้งเข้ามาให้ความเป็นหญิงชายสอดใส่แนบชิดเป็นเนื้อเดียวกัน ทว่าแท่งหยกแห่งความเป็นชายของสามีชรานั้นก็เล็กจนรู้สึกได้ถึงความไม่เต็มลำเต็มรู ไม่อาจครูดถูทะลวงร่องได้อย่างที่นางปรารถนา
“ซี้ดดดด… อู้ว… ท่านพี่ขา ได้โปรดกระเด้าแรงๆ แทงลึกๆ… ข้าทรมาน… อย่าปรานีข้า”
เยี่ยนเหนียงร้องขออย่างไร้ยางอาย
“นี่ข้ากระแทกสุดกำลังแล้วนะ… ”
จางเยี่ยนเฟยร้องคราง กระแทกจนหน้าดำหน้าแดง เหงื่อกาฬแตกซ่านออกมาชุ่มเนินหน้าผากกว้าง ทว่าเยี่ยนเหนียงกลับรู้สึกว่าความเป็นชายของสามียังสอดใส่เข้ามาไม่สุด ไม่อิ่ม ไม่เต็ม ไม่ถึงที่สุดของความต้องการ ไม่ถึงเนื้อในของนางที่กำลังปั่นป่วนราวกับมีมวลคลื่นตีรวนอยู่ภายใน
“อีก…ท่านพี่… อีก… ”
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี