เพียงสบตาเขาครั้งแรก โมนาสั่นสะท้านรู้สึกเหมือนตนเองอยู่บนภูเขาน้ำแข็งสูงตั้งตระหง่าน ชายคนนี้ทั้งน่ากลัว น่าพิศวงในคราเดียวกัน เธอไม่อาจต้านทานสายตาแห่งมนต์สะกดนั้นได้เลย แต่สำหรับซาฟ นี่เขากำลังมองผู้หญิงบอบบางคนหนึ่ง ยืนตัวสั่นเพราะกลัวเขาราวกับลูกนก แล้วเขาเป็นพรานป่า แล้วเหตุใดเขาถึงหงุดหงิดที่ต้องเผชิญกับอะไรเช่นนี้ แล้วที่สำคัญ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนในโลกที่กลัวเขาจนเป็นลมแบบนี้
ร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับยุโรปยืนเหม่อมองออกไปด้านนอกคฤหาสน์สุดหรู แววตาสีเทาหม่นดูเยือกเย็นลึกลับน่าค้นหา ชายหนุ่มอายุสามสิบสอง ใบหน้าคมเข้ม คิ้วดกดำตรงยาว ดวงตาเรียวคม ริมฝีปากหยักลึก จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและชาติตระกูล รวมถึงทรัพย์สมบัติ ซาฟ เดเวเต้ อัลเล็นโซ่ ผู้ซึ่งนำพาหัวใจสาวๆ ในเมืองเวนิชลุ่มหลงกับรูปลักษณ์อันแสนสง่างาม
ตระกูลอัลเล็นโซ่ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนานในอดีตที่เคยต่อสู้เคียงข้างกษัตริย์มา บรรพบุรุษส่งต่อความรุ่งเรืองให้กับบิดาของเขาจนกระทั่งถึงรุ่นหลาน ทุกคนขนานนามพี่น้องสี่คนว่าเทพบุตรอัลเล็นโซ่ เมื่อก่อนจับดาบแต่เวลานี้จับธุรกิจแทน
“คุณชายครับ ท่านซานโต้เรียกพบครับ”
คนถูกเรียกขยับกายเล็กน้อยหันมองผู้มาเยือนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เห็นชายชราอายุราวหกสิบได้กำลังยืนในท่าทีน้อมน้อม
“เข้าใจแล้ว บอกท่านด้วยว่าเดี๋ยวผมตามไป”
คนใช้เก่าแก่ก้มหน้าลงแล้วหลบฉากออกจากห้อง ซาฟหันมองวิวผ่านหน้าต่างอีกสักพัก จึงตัดสินใจละสายตาแล้วเดินทางตามคำนัดหมาย
ซานโต้ขยับกายเล็กน้อยทันทีที่เห็นบุตรชายคนโตมายืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเย็นชาไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรทำให้คนเป็นพ่ออย่างเขารู้สึกหนักใจไม่น้อย แม้ว่าซาฟจะไม่เคยทำอะไรให้ผิดหวังเลย
“พ่อมีธุระสำคัญจะคุยด้วย”
“ครับ”
“นั่งลงก่อนสิ”ซานโต้บอก
ร่างสูงใหญ่ทอดกายลงนั่งบนโซฟาสีน้ำตาลอ่อน สีหน้าลูกทำเอาเขาหนักใจ ที่ซาฟกลายเป็นคนเช่นนี้ มันเป็นเพราะเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อสมัยเด็ก มันไม่มีทางแก้ไขอะไรได้เลย แม้ตนพยายามพาจิตแพทย์มา แต่ซาฟยังคงมีท่าทีหมางเมินต่อคนรอบข้าง แสดงสีหน้าและท่าทางราวกับคนไม่มีจิตใจหรือความรู้สึกใดๆ
“วันนี้เพื่อนพ่อมาขอกู้เงินกับเรา แต่มันเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่พ่อจะยอมรับได้ พ่อจำต้องทำสัญญาเป็นข้อตกลงกับทางนั้นไว้”
“ครับ”
“ตระกูลดีกาลโน่จะส่งตัวลูกสาวของเขามาแต่งงานกับเรา”
ซาฟนิ่งงัน ครุ่นคิดคำบิดาครู่หนึ่งแล้วกระตุกมุมปากเล็กน้อย ช้อนสายตามองผู้ให้กำเนิด
“แล้วพ่อว่ายังไงล่ะครับ”
“พ่ออยากให้แกช่วยตัดสินใจ”
“ทางนั้นขอกู้เท่าไหร่ครับ?”
“หนึ่งหมื่นล้าน!”
ชายหนุ่มเงียบประมวลผลกำไรในหัวอย่างฉับไว การปล่อยเงินให้ดีกาลโน่ใช่ว่าจะมีผลเสียอย่างเดียว ท่าเรือของตระกูลนี้เป็นที่ต้องการของนักธุรกิจหลายคน
“แล้วเขาจะส่งลูกสาวคนไหนมาแต่งกับเราล่ะครับ?”เขาถามสบตาบิดาเพื่อรอคำตอบ
“ลูกสาวคนรอง เทียร่า”
ซาฟหยุดใช้ความคิดอีกครั้ง ข่าวแว่วมาตาเฒ่าเซโตหวงบุตรสาวคนเล็กที่สุด เพราะอย่างนี้ถึงได้ส่งคนรองมาสินะ
“พ่อจะให้ลูกสาวของตระกูลนั้นแต่งงานกับลูกชายคนไหนล่ะครับ”
“ที่พ่อเรียกแกมาคุยก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละ พ่ออยากให้แกแต่งงานกับเทียร่า...”
ซาฟชะงัก หากตนต้องแต่งจะเลือกเอาประโยชน์ที่ได้จากการแต่งงานกับตระกูลนั้นให้ได้มากที่สุด เพราะการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งตัวเขาก็พอจะรู้เรื่องมรดกที่เซโตแบ่งให้กับบุตรสาวแต่ละคนมาคร่าวๆ
“ผมแต่งได้ แต่หากผมจะแต่งผมต้องการลูกสาวที่ตระกูลดีกาลโน่หวงแหนที่สุด”เขาบอกบิดา
“หมายความว่ายังไง?”
“ผมต้องการแต่งงานกับโมนา ดีกาลโน่”
ซานโต้ขมวดคิ้วมองลูกชายอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดเลยแม้แต่เรื่องแต่งงานลูกยังเอาธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ประมวลทุกอย่างเป็นผลกำไร อายุอานามไม่ใช่น้อยเลย อยากให้เป็นฝั่งเป็นฝา จะมีใครบางไหมที่สามารถเปลี่ยนซาฟให้เป็นคนมีความรู้สึก
“แกตัดสินใจไปเลยก็แล้วกัน เพราะแกเป็นคนที่จะต้องแต่งงาน”
“งั้นเรื่องนี้ผมจัดการเองแล้วกันครับ”
เขาลุกยืนเต็มความสูง แล้วก้มศีรษะให้บิดาราวกับเจ้านาย แล้วหันกายก้าวยาวออกนอกห้อง
ซาฟกลับมายืนอยู่จุดเดิมอีกครั้ง เมืองเวนิชช่างมีมนต์ขลังทำให้เขาทอดสายตามองออกไปได้ไม่รู้เบื่อ สวยเสียยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก อยากจะรู้นักจะมีผู้หญิงคนไหนที่สามารถทำให้เขาหลงรักได้ จะมีอยู่บนโลกใบนี้หรือเปล่า
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้ามาในความคิดเลยสักคน แม้แต่สาวๆ ที่เคยนอนกอดก่ายด้วย ไม่เคยระลึกได้สักครั้งหลังจากเลิกราบนเตียง แต่ในความคิดกลับคะนึงหากลับนึกถึงใบหน้าอันแสนหวานสดใส ของเด็กสาวคนนึงแม้หลายปีมาแล้วก็ไม่อาจลืมเลือน
เสียงสะอื้นยังคงดังไม่หยุด เมื่อคำบัญชาจากบิดา ต้องการส่งให้เธอไปเป็นภรรยาของบุตรชายคนโตของตระกูลอัลเล็นโซ่ โมนา ดีกาลโน่ สาวน้อยวัยยี่สิบสอง หน้าตางดงามหวานละมุน ผิวกายขาวนวลลออ แพขนตางอนยาวดวงตากลมแววตาทอประกายปนเศร้า นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ผมยาวตรงสีคาราเมล รูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นเพราะไม่อยากทำตามความต้องการของบิดา
“หนูไม่อยากไปค่ะพ่อ...” เธอบอกบิดาสะอื้นออกมาอย่างหนัก
“หากหนูไม่ไปพ่อจะไม่สามารถกู้เงินมาได้นะลูก เราต้องใช้เงินก้อนนี้” เซโตพยายามขอร้อง
“พี่เทียร่า ช่วยโมนาด้วยค่ะ”
เทียร่ายืนมองน้องสาว อยากไปใจแทบขาดแต่ทำไมทางนั้นดันยืนคำขาดว่าจะเอาตัวยัยเด็กขี้แยนี่ ไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เธอเป็นลูกเมียหลวงแต่ยัยเด็กบ้านี่เป็นแค่ลูกเมียน้อยที่เกิดจากผู้หญิงไทยก็แค่นั้น
“พ่อค่ะ เทียร่าไปแทนน้องไม่ได้เหรอคะ”
“จะไปได้ยังไงล่ะลูกในเมื่อทางนั้นเขายื่นคำขาดมา”
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง