ชายคนเดียวที่ตนไว้เนื้อเชื่อใจกับทรยศไปเข้ากับศัตรู เซ็ทแทบกระอักเลือดเมื่อรู้เรื่องราว หนทางเดียวที่จะยื้อไม่ให้คนอย่างฟาวิโอ่ทำตามใจคือการลากตัวบุตรสาวสายเลือดญี่ปุ่นครึ่งอิตาลีมาเยือนยังคฤหาสน์อันแสนงดงามของเขา แพททิเซียถูกเชื้อเชิญมาเธอตอบรับทันทีเพราะหลงรักเขามาเแสนนาน เมื่อมาถึงจึงรู้ว่าตนเองตกอยู่สถานะตัวประกันแทนบิดาเลยอยากลดทอนความโกรธแค้นลง เซ็ทไม่อาจหักห้ามใจเมื่อลูกศัตรูดันเป็นสาวน้อยวัยแรกรุ่นหน้าตาหมดจดงดงาม หัวใจอันเยือกเย็นกลับร้อนรุ่ม ไม่อาจหักห้ามความต้องการในห้วงลึก การลงทัณฑ์อันแสนหวาน แทรกความปรารถนาอันท่วมทันจึงเกิดขึ้น
ปลายนิ้วกดลงบนแป้นพิมพ์ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม แพททิเซีย คานะ รามิโน้ สาวน้อยวัยแรกรุ่นอายุยี่สิบสองปี ใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่ง แพขนตางอนยาว ผิวขาวอมชมพู ริมฝีปากบางรูปกระจับ ผมยาวสยายถึงแผ่นหลังกำลัง จ้องมองหน้าจออ่านทวนทุกตัวอักษรอย่างยินดี เธอจบการศึกษาแล้วและผู้อุปถัมภ์เป็นเจ้านายของบิดา เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ และเธอก็ฝันเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ทว่าใจดวงนี้ไม่เคยคิดเอื้อมเพราะรู้ว่าห่างชั้นเหลือเกิน
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลุกยืนจากเก้าอี้เปิดออก เห็นอามินาเอะยืนยิ้มอยู่ แต่ในไทยเธอเรียกแทนด้วยชื่อว่าอาเฟื่อง สำหรับชื่อแพททิเซียนั้นพ่อเป็นคนตั้งให้เผื่อวันใดไปอิตาลีจะได้เรียกง่ายๆ คิดว่าพ่อคงลงหลักปักฐานที่นั้นเลย
“มีอะไรคะอาเฟื่อง”
“วันนี้มีแสดงที่สถานเอกอัครราชทูตเบลเยี่ยมนะแพท” อาสาวพยายามเตือน
“ทราบแล้วค่ะคุณอา”
“รีบอาบน้ำแต่งตัวลงมานะ มิรันมารอแล้ว”
“ค่ะ”
ปิดประตูห้องลงเช่นเดิม นั่งลงกดส่งอีเมล์อันร้อยเรียงถ้อยคำมากมายลงไป หยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ คืนนี้มีแสดงเพื่อต้อนรับท่านทูตจากประเทศเบลเยี่ยม
เวทีขนาดไม่กว้างราวสิบฟุตยาวสิบห้าฟุตขนาดพอเหมาะตั้งไว้ตรงสนามหญ้าหน้าตึกสถานทูตเบลเยี่ยม เครื่องดนตรีไทยถูกจัดวางไว้ข้างเวทีสำหรับการบรรเลง ร่างงามระหงส์ในชุดผ้าไหมสีม่วงขลิบทอง ผมถูกรวบกลางกระหม่อมสวมด้วยชฎา ช่วงอกพันไว้ด้วยสไบสีทองพาดลงมาถึงช่วงสะโพก กำไลทองคำถูกใส่ไว้ตรงข้อมือ และข้อเท้า
นางรำเดินออกมาจากด้านข้างเวทีเริ่มต้นฟ้อนเทียน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกับฟ้อนสาวไหม เพลงลาวดวงเดือน แพททิเซียลงจากเวทีช่วงเวลาสี่ทุ่มตามสัญญางานของเธอจบลงพร้อมเพื่อนๆ ในคณะนาฏศิลป์เดียวกัน
“แพท อาต้องอยูที่นี่ต่อ แพทกลับก่อนเลยนะ” เฟื่องฟ้าบอกหลานสาว
“อ๋อ ได้ค่ะอา เดี๋ยวหนูกลับเองก็ได้”
“อาฝากพาสาวๆ กลับไปด้วยกันด้วยนะแพท มืดแล้วมันอันตราย”
“ได้ค่ะ”
หันเก็บข้าวของเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ลบเครื่องสำอางบนใบหน้าต่อ รถตู้เจ้าประจำถูกเรียกใช้เพื่อมารับในทันที
“แพท! เรียกรถตู้มาทำไม บอกแล้วใช่ไหมว่าให้กลับพร้อมกัน” หันตามเสียงเห็นเพื่อนสาวคนสวยยืนหน้าบูดอยู่
“เราไม่อยากรบกวนรันนี่นา”
มิรันก้าวยาวถึงตัว ใบหน้างอง้ำสีหน้าไม่พอใจ
“เมื่อไหร่จะเลิกคิดแบบนี้สักที!” กอดอกหันขวับ
มือสองข้างจับบ่าเพื่อนสาวแย้มยิ้มออกมา เพราะมิรันเป็นคนรวยทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนทุกครั้ง ไม่กล้าบากหน้าเรียกใช้ คนอื่นมองเธอว่าชอบเกาะเพื่อนถ้อยคำดูถูกต่างๆ นาๆ ทำเอาเบื่อ แต่มิรันนั้นเป็นคนดีจึงไม่เคยคิดอยากเลิกคบหา
“อย่างอนเลยนะ เราขอโทษรัน ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว” ง้อเสียงหวาน
หันมาเผชิญหน้ากับเพื่อน
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ ยังไงรถก็มารับเราอยู่แล้ว แพทเลิกเกรงใจเราเถอะ ใครจะว่ายังไงก็ช่างมันตัวของเราไม่ได้ไปใช้หรือพึ่งพาพวกนั้นสักหน่อย!”
“จ้าๆ เข้าใจแล้วค่ะ”
สองร่างเดินเคียงถึงรถ มิรันโบกมือลาเพื่อนแล้วขึ้นรถตัวเองกลับบ้าน หญิงสาวรีบก้าวยาวนั่งในรถตู้สีขาวพร้อมกับเพื่อนในคณะ การเดินทางราวชั่วโมงถึงบ้านทุกคนนำข้าวของมาเก็บแล้วแยกย้ายกันกลับ ไม่มีใครอยู่บ้านทั้งหลังเงียบเหงา
ในความเป็นจริงเธอไม่ได้ยากจน เพียงแต่เงินที่ได้รับมาจากบิดาต้องนำเอามาช่วยอาใช้หนี้ จะไม่ช่วยเหลือก็กระไรในเมื่อเธอมาอาศัยอาเฟื่องอยู่ตั้งแต่ยังเล็ก ท่านดูแลดีทุกอย่างอาจมีนอกลู่นอกทางบ้าง หนี้สินตอนนี้จวนหมดแล้วไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อเพราะกลัวจะโกรธเอาเสีย เมื่อก่อนอาเฟื่องชอบเล่นการพนันมากตอนนี้เลิกแล้วคงเข็ด เธอเองเกือบโดนจับตัวไปขายโชคดีพ่อโอนเงินมาให้ทันเวลา
ในครั้งนั้นแปลกใจเหตุใดถึงได้โอนเงินมามากมายเช่นนี้ พ่อบอกเพียงว่าเจ้านายใจดีให้ของขวัญ แล้วอีเมล์ฉบับต่อมาพ่อเล่าว่าเจ้านายจะอุปถัมภ์เธอจนจบปริญญา รูปถ่ายของเขาดูสง่างาม หล่อเหลา ราวกับรูปปั้น เหมือนฝันในตอนนั้น แล้วทุกวันนี้แม้อีเมล์สักฉบับเขาไม่เคยส่งตอบมาเลย แต่เธอยังคงคิดติดต่อหาเขาเช่นเดิม
ร่างบางค่อยๆ เก็บข้าวของเสื้อผ้าเข้าที่ให้เรียบร้อย มองนาฬิกาเกือบเที่ยงคืนอาคงยังไม่กลับ อาจอยู่รองานเลิกเพื่อได้เงินในวันนั้น ทุกอย่างเรียบร้อยจึงสาวเท้าขึ้นชั้นสองเพื่อจัดการธุระส่วนตัวของตนเอง ตีหนึ่งถึงได้เอนกายลงนอนหลับตาลงหวังว่าคืนนี้คงได้ฝันเห็นเขา
ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมในห้องทำงานชั้นสามหกของโรงแรมแกนดิเน่ สัญญาณเตือนถึงอีเมล์ทำให้เขารีบเปิดอ่าน เห็นข้อความในนั้นเขาจำได้หลายฉบับที่ส่งมาเพื่อขอบคุณ น่าแปลก... ทำไมถึงได้รู้สึกดีใจ ช่วงปีก่อนฟาวิโอ่มาพูดคุยกับเขาและสารภาพว่ามีลูกสาวอาศัยอยู่กับอาที่เมืองไทย ช่วงนี้กำลังส่งเสียให้เรียนหนังสืออยู่
เพราะความสนิทสนมกันเลยตบปากรับคำจะช่วยเหลือในการอุปถัมภ์บุตรสาวของลูกน้อง หลังจากวันนั้นแพททิเซียก็ไม่เคยขาดการติดต่อกับเขาเลย รูปถ่ายแนบไฟล์ส่งมาทำให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน เธอสวย... โครงหน้ารูปไข่ ดวงตามกลมโต ริมฝีปากรูปกระจับเป็นสีชมพูระเรื่อ ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง จมูกโด่งรั้นรับกับใบหน้า อาจเพราะมีเชื้อสายทางญี่ปุ่นปะปน เพียงแค่มองภาพนั้นแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"