หล่อนชื่อไลลา - ไลลา สาวสวยที่ใช้ชีวิตอิสระ สุดเหวี่ยงกับความรักและความใคร่ ทั้งที่ใจจริงนั้นเธอโหยหาความรักมาตลอด และหวังว่าวันหนึ่ง ชีวิตเธอจะเจอคนที่ใช่!!
หล่อนชื่อไลลา - ไลลา สาวสวยที่ใช้ชีวิตอิสระ สุดเหวี่ยงกับความรักและความใคร่ ทั้งที่ใจจริงนั้นเธอโหยหาความรักมาตลอด และหวังว่าวันหนึ่ง ชีวิตเธอจะเจอคนที่ใช่!!
ผู้หญิงสาวผมยาวหยักศก แววตาเจ้าเล่ห์ระยิบระยับ จมูกโด่งสวยรับกับริมฝีปากหยักยิ้มอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะแย้มให้เห็นไรฟันหรือไม่ก็ตาม รูปร่างของหล่อนสูงโปร่ง หน้าอกอวบตั้ง เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกลมกลึง ต้นขาหนั่นแน่นเรียวยาวไร้ไขมัน ยามเมื่อหล่อนเดินยักสะโพกและโปรยยิ้ม ใครต่อใครต่างก็เหลียวหลังมอง ทุกคนเรียกหล่อนว่า
“ไลลา”
ไลลาเป็นผลผลิตของลูกครึ่งอเมริกัน แม่เป็นไทยอีสานที่เรียกลูกสาวตัวเองว่า “อิหล้า” ซึ่งแปลว่าลูกคนสุดท้าย ไลลาเกิดในแผ่นดินอีสาน มีพี่ชายเป็นนิโกรบ้าง เป็นแขกบ้าง แต่หล่อนโชคดีที่มีพ่อเป็นอเมริกันจึงทำให้หล่อนมีรูปร่างสูงโปร่งทรงฝรั่งที่อร้าอร่ามไปด้วยเนื้อนมไข่ และใครๆ ก็ชอบผิวขาวเหมือนหยวกของหล่อน
อาชีพของหล่อนคือพนักงานต้อนรับฝ่ายหน้าของโรงแรมชั้นนำ ด้วยเรือนร่างที่สูงโปร่ง สัดส่วนขนาด 33-23-34 ประกอบกับการชอบแต่งตัวเซ็กซี่ นุ่งสั้น รัดรูป ดังนั้นหล่อนจึงตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาหนุ่มๆ แก่ ๆ หลากหลายวัยที่เข้ามาใช้บริการในโรงแรม
ไลลามักถูกวางกะทำงานในช่วงกลางคืน เพราะหล่อนโสดและไม่มีภาระใดๆ เพื่อนๆ ที่มีแฟน หรือรุ่นพี่ๆ ที่มีครอบครัวแล้ว มักจะไหว้วานหรือขอแลกเปลี่ยนกะทำงานกับหล่อนอยู่บ่อยๆ ซึ่งไลลาก็ไม่เคยปฏิเสธ ทำให้เพื่อนร่วมงานเอ็นดูไลลา โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานชายที่มักจะแวะเวียนมาขายขนมจีบให้กับไลลาอยู่เสมอ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับ “เมฆ” ผู้จัดการหนุ่มใหญ่วัยใกล้ 40 ปี
เมฆถูกเลื่อนเป็นผู้จัดการโรงแรม เพราะทำงานมาอย่างยาวนานและรู้กิจการของโรงแรมมาเป็นอย่างดี เขามีใบหน้าที่หล่อเข้ม อารมณ์ดี คารมจัดจ้าน ที่สำคัญเซ็กส์จัด จึงมักมีสาวๆ แวะเวียนมาให้เขาเชือดอยู่เสมอ มีแต่เพียงไลลาเท่านั้น....ที่เขายังไม่เผด็จศึกเสียที
แรกนั้น เมฆนั้นแอบเหล่ไลลามานานแล้ว ตั้งแต่เธอเรียนจบแล้วมาสมัครงานเป็นพนักงานต้อนรับใหม่ๆ เขารับเธอเข้าทำงานแทบจะทันที และลงมือจีบหญิงสาวอย่างละมุนละม่อมโดยไม่ให้เธอรู้ตัว ทว่า...พนักงานทั้งโรงแรมรู้กันหมด เขาจึงไม่มีคู่แข่ง เมฆรู้ว่าสาวสวยอย่างไลลานั้นเร่าร้อน คู่แข่งของเขาไม่ใช่พนักงานในโรงแรม
แต่เป็นเพื่อนๆ ที่ร่วมเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่อาจจะเป็นด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจกระมัง ที่ทำไลลาใจอ่อนยอมรับเมฆเป็นแฟนด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่าไลลายังสนุกกับการหลอกล่อชายหนุ่ม เพราะเธอมักชอบทำอะไรให้เป็นจุดสนใจเสมอ เช่นการนุ่งกระโปรงสั้นๆ รัดๆ โชว์เรียวขาที่ขาวเนียนให้หนุ่ม บ้ากามทั้งหลายแอบมอง
เมื่อเมฆกับไลลาเริ่มคบหากันอย่างเปิดเผย เขามักจะแวะมารับหล่อนไปทานอาหารด้วยกัน กลับบ้านพร้อมกัน แต่ไลลาก็ใจแข็งที่จะไม่ให้เมฆล่วงเกินอะไรหล่อนได้ โดยหล่อนให้เหตุผลว่าหล่อนยังไม่พร้อม และต้องการให้เมฆมาสู่ขอเสียก่อน เสือผู้หญิงอย่างเมฆไม่ดันทุรังเพราะกลัวว่าเหยื่อจะตื่น เขาจึงค่อยๆ ตะล่อมหญิงสาวทีละนิดทีละน้อย เริ่มจากการจับมือ แล้วเลื่อนมาเป็นกอดจูบลูบคลำกัน แต่ทำได้ก็เพียงภายนอกเท่านั้น
ความรักของไลลากับเมฆดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ผู้ชายอีกคนได้ก้าวมาเข้ามาในชีวิตของไลลา หล่อนได้รู้จักกับมันจากเหตุการณ์ในวันหนึ่งที่หล่อนได้บังเอิญเจอมันคนนี้ กำลังแอบเล่นจ้ำจี้กับนักศึกษาฝึกงานอย่างถึงพริกถึงขิงที่ห้องเก็บของ ลีลาของมันทำเอาไลลาถึงกับขาสั่นและวาบหวามที่ซอกขาอย่างประหลาด นับจากวันนั้น ไลลาจึงมักจะแอบย่องมาแอบดูกิจกามของมันอยู่เสมอๆ จนสืบรู้ได้ว่ามันชื่อ “กล้า”
นายกล้าเป็นหนุ่มหัวหน้า รปภ. ที่ล่ำบึก เรือนร่างเต็มไปด้วยมัดกล้าม มันมีอาชีพเสริมด้วยการเป็นเทรนเนอร์ สถานภาพของมันเป็นพ่อหม้ายหมาดๆ ที่เนื้อหอมสุดๆ เพราะเป็นที่เลื่องลือในความถึกทนของกามกรีฑา เพราะอดีตเมียๆ ที่เคยทำงานในโรงแรมต่างก็นำมาเม้าท์มอยอย่างสนุกสนาน สุดท้ายก็มีเรื่องตบตีกันเพราะเล่าไปเล่ามากลายเป็นว่ามีผัวคนเดียวกันคือ ไอ้กล้า
ขณะที่ไลลาไปแอบดูกามกรีฑาของมัน มันเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ว่ามีใครบางคนแอบดูอยู่ มันไม่ห้าม ไม่กระโตกกระตาก เพราะรอจังหวะอยู่เช่นกัน และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมในวันหนึ่ง มันจึงวางแผนจับสาวปริศนาด้วยการแสร้งเลื่อนนัดเด็กนักศึกษาฝึกงาน แล้วมาแอบอยู่ในมุมมืดของห้องพร้อมจับตามองหญิงสาวคนนั้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วก็เป็นไลลาที่เดินเข้ามาติดบ่วงมันอย่างจัง
“คุณไลลาเข้ามาที่นี่ทำไมหรือครับ”
เสียงทักเบาๆ แต่ทำให้หล่อนสะดุ้งสุดตัว
“นายกล้า!”
“ไม่ต้องตกใจหรอกครับ...ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ถ้าคุณไม่เต็มใจ อันที่จริง...ผมก็แปลกใจเหมือนกันนะครับที่เป็นคุณ”
“อะไรนะคะ?”
“หึๆ แล้วคุณมาที่นี่ทำไมล่ะครับ”
มันถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนเดินเข้าหาหล่อน ไลลาขยับถอยหลังระแวง หัวใจเต้นระรัว
“ฉันเข้ามาหาของ”
“หาอะไรล่ะครับ”
“เอ่อ....”
หล่อนลังเล และพยายามหาทางออกให้ตัวเอง ทันใดนั้นเสียงเรียกไลลาดังขึ้นจากทางเดิน
“ไลลา...ไลลา”
“ฉันขอตัวก่อนก็แล้วกัน”
ไลลาได้ทีขยับตัวจะออกจากห้องเก็บของ ทว่ามันคว้าข้อมือเธอเหนี่ยวเข้าหาตัวมันทันที
“อุ๊ย...”
ทรวงอกอวบพุ่ง เข้าหาอกแกร่ง มันรัดร่างหล่อนไว้ราวกับงูเหลือม
“ผมรู้นะครับว่าคุณแอบดูผมทำอะไร”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด
ซีรีย์ดอกไม้สวาท ความแตกต่างคือความงาม ดอกไม้ 2 ชนิดที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกสรดอกชู้ /พันตะวัน - ธีธัช หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถกลับมาเมืองไทยกะทันหัน หลังจากแม่เสียชีวิต ต้นเหตุมาจากแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนให้ได้ และอันดาคือเหยื่อในความแค้นครั้งนี้ ผกากลีบทอง /พันตะวัน - บุหงาและอาทิตย์ ต้องแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่เส้นทางความรักของคนทั้งคู่ ต่างมีสิ่งที่ต้องปกปิดกันและกัน บุหงาสาวสวยเสนห์แรงจึงต้องเผชิญเรื่องรักในทิศทางที่เธอไม่อาจควบคุม
ซีรีย์บาป 2 เรื่อง 2 รส กับความรักที่ปนเปไปด้วยความใคร่และความรู้สึกผิด บาปหวาน / พฤศตะวัน - ผิดไหม? ที่เธอรักพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ที่ตายไปนานแล้ว แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อพ่อเลี้ยงของเธอ ยังคงรักแม่ของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะลืม บาปสวาท /พันตะวัน - เมื่อความใคร่เข้ายึดครองการใช้ชีวิต คู่แต่งงานที่ต่างก็หมดรักกัน จึงต้องหาทางออกเพื่อให้ตัวเองสมประโยชน์
มนตราพญามาร - บ้านไร่ตะวันฉายของตฤณพบ ต้องต้อนรับผู้หญิง 2 คน คือ ไอรดา และปิยฉัตร ทั้งคู่ มีคำถามต่อเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสงสัย แต่ตฤณภพก็ใช้ความใคร่ปะปนไปกับความรักจนสยบเด็กสาวทั้งคู่ได้
ไฟปรารถนา เพลิงอาวุธ - อาวุธ เศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนและรีสอร์ตหรูบนเกาะส่วนตัว จำต้องยอมรับ แองจี้ หลานสาวของลูกจ้างคนเก่าแก่เข้ามาทำงานในอาณาจักรของเขาโดยไม่เต็มใจนัก เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็รู้ทันทีว่า เขาจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดเด็ดขาด แต่เขาจะทำได้หรือ?
วิวาห์ร้อนซ่อนสวาท - เหมวัต เจ้าของไร่ผู้ร่ำรวย จำต้องแต่งงานกับผกามาศ ลูกสาวของลุงผ่อง เจ้าของไร่ที่อยู่ข้างกัน เพราะต้องการกู้หน้าที่ลูกสาวท้องไม่มีพ่อ เพราะหนี้บุญคุณ ทำให้เหมวัตจำต้องช่วยเหลือ แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะแต่งงานเพียงในนามเท่านั้น
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด